พูดถึงเรื่องสำเนาบัตรประชาชน
จะระวังมากเรื่องการใช้หรือให้ข้อมูลส่วนตัวโดยไม่มีเหตุจำเป็นเพราะไม่อยากเดือดร้อนโดยไม่รู้ตัว

ได้รับ FW.mail มาขอโพสลงที่นี่ไม่รู้ผิดที่ผิดทางหรือเปล่า ถ้าผิดก็บอกกล่าวแล้วกันนะค่ะ


วิธีเซ็นชื่อรับรองสำเนาถูกต้อง...

ตัวอย่าง / บางคนอาจใช้ขีดเส้นขนาน แล้วเขียนข้อความ / เซ็นรับรอง
วันนี้เอาวิธีเซ็นชื่อรับรองสำเนาที่ถูกต้อง มาแบ่งปันให้คุณรู้ไว้จะได้ไม่เป็นหนี้ เป็นเรื่องใกล้ตัวที่ประมาทไม่ได้เลยล่ะ เพราะหากเซ็นไม่ถูกวิธีแม้เพียงนิดเดียว คุณอาจตกเป็นหนี้โดยไม่รู้ตัวจากผู้ที่ไม่ประสงค์ดีที่นำเอาเอกสารสำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน หรือสำเนาเอกสารสำคัญอื่นๆ จากการเซ็นรับรองของเราไปทำประโยชน์ส่วนตน แต่สร้างหนี้ที่ไม่ได้ก่อให้กับเรา ดังนั้นจึงขอแนะนำว่า...ทุกครั้งหากต้องเซ็นเอกสารรับรองสำเนาอย่าลืม ...จำ...และทำตามขั้นตอนต่อไปนี้นะคะ...

1) ทุกครั้งหลังจากเซ็นชื่อ และเขียนรับรองสำเนาถูกต้องแล้ว ต้องเขียนรายละเอียดกำกับไว้ด้วยว่า..เอกสารฉบับนั้นใช้สำหรับทำอะไร เช่น "ใช้เฉพาะสมัครงานเท่านั้น"

2) นอกจากกำกับรายละเอียดการใช้แล้ว ยังต้องกำกับ วัน/เดือน/ปี เขียนลงบนสำเนาที่ใช้ด้วยนะค่ะ ซึ่งนั่นจะช่วยกำหนดอายุการใช้งานสำเนาของเราได้

3) ต้องเขียนข้อความทั้งหมดทับลงบนสำเนาส่วนที่เป็นบัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้าน หรือสำเนาเอกสารอื่นๆ ที่สำคัญ
ทั้งสามข้อคือวิธีเซ็นที่ถูกต้องในการรับรองสำเนาอย่างรัดกุม ไม่เปิดช่องทาง ให้กับมิจฉาชีพ เอาไปสร้างหนี้ให้กับเรา รู้อย่างนี้แล้วก็อย่าลืมทำตาม นะคะ

4) ในกรณี ที่เซ็นเอกสาร ต้องใช้ปากกาหมึกสีดำเท่านั้น ถึงจะปลอดภัยที่สุด เพราะเครื่องถ่ายเอกสาร บางเครื่อง สามารถถ่ายเอกสารโดยดึงหมึกสีน้ำเงินออก เหลือใช้เฉพาะข้อความของบัตรประชาชน แล้วทำให้มิจฉาชีพ เซ็นเอกสารบัตรประชาชนนั้น แทนเราได้เลย ****เพราะฉะนั้นเราควรเซ็นด้วยปากกาสีดำเท่านั้น เพราะไม่สามารถดึงหมึกสีดำออกได้ หรือถ้าดึงสีดำออกได้ข้อความก็จะหายไปหมดเลยทั้งหน้าบัตรประชาชนค่ะ

เจ้าสติเฟื่อง ข้าพเจ้าถามเอ้ง เกี่ยวกับ ธรรมะของเอ็ง ว่า เอ็งมีธรรมอะไร ที่จะให้เขาได้รู้ และได้เข้าใจในธรรมะของเจ้า เจ้าก็ตอบไม่ได้ มีแต่อ้างว่า เป็นเรื่องไร้สาระบ้าง ตอบข้างๆคูๆบ้าง
ถามเรื่องอื่นๆ เอ็งก็ไม่มีความรู้อะไรเลย เอ็งไม่รู้สึกตัวบ้างเลยหรือ เอ็งจะพิสูจน์ไหม หรือ เอ็งกล้าพิสูจน์ตัวเอ็งไหมละ ข้าพเจ้าจะไปแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้ไปพิสูจน์ ตัวเจ้า และข้าพเจ้าก็จะไปด้วย เอ็งบอกที่อยู่มาซิ ชื่อเอ็งนะ รู้แล้ว เอาที่อยู่ จะได้ให้เจ้าหน้าที่ไปพิสูจน์ เอ็งกล้าไหม
ถ้าไม่กล้า ก็อย่า สะเออะ แอบอ้าง เป็นข้าพเจ้า "ศรีอาริยเมตไตรย" อีก ไม่อย่างนั้น จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ลองดูไหม เจ้าสติเพื่อง

ทองเก๊เจอไฟย่อมเปลี่ยนสถานะฉันใด ศรีอาริยเมตไตรยของปลอมย่อมโกรธแม้เรื่องไม่เป็นเรื่องฉันนั้น

ธรรมะศึกษาจากการอ่านเฉยๆไม่ได้ แต่ต้องศึกษาจากการปฏิบัติ

ธรรมะศึกษาด้วยความโกรธไม่ได้ แต่ต้องศึกษาด้วยความสงบในใจ

แล้วเจ้าหน้าที่เป็นพระอรหันต์หรือครับ จึงพิสูจน์ได้ ให้เจ้าหน้าที่ของคุณรับรองคุณเป็นศรีอริยะเมตตรัยต่อไปเถอะ โดยเขาหลอกมากี่ปีแล้วล่ะนี่

สำหรับเรา ความรู้ทั้งปริยัติ และปฏิบัติอยู่ขั้นอนุบาล



ขอออกความเห็นในกระทู้นี้ ว่า

ไม่เห็นด้วยที่ว่าจะต้องแสดงบัตร ใดๆ ทั้งสิ้น

เพราะว่าทุกคนจะได้แสดงความคิด ความรู้ของตน อย่างอิสระ

สำหรับศาสนานั้น หลากหลาย

คนที่เลือกนับถือแตกต่างนั้น ยังต้องให้เกียรติกัน

ยิ่งพุทธด้วยกันแล้ว หากนิกายแตกต่างยิ่งต้องฟังกัน

(แม้ในสมัยพระพุทธองค์จะไม่แบ่งแยกนิกายก็เถอะ)

จะเชื่อกันหรือไม่ อีกเรื่อง เพียงแต่ควรรับฟังไว้

เพราะทุกคนในนี้ ย่อมมีปัญญาสูงกันทั้งสิ้น

...ไม่ค่อยดี หากจะคิดว่า ใครเป็นมาร หรือไม่มาร อย่างไร

และอีกอย่าง มารก็มีส่วนดี

เพราะมารไม่มี (ขันติ)บารมีไม่เกิด นะจ๊ะ