วันเวลาปัจจุบัน 06 ส.ค. 2025, 17:52  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 153 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 4, 5, 6, 7, 8, 9, 10, 11  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 มิ.ย. 2013, 23:21 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
:b12: :b12: :b16: :b16:
น่าอนุโมทนากับวิริยะอุตสาหะของเอก้อนที่ไปค้นคว้าธรรมจากพระสูตรและธรรมของครูบาอาจารย์มาอ้างประกอบความเห็นของตนเอง

แต่สังเกตเห็นว่า เอก้อน ข้ามไม่วิจารณ์ข้อความตอนนี้ไป

มีคำถามให้คิดสั้นๆว่า

ถ้าคนที่จะเจริญศีล เจริญ สัมมาสติ ไม่ได้เรียนรู้ ไม่ได้รู้จักเรื่องของศีล(สุตตมยปัญญา) จะปฏิบัติศีลได้ถูกต้องหรือ?

คนที่ไม่ได้ศึกษาเรื่องสัมมาสติ คือสติเพื่อการเจริญมรรค 8 สู่ความหลุดพ้น....เขาจะทำสามัญสติของเขาให้เป็น สัมมาสติ ได้หรือ?

นี่เป็นคำอธิบายง่ายๆ ตื้นๆให้เห็นว่า ปัญญา นำหน้าอย่างไร?.....นะเอก้อน นะ



ในตอนทำงานจริงๆ ปัญญา ศีล สมาธิ..หรือ ปัญญา สติ สมาธิ เขาต่างเป็นเหตุปัจจัย สนับสนุน อุปถัมภ์ค้ำจุนกันไปมา

ปัญญา...อบรม ศีล สติ สมาธิ......ศีล สติ สมาธิกลับมาอบรมปัญญา...เกื้อหนุนกันขึ้นไปจากหยาบไปหาละเอียด...ตื้นไปหาลึก......หาได้มีข้อกำหนดตายตัว ว่าต้องอย่างนั้น ต้องอย่างนี้

แต่ลำดับตามธรรมชาติง่ายๆก็ดังคำถามที่ให้คิดสั้นๆดังยกมาให้คุณเอก้อนอ่านอีกทีนี่หละครับ

และที่คุณเอก้อนยกมาอธิบายเสียยาวยืดในกระทู้ทั้งหมดนั้นมันมาจากสุตตมยปัญญา หรือมาจากลำดับของศีล สมาธิกันล่ะครับ?


:b12: :b12: :b12:


ท่านไม่ต้องแก้เขิน ... :b1: :b1:

สิ่งที่เอกอนเข้าใจ และเอกอนแสดงความเห็นออกมา
และก็หาพระสูตรมาสนับสนุนความเห็นของเอกอนได้
เอกอน...อมยิ้ม...ให้กับตัวเองแล้ว

:b1: :b1: :b1:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 มิ.ย. 2013, 00:49 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


eragon_joe เขียน:
พระสูตรนี้ก็งาม
อ่านฉบับเต็มได้ที่
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v ... 724&Z=3923
Quote Tipitaka:
๗. มหาจัตตารีสกสูตร (๑๑๗)
[๒๗๙] ดูกรภิกษุทั้งหลาย บรรดาองค์ทั้ง ๗ นั้น สัมมาทิฐิย่อมเป็นประธาน
ก็สัมมาทิฐิย่อมเป็นประธานอย่างไร คือ เมื่อมีสัมมาทิฐิ สัมมาสังกัปปะจึงพอเหมาะได้
เมื่อมีสัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจาจึงพอเหมาะได้ เมื่อมีสัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ
จึงพอเหมาะได้ เมื่อมีสัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะจึงพอเหมาะได้ เมื่อมีสัมมาอาชีวะ
สัมมาวายามะจึงพอเหมาะได้ เมื่อมีสัมมาวายามะ สัมมาสติจึงพอเหมาะได้ เมื่อมีสัมมาสติ
สัมมาสมาธิจึงพอเหมาะได้
เมื่อมีสัมมาสมาธิ สัมมาญาณะจึงพอเหมาะได้
เมื่อมีสัมมาญาณะสัมมาวิมุตติจึงพอเหมาะได้

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ด้วยประการนี้แล พระเสขะผู้
ประกอบด้วยองค์ ๘
จึงเป็นพระอรหันต์ประกอบด้วยองค์ ๑๐

:b8: :b8: :b8:
มีส่วนที่ต่อออกมาจาก องค์ ๘ .... :b1: :b1: :b1:


ช่าย....1...ถึง...8....เป็นขั้นที่เราต้อง Action...อยู่...ต้องใส่ข้อมูล...ยังต้องมีความพยายามอยู่...เป็นตัวกระตุ้น..เป็นตัว
สตาร์ท...ให้ปัญญาตัวจริงตัวที่ 9 เขาทำงาน...ซึ่งเขาจะทำงานเอง...รวดเร็วทันทุกผัสสะ...ในแบบที่เราไม่ต้อง Action...ไม่ต้องจงใจ...ไม่ต้องพยายาม...ไม่งั้นจะทันอวิชชารื้อ
ด้วยความเคารพ...อโสกะ...มันเป็นอย่างนี้จริง ๆ...เราทำได้แค่1 ถึง 8 แต่อย่าเพิ่งคิดว่านี้เป็นปัญญาที่เราต้องการที่เพียงพอแล้ว...เราเข้าใจแล้ว...อย่าเพิ่งคิดอย่านั้น..

ต้องทำให้ถึงจุดที่แม้..หยุดคิดก็ยังเกิดความคิดได้..นั้นแหละถึงเริ่มจะเข้าเค้าของคำว่า.ปัญญา

ครูบาอาจารย์บางท่านอาจใช้คำว่า...ธรรมะท่านมาแสดง...เป็นต้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 มิ.ย. 2013, 01:00 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


จากที่ว่ามาข้างต้น

จะเห็นว่า...ในมรรคมีองค์แปด...ใครจะเรียงว่า...ศีล..สมาธิ...ปัญญา

หรือ..ปัญญา..ศีล..สมาธิ
หรือ..สมาธิ..ปัญญา...ศีล
หรือ..ศีล..ปัญญา...สมาธิ

เมื่อยังไม่พ้นจากมรรค 8 ล้วนไม่ต่างกัน.คือ...ยังเป็นส่วนที่เรายังต้องทำงานอยู่...นั้นเอง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 มิ.ย. 2013, 10:01 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:

อ้างคำพูด:
อริยมรรคมีองค์ 8 มีสัมมาทิฏฐิ เป็นต้น สัมมาสมาธิ เป็นที่สุด ท่านจัดย่อเป็นภาคปฏิบัติ คือการใช้งาน ที่เรียกว่า ไตรสิกขา มี 3 อย่าง เรียกง่ายๆสั้นๆว่า ศีล สมาธิ ปัญญา

จัดเข้าดังนี้

-สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ (อธิศีลสิกขา เรียกสั้นๆว่า ศีล)
-สัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ (อธิจิตตสิกขา เรียกสั้นๆว่า สมาธิ)
-สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ (อธิปัญญาสิกขา เรียกสั้นๆว่า ปัญญา)


Onion_R Onion_R
นี่คือลักษณะของสัทธัมปฏิรูป....โดยไม่รู้ตัว...... :b7:
จะกล่าวถึงมรรค 8 ในที่ใด ท่านก็กล่าว สัมมาทิฏฐิ ปัญญามรรคขึ้นหน้า แแล้วตามมาด้วยสัมมาสังกัปปะ...ศีลมรรค.....สมาธิมรรค.......สรุปว่า....ปัญญา...ศีล....สมาธิ
:b16:
สมัยนี้มีคนที่เก่งกว่ามาเรียงมรรค 8 เสียใหม่ตามใจ ตามความเห็นของตน ว่า ศีล สมาธิ ปัญญา :b14:



พอดีเมื่อวานก็ไปเห็นในส่วนนี้

Quote Tipitaka:
๔. จูฬเวทัลลสูตร

การสนทนาธรรมที่ทำให้เกิดปีติ

.....
เรื่องมรรค ๘ กับขันธ์ ๓

[๕๐๘] วิ. ข้าแต่พระแม่เจ้า ก็อริยมรรคมีองค์ ๘ ไฉน?

ธ. ดูกรวิสาขะผู้มีอายุ อริยมรรคมีองค์ ๘ นี้ คือ

ปัญญาอันเห็นชอบ ๑ ความดำริชอบ ๑ วาจาชอบ ๑ ทำการงานชอบ ๑

เลี้ยงชีวิตชอบ ๑ ความเพียรชอบ ๑ ความระลึกชอบ ๑ ความตั้งจิตไว้ชอบ ๑.

วิ. ข้าแต่พระแม่เจ้า ก็อริยมรรคมีองค์ ๘ เป็นสังขตะหรือเป็นอสังขตะ?

ธ. ดูกรวิสาขะผู้มีอายุ อริยมรรคมีองค์ ๘ เป็นสังขตะ.

วิ. ข้าแต่พระแม่เจ้า ขันธ์ ๓ (หมายถึง กองศีล กองสมาธิ กองปัญญา) พระผู้มีพระภาค ทรงสงเคราะห์ด้วยอริยมรรคมีองค์ ๘

หรือว่าอริยมีองค์ ๘ พระผู้มีพระภาคทรงสงเคราะห์ด้วย ขันธ์ ๓.

ธ. ดูกรวิสาขะผู้มีอายุ ขันธ์ ๓ พระผู้มีพระภาคไม่ทรงสงเคราะห์ด้วยอริยมรรคมีองค์ ๘

ส่วนอริยมรรคมีองค์ ๘ พระผู้มีพระภาคทรงสงเคราะห์ด้วยขันธ์ ๓ คือ

(กล่าวโดยย่อ กันความสับสน ศีล สมาธิ ปัญญา จัดเป็นเครื่องเกื้อหนุนให้เจริญในมรรคองค์ ๘)

วาจาชอบ ๑ ทำการงาน ชอบ ๑ เลี้ยงชีวิตชอบ ๑ ทรงสงเคราะห์ด้วยศีลขันธ์

ความเพียรชอบ ๑ ความระลึกชอบ ๑ ความตั้งจิตไว้ชอบ ๑ ทรงสงเคราะห์ด้วยสมาธิขันธ์

ปัญญาอันเห็นชอบ ๑ ความดำริชอบ ๑ ทรงสงเคราะห์ด้วยปัญญาขันธ์
.


ตอนที่พระแมเจ้าวิสาขาชี้แจงธรรม พระพุทธเจ้าก็ได้ทรงรับรู้ และรับรองแล้วด้วย...
ทำให้ท่านกรัชกายพอจะรอดตัวไปแล้ว ... :b5:
คำขู่ของท่าน ไปไม่ถึงท่านกรัชกายแล้ว ..
และมันก็ได้ย้อนกลับมาที่ท่านแล้ว ... เพราะสายตาทุกคู่กลับมารอดูท่าน
ท่านอโศกะ ท่านอย่าเพิ่งเขิน
ท่านจะ ปัญญา ศีล สมาธิ ท่านต้องมีการชี้แจงที่เหมาะสม

:b13:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 มิ.ย. 2013, 10:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


มหาจัตตารีสกสูตร.......
[๒๗๙] ดูกรภิกษุทั้งหลาย บรรดาองค์ทั้ง ๗ นั้น สัมมาทิฐิย่อมเป็นประธาน
ก็สัมมาทิฐิย่อมเป็นประธานอย่างไร คือ

เมื่อมีสัมมาทิฐิ สัมมาสังกัปปะจึงพอเหมาะได้

เมื่อมีสัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจาจึงพอเหมาะได้

เมื่อมีสัมมาวาจา สัมมากัมมันตะจึงพอเหมาะได้

เมื่อมีสัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะจึงพอเหมาะได้

เมื่อมีสัมมาอาชีวะ สัมมาวายามะจึงพอเหมาะได้

เมื่อมีสัมมาวายามะ สัมมาสติจึงพอเหมาะได้ เมื่อมีสัมมาสติ

สัมมาสมาธิจึงพอเหมาะได้ เมื่อมีสัมมาสมาธิ สัมมาญาณะจึงพอเหมาะได้

เมื่อมีสัมมาญาณะ สัมมาวิมุตติจึงพอเหมาะได้

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ด้วยประการนี้แล พระเสขะผู้ประกอบด้วยองค์ ๘
จึงเป็นพระอรหันต์ประกอบด้วยองค์ ๑๐


http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v ... 724&Z=3923


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 มิ.ย. 2013, 12:09 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ก.พ. 2013, 11:46
โพสต์: 137


 ข้อมูลส่วนตัว


อมันตรา เขียน:
ทำไมต้องขึ้นด้วย ศีล สติ สมาธิ ปัญญา เพราะเหตุใดครับ


เป็นคำถามที่ฟุ้งซ่านนะคะ ควรหาหนังสือธรรมมะมาอ่านมาศึกษา ไม่ควรคิดขึ้นมาลอยๆแล้วเอามาถาม
แต่ไม่ยอมหาความรู่ด้วยตัวเอง แบบนี้จะติดลมบนกู่ไม่กลับนะคะ อันตรายนะคะ นานๆไปจะทำให้เป็น
คนเลื่อนลอย เพ้อเจ้อ ประเภทไม้หลักปักขี้เลน เอาแน่เอานอนไม่ได้ อย่ามาว่าดิฉันด่านะคะ ดิฉันสอน
เตือนสติ แบบว่าออกตัวไว้ก่อน เพราะคนสมัยนี้ภาษาไทยไม่ค่อยแตกฉาน ชอบเข้าใจผิดเรื่อยเลย

.....................................................
อันความกรุณาปราณี จักมีใครบังคับก็หาไม่ หลั่งมาเองดั่งน้ำทิพย์ชโลมใจ จากฟากฟ้าสุลาลัยสู่แดนดิน
มอง...ข้างหน้า ให้เป็นความหวัง มอง...ข้างหลัง ให้เป็นบทเรียน มอง...สิ่งที่มัน หมุนเวียน เพื่อยอมรับ...การเปลี่ยนไป


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 มิ.ย. 2013, 18:24 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
มหาจัตตารีสกสูตร.......
[๒๗๙] ดูกรภิกษุทั้งหลาย บรรดาองค์ทั้ง ๗ นั้น สัมมาทิฐิย่อมเป็นประธาน
ก็สัมมาทิฐิย่อมเป็นประธานอย่างไร คือ

เมื่อมีสัมมาทิฐิ สัมมาสังกัปปะจึงพอเหมาะได้

เมื่อมีสัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจาจึงพอเหมาะได้

เมื่อมีสัมมาวาจา สัมมากัมมันตะจึงพอเหมาะได้

เมื่อมีสัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะจึงพอเหมาะได้

เมื่อมีสัมมาอาชีวะ สัมมาวายามะจึงพอเหมาะได้

เมื่อมีสัมมาวายามะ สัมมาสติจึงพอเหมาะได้ เมื่อมีสัมมาสติ

สัมมาสมาธิจึงพอเหมาะได้ เมื่อมีสัมมาสมาธิ สัมมาญาณะจึงพอเหมาะได้

เมื่อมีสัมมาญาณะ สัมมาวิมุตติจึงพอเหมาะได้

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ด้วยประการนี้แล พระเสขะผู้ประกอบด้วยองค์ ๘
จึงเป็นพระอรหันต์ประกอบด้วยองค์ ๑๐


http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v ... 724&Z=3923

:b8: :b8: :b27: :b27: :b27:
สาธุอนุโมทนาครับท่านโฮฮับที่กรุณามาช่วยถ่วงดุลย์
:b8: :b16: :b16: :b17:
ผู้คนที่ลุ่มลึกลงไปในปริยัติแล้ว เขามักจะหลงลืมความจริงพื้นฐาน ที่เขาเองก็เคยเป็นมา

ทั้งๆที่รู้ว่าปัญญานำหน้ามาโดยตลอด..เขาผู้หลงลืมตนเหล่านั้น ก็พยายามจะโต้เถียงความจริงในชีวิตของตนเอง

ลองนึกย้อนกลับไปด้วยกฎของเหตุและผลดูซิว่า...เมื่อแรกเริ่มลืมตาดูโลกเขาได้ถูกอบรมอบร่ำด้วย ศีล และสมาธิมาก่อนหรือเปล่า?

มิใช่ปัญญาหรือ....ปัญญาที่รู้ว่าถ้าหิวนม จะต้องส่งภาษาธรรมด้วยการร้องให้ ส่งเสียงให้พ่อแม่รู้แล้วก็จะได้กินนม

ภาษาพูดคำแรกๆที่ทารกนั้นเรียนรู้ เช่น คำว่า ...แม่....พ่อ...นั้นเขาได้มาด้วยสุตตมยปัญญา หรือ ศีล สมาธิกันแน่

ภาษาพูดทั้งหมดที่เขาใช้พูดสื่อสารรู้เรื่องกันกับผู้คนทุกวันนี้ เริ่มต้นได้มาด้วย ศีล สมาธิ หรือ ปัญญากันแน่....

ปัญญาเบื้องต้นทั้งหมดนี้แหละ ที่ไปอบรม ให้เกิด ศีล สมาธิ จนถึงปัญญาชั้นสูงสุด....

รู้ทฤษฎีจนถึง ปัญญาวิมุติ....แต่ไม่รู้ตัวว่า ตนเองก็เริ่มต้นชีวิตมาด้วยปัญญาพื้นฐาน ปัญญาธํรรมชาติ
โอ้หนอท่านบัณฑิตจากตำราทั้งหลาย

:b16: :b16: :b16:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 มิ.ย. 2013, 18:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 มี.ค. 2010, 10:10
โพสต์: 104

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อมันตรา เขียน:
ผมได้ฝังเทปหลวงปู่ชา ท่านบอกว่า ศีล สมาธิ ปัญญา เปรียบเหมือนไม้ท่อนเดียวกัน จะยกด้านศีลขึ้นมา สมาธิและปัญญาก็ติดมาด้วย จะยกด้านปัญญา สมาธิกีบศีลก็ติดมาด้วย หรือจะยกตรงกลาง คือสมาธิ ศีลกับปัญญาก็ติดมาด้วย ท่านว่า แยกกันออกเป็นท่อนๆไม่ได้ ลองหาฟังเทปท่านอบรมธรรมดูนะครับ

:b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 มิ.ย. 2013, 18:43 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


:b1:

นั่นสิ่ ... เท่าที่สนทนามา
ตอนนี้เอกอนรู้แล้ว ... ว่าตอนนี้ปัญญาท่านอโศกะ ... อยู่ระดับไหน

....

:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 มิ.ย. 2013, 18:52 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


ถ้าท่านอโศกะนำเหตุผล ต๊อง ๆ อย่างนั้นมาตอบได้

เอกอนก็โต้ได้

ว่าเด็กทารกยังไม่ฆ่าสัตว์ ยังไม่โกหก ยังไม่ลักทรัพย์ ยังไม่ประพฤติผิดในพรหมจรรย์ ยังไม่เสพของมึนเมา
...

:b1:

ตลกนะ...ที่ ศีลมาก่อน ...
มันรักษาศีลมาตั้งแต่อยู่ในท้องแม่ ...
เป็นศีลแบบอัตโนมัติ เป็นสมาธิแบบอัตโนมัติ เรย ตอนออกมามันก็เลยมีปัญญาอย่างอัตโนมัติไง
เวลาที่มันหิวมันจึงได้ร้อง ... :b1:

:b13: :b13: :b13:

และมันก็เป็นเรื่องที่คนดูเขาก็คงจะขบขัน
ว่า ผู้ปฏิบัติธรรมมีปัญญาถกธรรมแลกเปลี่ยนแสดงความเห็นทางธรรมกันได้แค่นี้ ...

:b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 มิ.ย. 2013, 19:33 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
สาธุอนุโมทนาครับท่านโฮฮับที่กรุณามาช่วยถ่วงดุลย์
:b8: :b16: :b16: :b17:

รู้ทฤษฎีจนถึง ปัญญาวิมุติ....แต่ไม่รู้ตัวว่า ตนเองก็เริ่มต้นชีวิตมาด้วยปัญญาพื้นฐาน ปัญญาธํรรมชาติ
โอ้หนอท่านบัณฑิตจากตำราทั้งหลาย

:b16: :b16: :b16:


ช่วยตรงไหน...อิอิ

โฮฮับ เขียน:
มหาจัตตารีสกสูตร.......


ดูกรภิกษุทั้งหลาย ด้วยประการนี้แล พระเสขะผู้ประกอบด้วยองค์ ๘
จึงเป็นพระอรหันต์ประกอบด้วยองค์ ๑๐


http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v ... 724&Z=3923


พระเสขะ...ผู้ประกอบด้วยมรรค 8
จึงเป็น...พระอรหันต์ประกอบด้วยองค์ 10

ซึ่งชัดเจนว่า...เป็นพระเสขะ...แล้ว...แล้วประกอบด้วยมรรค์ 8...จึงเข้าถึง..ความเป็นอเสขะผู้ประกอบด้วยองค์ 10

เป็นหา..คือ..อโศกะว่า..สัมมาทิฏฐิ..ครั้งแรกเป็น..ทฤษฎี
หากยังเป็นทฤษฎี....ยังไม่เป็นสัมมาทิฏฐิ..นะครับ
ต้องเห็นจริงอย่างน้อมยอมรับว่า..ทุกข์จริง...การเกิดเป็นต้นทุกข์จริง...ความไม่ทุกข์มีได้จริง...จึงหันมาศึกษาพระธรรม

แต่..เห็นจริงครั้งแรก...หากผู้มีอินทรีย์มีพละเพียงพอ...เขาย่อมบรรลุไปเลย
แต่กับผู้ที่มีกำลังไม่พอ...ก็ต้องทำซ้ำ ๆ สะสมกำลังเพื่อตัดกิเลสต่อไป


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 มิ.ย. 2013, 22:29 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
asoka เขียน:
สาธุอนุโมทนาครับท่านโฮฮับที่กรุณามาช่วยถ่วงดุลย์
:b8: :b16: :b16: :b17:

รู้ทฤษฎีจนถึง ปัญญาวิมุติ....แต่ไม่รู้ตัวว่า ตนเองก็เริ่มต้นชีวิตมาด้วยปัญญาพื้นฐาน ปัญญาธํรรมชาติ
โอ้หนอท่านบัณฑิตจากตำราทั้งหลาย

:b16: :b16: :b16:


ช่วยตรงไหน...อิอิ

โฮฮับ เขียน:
มหาจัตตารีสกสูตร.......


ดูกรภิกษุทั้งหลาย ด้วยประการนี้แล พระเสขะผู้ประกอบด้วยองค์ ๘
จึงเป็นพระอรหันต์ประกอบด้วยองค์ ๑๐


http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v ... 724&Z=3923


พระเสขะ...ผู้ประกอบด้วยมรรค 8
จึงเป็น...พระอรหันต์ประกอบด้วยองค์ 10

ซึ่งชัดเจนว่า...เป็นพระเสขะ...แล้ว...แล้วประกอบด้วยมรรค์ 8...จึงเข้าถึง..ความเป็นอเสขะผู้ประกอบด้วยองค์ 10

เป็นหา..คือ..อโศกะว่า..สัมมาทิฏฐิ..ครั้งแรกเป็น..ทฤษฎี
หากยังเป็นทฤษฎี....ยังไม่เป็นสัมมาทิฏฐิ..นะครับ
ต้องเห็นจริงอย่างน้อมยอมรับว่า..ทุกข์จริง...การเกิดเป็นต้นทุกข์จริง...ความไม่ทุกข์มีได้จริง...จึงหันมาศึกษาพระธรรม

แต่..เห็นจริงครั้งแรก...หากผู้มีอินทรีย์มีพละเพียงพอ...เขาย่อมบรรลุไปเลย
แต่กับผู้ที่มีกำลังไม่พอ...ก็ต้องทำซ้ำ ๆ สะสมกำลังเพื่อตัดกิเลสต่อไป

:b12: :b12: :b12:
คุณกบ คงไม่เคยพิสูจน์ทฤษฎีของสัมมาทิฏฐิมาก่อน....เพราะพอรู้เรื่องสัมมาทิฏฐิปั๊บ ก็ สำเร็จสัมมาทิฏฐิ ปุ๊ป ทันที
:b14: :b11:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 มิ.ย. 2013, 22:50 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


eragon_joe เขียน:
ถ้าท่านอโศกะนำเหตุผล ต๊อง ๆ อย่างนั้นมาตอบได้

เอกอนก็โต้ได้

ว่าเด็กทารกยังไม่ฆ่าสัตว์ ยังไม่โกหก ยังไม่ลักทรัพย์ ยังไม่ประพฤติผิดในพรหมจรรย์ ยังไม่เสพของมึนเมา
...

:b1:

ตลกนะ...ที่ ศีลมาก่อน ...
มันรักษาศีลมาตั้งแต่อยู่ในท้องแม่ ...
เป็นศีลแบบอัตโนมัติ เป็นสมาธิแบบอัตโนมัติ เรย ตอนออกมามันก็เลยมีปัญญาอย่างอัตโนมัติไง
เวลาที่มันหิวมันจึงได้ร้อง ... :b1:

:b13: :b13: :b13:

และมันก็เป็นเรื่องที่คนดูเขาก็คงจะขบขัน
ว่า ผู้ปฏิบัติธรรมมีปัญญาถกธรรมแลกเปลี่ยนแสดงความเห็นทางธรรมกันได้แค่นี้ ...

:b32: :b32: :b32:

:b12: :b12: :b12:
แต่พอมองกลับไปอีกมุมหนึ่ง ก็ทำให้รู้ว่า คนที่หมกมุ่นกับตำรา คัมภีร์ มากๆ ในที่สุดก็ลืมหลง ธรรมชาติพื้ืนฐานธรรมดาๆของชีวิตไป....เข้าใจว่า ผู้รู้ธรรม ถึงธรรม คือผู้รู้มากในตำรา รู้บาลี ศัพท์แสง สูงๆ

แล้วเรื่องทารกมีศีลตั้งแต่ในท้องแต่พอออกจากท้องพ่อแม่ไม่ได้รับการสั่งสอนอบรม
ศีลแบบกำปั้นทุบดินที่เอก้อนยกมานัั้นจะยังดีบริสุทธิ์อยู่ได้ไหม? ถ้าปัญญา สติของเด็กคนนั้นไม่ได้รับการสั่งสอนอบรม


หมู หมา เป้ด ไก่ วัว ควาย สัตว์เดรัจฉาน มด แมลง ที่อยู่ในท้องในไข่ ก็คงพากันมีศีลบริสุทธิ์กันทั้งหมดละสิ ถ้าคิดแบบเอก้อน
:b10: :b10: :b10:

อนึ่งโปรดอย่าได้สำคัญว่า พูดเรื่องมรรค ผล นิพพาน ได้คล่องแคล่ว ยกพระสูตรมาอ้างได้เป็นฉากๆ เป็นฟืนเป็นไฟ แล้วจะได้สำเร็จธรรม....เร็วกว่าชาวบ้าน ตาสี ตาสา ที่อยู่กับไร่กับนา และธรรมชาติ อันซื่อๆ ในชนบทนะครับ บางทีอาจจะติดลึกอยู่ใน อุทัจจะ กุกุจจะ หาเวลาที่ความคิดจะหยุดสงบก็ไม่มี ฟุ้งในปริยัติอยู่ทุกเวลานาฑีไม่หยุดหย่อนก็อาจเป็นได้นะครับ
:b12: :b12: :b12: :b12:


แก้ไขล่าสุดโดย asoka เมื่อ 02 มิ.ย. 2013, 23:01, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 มิ.ย. 2013, 23:00 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
มหาจัตตารีสกสูตร.......
[๒๗๙] ดูกรภิกษุทั้งหลาย บรรดาองค์ทั้ง ๗ นั้น สัมมาทิฐิย่อมเป็นประธาน
ก็สัมมาทิฐิย่อมเป็นประธานอย่างไร คือ

เมื่อมีสัมมาทิฐิ สัมมาสังกัปปะจึงพอเหมาะได้

เมื่อมีสัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจาจึงพอเหมาะได้

:b12: :b12: :b12:

ช่วยตรงนี้ยังไงท่านกบ......คือ ปัญญามรรค 2 ตัว นำหน้า แล้วศีลมรรค และสมาธิมรรคจึงดีตามมาภายหลัง
:b27: :b20:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 มิ.ย. 2013, 23:06 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
คุณกบ คงไม่เคยพิสูจน์ทฤษฎีของสัมมาทิฏฐิมาก่อน....เพราะพอรู้เรื่องสัมมาทิฏฐิปั๊บ ก็ สำเร็จสัมมาทิฏฐิ ปุ๊ป ทันที
:b14: :b11:


แฮ่ม...ถือว่าเป้นคำชม..อิอิ
จริงคับ...ผมไม่เคยพิสูจน์ทฤษฎีสัมมาทิฏฐิมาก่อน....แต่ไม่ใช่เพราะพอฟังทฤษฎีปั๊ป...ก็เป้นสัมมาทิฏฐิ..ปุ๊ป..นะครับ
แค่..พอฟังปั๊ป....เราก็..อ่อ...อารมณ์นี้เราเป็นตั้งกะตอนโน้น..แล้วนี้...อิอิ...มันเป็นแบบหยาบ ๆ แบบลูกทุ่ง ๆ..กำลังอ่อน ๆ...

:b13: :b13: :b13:

แต่อโศกะ...จะพิสูจน์ทฤษฎีก่อน...ก่อนเข้าใจ...อันนี้ก็ไม่แปลก.คับว่าแต่.ทฤษฎีสัมมาทิฏฐิ..เขาว่ายังงัยหรอคับ?
:b13: :b12: :b1:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 153 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 4, 5, 6, 7, 8, 9, 10, 11  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร