วันเวลาปัจจุบัน 18 ก.ค. 2025, 03:42  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 10 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.พ. 2015, 07:45 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 ธ.ค. 2012, 16:46
โพสต์: 412

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


cry cry cry cry


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.พ. 2015, 08:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8580


 ข้อมูลส่วนตัว


พระอริยบุคคลเบื้องบน ๒ ครับ

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.พ. 2015, 09:45 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


เปลี่ยนชื่อใหม่ เขียน:
cry cry cry cry


อิอิ...
ไปสงสัย...คุณธรรมนองใครเขาละครับ....หรือสงสัย..ตัวเอง
อิอิ

ความเห็นส่วนตัวนะครับ
ร้องไห้..ฟูมฟาย..นี้..โสดาบันก็เป็นได้...สกิทาคามี...อาจไม่ถึงกับฟูมฟาย
น้ำตาไหล...นี้..อนาคามี...ก็เป็นได้..และ..อรหัตมรรค...ก็อาจมีข้างใน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.พ. 2015, 13:49 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 ธ.ค. 2012, 16:46
โพสต์: 412

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ถามไว้เป็นความรู้ นะคร๊าบ s002 cry


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.พ. 2015, 15:19 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


:b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.พ. 2015, 16:48 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ม.ค. 2015, 21:55
โพสต์: 1239

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


พระอริยะที่ดับชอบ ชัง เฉย ได้ก็ไม่ร้องไห้ แม้กระทั่งปุถุชนที่ดับชอบ ชัง เฉย ได้ชั่วขณะหนึ่งเค้าก็ไม่ร้องให้เหมือนกัน..กำหนดดับไปที่ต้นเหตุ คือตัวจะ จะคิดดับๆๆ ตลอดเวลา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.พ. 2015, 19:16 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


นางวิสาขาร้องไห้อาลัยหลาน


สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับ ณ พระวิหารบุพพาราม ซึ่งนางวิสาขาเป็นผู้สร้าง ถวายใกล้กรุงสาวัตถี ขณะนั้นหลานสาวชื่อว่าสุทัตตีผู้เป็นที่รักเป็นที่พอใจอย่างยิ่งของนางได้ ถึงแก่กรรมลง ทำให้นางเศร้าโศกเสียใจ ร้องไห้รำพันถึงหลานรัก เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคทั้ง ๆ ที่กำลังร้องไห้อยู่ด้วยพระพุทธองค์ตรัสถามเหตุแห่งความเศร้า ทรงทราบโดยตลอดแล้ว จึงตรัสถามว่า

“ดูก่อนวิสาขา ในพระนครสาวัตถีนี้ เธอต้องการบุตรหลานสักกี่คน ?”
“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์ต้องการบุตรหลานในพระนครนี้ทั้งหมด พระเจ้าข้า”
“ดูก่อนวิสาขา ก็ในพระนครสาวัตถีนี้ มีคนตายวันละเท่าไร ?”
“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ในพระนครสาวัตถีนี้ มีคนตายวันละ 1 คนบ้าง 2 คนบ้าง ถึงวัน ละ 10 คนบ้าง พระเจ้าข้า”
“ดูก่อนวิสาขา ถ้าคนเหล่านั้นเป็นบุตรหลานของเธอจริง เธอก็คงมีหน้าเปียกชุ่มด้วยน้ำ ตาโดยไม่มีวันแห้งเหือด วิสาขา คนในโลกนี้ ผู้ใดมีสิ่งเป็นที่รัก 100 ผู้นั้นก็จะมีทุกข์ถึง 100 ผู้ใดมีสิ่งเป็นที่รัก 50 ผู้นั้นก็จะมีทุกข์ถึง 50 เช่นกัน

“ดูก่อนวิสาขา เราขอบอกเธอว่า ความทุกข์ ความเศร้าโศก ความพิไรรำพัน ที่คนทั้ง หลายประสบกันอยู่ในโลกนี้ ก็เพราะอาศัยสัตว์หรือสังขารอันเป็นที่รัก ถ้าไม่มีสัตว์หรือสัตว์อันเป็นที่รักแล้ว ความทุกข์ ความเศร้าโศก ความพิไรรำพันเหล่านั้นก็ไม่มี ผู้นั้นก็จะมีแต่ความสุข ดังนั้น ผู้ปรารถนาความสุขให้กับตนเอง ก็ไม่ควรทำสัตว์หรือสังขารให้เป็นที่รัก”

http://www.baanjomyut.com/library_2/wisaka/09.html


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.พ. 2015, 21:16 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ธ.ค. 2011, 23:47
โพสต์: 298


 ข้อมูลส่วนตัว


เอแล้วพระพุทธเจ้าตอนบรรลุธรรมทรงร้องไห้หรือเปล่า...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.พ. 2015, 21:39 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่รู้..คับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ก.พ. 2015, 07:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8580


 ข้อมูลส่วนตัว


yoottapong เขียน:
เอแล้วพระพุทธเจ้าตอนบรรลุธรรมทรงร้องไห้หรือเปล่า...


ทุกข์ โทมนัส ร้องให้ โศกเศร้า เพ้อ ร่ำไร รำพัน คร่ำครวญ เสียใจ เหล่านี้เกิดจากทุกข์ใจ
ทุกข์ทั้งหลายเหล่านี้ พระอนาคามีท่านก็ได้ดับไปสิ้นแล้ว จะไม่หลงเหลือให้พระอรหันต์ดับอีกเลย

ดูกรภิกษุทั้งหลาย เปรียบเหมือนนายขมังธนู พึงยิงบุรุษด้วย ลูกศร
ยิงซ้ำบุรุษนั้นด้วยลูกศรดอกที่ ๒ อีกก็เมื่อเป็นอย่างนี้
บุรุษนั้นย่อมเสวย เวทนาเพราะลูกศร ๒ อย่าง คือ ทางกายและทางใจ

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ปุถุชน ผู้ไม่ได้สดับ ก็ฉันนั้นเหมือนกัน
อันทุกขเวทนาถูกต้องแล้ว ย่อมเศร้าโศก ร่ำไร รำพัน ทุบอกคร่ำครวญ
ย่อมถึงความงมงาย เขาย่อมเสวยเวทนา ๒ อย่าง คือ เวทนาทางกายและเวทนาทางใจ

พระอนาคามีจนถึงพระอรหันต์ทั้งหลาย แม้จะโดนลูกศรก็จะทุกข์เพียงร่างกายแต่จะไม่ทุกข์ใจ
หมายถึงจะไม่ร้องให้ เศร้าโศก เสียใจ อะไรเลย

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 10 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร