วันเวลาปัจจุบัน 25 เม.ย. 2024, 16:18  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ม.ค. 2022, 06:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


ถ้าเรามั่นใจได้ว่าคนรอบข้างจะไม่เบียดเบียนเราด้วยกายด้วยวาจา จะไม่ถือของๆ เราที่เราไม่ได้ให้ เขาจะไม่แย่งแฟนของเรา เขาจะไม่โกรธหรือหลอกลวงเรา เขาจะไม่ดื่มเหล้าหรือใช้ยาเสพติดจนลืมว่าอะไรควรอะไรไม่ควร เราย่อมรู้สึกสบายใจและปลอดภัย

ผู้ถือศีลห้าจึงเป็นผู้ให้ความปลอดภัย เรียกว่าให้อภัยทานทุกเวลา การให้อภัยทานด้วยการรักษาศีลเป็นบุญอย่างยิ่ง

พระอาจารย์ชยสาโร





"การให้ธรรมเป็นทานคือการให้อันยอด เพราะเป็นการช่วย 'หงายของที่คว่ำ เปิดของที่ปิด บอกทางแก่คนหลงทาง หรือส่องประทีปในที่มืด ด้วยหวังว่า คนมีจักษุจักเห็นรูปได้' ใครมีส่วนร่วมในการส่งเสริม ศรัทธา ศีล จาคะ และปัญญา ในจิตใจของเพื่อนมนุษย์ย่อมได้บุญอย่างยิ่ง"

พระอาจารย์ชยสาโร









คนดีก็เพราะมีความดีอยู่ภายในใจ คนชั่วก็เพราะมีความชั่วอยู่ภายในใจ ไม่ขึ้นอยู่กับมุมมองของใครเลย คนอื่นจะมองเราว่าดีหรือชั่ว ก็ไม่อาจทำให้เรากลายเป็นคนดี หรือคนชั่วขึ้นมาได้ นอกจากตัวเราจะทำตัวเองให้ดีหรือชั่วเท่านั้น
.
ผู้รู้ทั้งหลายย่อมแยกแยะออกว่า สิ่งนี้ดี สิ่งนี้ชั่ว ไม่สับสนปนเปกัน ส่วนผู้ไม่รู้ก็มีบ้างที่อาจสำคัญผิดเห็นว่าดีเป็นชั่ว หรือเห็นชั่วเป็นดี จึงเป็นหน้าที่ที่คนฉลาดจะต้องตรวจตรองดูให้แน่ชัด ว่า ที่คิดว่าดีนั้น ดีจริงไหม? ที่คิดว่าไม่ดี แล้วไม่ดีจริงหรือเปล่า? เพราะถ้ากระทำการใด ๆ ผิดพลาดลงไปแล้ว ผลไม่ดีย่อมตกแก่เราผู้กระทำฝ่ายเดียว
.
ดังนั้น พระพุทธองค์จึงตรัสว่า “อะเสวะนา จะ พาลานัง ปัณฑิตานัญจะ เสวนา” แปลว่า ไม่ให้คบคนพาล ให้คบบัณฑิต
.
คนพาลก็คือคนพาลจริง ๆ บัณฑิตก็คือบัณฑิตจริง ๆ ไม่ใช่พาล หรือบัณฑิตในมุมมองของใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นพาล หรือ บัณฑิตที่มีอยู่จริงตามขั้นของธรรมต่างหาก
.
คนเรานั้นย่อมมีทั้งดีและชั่วอยู่ในคนเดียวกัน ถ้าจะให้มีแต่ดีอย่างเดียว ไม่มีชั่วเสียเลย เห็นมีแต่พระอรหันต์เท่านั้น แม้กระนั้น พระอรหันต์ก็ยังถูกคนพาลตำหนิได้อยู่ แต่ความผิดก็ตกอยู่ที่คนพาลฝ่ายเดียว ไม่อาจเอาความเห็นผิดนั้นไปแปดเปื้อนพระอรหันต์ได้เลย
.
ถ้าถูกคนพาลตำหนิบ้างก็ช่างเถอะ เพราะใจคนชั่วมันสกปรกหาประมาณมิได้ แต่ถ้าเป็นนักปราชญ์ตำหนิ ต้องรู้จักนำมาแก้ไขปรับปรุงตัวเอง
.
ตราบใดที่เรายังไม่ถึงที่สุดแห่งความดี การคบบัณฑิตก็ยังจำเป็นอยู่ตราบนั้น เพราะเหตุนั้น การหมั่นตรวจตรองดูใจตนเอง อย่าให้ความชั่วเข้ามาครอบงำจิตใจได้ จึงเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องขวนขวายกระทำให้มาก ๆ
.
คนอื่นใครจะดีจะชั่วก็เป็นเรื่องของเขา ไม่จำเป็นต้องไปประมาทเขา ไม่ต้องไปตำหนิเขา เพราะมันอาจทำให้ใจเราเศร้าหมองได้ ผู้มีปัญญาย่อมถือเอาประโยชน์ได้ทั้งจากคนดีและคนชั่ว ที่สำคัญคือ จงทำตัวเองให้ดี อย่าทำตัวเองให้เป็นคนชั่วก็พอ
.
ธรรมท่านสอนไม่ให้คบคนพาล ก็คือ คนพาลที่อยู่ภายในใจเรา ได้แก่ความไม่ดีทั้งหลายให้กำจัดออกไปเสีย ส่วนการให้คบบัณฑิตนั้น ก็คือ บัณฑิตที่อยู่ภายในใจเรา คือความดีทั้งปวงให้ทำให้มีมากยิ่ง ๆ ขึ้นไป
.
อันคนพาล หรือบัณฑิตทางภายนอก คนฉลาดก็ต้องรู้จักปฏิบัติต่อกันให้เหมาะสมตามควรแก่สถานการณ์ กับบัณฑิตก็ไม่สู้กระไรนัก แต่กับคนพาลทางภายนอกต้องระวังให้ดี ถ้าไม่คบเสียเลย เขาอาจมองว่ารังเกียจ หรือดูถูกเขาได้ ดีไม่ดีก็อาจกลายเป็นภัยกับตัวเอง
.
ดังนั้น การอยู่กับคนพาลจึงต้องเพิ่มความระมัดระวังตัวให้มากขึ้น เพราะคนพาลอาจให้โทษแก่เราในเวลาใดก็ได้ ถ้าไม่จำเป็นก็จงอยู่ให้ห่าง ๆ เข้าไว้ นั่นแหละดี
.
#ดอยแสงธรรม_๒๕๖๕
พระอาจารย์วิทยา กิจวิชโช






"...เพราะสตรีกับสตางค์ มันคือสิ่งเดียวกัน ความประมาทมันอันเดียวกัน #สตรี_สตางค์_คือความประมาท #คนเราถ้าประมาทมันก็เสียหาย พระเป็นผู้ทรงไว้ซึ่งธรรมซึ่งวินัย ประชาชนเขาไม่รู้หรอก #พระต้องเคร่งครัด_เพราะเป็นเรื่องของตัวเอง เหมือนพระไปเผยแผ่ที่ต่างประเทศ ได้แต่นอนแผ่เพราะแพ้เรื่องสตรี สตางค์ เรื่องความประมาทนี้แหละ เพราะฝรั่งเขาถือว่าเวลานั่งคุยอย่างนี้ ถ้ามีคนที่สามมานั่งฟังด้วย มันลิดรอนสิทธิ อันนี้มันคิดอย่างความเห็นแก่ตัว พระไปเผยแผ่เลยได้นอนแผ่กัน เราต้องใช้ปัญญา อันนั้นมันไม่ใช่ปัญญา เป็นปรัชญาเฉย ๆ ถึงเราจะซิกแซกเก่ง เราก็ไปไม่รอดหรอก ถ้ามันไม่ถูกต้อง เป็นตัวอย่างในทางที่ไม่ดี

แต่ที่ไทยเรามีแม่ชี มีโยมผู้หญิง เราต้องห่างกัน เพราะให้เข้าใจอย่างนี้ว่า #พระนี้ไม่ใช่สามีเรานะ_สามีเราก็ต่างหากนะ #พระก็ต้องคิดว่าผู้หญิงที่มาวัดนี้ไม่ใช่ภรรยาพระนะ_จะไปใกล้ชิดมากไม่ได้ เพราะว่าอันนี้คือธรรมของพระพุทธเจ้า ไม่ได้เพิ่ม ไม่ได้ตัด เพราะเราต้องทรงไว้ซึ่งพระธรรมของพระพุทธเจ้าที่ประเสริฐ พระเรา ๑๐ พรรษา ๒๐ พรรษา ๓๐ พรรษา มันสึกก็เพราะเรื่องผู้หญิง เรื่องสตรี เรื่องสตางค์ มีสองอย่างเท่านี้แหล่ะ อันนี้ ๙๙.๙% พวกที่ว่าสึกไปเพื่อสุขภาพร่างกาย หรือว่าไปดูแลอุปัฏฐากพ่อแม่ ไม่ใช่หรอก เป็นแม่ก็จริง แต่เป็นแม่หญิง

ผู้หญิงสาว ๆ ก็เหมือนกัน หลายๆ คนที่มาวัดมานั่งมองดูพระรูปหล่อ ๆ ถ้าฝ่ายมหายานพระรูปหล่อ ๆ คนจะถวายเงินเยอะ เขาเอาความหล่อล่อผู้หญิง เพราะว่าฝ่ายพระพูดดีพูดเพราะ ฝ่ายผู้หญิงก็พูดดีพูดเพราะ เขาเรียกว่ามอมคำพูดเข้าหากัน พวกสาวใหญ่ สาวทรงเครื่อง อันตรายทั้งฝ่ายบรรพชิตทั้งฝ่ายโยม เพราะพระศาสนาเราเป็นสิ่งที่ประเสริฐ เป็นสิ่งที่สูงส่ง เราทุกคนต้องเข้าใจ #ฝ่ายสตรีก็อย่าพากันมาหาสามีที่วัด #ฝ่ายบุรุษมาบวชก็อย่ามาหาภรรยาที่วัด เรามาอัพเกรดตัวเอง เรื่องเงิน เรื่องทอง เรื่องฐานะ เรื่องความรู้ เราอย่าไปยุ่งลามปามไปเรื่องผู้หญิง เรื่องสตรี ทุกท่านต้องเคร่งครัด เอาตัวอย่างพระต้นฉบับของประเทศไทยก็คือ หลวงปู่มั่น หลวงตามหาบัว หลวงพ่อชา ท่านเจ้าคุณพุทธทาส เรื่องพวกนี้ท่านไม่มี ท่านสุดยอด ท่านวางตัวเป็นผู้ใหญ่ ไม่พูดสะเงาะ สะแงะ ไม่พูดเสียงสูง เสียงต่ำ..."

บางส่วนจากโอวาทพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า
ที่หลวงพ่อกัณหา สุขกาโมเมตตาให้นำมาบรรยาย
วันพุธที่ ๒๖ มกราคม ๒๕๖๕
ณ วัดป่าทรัพย์ทวีธรรมาราม






…ความจริง
เราภาวนาได้ทุกเวลาและสถานที่

.การภาวนาก็คือ..”การมีสตินี่เอง”
ถ้ามีสติรู้อยู่กับ
การเคลื่อนไหวของกายกับใจ
ก็ถือว่า..กำลังภาวนาแล้ว

.ให้มีสติอยู่กับตัว อยู่ที่กายกับใจ
อย่าไปอยู่กับเรื่องนั้นเรื่องนี้ ถ้าไม่จำเป็น.
……………………………………………
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี
กำลังใจ ๒๐, กัณฑ์ที่ ๒๓๒
วันที่ ๒๒ มกราคม ๒๕๔๙







"ร่างกายนี่มันไม่เที่ยง เราจะบำรุงอย่างไร
อย่างไรมันก็ต้องทรุดโทรมอยู่นั่นแหละ
ส่วนจิตใจนี่ เราบำรุงด้วยบุญด้วยกุศล
ด้วยคุณธรรมอันดีอันงาม ย่อมมีความสุข
ความสงบ เบิกบานทั้งกลางวัน และกลางคืน"

หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ






“ไม่ว่าอะไรจะเกิด
อย่างแรกที่ควรทำ
คือ ยอมรับมัน
เลิกบ่น เลิกก่นด่า
เลิกโทษใครทั้งสิ้น
ยิ่งทำเช่นนั้น ก็ยิ่งซ้ำเติม
ความทุกข์ให้ตัวเรา”

พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล





มันจะมีอะไรในโลกนี้ นอกจากกรรม

หลวงพ่อจิตโต บ้านสบายใจ







จิตเจ้าเอย จงฟังข้าเถิด การเวียนว่ายตายเกิด ทำให้เราไม่สบาย

หลวงพ่อจิตโต บ้านสบายใจ





การไม่กังวล. การไม่ยึดถือ. นั่นแหละคือวิหารธรรมของนักปฏิบัติ

หลวงปู่ดุลย์ อตุโล






#เป็นผู้มีวิหารธรรมอยู่ในใจ

ผู้ปฏิบัติธรรมน่ะ แม้ว่าใครจะทำอะไรไม่พออกพอใจ เราก็ไม่ถือ ละทิ้งให้หมดไปเลย ไอ้ความไม่พอใจนั่นเป็นกิเลส

เรื่องที่เขาพูดมานั้นเมื่อจิตเราไม่หวั่นไหว ไม่ยึดถือซะแล้ว มันก็ดับไป มันไม่ใช่มีตัวมีตน เหมือนหอกดาบมาทิ่มแทงเอาอย่างนั้น หามิได้เลย

อืม ต้องให้เข้าใจ ต้องเรียนรู้ รู้ "กฎธรรมดา"เหล่านี้นะ ไอ้ความชั่วมันก็เป็นกฏธรรมดาอย่างหนึ่ง

ถ้าตนมีความชั่วอย่างนั้นอยู่ในใจ ตนก็ปล่อยออกไปกระทบกระทั่งผู้อื่น ถ้าผู้อื่นมีความชั่วอย่างนั้นอยู่ในใจ เขาก็ปล่อยออกไปกระทบกระทั่งผู้อื่น มันก็เป็นอยู่อย่างนี้

เพราะฉะนั้นพระพุทธเจ้าจึงได้ทรงสอนให้รู้จักให้อภัยต่อกัน เพราะความพลั้งเผลอมันมี บุคคลละกิเลสยังไม่หมด เมื่อความพลั้งเผลอของใครเกิดขึ้นแล้ว เราก็ต้องระลึกเสมอ..อ่อ ผู้นี้เผลอแล้ว อย่างนี้เราก็ไม่ถือสา เราก็นิ่งเสียอย่างนี้นะ

นิ่งทางภายนอกด้วย ควบคุมจิตให้นิ่งอยู่ภายในด้วย ไม่ให้จิตมันหวั่นไหว แบบนิ่งแต่ภายนอก แต่ภายในจิตใจยังหวั่นไหวอยู่ มันก็ใช้ไม่ได้อีกเหมือนกัน

เหตุนั้นต้องให้มันนิ่งภายใน แล้วก็มันนิ่งภายนอกอีกด้วยกัน เช่นนี้มันจึงไม่กำเริบขึ้นมาอีก กิเลสเหล่านั้นน่ะ มันเป็นอย่างนั้น

นี่ล่ะขอให้พากันศึกษาให้เข้าใจ อย่าไปศึกษาแต่เรื่องศีล เอ้าตนมีศีลอยู่นี้ไม่ล่วงสิกขาบทนั้น เท่านี้แล้วไม่หวนนึกถึงธรรมะประกอบกันนี่ไม่ได้เลย เมื่อไม่มีธรรมะอยู่ในใจแล้วหน่อยนึงมันก็ทำลายศีลอีกแล้ว มันเป็นเช่นนั้น

เพราะศีลธรรมมันจึงว่าได้เป็นคู่กันนั่นแหละ เป็นคู่กัน ท่านจึงเรียกว่า เป็นผู้มี “วิหารธรรม” อยู่ในใจ อืม เป็นอย่างนั้น

หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ
ส่วนหนึ่งจากพระธรรมเทศนาหัวข้อ
"สติใคร่ครวญเสียก่อนจึงค่อยพูด ปี พ.ศ. ๒๕๓๖"







เค้าชั่ว.. เราน่ะมันยอดชั่ว ต้องคิดไว้อย่างนั้น เราไม่ใช่คนดีหรอกนะ

หลวงพ่อจิตโต บ้านสบายใจ






จิตเจ้าเอย จงฟังข้าเถิด การเวียนว่ายตายเกิด ทำให้เราไม่สบาย

หลวงพ่อจิตโต บ้านสบายใจ






การไม่กังวล. การไม่ยึดถือ. นั่นแหละคือวิหารธรรมของนักปฏิบัติ

หลวงปู่ดุลย์ อตุโล


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 128 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร