วันเวลาปัจจุบัน 14 ต.ค. 2024, 02:29  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ก.ย. 2024, 05:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5140


 ข้อมูลส่วนตัว


“เราไม่พูดอะไรมากหรอก พากันยึดเอาคุณพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์น่ะ อย่าพากันลืมพุทโธอย่างน้อยๆ ให้ได้เท่าอายุทุกวันๆ อย่าพากันคิดหาอันนี้เป็นคุณของจิตพึ่งเป็นพึ่งตายแล้วก็เป็นคุณหนุนทรัพย์

หลวงปู่มั่นท่านว่าได้สมบัติทั้งปวงไม่ประเสริฐเท่าได้ตน เพราะตัวตนเป็นบ่อเกิดแห่งสมบัติทั้งปวงนั้น ถ้าตัวนี้ดีทุกอย่างดีหมด อยู่กับลูกก็ดี อยู่กับเมียก็ดี อยู่กับผัวก็ดี ทุกอย่างดีหมดร่มเย็นหมด ธรรมจึงทำโลกให้ร่มเย็นทำเราให้ร่มเย็น ใครนำไปปฏิบัติร่มเย็นหมด เอาล่ะแค่นี้พอ”

โอวาทธรรมคำสอน

#หลวงปู่ทุย ฉนฺทกโร
วัดป่าดานวิเวกในพระบรมราชูปถัมภ์
บ้านแสงอรุณ ต.ศรีชมภู อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ






โลกหน้าจะเป็นอย่างไร
จะอดอยากไหม
ไม่ต้องถามใคร
ถามตัวเองแหละ
ทุกวันนี้ทำบุญให้ทาน
ทำคุณงามความดีไหม
.......
หลวงพ่อสมบูรณ์ กันตสีโล
#พระเทพวัชรญาณเวที






#กายนี้เป็นที่อาศัยของจิตและเป็นทางเดินของจิต เปรียบเหมือนแผ่นดิน ย่อมมีทางน้อยใหญ่เป็นที่สัญจรของบรรดาสัตว์ทุกหมู่เหล่า กายนี้ก็เหมือนกัน ย่อมเป็นที่อยู่อาศัยของจิต และเป็นที่เที่ยวไปมาของจิต ฉันนั้น ถ้าจิตมามัวเมายึดถือกายนี้ว่าเป็นของตนอยู่เมื่อใด เมื่อนั้นย่อมได้รับทุกข์ ความโศกเศร้าเสียใจ มีความเดือดร้อนวุ่นวายอยู่เป็นนิจ

คติธรรมคำสอน
#หลวงปู่ลี ตาณํกโร








" พระรัตนตรัย" เป็นโอสถอันประเสริฐสุด สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงแสดงพระธรรมวินัย และมีพระสงฆ์รับสืบทอดพระธรรมวินัยให้เผยแผ่ขจรขจายสืบมาตราบทุกวันนี้ สำหรับเป็นเครื่องบดทับทำลายอวิชชา อันเป็นโรคร้ายหมักดองอยูในขันธสันดานของสรรพสัตว์ให้ปลาสนาการไป โรคทางจิตใจตั้งแต่ระดับเบาจนถึงหนักที่สุด ก็ล้วนทุเลาได้ด้วยอานุภาพพระรัตนตรัย

เมื่อจิตใจเข้มแข็ง ย่อมช่วยให้คลายทุกขเวทนาจากโรคทางกายลงได้ หรือแม้การเวียนเกิดเวียนตายในวัฏสังสาร ซึ่งเป็นปฐมเหตุของความเจ็บป่วยทางกายและทางจิตของสรรพสัตว์ ก็ดับได้ด้วยอานุภาพพระรัตนตรัย พระพุทธศาสนาจึงมีพระคุณต่อชาวโลกอย่างพ้นที่จะประมาณ เพราะเป็นเครื่องขุดรากถอนโคนต้นตอแห่งโรค กล่าวคือ "อวิชชา" ให้สิ้นไปได้
.
--- บางส่วนจากพระคติธรรม สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ(อมฺพรมหาเถร) สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก
เนื่องในพิธีเปิดหอพระพุทธมหามงคลเภสัช คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยลัยมหิดล ๗ มิถุนายน ๒๕๖๖






พระพุทธองค์ท่านบอก
ให้เลือกเนื้อนาบุญ
หากนาดี ดินดี น้ำดี ปุ๋ยดี
ต้นข้าวย่อมเจริญงอกงาม
ออกรวงได้ดีกว่า
นาที่แห้งแล้ง
มีหญ้ารกขึ้นปกคลุม

โอวาทธรรม
หลวงพ่อตั๋น ถิรจิตฺโต
วัดบุญญาวาส อ.บ่อทอง จ.ชลบุรี







"..พระพุทธเจ้าจึงยังมีอยู่ ยังเมตตากรุณาสัตว์ทั้งหลาย ยังช่วยมนุษย์สัตว์ทั้งหลายอยู่ ถ้ามนุษย์ผู้ใดมีความประพฤติปฏิบัติดี จงรักภักดี พระพุทธเจ้า ต่อพระธรรม ผู้นั้นก็จะมีคุณงามความดีอยู่ตลอดทุกวันฉะนั้น ถ้าเรามีปัญญา ก็จะเห็นได้ว่า เราไม่ได้อยู่ห่างพระพุทธเจ้าเลย เดี๋ยวนี้เราก็ยังนั่งอยู่ต่อหน้าพระพุทธเจ้าเราเข้าใจธรรมะเมื่อใด เราก็เห็นพระพุทธเจ้าเมื่อนั้น ผู้ใดที่ตั้งใจประพฤติปฏิบัติธรรมอยู่อย่างสม่ำเสมอแล้ว ไม่ว่าจะนั่ง ยืน เดิน อยู่ ณ ที่ใด ผู้นั้นย่อมได้ฟังธรรมของพระพุทธเจ้าอยู่ตลอดเวลา.."

พระธรรมคำสอนโดย
พระโพธิญาณเถร (หลวงปู่ชา สุภทฺโท) วัดหนองป่าพง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี
(พ.ศ.๒๔๖๑-๒๕๓๕)







เขาชมเราได้ เขาก็ติเราได้
เสียงก็สักแต่ว่าเสียง
เสียงดีก็เสียง เสียงร้ายก็เสียง
ดูให้ดี ดูใจนี่แหละ เกิดที่นี่แหละ
ดับก็ดับที่ใจนี่แหละ

#หลวงปู่จื่อ พันธมุตโต






"..การให้ทาน ใคร ๆ ก็ให้ทานมามากแล้ว มีผลานิสงส์มากเหมือนกัน ยังสู้บวชเป็นขาวเป็นชีรักษาศีลอุโบสถไม่ได้ มีผลานิสงส์มากกว่าให้ทานนั้นเสียอีก ถ้าใครอยากได้บุญ อยากขึ้นสวรรค์ ไปนิพพานพ้นทุกข์ ก็ควรบวชเป็นขาวเป็นชีรักษาศีลอุโบสถเสียในวันนี้.."

โอวาทธรรม
หลวงปู่เสาร์ กนฺตสีโล
วัดเลียบ อ. เมือง จ.อุบลราชธานี
(พ.ศ.๒๔๐๒–๒๔๘๔)








"..ผู้มีศีลเป็นผู้ปลูกและส่งเสริมความสุขบนหัวใจคนและสัตว์ทั่วโลก ให้มีแต่ความอบอุ่นใจ ไม่เป็นที่ระแวงสงสัย ผู้ไม่มีศีลเป็นผู้ทำลายหัวใจคนและสัตว์ให้ได้รับความทุกข์เดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า ฉะนั้นผู้เห็นคุณค่าของตัวจึงควรเห็นคุณค่าของผู้อื่นว่ามีความรู้สึกเช่นเดียวกัน ไม่เบียดเบียนทำลายกัน ผู้มีศีลสัตย์เมื่อทำลายขันธ์ไปเกิดในสุคติโลกสวรรค์ไม่ตกต่ำ เพราะอำนาจศีลธรรมคุ้มครองรักษาและสนับสนุน จึงสมควรอย่างยิ่งที่จะพากันรักษาให้บริบูรณ์ เมื่อจากอัตภาพนี้จะมีสวรรค์เป็นที่ไปโดยไม่ต้องสงสัย ธรรมที่สั่งสอนแล้วควรจดจำให้ดี ปฏิบัติให้มั่นคง จะเป็นผู้ทรงสมบัติทุกอย่างในอัตภาพที่จะมาถึงในไม่ช้านี้แน่นอน.."

ภูริทตฺโตธมฺโมวาท
พระครูวินัยธร (หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต) วัดป่าสุทธาวาส อ.เมือง จ.สกลนคร
(พ.ศ.๒๔๑๓-๒๔๙๒) อ้างอิงหนังสือประวัติท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตตเถระ







"เห็นอะไรชอบ ไม่ชอบ ปล่อยไว้ก่อน
เรื่องของคนอื่น พยายามอย่าให้เข้ามาที่จิตใจเรา
ถ้าไม่ระวัง ก็จะยุ่งแต่เรื่องของคนอื่นไปเรื่อยๆ
หาเรื่องอยู่อย่างนั้น เอาเรื่องโน้น เรื่องนี้
มาเป็นเรื่องของเราไปหมด มีแต่ยินดี ยินร้าย
พอใจ ไม่พอใจทั้งวัน อารมณ์มาก จิตไม่ปกติ
ไม่สบาย ทั้งวันๆ ก็หมดแรง"

หลวงปู่ชา สุภัทโท







"ฟ้าไม่ร้อง ฝนไม่ตก" หมายถึง ผู้ที่มิได้ทำการสั่งสอนธรรมะและมิได้ทำการปฏิบัติธรรมเพื่อให้ถึงความหลุดพ้น

"ฟ้าไม่ร้อง ฝนตก" หมายถึง ผู้ที่มิได้ทำการสั่งสอนธรรมะ แต่ได้ขวนขวายปฏิบัติธรรมเพื่อความหลุดพ้น

"ฟ้าร้อง ฝนไม่ตก" หมายถึง ผู้ที่ได้ทำการสั่งสอนธรรมะ แต่ไม่ได้ปฏิบัติธรรมเพื่อความหลุดพ้น

"ฟ้าร้อง ฝนตก" หมายถึง ผู้ที่ได้ทำการสั่งสอนธรรมะ และได้ปฏิบัติธรรมเพื่อความหลุดพ้น

พระอาจารย์ชยสาโร ภิกขุ







"ผู้อื่นไม่ได้ทำจิตของเราเศร้าหมองหรือผ่องแผ้ว
เราเองเป็นผู้ทำจิตของตนเศร้าหมอง ผู้อื่นช่วยไม่ได้
แม้พระพุทธเจ้าก็ช่วยไม่ได้ ท่านทรงเป็นผู้บอกทาง
ให้เท่านั้น"

หลวงปู่ขาว อนาลโย


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 18 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร