วันเวลาปัจจุบัน 19 ก.ค. 2025, 03:11  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 32 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ธ.ค. 2009, 10:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3832

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


มส. ตัดขาด “วัดโพธิญาณ เมืองเพิร์ธ” จากสาขา
หลัง “พระพรหมวังโส” ละเมิดกฎบวชให้ “ภิกษุณี”


ตัดขาดวัดโพธิญาณ เมืองเพิร์ธ ประเทศออสเตรเลีย ออกจากสาขาวัด หลัง “พระพรหมวังโส” ได้ทำพิธีอุปสมบทให้กับภิกษุณี ละเมิดระเบียบคณะสงฆ์ไทย จี้ขอขมาพระผู้ใหญ่

นายอำนาจ บัวศิริ ผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม (มส.) สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม กรณีคณะสงฆ์วัดหนองป่าพง จ.อุบลราชธานี มีมติให้ถอดถอนวัดโพธิญาณ เมืองเพิร์ธ ประเทศออสเตรเลีย ออกจากการเป็นสาขาของวัด เนื่องจาก พระวิสุทธิสังวรเถร (พระพรหมวังโส) เจ้าอาวาสวัดโพธิญาณ ได้ทำพิธีอุปสมบทให้กับภิกษุณี ซึ่งละเมิดระเบียบคณะสงฆ์ไทย ว่า ขณะนี้กำลังตรวจสอบประวัติพระวิสุทธิสังวรเถร เพื่อหาทางดำเนินการต่อไป ทั้งนี้ สถานภาพในการเป็นพระสงฆ์ของพระวิสุทธิสังวรเถรจะยังคงอยู่ เพราะการกระทำความผิดครั้งนี้ไม่ถึงกับต้องสึก เพียงแต่ถูกตัดขาดจากคณะสงฆ์ไทยเท่านั้น เพราะไม่ยอมฟังคำตักเตือนจากพระผู้ใหญ่

“กรณีนี้ผมเห็นว่าหากพระวิสุทธิสังวรเถรสำนึกผิด ก็ควรจะมาขอขมาพระผู้ใหญ่ อย่างไรก็ตาม แม้จะถูกตัดขาดจากคณะสงฆ์ไทยแล้ว แต่ต้องถือว่าวัดโพธิญาณยังคงอยู่ แต่จะมีการสอน ปฏิบัติอย่างไร ก็เป็นเรื่องของวัด ทางมหาเถรสมาคม และคณะสงฆ์ไทยไม่มีส่วนรับผิดชอบ” นายอำนาจกล่าว

นางจุฬารัตน์ บุณยากร ผู้อำนวยการ พศ.กล่าวว่า เรื่องการลงโทษพระวิสุทธิสังวรเถร เป็นหน้าที่ของเจ้าคณะผู้ปกครอง ไม่ว่าจะเป็นเจ้าคณะภาค 10 เจ้าคณะจังหวัด รวมทั้ง เจ้าอาวาสวัดโพธิญาณ ซึ่งขณะนี้ยังไม่พิจารณาลงโทษ

ก่อนหน้านี้ นายเสถียร วิพรมหา ผู้ช่วยเลขานุการองค์กรชาวพุทธแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงกรณีคณะสงฆ์ วัดหนองป่าพง จ.อุบลราชธานี มีมติให้ถอดวัดโพธิญาณ เมืองเพิร์ธ ประเทศออสเตรเลีย ออกจากการเป็นสาขาของวัด เนื่องจากคณะสงฆ์ของวัดที่มีพระวิสุทธิสังวรเถร (พระพรหมวังโส) เป็นเจ้าอาวาส ดำเนินการอุปสมบทให้กับภิกษุณีซึ่งเป็นการขัดกับระเบียบของคณะสงฆ์ฝ่าย เถรวาท เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม ว่า การกระทำของคณะสงฆ์วัดโพธิญาณเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องเพราะสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ห้ามบวชให้แก่สตรีเพื่อเป็นภิกษุณี ทรงเคยมีพระบัญชามาแล้ว ซึ่งหากจะมีการบวชภิกษุณีขึ้นก็เรื่องเป็นส่วนบุคคล แต่ในเมืองไทยไม่มีการยอมรับและไม่สามารถอุปสมบทให้ภิกษุณีได้เพราะจะขัดต่อ บทบัญญัติต่อการปกครองคณะสงฆ์

“พระภิกษุยิ่งจะต้องไม่ปฏิบัติตัวหรือทำการอุปสมบทให้ ยกเว้นว่าจะได้ลาสิกขาจากการเป็นพระภิกษุสงฆ์แล้วจะไปเข้ากลุ่มหรือเข้าไป ร่วมก็เป็นสิทธิที่กระทำได้ ทั้งนี้คิดว่ากรณีนี้ พระวิสุทธิสังวรเถร เจ้าอาวาสวัดโพธิญาณ ควรต้องพิจารณาตนเองโดยการลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาส เพราะเป็นการกระทำที่ฝืนการปกครองของคณะสงฆ์ไทย ลบหลู่ผู้บังคับบัญชาและที่สำคัญยังลบหลู่ศาสนาพุทธ ซึ่งการปฏิบัติตัวของเจ้าอาวาสวัดโพธิญาณทำให้พุทธศาสนิกชนเข้าใจไขว้เขวได้” นายเสถียรกล่าว

ผู้ช่วยเลขานุการองค์กรชาวพุทธฯ กล่าวว่าในวันที่ 30 ธันวาคมนี้ จะมีการประชุมมหาเถรสมาคม (มส.) ซึ่งคิดว่า มส. ควรจะต้องนำเรื่องนี้เข้าไปทบทวนและน่าจะต้องมีมติออกมาอย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่ควรปล่อยไว้เช่นนี้ เพราะจะมีปัญหาในลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก ควรจะมีการพิจารณาลงโทษพระวิสุทธิสังวรเถรด้วยเพราะถือว่ากระทำละเมิดพระธรรมวินัยหากเปรียบกับราชการก็ทำผิดวินัย สามารถให้พ้นจากการเป็นพระภิกษุสงฆ์ การลงโทษนั้นมีขั้นตอนที่กำหนดกันไว้อยู่แล้วเพียงแต่ มส. จะต้องนำเรื่องนี้มาพิจารณา

ที่มา - http://www.matichon.co.th/news_detail.p ... =01&catid=


แก้ไขล่าสุดโดย เว็บมาสเตอร์ เมื่อ 22 ธ.ค. 2009, 12:37, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ธ.ค. 2009, 11:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3832

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


ปล. คนน่ารักไม่ด่าพระนะจ๊ะ

นี่อีกลิงก์น่าสนใจมาก เป้นข้อมูลละเอียดมากเกี่ยวกับสถานการณ์นี้
http://www.dhammalight.com/th/index.html


แก้ไขล่าสุดโดย ชาติสยาม เมื่อ 22 ธ.ค. 2009, 11:02, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ธ.ค. 2009, 12:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2009, 08:46
โพสต์: 405

แนวปฏิบัติ: ดูจิต-อานา
ชื่อเล่น: ขวานผ่าซาก
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่น่าพลาดเลยนะครับ

เป็นสำนักปฏิบัติด้วย สายหลวงพ่อชาด้วย กฎก็คงต้องเป็นกฎ :b35:

.....................................................
สุ จิ ปุ ลิ...(หัวใจนักปราชญ์)

ปัจจุบันธรรม

โยนิโส มนสิการ
สติ สัมปชัญญะ


แก้ไขล่าสุดโดย เว็บมาสเตอร์ เมื่อ 22 ธ.ค. 2009, 12:37, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ธ.ค. 2009, 13:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 พ.ย. 2009, 17:20
โพสต์: 532

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ยังก็เรื่องของพระ แค่รู้ก็พอขอรับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ธ.ค. 2009, 16:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 พ.ย. 2009, 16:20
โพสต์: 537

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อันนี้ก็พูดลำบากอ่ะนะครับ ว่าพระท่านทำถูกหรือผิด
จะเอาหลักอะไรมาตัดสินดี ระหว่างกฎบัญญัติหรือศีลธรรมความจำเป็น
:b10: :b10: :b10:

สมมุตินะครับว่า
ถ้าผู้หญิงคนนั้นจำเป็นจริงๆที่ต้องบวช
หรือได้บวชเป็นภิกษุณีแล้ว เกิดความเป็นกุศลที่ใจมากขึ้น
หรือสามารถช่วยปัญหาชีวิตของเธอได้
หรือทำให้เจริญในธรรมได้มากกว่าตอนเป็นฆราวาส

ถามว่าที่พระท่านตัดสินใจบวชให้นั้น ถูกหรือผิด

ถ้าถามว่า มีสีกาคนนึงกำลังจะจมน้ำตาย และในระแวกนั้นไม่มีใครอยู่เลย
พระที่ไปพบเข้าจะยอมผิดศีลช่วยสีกาคนนั้น หรือปล่อยให้สีกาคนนั้นตายไปต่อหน้าต่อตา

การตั้งศีลหรือกฎหมาย ก็ตั้งไว้เพื่อการปฏิบัติที่ถูกที่ควรตามสถานการณ์ต่างๆ

การลงโทษต่างๆเป็นการตัดสินตามกฎทางโลกที่สมมุติขึ้นมาว่าถูกว่าควร ตัดสินให้ใครเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ได้
แต่การตัดสินนั้นไม่สามารถตัดสินให้ใครรู้สึกอย่างนั้นอย่างนี้ได้
เพชร ใครจะเปลี่ยนชื่อใหม่ให้มันว่า กรวด มันก็ยังเป็นเพชรอยู่วันยันค่ำ

เพราะฉนั้นไม่ว่าพระท่านจะถูกตัดสินอย่างไร ย่อมไม่ใช่สาระสำคัญ
เพราะท่านรู้ตัวของท่านเองดี ว่าท่านเป็นเพชร หรือ กรวดอ่ะครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ธ.ค. 2009, 17:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ส.ค. 2009, 20:26
โพสต์: 1589

แนวปฏิบัติ: อรหัตตมัคค
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระไตรปิฎก
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


บุรุษนั้นเป็นบัณฑิตในที่ทุกสถานก็หาไม่
แม้สตรีผู้มีปัญญาเห็นประจักษ์
ก็เป็นบัณฑิตได้ในสถานที่นั้น ๆ
วิมุติญาณทัสนะมีในบุรุษได้อย่างไร
สตรีก็ยังวิมุติญาณทัสนะให้สำเร็จได้อย่างนั้นแล



:b8: :b8: :b8:
สาธุกับพระวิสุทธิสังวรเถร (พระพรหมวังโส) เจ้าอาวาสวัดโพธิญาณ

ยอดเยี่ยมมากครับ กล้าหาญจริง ๆ ขอชื่นชมครับ



เจริญในธรรมครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ธ.ค. 2009, 20:33 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ก็เป็นกันทุกคนนั้นแหละครับ..

หากยังไม่แจ้ง..ต่างทำไปตามตรรกความคิด..ของของตน..

หากเป็นธรรมแล้ว..ไม่ขัดไม่แย้ง..กันหรอก..เพราะแย้ง..ไม่แย้ง..ก็เสมอกัน..ผู้เป็นธรรมจึงเลือกไม่แย้งเพียงเพื่อให้สมมุติมันสงบ..แค่นั้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ธ.ค. 2009, 20:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ก.พ. 2009, 20:49
โพสต์: 3979

แนวปฏิบัติ: พอง-ยุบ
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
ชื่อเล่น: นนท์
อายุ: 42
ที่อยู่: นครสวรรค์

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:

อนุโมทนาสาธุด้วยครับ

ผู้หญิงที่ประพฤติธรรมเก่ง ๆ ก็มีเยอะ


:b8: :b8: :b8:

.....................................................
แม้มิได้เป็นสุระแสงอันแรงกล้า ส่องนภาให้สกาวพราวสดใส
ขอเป็นเพียงแสงแห่งดวงไฟ ส่องทางให้มวลชนบนแผ่นดิน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ธ.ค. 2009, 22:28 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ธรรมะ..ไม่มีเพศ..เพศจึงไม่เป็นสาระในธรรม

ประพฤติธรรม..ไม่มีเพศ..เพศจึงไม่เป็นอุปสรรคต่อการประพฤติธรรม

นาย..นาง..นางสาว..ผู้หญิงห่มขาว..เด็กห่มเหลือง..คนห่มเหลือง..เป็นสมมุติ

เมื่อ..ธรรมะเท่านั้น..จึงเป็นสาระ..ใยจึงมาสน..สิ่งที่ไม่มีสาระในธรรม :b12: :b12:

เมื่อ..ธรรมะเท่านั้น..จึงเป็นสาระ..ใยจึงมาสน..ห่มเหลือง..มากกว่า..ห่มขาว :b12: :b12:

เมื่อ..ธรรมะเท่านั้น..จึงเป็นสาระ..ใยไม่เลือกสมมุติ..ให้เหมาะกับสมมุติ..เหมาะกับมนุษย์บัญญัติ.. :b12: :b12:

:b12: :b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ธ.ค. 2009, 22:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


tongue smiley

:b4:

พระวิสุทธิสังวรเถร (พระพรหมวังโส) เจ้าอาวาสวัดโพธิญาณ

น่าชื่นชม กล้าหาญ smiley smiley

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ธ.ค. 2009, 23:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 มี.ค. 2009, 20:48
โพสต์: 744


 ข้อมูลส่วนตัว


ถ้าทำลายกฎที่พระพุทธเจ้าวางไว้ได้

ต่อไปก็คิดทำลายจักรพระผู้มีพระภาคเจ้าได้เช่นกัน


ทำแบบนี้ หากพระผู้มีพระภาคทรงพระชนน์อยู๋

พระองค์ก็อาจทรงตรัสว่า

ภิกขุ อัปเปหิ


ดั้งนี้

อิอิ บาลีอาจเพี้ยนได้ตรวจให้ด้วยนะงับบบบบ

.....................................................
“เวลาทำสมาธิ ให้ระลึกลมหายใจเข้าออก ให้รู้ลมหายใจเข้าออก ไม่ต้องบังคับลมหายใจ ตามรู้ลมหายใจเข้าออก สงบก็รู้ ไม่สงบก็รู้ สงบก็ไม่ยินดี ไม่สงบก็ไม่ยินร้าย ไม่เอาทั้งสงบและไม่สงบ เอาแค่รู้ตามความเป็นจริงของสภาวธรรมปัจจุบันนั้น”

ธรรมเหล่านี้เป็นไปเพื่อคลายกำหนัด
เป็นไปเพื่อไม่ประกอบสัตว์ไว้
เป็นไปเพื่อไม่สั่งสมกิเลส
เป็นไปเพื่อความเป็นผู้มักน้อย
เป็นไปเพื่อสันโดษ
เป็นไปเพื่อความสงัดจากหมู่คณะ
เป็นไปเพื่อปรารภความเพียร
เป็นไปเพื่อความเป็นคนเลี้ยงง่าย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ธ.ค. 2009, 09:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3832

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


ประเด็นสำคัญคืการบวชภิกษุณีที่ทรงบัญญัติไว้นั้น
พูดง่ายๆว่า ต้องมีภิกษุ และ ภิกษุณี จึงจะบวชให้ได้ตามพระวินัย

ภิกษุณีสายเถรวาทนั้น หมดสิ้นไปนานแล้ว
จึงไม่มีโอกาสเลยที่จะมีการบวชภิกษุณีโดยต้องพระะรรมวินัยได้

แต่ทีนี้ ภิกษุนีที่พระพรหมวังโส ร่วมกันในบวชด้วยนั้น เป็นภิกษุณีที่มาจากมหายาน
แต่ผู้ที่บวชกลับ "ดูประหนึ่งว่า" เป็นภิกษุณีสายเถรวาท

กลายเป็นว่า ต่อไปนี้เถรวาทจะมีภิกษุณี

ทาง มส และคณะสงฆ์ไทย ไม่มีความรังเกียจที่จะให้ผู้หญิงบวช
ผู้หญิงไม่ใช่ตัว"วรนัท"สำหรับศาสนาพุทธเถรวาท
ลองคิดดูเถิด ถ้าท่านเป็นภิกษุที่บวชจากมหายานมา
แต่จะมายึดพระธรรมวินัยแบบเถรวาทได้หรือไม่
คำตอบคือได้ แต่ต้องมาบวชกันใหม่ ญัตติกันใหม่
ทำความเข้าใจการเป้นภิกษุในแบบเถรวาทกันใหม่

ถ้าไม่มีภิกษุในสายเถรวาทเหลือแล้ว
จู่ๆท่านจะตั้งตนขึ้นมาแล้วบอกว่าท่านคือภิกษุเถรวาท
ถามว่า อะไรทำให้ท่านทำเช่นนั้น


บางคนลามปามไปถึงว่า ผุ้หญิงทำไมจะนิพพานไม่ได้ ไม่มีสิทธิ์หรือ
ก็คิดกันง่ายๆว่า ท่านมีสิทธิ์หายใจได้ ตรงไหนก็ได้
แต่จะเข้าไปหายใจในบ้านคนอื่น ท่านต้องได้รับอนุญาต
ท่านจะมาอ้างสิทธิ์ว่าท่านมีสิทธิ์ที่จะหายใจตรงนี้ เพราอากาศเป็นของสาธารณะ
อันนี้ก็เป้นพวกกิเลสลากลงไปกินใต้นำเรียบร้อยแล้ว

ทำไมล่ะ พระพุทธเจ้าก่อนจะตรัสรู้ ท่านก็ไม่ได้นับถือศาสนานี่ ทำไมท่านตรัสรู้ได้
แล้วทำไม จำเพาะว่า ต้องอยากจะเข้ามาในเถรวาทเพื่อจะตรัสรู้
สายอื่นตรัสรู้มิได้หรือ

ผู้คนสายอื่นก้ตรัสรู้ได้
ดังนั้นการตรัสรู้ หรือมรรคผลนิพพานนั้น ไม่หวงห้าม ไม่จำกัดด้วยศาสนาลัทธิอะไรเลย
หากมีเหตุ ประพฤติธรรมสมควรแก่นิพพาน นิพพานก็แจ้งแก่ผู้นั้น

การคิดว่า ต้องเป้นภิกษุณีเสียก่อน จึงจะแจ้งมรรคผลนิพพานได้นั้น
แค่เริ่มต้นก็ผิดแล้ว
ก็คล้ายๆว่า ถ้าไม่ได้นุ่งขาวห่มขาวแล้ว ก็ไม่ปฏิบัติธรรม
ทั้งๆที่การปฏิบัติธรรมทั้งปวงนั้น ก้อยู่ในกายกับใจนี้เอง
กายกับใจอยู่ตรงไหนก็ปฏิบัติธรรมตรงนั้น
ไม่ต้องมาเรียกร้องจะเอาสี หรือนิกาย หรือรูปแบบสมมุติบัญญัติอันใดมาครอบกายใจเสียก่อน
จึงจะปฏิบัติธรรมไได้


พระธรรมวินัยนั้น ทรงบัญญัติขึ้นด้วยพระองค์เอง
ด้วยพระทศพลญาน เพื่อการปกครองคณะสงฆ์
ไม่ใช่อาจาริยวาท หรือแม้แต่เถรวาท
แต่เป็นพุทธวาท หรือวาทะ หรือพจนะ ของพระพุทธเจ้าเองล้วนๆ

ผมผิดหวังกัีบคุณเช่นนั้นและคุณมหาราชันย์มากจริงๆ
แต่ก้ยังรักเหมืิอนเดิมนะ จุ๊บๆ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ธ.ค. 2009, 10:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขงเบ้งเทพแห่งกลยุทธ์ เขียน:
ถ้าทำลายกฎที่พระพุทธเจ้าวางไว้ได้

ต่อไปก็คิดทำลายจักรพระผู้มีพระภาคเจ้าได้เช่นกัน
ทำแบบนี้ หากพระผู้มีพระภาคทรงพระชนน์อยู๋
พระองค์ก็อาจทรงตรัสว่า
ภิกขุ อัปเปหิ ดั้งนี้
อิอิ บาลีอาจเพี้ยนได้ตรวจให้ด้วยนะงับบบบบ


ท่านขงเบ้ง ฯ งับๆๆ

อย่ายุ่งกะเขาเลยงับ ไปสันติอโศก เอ้ย ไม่ใช่ ไปเมืองพญานาคเอาพระธาตุกันดีกว่างับ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ธ.ค. 2009, 11:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 ต.ค. 2008, 09:55
โพสต์: 405


 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณคุณชาติสยามที่นำข่าวเรื่องนี้มาให้อ่านครับ :b8:

ประเด็นเรื่องการบวชภิกษุณีนี้ไม่สามารถกระทำได้ในพุทธศาสนาฝ่ายเถรวาทอย่างที่คุณชาติสยามนำข้อมูลมาลงเอาไว้...

และเรื่องนี้ท่านพระพรหมคุณาพร (ป.อ.ปยุตฺ โต) ก็ได้เคยแสดงธรรมเกี่ยวกับประเด็นการบวชเป็นภิกษุณีนี้มานานแล้ว...

เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับว่าผู้หญิงสามารถบรรลุธรรมเท่าผู้ชายหรือไม่ หรือเป็นเรื่องของการเรียกร้องสิทธิสตรีแต่อย่างไร แต่เป็นเรื่องของระเบียบการปกครองคณะสงฆ์ เป็นการป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาวุ่นวาย หากต่างๆ ระหว่างชายกับหญิง...

การไปบวชให้ภิกษุณีดังกล่าวแล้ว เป็นการละเมิดพุทธบัญญัติ ดังนั้นไม่ควรกระทำ อย่างที่พระมหากัสสปเถระได้กล่าวเอาไว้ ว่าจะไม่มีการแก้ไขพระพุทธบัญญัติตอนทำปฐมสังคายนา เพราะหากกระทำการแก้ไขกันแล้วในอนาคตก็จะมีเหตุแก้กันไปเรื่อยๆ จนกระทั่งพุทธบัญญัติเสื่อมสิ้นไปในที่สุดได้...

จริงๆ เรื่อง "ภิกษุณี" นี้ ก็ได้มีการแก้ไขปัญหากันมาจากคนสมัยก่อนแล้ว คือ เกิด "แม่ชี" ขึ้นมาอย่างในปัจจุบัน...

แต่หากใครจะบวช ต้องการเป็นภิกษุณีจริงก็ไม่ห้าม แต่ให้บวชในนิกายมหายานแทนก็แล้วกันครับ ไม่ควรจะบวชในเถรวาทเพราะเป็นผิดพุทธบัญญัติของพระพุทธเจ้า ที่อาจจะมีพุทธประสงค์ที่จะรักษาพระพุทธศาสนาให้ยืนยาวที่สุดเท่าที่จะทำได้...


แก้ไขล่าสุดโดย ศิรัสพล เมื่อ 23 ธ.ค. 2009, 11:38, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ธ.ค. 2009, 11:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 ต.ค. 2008, 09:55
โพสต์: 405


 ข้อมูลส่วนตัว


นำมาฝากให้อ่านครับ :b8:

เรื่องไม่บัญญัติและไม่ถอนพระบัญญัติ

[๖๒๑] ครั้งนั้น ท่านพระมหากัสสปประกาศให้สงฆ์ทราบด้วยญัตติทุติย-
*กรรมวาจา ว่าดังนี้:-

ญัตติทุติยกรรมวาจา

ท่านทั้งหลาย ขอสงฆ์จงฟังข้าพเจ้า สิกขาบทของพวกเราที่
ปรากฏแก่คฤหัสถ์มีอยู่ แม้พวกคฤหัสถ์ก็รู้ว่า สิ่งนี้ควรแก่พระสมณะ
เชื้อสายพระศากยบุตร สิ่งนี้ไม่ควร ถ้าพวกเราจักถอนสิกขาบทเล็กน้อย
เสีย จักมีผู้กล่าวว่า พระสมณโคดมบัญญัติสิกขาบทแก่สาวกทั้งหลาย
เป็นกาลชั่วคราว พระศาสดาของพระสมณะเหล่านี้ยังดำรงอยู่ตราบใด
สาวกเหล่านี้ยังศึกษาในสิกขาบททั้งหลายตราบนั้น เพราะเหตุที่พระ-
*ศาสดาของพระสมณะเหล่านี้ปรินิพพานแล้ว พระสมณะเหล่านี้จึงไม่
ศึกษาในสิกขาบททั้งหลายในบัดนี้ ถ้าความพร้อมพรั่งของสงฆ์ถึงที่แล้ว
สงฆ์ไม่พึงบัญญัติสิ่งที่ไม่ทรงบัญญัติไม่พึงถอนพระบัญญัติที่ทรงบัญญัติ
ไว้แล้ว พึงสมาทานประพฤติ ในสิกขาบททั้งหลายตามที่ทรงบัญญัติแล้ว
นี้เป็นญัตติ

ท่านทั้งหลาย ขอสงฆ์จงฟังข้าพเจ้า สิกขาบทของพวกเราที่
ปรากฏแก่คฤหัสถ์มีอยู่ แม้พวกคฤหัสถ์ก็รู้ว่า สิ่งนี้ควรแก่พระสมณะเชื้อ
สายพระศากยบุตร สิ่งนี้ไม่ควร ถ้าพวกเราจักถอนสิกขาบทเล็กน้อยเสีย
จักมีผู้กล่าวว่า พระสมณโคดมบัญญัติสิกขาบทแก่สาวกทั้งหลายเป็นกาล
ชั่วคราว พระศาสดาของพระสมณะเหล่านี้ยังดำรงอยู่ตราบใด สาวก
เหล่านี้ยังศึกษาในสิกขาบททั้งหลายตราบนั้น เพราะเหตุที่พระศาสดา
ของพระสมณะเหล่านี้ปรินิพพานแล้ว พระสมณะเหล่านี้จึงไม่ศึกษาใน
สิกขาบททั้งหลายในบัดนี้ สงฆ์ไม่บัญญัติสิ่งที่ไม่ทรงบัญญัติ ไม่ถอนพระ
บัญญัติที่ทรงบัญญัติแล้ว สมาทานประพฤติในสิกขาบททั้งหลายตามที่
ทรงบัญญัติไว้แล้ว การไม่บัญญัติสิ่งที่ไม่ทรงบัญญัติ ไม่ถอนพระบัญญัติ
ที่ทรงบัญญัติไว้แล้ว สมาทานประพฤติในสิกขาบททั้งหลายตามที่ทรง
บัญญัติแล้ว ชอบแก่ท่านผู้ใด ท่านผู้นั้นพึงเป็นผู้นิ่ง ไม่ชอบแก่ท่านผู้ใด
ท่านผู้นั้นพึงพูด

สงฆ์ไม่บัญญัติสิ่งที่ทรงบัญญัติ ไม่ถอนพระบัญญัติตามที่ทรง
บัญญัติแล้ว สมาทานประพฤติในสิกขาบททั้งหลายตามที่ทรงบัญญัติ
แล้ว ชอบแก่สงฆ์ เหตุนั้นจึงนิ่ง ข้าพเจ้าทรงความนี้ไว้ ด้วย
อย่างนี้ ฯ

ที่มา : http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_it ... agebreak=0


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 32 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร