วันเวลาปัจจุบัน 19 ก.ค. 2025, 03:54  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 63 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 มี.ค. 2010, 23:46 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


:b32: :b32: :b32: :b32:

เรื่องชัก..จะยาว

:b12: :b12: :b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 มี.ค. 2010, 23:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3832

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
:b32: :b32: :b32: :b32:

เรื่องชัก..จะยาว

:b12: :b12: :b12:


ยังไงอ่ะ คุณโอ๊บๆ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มี.ค. 2010, 00:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 มี.ค. 2010, 23:52
โพสต์: 4

แนวปฏิบัติ: ไม่มีค่ะ
งานอดิเรก: เล่นเกมค่ะ
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: สวัสดีค่ะ
ฝากถึงคุณ "คนเกือบหลงทาง"นะคะ
๑.กล่าวถึงวิถีอนุตรธรรมมองแง่ดีนิดนึงนะคะ(ตามหลักที่พระพุทธองค์สอนให้มองโลกในแง่ดีใจจะไม่ทุกข์) วิถีอนุตรธรรมได้เอาข้อดีของศาสนาต่างๆมาสอน มันเป็นเรื่องดีไม่ใช่เหรอคะ สอนให้คนเป็นคน
ดี สอนให้คนแปรเปลี่ยนนิสัยที่ไม่ดีของตนเองที่เคยทำมา สอนให้คนรู้จักให้ทาน(ต่อให้มันจะเป็นการให้ทานระดับไหนมันก็คือทาน)

๒.ดิชั้นก็ศึกษาในวิถีอนุตรธรรมมา ๑๑ ปีแล้วยังไม่เคยได้ยินเค้าว่าพระพุทธเจ้าต้องได้รับจุดอะไรนั่นก่อนจึงจะเข้านิพพานได้นี่คะ

๓.ตอบคุณ"คนเกือบหลงทางคะ"(จุดที่ ๓ ลัทธิอนุตรธรรมมีการกล่าวเชิงประจักษ์หลักฐานว่าอย่างงั้นอย่างนี้ในส่วนของการประจักษ์หลักฐาน คำว่า "ประจักษ์หลักฐาน" หมายถึงอะไร
ในทางเภสัชศาสตร์ก็ได้กล่าวถึง หลักฐานเชิงประจักษ์ แต่เป็น EBM Evidence Base Medicine เป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ทางการแพทย์)
----ที่แน่ๆนะคะวิทยาศาสตร์ไม่สามารถอธิบายหรือพิสูจน์ธรรมชาติได้แน่ค่ะ เพราะถ้าสามาทรทำได้อย่างนั้นแล้วป่านนี้เราคงมีเครื่อง ย้อนเวลาไปอดีตหรือเครื่องตั้งเวลาไปอนาตร(จากหนังสือถ้าจำไม่ผิดน่าจะชื่อว่าซีเคร็ทนะคะ)

๔.ตอบคุณ "คนเกือบหลงทาง"จุดที่ ๗ มีคำพูดกล่าวว่า หลังจากที่ได้รับวิถีอนุตรธรรมจะได้การปิดประตูนรกและขึ้นไปยังด่านพุทธาลัยโดยใช้รหัสคาถา ๕ คำ
ในความเป็นจริงแล้วนั้นการที่เราจะไปนรกหรือสวรรค์นั้น ขึ้นกับเหตุปัจจัยหลายๆอย่างครับ
----ว๊า...ผิดหวังกับคำพูดนี้จังไม่น่าจะเป็นคุณพูดนะคะเพราะว่าจากที่คุณโพสใช้ศัพท์ทางพระพุทธศาสนาได้ดีมาก น่าจะเป็นคนที่ศึกษาธรรมมาดีพอสมควรนะคะ เอาเป็นว่าพ่อของดิชั้นว่าคนที่รับธรรมหรือไม่รับธรรมนั้นหากตอนมีชีวิตอยู่ไม่ประพฤติในเบญจธรรมทั้ง ๕ ให้ครบสมบูรณ์ หรือศีล ๕ ขาดบกพร่องไป เป็นลูกไม่กตัญญู ไม่รักพี่รักน้อง ต่อชาติบ้านเมืองคดโกง อีกหลายอย่างที่ทำแล้วเป็นกรรมชั่วนั้น ชีวิตหลังความตายคงไปในทางที่เค้าได้ทำไว้
----หลังจากที่ดิชั้นรับธรรมแล้ว ก็พยายามปฏิบัติตนให้ดี ตามคำสอนที่ดีงามทั้งหลายที่ได้ฟังมา และอีกอย่างดิชั้นก็ไม่ได้เชื่อเสียซะทีเดียวนะคะที่ว่าได้รับ ๕ คำมานั้นจะทำให้ดิชั้นพ้นเกิดตายได้และเข้าสู่นิพพาน แต่ถ้าหากว่าวันนี้ดิชั้นยังกินเหล้าเมายา เที่ยวเตร่ไม่สนพ่อสนแม่ ไม่รักพี่รักน้อง แต่พอศึกษาให้ดีเกี่ยวกับ ๕ คำที่คุณอ้างถึงนั้นดิชั้นก็เลยคิดว่าเป็นไปได้ถ้าหากว่าเราปฏิบัติให้ได้ แปรเปลี่ยนตัวเอง ไม่ทำตัวเหมือนก่อนที่รับธรรม

๕.ถึงคุณ "walaiporn" คุณเป็นคนมองโลกในแง่ดีมากๆๆๆเลยค่ะนับถือ อะไรที่ดีเราก็ทำตามสิ่งใดไม่ดีเราก็ไม่ต้องสนใจ ดูเราเองดีกว่า อย่างที่คุณพูดถูกแล้วค่ะ

สุดท้ายนี้ฝากถึงทุกท่านลองอ่านและพิจารณานะคะ
๑.จะมานั่งว่าลัทธินั้นดีไม่ดี ศาสนาของเราอันดับหนึ่ง ไปทำไมคะในเมือ่คุณได้รับรู้สิ่งดีมาก็ช่วยกันเถอะค่ะ ดูสังคมเราตอนนี้ซิคะถ้าย้อนไปสมัยที่ดิชั้นเป็นเด็กคงไม่อยากมาใช้ชีวิตในโลกช่วงนี้แน่ ทุกวันมีข่าวฆ่ากัน ข่มขืน ลูกฆ่าพ่อฆ่าแม่ เพื่อนขายเพื่อน เด็กไม่เรียนหนังสือเอาแต่มั่วสุม โกงบ้านกินเมือง สาเหตุที่เป็นเช่นนี้ไม่ใช่เพราะคนเหล่านั้นขาดหลักคุณธรรมที่ดีงามในใจ ขาดหลักธรรมหรอกหรือคะ แทนที่เราจะมานั่งเถียงกันสาดโคลนใส่กันน่าจะมาช่วยกันเผยแพร่คำสอนที่ตนได้ศึกษามาไม่ดีกว่าหรือคะ
อีกอย่างพระพุทธเจ้าพระองค์ยังไม่เคยกล่าวเลยว่า "เราตถาคตยิ่งใหญ่สุด พวกเจ้าอย่าเชื่ออะไรนอกเหนือจากนี้"ใช่มั้ยคะ


เจริญสุขเจริญธรรม
:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มี.ค. 2010, 07:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 มี.ค. 2010, 06:38
โพสต์: 59

อายุ: 21

 ข้อมูลส่วนตัว


kirara เขียน:
:b8: สวัสดีค่ะ
๒.ดิชั้นก็ศึกษาในวิถีอนุตรธรรมมา ๑๑ ปีแล้วยังไม่เคยได้ยินเค้าว่าพระพุทธเจ้าต้องได้รับจุดอะไรนั่นก่อนจึงจะเข้านิพพานได้นี่คะ

๔.ตอบคุณ "คนเกือบหลงทาง"จุดที่ ๗ มีคำพูดกล่าวว่า หลังจากที่ได้รับวิถีอนุตรธรรมจะได้การปิดประตูนรกและขึ้นไปยังด่านพุทธาลัยโดยใช้รหัสคาถา ๕ คำ
ในความเป็นจริงแล้วนั้นการที่เราจะไปนรกหรือสวรรค์นั้น ขึ้นกับเหตุปัจจัยหลายๆอย่างครับ
----ว๊า...ผิดหวังกับคำพูดนี้จังไม่น่าจะเป็นคุณพูดนะคะเพราะว่าจากที่คุณโพสใช้ศัพท์ทางพระพุทธศาสนาได้ดีมาก น่าจะเป็นคนที่ศึกษาธรรมมาดีพอสมควรนะคะ เอาเป็นว่าพ่อของดิชั้นว่าคนที่รับธรรมหรือไม่รับธรรมนั้นหากตอนมีชีวิตอยู่ไม่ประพฤติในเบญจธรรมทั้ง ๕ ให้ครบสมบูรณ์ หรือศีล ๕ ขาดบกพร่องไป เป็นลูกไม่กตัญญู ไม่รักพี่รักน้อง ต่อชาติบ้านเมืองคดโกง อีกหลายอย่างที่ทำแล้วเป็นกรรมชั่วนั้น ชีวิตหลังความตายคงไปในทางที่เค้าได้ทำไว้
----หลังจากที่ดิชั้นรับธรรมแล้ว ก็พยายามปฏิบัติตนให้ดี ตามคำสอนที่ดีงามทั้งหลายที่ได้ฟังมา และอีกอย่างดิชั้นก็ไม่ได้เชื่อเสียซะทีเดียวนะคะที่ว่าได้รับ ๕ คำมานั้นจะทำให้ดิชั้นพ้นเกิดตายได้และเข้าสู่นิพพาน แต่ถ้าหากว่าวันนี้ดิชั้นยังกินเหล้าเมายา เที่ยวเตร่ไม่สนพ่อสนแม่ ไม่รักพี่รักน้อง แต่พอศึกษาให้ดีเกี่ยวกับ ๕ คำที่คุณอ้างถึงนั้นดิชั้นก็เลยคิดว่าเป็นไปได้ถ้าหากว่าเราปฏิบัติให้ได้ แปรเปลี่ยนตัวเอง ไม่ทำตัวเหมือนก่อนที่รับธรรม

เจริญสุขเจริญธรรม
:b8: :b8: :b8:


ข้อมูล

http://nuson.blogspot.com/2009/05/blog-post.html

หนังสือเกี่ยวกับวิถีอนุตรธรรม
http://www.mediafire.com/?wf5nym5z1mt
หรือ
http://www.uploadfile.biz/file/?i=EHEXMEIEENEMMZ
ขนาด 10.3 mb

ขออโหสิกรรมกับทุกท่าน ณ ที่นี้ด้วยครับขอบคุณครับ


แก้ไขล่าสุดโดย คนเกือบหลงทาง เมื่อ 06 มี.ค. 2010, 07:22, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มี.ค. 2010, 08:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ม.ค. 2007, 11:39
โพสต์: 85

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:
นิทานเรื่องหนึ่ง

ถ้าผ่านคนเล่าหลาย ๆ คน นานเข้า ๆ จะไม่ค่อยเหมือนต้นฉบับ

ยิ่งถ้าถูกแปลไปต่อเรื่อย ๆ หลายภาษา ยิ่งห่างไกลจากต้นฉบับ



พระพุทธศาสนา เมื่อผ่านการเดินทางที่ยาวไกล

ภาษาที่แตกต่าง

วัฒนธรรมดั้งเดิมที่มีอยู่

ความเชื่อ ศาสนาเดิมที่มีอยู่

ระยะเวลาที่ผ่านมาเนิ่นนาน

เพื่อความอยู่รอด จึงต้องมีการปรับตัว

พระสงฆ์จีน ก็ ยังนุ่งแบบจีน เกาหลี ญี่ปุ่น ธิเบต ก็แตกต่างกันไป


พระพุทธรูปจีน ก็เหมือนรูปปั้นจีน หน้าตาคล้ายคนจีน ตาก็มีชั้นเดียว

พระพุทธรูปเขมร ก็ หน้าตาเหมือนขอม ริมโอษฐ์หนา

พระพุทธรูปไทย ตา ก็สองชั้น อ่อนช้อย


ขนมอร่อย ก็ไม่แน่ว่าจะขายได้ดี ยังต้องทำสีสรร หน้าตา ใส่ซองสวย ๆ ให้น่ากิน ทั้งที่ต้องเอาเข้าปาก
เคี้ยวปนน้ำลายกลืนเข้าไป


แม้ต้นไม้ สัตว์ทั้งปวง เพื่อความอยู่รอด จะพัฒนาอวัยวะที่จำเป็น เพื่อความอยู่รอด

มีเปลือก มีแก่น กระพี้


การเผยแพร่ศาสนาก็ต้องต่อสู้กับอุปสรรคมากมาย จึงจะอยู่รอดมาได้
คนเรา เดินตากแดด ตาก ลม ตากฝนหลายวัน หน้าตาก็มอมแมม แทบจำไม่ได้


มันเป็นกฎของความอยู่รอด

มันมีมีเปลือก มีแก่น กระพี้

ทั้งเถรวาท ทั้งมหายาน มีผิด มีถูกปนกัน ต้องแยกแยะ

ตรงไหนแก่น ตรงไหนเปลือก ตรงไหนกระพี้ ตรงไหนขุย ตรงไหนเนื้องอกส่วนเกิน


มีหลักที่จะวิเคราะห์ แยกแยะ ที่พระพุทธองค์ทรงประทานไว้ให้เราแล้ว
คือ หลักตัดสินธรรมวินัย ๘ อย่าง ดูกระทู้
viewtopic.php?f=1&t=28268


เป็นตาชั่ง เป็นตัววัด ตัวตัดสิน

ในจริงมีเท็จ ในเท็จมีจริง อยู่ที่ตรงไหน จะจริงมากกว่าเท็จ

ในความเห็นส่วนตัวแล้ว

เถรวาทเรา ศึกษาให้ดี เหมือนพาหนะดี เดินสายตรง ตั้งใจเดิน ถึงที่หมายไวกว่า

การเดินทาง นั่งเบ็นซ์ นั่งเกวียน ขี่จักรยาน เดินเอา เดินตรง เดินอ้อม ถึงเหมือนกัน

แต่ถ้าอยากถึงไว นั่งอะไร คงไม่ต้องตอบนะครับ

ก่อนจากฝากไว้นิดนึง

"รักกันเถิดหนา เกิดมาพ่อเดียวกัน
นิ้วทั้งห้า ยังยาวสั้น ไม่เท่ากัน
นิ้วไหนสำคัญมาก สำคัญน้อย
ก็ไม่อยากให้หลุดหายไปแม้นิ้วเดียว"


อัศวโฆษ

:b41:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มี.ค. 2010, 08:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 มี.ค. 2010, 06:38
โพสต์: 59

อายุ: 21

 ข้อมูลส่วนตัว


หนังสือที่ลงลิงค์ไป้ถ้าเป็นไปได้อยากให้ผู้บำเพ็ญแนวทางวิถีอนุตรธรรมช่วยแก้ให้ด้วยนะครับ

จะเป็นพระคุณอย่างสูง ขอบคุณครับ

ผิดพลาดประการใด ขออโหสิกรรมด้วยครับ ขอบคุณครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มี.ค. 2010, 10:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 พ.ค. 2007, 08:24
โพสต์: 56


 ข้อมูลส่วนตัว




fo-04.jpg
fo-04.jpg [ 48.56 KiB | เปิดดู 8952 ครั้ง ]
ท่านมหาตมะคานธี พูดไว้ว่า โลกทั้งผองพี่น้องกัน

พระพุทธองค์กล่าวว่า ในวัฏฏะสงสารอันยาวไกล หาจุดเริ่มและจุดสิ้นสุดไม่ได้นี้

บุคคลจะไม่เคยเกิดมาเป็น พ่อ แม่ พี่ น้อง กันมาก่อน หาได้ยากในโลก
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มี.ค. 2010, 12:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3832

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


ลัทธิศาสนาไหนๆก้สอนให้คนเป็นคนดีทั้งนั้นแหละ
เพราะลองบอกว่า "จะสอนให้ชั่ว" ดูสิ
ใครเขาจะยอมรับ ใครเขาจะนับถือ

แต่คำว่า "ลัทธิศาสนาไหนๆก้สอนให้คนเป็นคนดีทั้งนั้นแหละ"
ต้องมาดูดีๆ ว่าดีแบบไหน

บางลัทธิ สอนความรู้แค่ ป.1
แล้วเขาก็พยามกดหัวเราเอาไว้ ไม่ให้ขึ้น ป.2
เพราะว่าถ้าอยู่กับ ป.1 ให้เขาสอนแล้ว เขาได้รับประโยชน์


คำว่าประโยชน์ ไม่ใช่แค่เงิน
คนเลวๆมากๆ มันไม่หิวหยาบๆหรอก เงินทองนี่มันหยาบ
คนยิ่งฉลาดมาก ความเลวของคนฉลาดมันยิ่งซับซ้อน
ฉลาดเท่าไหน ก็เลวได้เท่านั้น
คนฉลาดแต่ความคิด แต่ไม่ฉลาดในจิต เวลาเงินทองมันอิ่มแล้ว มันก็หิวชื่อเสียงเกีรติยศ
หิวการยอมัรบ อยากเป็นคนที่เขากราบไว้
กดหัวเราเอาไว้ ไม่ให้เจริญพัฒนาไปไหน



ถามว่าเขาสอนให้ทำชั่วไหม ก็ไม่ได้สอนทให้ทำชั่ว
ถามว่าเขาสอนให้ทำดีใช่ไหม ก็ใช่ ใครๆก็สอนให้ทำดี
จะมาบอกว่าทุกศาสนาสอนให้คนเป้นคนดีนั้น พูดน่ะ ไม่ผิดหรอก
แล้วดีแบบไหน ชั่วแบบไหน ที่เขาสอนๆ

พูดบัญญัติ ก็ไปเอาปรมัตถ์มาแก้
พูดปรมัตถ์ ก็ไปเอาบัญญัติมาแก้
ก็พูดอยู่เด๊่ยวนี้ว่า เถรวาทสอนแบบนี้ อนุตรธรรมสอนแบบโน้น
เข้านิพพานก็คนละแบบ อันโน้นจ่ายเงิน โขกหัวเยอะ แล้วให้เขาเอามือมาจิ้มหน้าผาก ก็เข้านิพพานแล้ว
แต่เถรวาท เข้านิพพานทำอีกแบบ
ยังจะมีหน้ามาบอกว่า เอาเถอะๆ ศาสนาไหนก็สอนให้คนเป้นคนดี

ถ้าศาสนาไหนๆก็สอนให้คนเป็นคนดี แล้วมีอนุตรธรรมไปทำไม มาทีหลังไม่ใช่เหรอ
ถ้าตัวเองไม่เหยียดศาสนาอื่นๆ แล้วยอมรับศาสนาอื่นอยู่แล้ว
แล้วจะมีอนุตรธรรมเกิดขึ้นมาทำไม

ถ้าไม่มีอะไรต่าง แล้วจะเกิดอนุตรธรรมขึ้นมาทำไม


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มี.ค. 2010, 13:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8: เราเข้าอ่านกระทู้นี้หลายรอบแล้วค่ะ
แล้วก็อ่านที่ คุณคนเกือบหลงทางpost
ยิ่งอ่านก็ยิ่งงง :b6:

เพราะไม่เหมือน กับที่เราไปคุยกับเพื่อนของเราที่นี่(มาเลย์เซีย)
ที่เค้าไปรับอนุตรธรรม(อี๋ก่วนเต้า)เลย หลายคนค่ะ
แต่ที่ทุกคนพูดให้เราฟัง ก็จะออกมาแนวเดียวกับคุณน้ำ
กับคุณkiraraค่ะ ที่เราฟังแล้วเราถามเค้าว่า

สรุปแล้วการที่ไปรับอนุตรธรรมนี่ แตกต่างจากที่เรา
ที่ไม่ได้ไปรับอนุตรธรรมนี่ 2ข้อเท่านั้นเองค่ะ

คือห้ามทานเนื้อสัตว์ทุกชนิด
และห้ามนินทาว่าร้ายผู้อื่นเท่านั้นเองค่ะ
แต่ทุกสิ่งทุกอย่างก็เหมือนกับเราทุกอย่าง
ไม่ใช่ถ้าใครไปรับอนุตรธรรมแล้วจะดีกว่า

เพราะตอนที่พระไทยมาที่ฝอถัง แล้วเค้าให้เราไปช่วยแปล
เพื่อนของเราก็ไปด้วยค่ะ ก็ไปนั่งฟังพระสวดมนต์ทำสังฆ์ทาน
ไม่เห็นมีอะไรเลยนี่ค่ะ :b1:

ก็คงจะคล้ายๆ กับเราไปสาบานว่า เราจะไม่ทำอย่างโน้นอย่างนี้
ถ้าทำแล้วให้มีอันเป็นไป แล้วตัวของผู้ที่สาบานก็ต้องระวังน่ะค่ะ
ไม่แตกต่างกันหรอกค่ะ :b1: การที่คนเราคิดดีทำดีเป็นสิ่งที่ดีไม่ใช่เหรอค่ะ :b1:

ถ้าเราพูดผิดขอโทษด้วยน่ะค่ะ
เพราะเราเพิ่งจะศึกษาธรรมมะน่ะค่ะ :b41: :b38: :b51:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มี.ค. 2010, 14:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว




คำอธิบาย: หลวงปู่คำน้อย และ อาจารย์ถ่ายทอดเบิกธรรม (เตี่ยนฉวนซือ) เดินทางมาจากไต้หวัน เพื่อทำพิธีถ่ายทอดเบิกธรรมให้กับหลวงปู่
A0001.jpg
A0001.jpg [ 59.88 KiB | เปิดดู 8795 ครั้ง ]
คำอธิบาย: หลวงปู่คำน้อย
A0003.jpg
A0003.jpg [ 86.68 KiB | เปิดดู 8794 ครั้ง ]
เราขออนุญาติ นำข้อความนี้
มาให้กับหลายๆท่านที่ยังไม่ได้อ่าน ได้อ่านกันน่ะค่ะ :b8: :b8: :b8:

เรื่องหลวงปู่คำน้อย ท่านอายุ 238 ปี ท่านอยู่ที่วัดถ้ำภูกำพร้า
อำเภอดงหลวง จังหวัดมุกดาหาร



คนในวงการอนุตตรธรรมในประเทศไทยรู้จักท่านดี ตอนท่านอายุ ได้ 100 กว่าปี ท่านสามารถถอดจิตขึ้นไปเที่ยว นรก สวรรค์ได้ ท่านเล่าว่าไปมาเกือบทุกที่
แต่มีที่เดียวที่ท่านเข้าไปไม่ได้ เพราะมีผู้คุมประตูอยู่ ที่นั่นก็คือ ด่านตรีเทพพิทักษ์มหาราช จะมีเทพเจ้า 3 องค์คุมด่านอยู่ หลวงปู่ ท่านจะเข้าไป
ตรีเทพพิทักษ์ทั้ง3องค์ ก็บอกท่านว่า เบื้องหลังประตูนี้ คือ แดนนิพพาน ท่านต้องบอกรหัสผ่านทางมาก่อน (ซึ่งก็คือ ไตรรัตน์ 3 ข้อ )
หลวงปู่ท่านไม่รู้ ก็เลยเข้าไปไม่ได้ ขณะที่หลวงปู่พูดคุยกับตรีเทพพิทักษ์ทั้ง 3 อยู่นั้น
ท่านก็เห็น พระถือพัดใส่จีวรปะๆ(คงเป็นจีวรขาดมีรอยปะ) เดินผ่านมา (ซึ่งก็คือพระอรหันต์จี้กง) ท่านจึงเข้าไปคุยกับหลวงปู่
พระถือพัดใส่จีวรปะๆ บอกหลวงปู่ว่า ท่านจะเข้าไปในนี้ได้ ต้องไปเปิดประตูสวรรค์เสียก่อน
หลวงปู่คำน้อยถามว่า แล้วจะไปเปิดประตูสวรรค์ได้ที่ไหน
พระถือพัดใส่จีวรปะๆ รูปนั้นก็บอกว่า ให้ไปรอที่โลกมนุษย์ แล้วจะจัดการให้เอง
จากนั้นหลวงปู่คำน้อย ก็รอมาจนอายุ 200 ปีเศษ (รอมาร้อยปีกว่าๆ) ก็มีอาจารย์ถ่ายทอดถอดเบิกธรรม
เดินทางไปทำพิธีถ่ายทอดวิถีอนุตตรธรรมให้ ที่วัดถ้ำภูกำพร้า ท่านก็ได้เข้าไปขอเปิดประตูสวรรค์
ขณะที่กำลังทำพิธีอยู่ เนื่องหลวงปู่ท่านมีญาณ มีตาทิพย์ ในระหว่างทำพิธีอยู่นั้น
ขณะที่อาจารย์ถ่ายทอดเบิกธรรมอาราธนาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หลวงปู่คำน้อยท่านก็ได้เห็น ห้องพระห้องเล็กๆ
เมื่อเข้าสู่อีกมิติหนึ่งก็เป็นห้องใหญ่ มีเทพเจ้า และเทพเทวา เสด็จลงมาร่วมในพิธีมากมาย
และท่านเห็นอาจารย์ถ่ายทอดเบิกธรรม กลายเป็นพระถือพัดใส่จีวรปะ ๆที่ท่านเคยเจอบนสวรรค์เมื่อร้อยกว่าปีก่อน
พระถือพัดใส่จีวรปะ ๆ นำกุญแจทองมาเปิดประตูสวรรค์ให้กับผู้ที่รับขอรับธรรมทีละคน (พระถือพัดที่ใส่จีวรปะ ๆ ก็คือ พระพุทธอรหันต์จี้กง)
หลังจากได้รับการถ่ายทอดอนุตตรธรรมแล้ว หลวงปู่คำน้อย ก็กลับเข้าห้อง นั่งสมาธิถอดจิตขึ้นเบื้องบน
เพื่อพิสูจน์ว่า ไตรรัตน์ที่ได้รับ สามารถผ่านด่านตรีเทพพิทักษ์มหาราช ได้จริงหรือไม่
ปรากฏว่า ผ่านเข้าไปได้จริง ๆ เมื่อท่านกลับลงมา จึงเรียกให้ลูกศิษย์ และญาติโยมทั้งหลาย
รีบมารับธรรมกันให้หมด

หลวงปู่คำน้อย มรณะภาพ เมื่อปี พศ.2548 สิริรวมอายุได้ 238 ปี :b8: :b8: :b8:


แก้ไขล่าสุดโดย อมิตาพุทธ เมื่อ 07 มี.ค. 2010, 01:09, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 มี.ค. 2010, 00:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 มี.ค. 2010, 23:52
โพสต์: 4

แนวปฏิบัติ: ไม่มีค่ะ
งานอดิเรก: เล่นเกมค่ะ
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8: สวัสดีค่ะทุกท่านวันนี้มาด้วยใจที่อยากรู้ว่ามีไรต่อ แต่พออ่านแล้ว
อยากฝากความถึงคุณชาติสยามค่ะ(เพราะดูว่าความคิดคุณรุนแรงมากค่ะ พอดีเพื่อนดิฉันที่นับถือศาสนาคริสต์เค้ามาอ่านเค้าไปเล่าให้ฟังน่ะค่ะว่า คนที่บอกปาวๆๆว่าตัวเองเป็นพุทธอย่างนั้นอย่างนี้ มาโพสข้อความด้วยใจที่รุนแรง เต็มไปด้วยอารมณ์อยากเอาชนะ เพื่อนดิฉันบอกไม่ให้ดิชั้นมาโพสตอบ เพราะว่าอย่างไรเสียคนเขาก็นังไม่เลิกว่าร้ายคนอื่นอยู่ดี ดิฉันก็เลยเข้ามาดู พออ่านแล้วรู้สึกจิตใจห่อเหี่ยวมาก เพราะไม่คิดว่าคนที่ดูมีความรู้ทางพระพุทธศาสนาดีมากคนนึงอย่างคุณชาติสยามจะพูดจาอย่างนี้ได้ มองโลกแบบใจแคบไปนิดนึง อันนี้เพื่อนดิฉันเค้าติงมานะคะ)
นะส่วนตัวดิฉันเองก็เลยขอยืมคำพูดของคุณ"walaiporn"บอกกับเพื่อนดิฉันว่า "นักเรียนไม่ดีอย่าโทษโรงเรียนเลยนะ เราทั้งสอง(หมายถึงดิฉันกับเพื่อนที่เป็นคริสนะคะ)ย้อนกลับมามองตัวเราดีกว่าว่าวันนี้เราทำอะไรที่มันไม่สอดคล้องกับคุณธรรมสามัญ ๕ บ้าง
-----

คำว่าประโยชน์ ไม่ใช่แค่เงิน
คนเลวๆมากๆ มันไม่หิวหยาบๆหรอก เงินทองนี่มันหยาบ
คนยิ่งฉลาดมาก ความเลวของคนฉลาดมันยิ่งซับซ้อน
ฉลาดเท่าไหน ก็เลวได้เท่านั้น
คนฉลาดแต่ความคิด แต่ไม่ฉลาดในจิต เวลาเงินทองมันอิ่มแล้ว มันก็หิวชื่อเสียงเกีรติยศ
หิวการยอมัรบ อยากเป็นคนที่เขากราบไว้
กดหัวเราเอาไว้ ไม่ให้เจริญพัฒนาไปไหน

เป็นคำพูดที่แรงมากๆเลยค่ะ แค่อ่านยังขนลุกเลย น่ากลัวจังเยย(แต่อ่านๆแล้วมันเหมือนคำพูดที่เสียดทิ่มแทงใครเค้าเนอะ ศิลข้อ ๒ พลาดซะละเรา...อิอิ)


ถ้าศาสนาไหนๆก็สอนให้คนเป็นคนดี แล้วมีอนุตรธรรมไปทำไม มาทีหลังไม่ใช่เหรอ ถ้าตัวเองไม่เหยียดศาสนาอื่นๆ แล้วยอมรับศาสนาอื่นอยู่แล้ว
แล้วจะมีอนุตรธรรมเกิดขึ้นมาทำไม ถ้าไม่มีอะไรต่าง แล้วจะเกิดอนุตรธรรมขึ้นมาทำไม


ขอแรงกลับบ้างนะคะขออนุญาตล่ะค่ะ พระพุทธเจ้ายังไม่เคยประกาศว่าพระองค์มาก่อนใคร ไม่เคยประกาศว่าพระองค์เลิศกว่าใคร ห้ามใครเผยแพร่คำสอนของพระศาสดาองค์นั้น องค์นี้ แต่มาวันนี้คนที่อ้างว่าตนเป็นคนพุทธที่ศึกษาดี อ้าวว่าตนเองคือผู้ที่เดินตามรอยพระบาทของพระศากยมุนีพุทธเจ้า แต่กลับมาด่าว่าคนนั้นอย่างนั้น อย่างนี...เฮ้อมันน่าคิดนะคะเนี่ย(อันนี้คือคิดไว้เขียนใส่กระดาษอยากเอามาโพสแต่บังเอิญแม่ของข้าพเจ้าบอกว่าถ้าเราไปโพสว่าเค้าเราก็แย่เหมือนเค้าสิลูก พอได้ฟังที่แม่สอนมันเลยคิดได้......แต่สายเสียละเพื่อนดิชั้นจัดการแทนละ...อิอิ)


เฮ้อเสียเวลาแท้มานั่งพิมพ์ไรเนี่ย
เราสองคน(ดิชั้นและเพื่อนที่เป็นคริส)ไป อ่านไบเบิ้ลเธอเลย ส่วนชั้นจะไปอ่าน คัมภีร์วัชรปรัชญาปารมิตาสูตรต่อ

ว่าแล้วราตรีสวัสค่ะท่านผู้มีความรู้สูงส่งทั้งหลาย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 มี.ค. 2010, 00:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ม.ค. 2010, 16:32
โพสต์: 323

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b12: :b16: :b1:

ร่วมสนุกด้วยคน พอดีไปเจอมา
สงสัย ไอน์สไตน์ จะกล่าวไว้ผิด หรือ ถูก ก็ไม่ทราบได้ เพราะว่าเป็นผู้ “งมงาย”
เอามาให้ดูกัน ช่วยกันพิจารณา

............

ถึงแม้อัลเบิร์ต ไอน์สไตล์ ได้จากโลกนี้ไปโดยที่เขายังไม่สามารถค้นพบคำตอบตามที่เขา
กำลังต้องการก็ตาม แต่ไอน์สไตล์ได้ทิ้งคำพูดที่เป็นปริศนาที่สำคัญมากให้กับมนุษย์ชาติ
ในช่วงวาระสุดท้ายแห่งชีวิตของเขา อัลเบิร์ตได้เริ่มสงสัยแล้วว่า พระพุทธศาสนาอาจจะ
เป็นศาสนาที่ให้คำตอบต่อคำถามที่เขากำลังพยายามค้นหาในช่วง 1 ปีก่อนที่เขาจะเสียชีวิตนั้น
มหาวิทยาลัยปรินซ์ตันได้ตีพิมพ์งานเขียนชิ้นหนึ่งของเขาชื่อเรื่อง

"The Human Side" ซึ่งนักฟิสิกส์ผู้ที่ได้รับรางวัลโนเบลผู้นี้
ได้กล่าวทิ้งท้ายให้เป็นปริศนาแห่งโลกอนาคตว่า


The religion of the future will be a cosmic religion.
It should transcend personal God and avoid dogma and theology.
Covering both the natural and the spiritual, it should be based on
a religious sense arising from the experience of all things
natural and spiritual as a meaningful unity. Buddhism answers this description. If there is any religion that cound cope with
modern scientific needs it would be Buddhism. (Albert Einstein)

"ศาสนาในอนาคตจะต้องเป็นศาสนาสากล ศาสนานั้นควรอยู่เหนือพระเจ้าที่มีตัวตน
และควรจะเว้นคำสอนแบบสิทธันต์ (คือเป็นแบบสำเร็จรูปที่
ให้เชื่อตามเพียงอย่างเดียว) และแบบเทววิทยา (คือพึ่งเทวดาเป็นหลักใหญ่)
ศาสนานั้นเมื่อครอบคลุมทั้งธรรมชาติและจิตใจ จึงควรมีรากฐานอยู่บน
สามัญสำนึกทางศาสนาที่เกิดขึ้นจากประสบการณ์ต่อสิ่งทั้งปวงคือ
ทั้งธรรมชาติและจิตใจอย่างเป็นหน่วยรวมที่มีความหมาย พระพุทธศาสนาตอบข้อ
กำหนดนี้ได้... ถ้ามีศาสนาใดที่รับมือได้กับความต้องการทางวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ปัจจุบัน
ศาสนานั้นก็ควรเป็นพระพุทธศาสนา"


:b53:

ขอปัญญาจงบังเกิดมี

งมงาย


:b42: :b42: :b42:


แก้ไขล่าสุดโดย อมิตาพุทธ เมื่อ 07 มี.ค. 2010, 02:13, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 มี.ค. 2010, 01:09 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ชาติสยาม เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
:b32: :b32: :b32: :b32:

เรื่องชัก..จะยาว

:b12: :b12: :b12:


ยังไงอ่ะ คุณโอ๊บๆ


ตอนนี้..เห็นหรือยัง..อาหยาม

ว่า..มันยาว..ยังงัย? :b32: :b32:

แต่..มีบางอย่าง..ผิดปกติ..สำหรับ..กบฯ

ขณะ..กำลังตอบ..อาหยาม..

กบฯรู้สึกว่า..เหตุการณ์นี้..เรื่องนี้..คำพูดนี้..มันเกิดขึ้น..มาแล้ว..ก่อนจะมาท่องเที่ยว..ใน.Net..ซะอีก

ออกนอกเรื่อง..ข้ามไปอีกกระทู้หนึ่ง..คงไม่ว่าอะไรเน๊าะ :b32: :b32:

อ้าวว..ว่ากันต่อไป..กบฯ..ขอชม :b12: :b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 มี.ค. 2010, 02:37 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


kirara เขียน:
:b8: :b8: :b8:

เป็นคำพูดที่แรงมากๆเลยค่ะ แค่อ่านยังขนลุกเลย น่ากลัวจังเยย(แต่อ่านๆแล้วมันเหมือนคำพูดที่เสียดทิ่มแทงใครเค้าเนอะ ศิลข้อ ๒ พลาดซะละเรา...อิอิ)

นับถือ..นะครับ
และ..จะกล่าวด้วยความนับถือ

คำพูด..หากไม่มี..เรา..ซะ..คำพูดแรงจะไม่มี..คำพูดไม่แรงก็ไม่มี

เสียดแทง..หากไม่..เรา..เสียดก็ไม่มี..แทงก็แทงไม่ถูก

เรา..นี้..เป็นได้ตั้งแต่..ของที่เป็นสสาร..คือ..ตัวเรา..ของเรารัก..ของเรา..จนถึงของที่ไม่ใช่สสาร..คือ..เกียรติ์เรา..ยศเรา..เป็นต้น

คำพูดนี้แรง..คำพูดนี้เสียดแทง..นี้เป็นตัวอย่างเล็ก ๆ น้อย ๆ ของความทุกข์..ที่ทุกคนเจออยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน

พระพุทธ..บอกให้..สังเกตุ..ว่า..ความทุกข์ยากลำบากใจทั้งหมด..ทั้งสิ้น..เพราะ..หลงใน..เรา
พระพุทธ..บอกให้รู้..เรา..ตามความเป็นจริง..ไม่หลงเข้าใจว่าสิ่งเหล่านี้..เป็นเรา..เป็นของเรา..จริง ๆ
พระพุทธ..บอกให้..ว่า..จะรู้..เรา..ตามความเป็นจริง..ได้ด้วย..สติปัฏฐาน 4
พระพุทธ..บอกให้..รู้ว่า..สติปัฏฐาน 4..มีเส้นทางเดินมา..คือ มรรค 8
พระพุทธ..บอกให้..รู้ว่า..จะเดินตามทางมรรค 8 ให้ถูกทางได้..ต้องเดินทางมาพร้อมด้วย..สัมมาทิฏฐิ
พระพุทธ..บอกให้..รู้ว่า..สัมมาทิฏฐิ..จะมีได้ก็เพราะ..เห็นความทุกข์..
พระพุทธ..บอกให้..รู้ว่า..จะเห็นความทุกข์จริง..ก็ด้วยการมี..สัมมาทิฏฐิ
พระพุทธ..บอกให้..รู้ว่า..จะก้าวพ้นความทุกข์ทั้งหลายนี้ได้..เพราะสัมมาทิฏฐิ..เห็นอริยสัจจ4..เดินตามทาง มรรค 8

พระพุทธ..บอกให้รู้ว่า..ศาสนาไหน..สอนอริยะสัจจ 4 ..มรรคมีองค์ 8..ศาสนานั้นสอนให้ก้าวพ้นความทุกข์ได้..นอกจากนี้..ไม่มี

กบฯคิดว่า..พระพุทธศาสนาแท้แล้ว..ไม่ได้มีเป้าหมาย..ทำคนให้เป็นคนดี..เพราะศีลธรรมอันดี..ก็มีมาก่อนพระพุทธเจ้าแล้ว

พระพุทธศาสนา..มีเป้าหมายอย่างเดียว..คือ..กระทำให้ทุกข์หมดไป..สิ้นไป..ส่วน..ความเป็นคนดี..เป็นแค่ผลพลอยได้..ทิ้งใว้ให้กับสังคม :b17:

และหากแม้..สังคม..ไม่ได้ยกให้เป็นคนดี..ก็ไม่เดือดร้อน :b16:

ที่พูดมา..ก็ยาว ๆ ยืด ๆ..นี้..คุณ Kirara..เข้าใจไหม???

ส่วนผู้พูด...ไม่เข้าใจ :b12: :b12:

กำลัง..งง..งง??? :b32: :b32:

งง..เต๊ก.. s006 s006


แก้ไขล่าสุดโดย กบนอกกะลา เมื่อ 07 มี.ค. 2010, 02:39, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 มี.ค. 2010, 04:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3832

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


kirara เขียน:
......



มันก็พูดยากนะ
นานาจิตตัง

ความเข้าใจของคนมันมีหลายระดับ

ว่าแต่ ชาวคริสต์มาเกี่ยวอะไรด้วย ไม่เข้าใจ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 63 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร