วันเวลาปัจจุบัน 31 ก.ค. 2025, 02:18  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 22 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ม.ค. 2012, 11:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


ฝึกจิต เขียน:
หลับอยุ่ เขียน:
พวกปัญญาอ่อนเท่านั้นครับไม่ใช่ปัญญาอะไรหรอก ไม่เอาสมาธิ คิดเล่นๆก็ไม่ได้แล้วครับ พระไตรปิฏกบอกไว้แล้ว


คงไม่ใช่ครับท่าน คำสอนทางสายปราชน์ มีสมาธิ เป็นคำสอนหลักอยู่ในนั้นด้วยครับ ตามที่ผมฟังเทศ ของท่านพุทธทาสมานะครับ

งั้นผมขอถามด้วยปัญญาอันโง่เขลา (หรืออ่อนด้วยกระมัง) ด้วยว่า ดินแดนนิพพานมีจริง 1.จะเห็นก่อนบรรลุอรหันต์ หรือ บรรลุอรหันต์แล้ว
ถ้าตอบว่า ต้องได้ฌาน และบรรลุอรหันต์ งั้นแสดงว่า ฌานเป็นส่วนหลักในการ เข้าสู่แดนนิพพาน ใช่มั้ย
2.ในสมัยพุทธการบุคคลที่แค่ฟังธรรม ก้บรรลุ อรหันต์ นั้นมีอยู่มากโข ทุกท่านนั้น เห็นดินแดนนิพพาน กันแล้ว ทั้งนั้นหรือ แสดงว่าทุกท่านได้ปฎิบัติจนได้ฌาน4 แล้วหรือ
3.แล้วบทที่ว่าด้วย อย่าเชื่อ 10 ประการ (กาลามสูตร) นั้นใช้ไม่ได้กับ พระไตรปิฎก ใช้มั้ย
4.แสดงว่า กฎไตรลักษณ์ จะใช้ไม่ได้กับ ทุกสรรพสิ่งแล้วซิ /จะใช้ไม่ได้ใน ดินแดนนิพพาน ใช่มั้ย
เอาแค่นี้ก่อน แล้วค่อยถาม ท่านผู้มีปัญญา ท่างหลาย อีกครั้่งครับ ขอบคุณครับ

ตอบ1อริยะมรรคมีองค์8 และปฐมฌานต้องมีจะขาดไม่ได้ เป็นโคตรภุบุคคลอย่างน้อยเห็นได้ต่ำกว่านี้หมดสิทธิ
ตอบ2เห้นทุกท่านและต้องมีธรรมกายทุกท่าน.....หลายๆท่านไม่ใช่แค่ฌาน4แต่เป้นฌาน5,6,7,8
และต้องเข้าสติปัฏฐานสี่อันเป้นโลกุตตระฌาน
ตอบ3เอาไว้ใช้กับพวกนอกศาสนา
ตอบ4กฏไตรลักษณ์ใช้ไม่ได้กับนิพพาน เพราะนิพพานเที่ยงยั่งยืนเป็นสุข และซึ่งได้บัญญัติว่าอัตตาของพระอริยะเจ้ารวมทั้งมรรคญานผลญานด้วย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ม.ค. 2012, 11:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


ถ้าหลงสายปาดกันมาก ต้องตอบมาว่าทำไมสายปาดนักปาด ถึงไม่ให้คนศึกษาสุริยะสูตรอันพระพุทธองค์สั่งสอนไว้ดีแล้ว

ตอบเพราะไม่มีญานทัศนะไปรู้ไปเห้นแค่ในเรื่องอวกาศจักรวาลต่างๆ ไงล่ะ แล้วจะเอาอะไรไปรู้นิพพานแถมบิดเบือนเรื่องนรกสวรรค์อีกต่างหาก


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ม.ค. 2012, 21:13 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ธ.ค. 2011, 21:40
โพสต์: 952


 ข้อมูลส่วนตัว


หลับอยุ่ เขียน:
ฝึกจิต เขียน:
หลับอยุ่ เขียน:
พวกปัญญาอ่อนเท่านั้นครับไม่ใช่ปัญญาอะไรหรอก ไม่เอาสมาธิ คิดเล่นๆก็ไม่ได้แล้วครับ พระไตรปิฏกบอกไว้แล้ว


คงไม่ใช่ครับท่าน คำสอนทางสายปราชน์ มีสมาธิ เป็นคำสอนหลักอยู่ในนั้นด้วยครับ ตามที่ผมฟังเทศ ของท่านพุทธทาสมานะครับ

งั้นผมขอถามด้วยปัญญาอันโง่เขลา (หรืออ่อนด้วยกระมัง) ด้วยว่า ดินแดนนิพพานมีจริง 1.จะเห็นก่อนบรรลุอรหันต์ หรือ บรรลุอรหันต์แล้ว
ถ้าตอบว่า ต้องได้ฌาน และบรรลุอรหันต์ งั้นแสดงว่า ฌานเป็นส่วนหลักในการ เข้าสู่แดนนิพพาน ใช่มั้ย
2.ในสมัยพุทธการบุคคลที่แค่ฟังธรรม ก้บรรลุ อรหันต์ นั้นมีอยู่มากโข ทุกท่านนั้น เห็นดินแดนนิพพาน กันแล้ว ทั้งนั้นหรือ แสดงว่าทุกท่านได้ปฎิบัติจนได้ฌาน4 แล้วหรือ
3.แล้วบทที่ว่าด้วย อย่าเชื่อ 10 ประการ (กาลามสูตร) นั้นใช้ไม่ได้กับ พระไตรปิฎก ใช้มั้ย
4.แสดงว่า กฎไตรลักษณ์ จะใช้ไม่ได้กับ ทุกสรรพสิ่งแล้วซิ /จะใช้ไม่ได้ใน ดินแดนนิพพาน ใช่มั้ย
เอาแค่นี้ก่อน แล้วค่อยถาม ท่านผู้มีปัญญา ท่างหลาย อีกครั้่งครับ ขอบคุณครับ

ตอบ1อริยะมรรคมีองค์8 และปฐมฌานต้องมีจะขาดไม่ได้ เป็นโคตรภุบุคคลอย่างน้อยเห็นได้ต่ำกว่านี้หมดสิทธิ
ตอบ2เห้นทุกท่านและต้องมีธรรมกายทุกท่าน.....หลายๆท่านไม่ใช่แค่ฌาน4แต่เป้นฌาน5,6,7,8
และต้องเข้าสติปัฏฐานสี่อันเป้นโลกุตตระฌาน
ตอบ3เอาไว้ใช้กับพวกนอกศาสนา ตอบ4กฏไตรลักษณ์ใช้ไม่ได้กับนิพพาน เพราะนิพพานเที่ยงยั่งยืนเป็นสุข และซึ่งได้บัญญัติว่าอัตตาของพระอริยะเจ้ารวมทั้งมรรคญานผลญานด้วย


จากที่ท่านตอบในข้อ 3
เรื่องพระสารีบุตรเถระ [๗๘]
ข้อความเบื้องต้น
พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรารภพระสารีบุตรเถระ ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า "อสฺสทฺโธ" เป็นต้น.

สัทธินทรีย์เป็นต้นมีอมตะเป็นที่สุด
ความพิสดารว่า ภิกษุผู้อยู่ป่าเป็นวัตร ประมาณ ๓๐ รูป วันหนึ่งไปสู่สำนักพระศาสดา ถวายบังคมนั่งแล้ว. พระศาสดาทรงทราบอุปนิสัยแห่งพระอรหัตพร้อมด้วยปฏิสัมภิทาทั้งหลายของภิกษุเหล่านั้นแล้ว ตรัสเรียกพระสารีบุตรเถระมา ตรัสถามปัญหาปรารภอินทรีย์ ๕ อย่างนี้ว่า "สารีบุตร เธอเชื่อหรือ? อินทรีย์ คือศรัทธา อันบุคคลเจริญแล้ว ทำให้มากแล้ว ย่อมหยั่งถึงอมตะ มีอมตะเป็นที่สุด."
พระเถระทูลแก้ปัญหานั้นอย่างนี้ว่า
"พระเจ้าข้า ข้าพระองค์ย่อมไม่ถึงด้วยความเชื่อต่อพระผู้มีพระภาคเจ้าในอินทรีย์ ๕ นี้แล (ว่า) อินทรีย์ คือศรัทธา ฯลฯ มีอมตะเป็นที่สุด,
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ อินทรีย์ คือศรัทธานั่น อันชนเหล่าใดไม่รู้แล้ว ไม่สดับแล้ว ไม่เห็นแล้ว ไม่ทราบแล้ว ไม่ทำให้แจ้งแล้ว ไม่ถูกต้องแล้ว ด้วยปัญญา, ชนเหล่านั้นพึงถึงด้วยความเชื่อต่อชนเหล่าอื่นในอินทรีย์ ๕ นั้น (ว่า) อินทรีย์ คือศรัทธา ฯลฯ มีอมตะเป็นที่สุด."
ภิกษุทั้งหลายฟังคำนั้นแล้ว ยังกถาให้ตั้งขึ้นว่า "พระสารีบุตรเถระแก้แล้ว ด้วยการถือผิดทีเดียว, แม้ในวันนี้ พระเถระไม่เชื่อแล้วต่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั่นเชียว."

พระสารีบุตรอันใครๆ ไม่ควรติเตียน
พระศาสดาทรงสดับคำนั้นแล้ว ตรัสว่า "ภิกษุทั้งหลาย พวกเธอกล่าวคำเชื่ออะไรนั่น? เราแล ถามว่า
สารีบุตร เธอเชื่อหรือว่า ‘ชื่อว่าบุคคลผู้ไม่อบรมอินทรีย์ ๕ ไม่เจริญสมถะและวิปัสสนา สามารถเพื่อทำมรรคและผลให้แจ้งมีอยู่"
สารีบุตรนั้นกล่าวว่า "พระเจ้าข้า ข้าพระองค์ไม่เชื่อว่า ‘ผู้กระทำให้แจ้งอย่างนั้น ชื่อว่ามีอยู่’ สารีบุตรไม่เชื่อผลวิบากแห่งทานอันบุคคลถวายแล้ว หรือแห่งกรรมอันบุคคลกระทำแล้ว ก็หาไม่" อนึ่ง สารีบุตรไม่เชื่อคุณของพระรัตนะ ๓ มีพระพุทธเจ้าเป็นต้น ก็หาไม่, แต่สารีบุตรนั้นไม่ถึงความเชื่อต่อบุคคลอื่นในธรรม คือฌาน วิปัสสนา มรรค และผล อันตนได้เฉพาะแล้ว;
เพราะฉะนั้น สารีบุตรจึงเป็นผู้อันใครๆ ไม่ควรติเตียน,
เมื่อจะทรงสืบอนุสนธิแสดงธรรม ตรัสพระคาถานี้ว่า :-
๙. อสฺสทฺโธ อกตญฺญู จ สนฺธิจฺเฉโท จ โย นโร
หตาวกาโส วนฺตาโส ส เว อุตฺตมโปริโส.
นระใดไม่เชื่อง่าย มีปกติรู้พระนิพพานอันปัจจัยทำไม่ได้
ตัดที่ต่อ มีโอกาสอันกำจัดแล้ว มีความหวังอันคายแล้ว,
นระนั้นแล เป็นบุรุษสูงสุด.


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 ม.ค. 2012, 00:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


ฝึกจิตคงอ่านไม่แตก


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 ม.ค. 2012, 01:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


โปรดสังเกตว่า
พวกที่ชอบอ้างกาลามสูตรบ่อย ๆ ก็คือพวกที่คัดค้านคำสอนของพระองค์โดยตรงว่า นรก สวรรค์ เทวดา พรหมไม่มี นิพพานสูญ คนตายแล้วสูญไม่เกิดอีก


http://tangnipparn.com/page1_b00k4.html

อืมมมมมคนเขียนบทความนี้ข้อมูลสังเกตุแม่นดี


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 ม.ค. 2012, 06:50 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ธ.ค. 2011, 21:40
โพสต์: 952


 ข้อมูลส่วนตัว


หลับอยุ่ เขียน:
โปรดสังเกตว่า
พวกที่ชอบอ้างกาลามสูตรบ่อย ๆ ก็คือพวกที่คัดค้านคำสอนของพระองค์โดยตรงว่า นรก สวรรค์ เทวดา พรหมไม่มี นิพพานสูญ คนตายแล้วสูญไม่เกิดอีก


http://tangnipparn.com/page1_b00k4.html

อืมมมมมคนเขียนบทความนี้ข้อมูลสังเกตุแม่นดี


มันเป็นลักษณ์ว่า ต้องรู้ต้องเห็นเอง จึงจะเชื่อ 100 % นะครับ ถ้าเชื่อหมดทุกอบ่าง ก็คงไม่ต่างกับศาสนาอื่นนัก พุทธต้อง เชื่อแบบ ศรัทธานำ ปัญญาไตร่ตรอง
แต่นี้ก็ไม่สำคัญเท่ากับ ปฎฺิบัติ ให้ถึง ความศรัทธา และความเชื่อ ในสิ่งนั้นมากกว่า

ผมคิดตามประสาคนโง่ เช่นนั้นนะครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 ม.ค. 2012, 10:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


อ่านใหม่ให้ดีๆเอาเฉพราะที่คุณลอกมาล่ะกัน


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 22 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร