วันเวลาปัจจุบัน 19 ก.ค. 2025, 02:47  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 24 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ก.พ. 2013, 10:50 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 ธ.ค. 2012, 16:46
โพสต์: 412

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขณะจิต เขียน:
นึกว่าผมเห็น :b20: ความว่างอยู่คนเดียวซะอีก s002


สมกับเป็น เวปธรรมมะจริงๆ

มีสภาวะธรรม ด้วย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ก.พ. 2013, 11:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 มิ.ย. 2010, 22:55
โพสต์: 213

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


choochu เขียน:
มีคนเล่าให้ฟังว่าเมื่อได้ลองปฎิบัติแล้ว คำถามต่างๆ ที่เคยคิดจะหาคำตอบ
เช่น อิทธิฤทธิ์ ปาฎิหารต่างๆ
ชาตินี้ชาติหน้า มีจริงไหม
เรื่องเทวดา พรหม มีจริงไหม
เปรต มีจริงไหม และคำถามต่างๆ อีกมากมาย ก็ไม่ใส่ใจอีกต่อไป และไม่คิดอยากที่จะหาคำตอบอีก

และในที่สุด ก็หมดคำถามใดๆทั้งสิ้น เกี่ยวกับธรรมะ

ผมว่าไม่ใช่นะ เพราะมันจะขัดกับหลักศรัทธาสี่ เพราะคำว่า "ไม่ใส่ใจอีกต่อไป และไม่คิดอยากที่จะหาคำตอบอีก" แปลว่าไม่รู้และไม่เชื่อ ต่างกับคำว่าวาง วางคือวางสิ่งมีสิ่งที่รู้ สิ่งใดอยู่ตรงไหนก็วางไว้ตรงนั้น ไม่พูดถึงถ้าไม่มีเหตุ

สิ่งที่กล่าวๆ มา เช่นฤทธิ์ วัฏฏะ และผู้ที่เกิดแบบอุปปาติกะ ก็จัดอยู่ในหมวดกรรมและผลของกรรม พระโสดาบันท่านมีศรัทธาสี่บริบูรณ์แล้ว ท่านจึงไม่สงสัยในสิ่งเหล่านั้นเพราะท่านแจ้งธรรมที่จะทำให้วิจิกิจฉาหมดไปได้แล้ว

ส่วนคนทั่วไปก็ยังคงมีวิจิกิจฉาอยู่ แต่จะลดน้อยลงตามธรรมที่ไก้เกิดขึ้นจากการปฏิบัติ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ก.พ. 2013, 17:28 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


choochu เขียน:
มีคนเล่าให้ฟังว่าเมื่อได้ลองปฎิบัติแล้ว คำถามต่างๆ ที่เคยคิดจะหาคำตอบ
เช่น อิทธิฤทธิ์ ปาฎิหารต่างๆ
ชาตินี้ชาติหน้า มีจริงไหม
เรื่องเทวดา พรหม มีจริงไหม
เปรต มีจริงไหม และคำถามต่างๆ อีกมากมาย ก็ไม่ใส่ใจอีกต่อไป และไม่คิดอยากที่จะหาคำตอบอีก

และในที่สุด ก็หมดคำถามใดๆทั้งสิ้น เกี่ยวกับธรรมะ


ความสงสัย ถ้าจะหมดไป มันต้องมีเหตุมีปัจจัย

การดับไปของความสงสัย อาจจะไปปรากฎความสงสัยขึ้นใหม่ ในเรื่องอื่น
นั่นคือ ความสงสัย เกิด-ดับ
คือ ความสงสัยในเรื่องหนึ่งดับไป ความสงสัยในอีกเรื่องเกิด
เช่น ความสงสัยในเรื่องนรกดับไป ความสงสัยในเรื่องพรหมเกิดแทน
หรือ ความสงสัยในเรื่องหนึ่งดับไป เพราะไปคำนึงในเรื่องอื่น
เช่น ความสงสัยดับไป ในสมาธิ (บริกรรม อารมณ์สมาธิ ฌาณ)
หรือ ความสงสัยในเรื่องหนึ่งดับไป เพราะมีกรรมมาตัดรอน
เช่น ความสงสัยในเรื่อง "นรกมีจริงหรือไม่" ดับไป เนื่องจากได้ไปท่องนรก
ซึ่งความสงสัยดับไป กลายเป็นความเชื่อว่า นรกมีจริงเกิดขึ้นมาแทน

การจะเข้าถึงที่สุดของความสงสัย
ลองมองในแง่มุมที่ ความสงสัยไม่เกิด :b1:

การเข้าถึง ธรรมที่ไม่เกิด

คือ บางทีเราไม่จำเป็นต้องได้คำตอบไปจนที่สุดของโลก
เพราะ โลก มีคำถาม และ มีคำตอบในเรื่องต่าง ๆ ไม่มีที่สิ้นสุด
โลก มีทางออกไปในเรื่องต่าง ๆ ไม่มีที่สิ้นสุด
หยาบไปสู่ละเอียด ใกล้ไปสู่ไกล ไกลไปสู่ใกล้
นอกไปสู่ใน ในไปสู่นอก ฯลฯ

ความสงสัยมันมีทั้ง
ดับด้วย เรื่อง กับ ดับด้วย อาการ

การเข้าถึง ธรรมที่ไม่เกิด
คือ คำตอบอันเป็นที่สุดแห่ง ความสงสัย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ก.พ. 2013, 18:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 มี.ค. 2010, 16:12
โพสต์: 2298

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


eragon_joe เขียน:
s002

ตอนนี้ ขอยืนยัน นอนยัน นั่งยัน ว่า จริง

เพราะ หายไปหมดเลย....

เหลือแต่หน้ากระดาษเปล่า ๆ ทุกกระทู้

:b32: :b32: :b32:

สงสัยเราคงจะคุยเรื่อง

อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา กันมากเกินไป

:b32: :b32: :b32:

ช่างเป็นบอร์ดที่ ทำได้สมจริงสมจังมาก

:b12: :b32: :b32: :b12:

smiley smiley smiley

นับถือ นับถือ

...... :b41:


:b32: :b32:

.....................................................
"พุทโธ .. พุทโธ .. พุทโธ"
ภาวนาวันละนิด จิตแจ่มใส


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ก.พ. 2013, 14:34 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 ม.ค. 2011, 09:13
โพสต์: 73


 ข้อมูลส่วนตัว


มีคนเล่าให้ฟังว่าเมื่อได้ลองปฎิบัติแล้ว คำถามต่างๆ ที่เคยคิดจะหาคำตอบ
เช่น อิทธิฤทธิ์ ปาฎิหารต่างๆ
ชาตินี้ชาติหน้า มีจริงไหม
เรื่องเทวดา พรหม มีจริงไหม
เปรต มีจริงไหม และคำถามต่างๆ อีกมากมาย ก็ไม่ใส่ใจอีกต่อไป และไม่คิดอยากที่จะหาคำตอบอีก

และในที่สุด ก็หมดคำถามใดๆทั้งสิ้น เกี่ยวกับธรรมะ

[color=#FF0040][color=#FF0000]ที่หายสงสัย เพราะลงเป็นอันเดียวกันแล้ว เห็นอันเดียวกัน เข้าใจอันเดียวกันมันก็เลยไม่สงสัย
[/color]


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ก.พ. 2013, 15:24 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


ยังไม่พ้น เขียน:
อ้างคำพูด:
มีคนเล่าให้ฟังว่าเมื่อได้ลองปฎิบัติแล้ว คำถามต่างๆ ที่เคยคิดจะหาคำตอบ
เช่น อิทธิฤทธิ์ ปาฎิหารต่างๆ
ชาตินี้ชาติหน้า มีจริงไหม
เรื่องเทวดา พรหม มีจริงไหม
เปรต มีจริงไหม และคำถามต่างๆ อีกมากมาย ก็ไม่ใส่ใจอีกต่อไป และไม่คิดอยากที่จะหาคำตอบอีก

และในที่สุด ก็หมดคำถามใดๆทั้งสิ้น เกี่ยวกับธรรมะ


ที่หายสงสัย เพราะลงเป็นอันเดียวกันแล้ว เห็นอันเดียวกัน เข้าใจอันเดียวกันมันก็เลยไม่สงสัย


smiley smiley smiley


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ก.พ. 2013, 00:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.ค. 2009, 23:02
โพสต์: 157

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


มีคนเล่าให้ฟังว่าเมื่อได้ลองปฎิบัติแล้ว คำถามต่างๆ ที่เคยคิดจะหาคำตอบ
เช่น อิทธิฤทธิ์ ปาฎิหารต่างๆ
ชาตินี้ชาติหน้า มีจริงไหม
เรื่องเทวดา พรหม มีจริงไหม
เปรต มีจริงไหม และคำถามต่างๆ อีกมากมาย ก็ไม่ใส่ใจอีกต่อไป และไม่คิดอยากที่จะหาคำตอบอีก


ผมก็คล้ายๆกันครับ คือไม่สงสัย ไม่ใช่ว่ารู้แล้ว
แต่ความสงสัยมันลดลงไป ไม่อยากไปรู้อะไรที่ยังไม่ถึงเวลาควรรู้อีก

ท่านเรียกว่า ปัจเจกสัจจะบรรเทา

.....................................................
มาตามหา เพื่อนร่วมทาง

ประโยชน์สูง-ประหยัดสุด > > ต้องทำให้ได้ คือแก้ไขตนเอง > > ฝึกหยุด-ไม่หยุดฝึก >
ไม่มีเวลาสำหรับความชั่วบาปอีกแล้ว. ." ทุกวินาทีเป็นวินาทีแห่งบุญ "
เราจะฝึกฝนตนเพื่อไปถึงจุดนั้นให้ได้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 เม.ย. 2013, 14:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


rolleyes
...พุทธศาสนาเป็นความรู้ที่เป็นเหตุเป็นผลกัน...จะเชื่อหรือไม่เป็นเรื่องที่จะต้องพิสูจน์ด้วยตนเอง...
...พระพุทธเจ้าเน้นให้ทุกคนลงมือทำด้วยตนเอง...ไม่ทรงสอนให้เชื่อโดยไม่ไตร่ตรองตามกาลามสูตรสิบ...
:b8:
:b40: :b40:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 มิ.ย. 2013, 01:10 
 
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 พ.ค. 2013, 13:08
โพสต์: 7

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ปฏิบัติธรรมแล้ว ก็จะหันมาสงสัย พิจารณาตนเอง ว่าสิ่งที่กระทำอยู่ถูกต้องหรือไม่ การปฏิบ้ติของเราก้าวหน้าหรือไม่ จนเลยละความสนใจต่อสิ่งอื่่น ซึ่งอยู่นอกกาย ซึ่งมีความสำคัญน้อยกว่า


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 24 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร