วันเวลาปัจจุบัน 19 ก.ค. 2025, 00:59  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 43 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 พ.ย. 2013, 13:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:


[b]การกล่าวถึงพระไตรปิฎก จะต้องกล่าวถึงความหมายทางธรรม
และจะต้องกล่าวถึงที่มาของพระไตรปิฎก ไอ้ที่กรัชกายพูดมามันไม่ใช่
ความหมายของพระไตรปิฎก



ที่พูดมา เหมือนคนฉี่ไม่สุด ไหนลองบอกสิพระไตรปิฎกมีที่มายังไง และมีความหมายทางธรรมยังไง เอ้าาา :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 พ.ย. 2013, 13:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
กรัชกาย เขียน:
เอาฉันทะบ้าง ฉันทะที่นิวรณ์ คือ กามฉันทะ กับ ฉันทะ ที่อิทธิบาท 4 ข้อ 1 เหมือนกันหรือต่างกัน เหมือนกันแล้วไป ถ้าต่างกัน ต่างกันอย่างไร อธิบาย :b10:


ฉันทะก็คือฉันทะ มันเป็นอาการของจิต เป็นหนึ่งในเจตสิก๕๒

ถ้าเป็นฉันทะสภาวะโดดๆมันจะไม่แตกต่างกัน แต่ที่แตกต่างมันเป็นเพราะมีเหตุหรือเป็นเหตุปัจจัย
ที่แตกต่างกัน

ตัวอย่างเช่น กามฉันทะ ...ก็คือ มีกามคุณห้าเป็นเหตุให้เกิดฉันทะ

ส่วนอิทธิบาทสี่ หมายถึง.....สภาพธรรมอันเป็นกุศล(งาน) เป็นเหตุให้เกิดฉันทะ

สังเกตุ มันมีธรรมตัวอื่นเป็นเหตุปัจจัย มันต่างกันที่เหตุปัจจัย ไม่ใช่ต่างกันที่ฉันทะ

สิ่งที่เกิดขึ้นภายในกายใจ มันเป็นสภาวะที่เรียกว่าสังขาร มันเกิดดับ

กามฉันทะ .......กามฉันทะไม่ได้เกิดพร้อมกัน มันมีธรรมตัวหนึ่งเกิดและดับไป
แล้วจึงเกิดธรรมอีกตัวขึ้น

ฉันทะในอิทธิบาทสี่ก็เช่นกัน เกิดการจำได้หมายรู้ในสภาพธรรมและดับไป
จึงเกิดสภาวะธรรมตัวใหม่ขึ้น


อ้างคำพูด:
ฉันทะก็คือฉันทะ


พูดเหมือนไม่ไ้ด้พูดฉันทะก็คือฉันทะ จิตก็คือจิต นิพพานก้คือนิพพาน คิกๆๆ

มันก็ดับทั้งนั้นแหละ ไ่ม่ว่า กามฉันทะ หรือ ฉันทะให้อิทธิบาทฮี่ๆ

นึกถึงคำพูดที่เมสซิ่งว่า ธรรมะทิ้งเมีย คิกๆๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 พ.ย. 2013, 13:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
กรัชกาย เขียน:
พระไตรปิฎก (ตะกร้าสามใบ) คือกระดาษที่ใช้บันทึกอักษรหรือคำสอน ที่แยกเป็นส่วนๆไป เป็นพระสูตร ส่วนหนึ่ง อภิธรรม ส่วนหนึ่ง วินัย ส่วนหนึ่ง ก็แค่นี้ :


ถึงได้บอกให้เอาปัญญามาพิจารณาธรรม อย่าเอาความจำได้หมายรู้มาพูดธรรม
การไม่ใช้ปัญญาใคร่ครวญ หาเหตุผลก่อนที่จะตอบคำถาม
คำตอบก็จะเป็นอย่างที่กรัชกายกำลังตอบ นั้นก็คือตอบเหมือนกำปั่นทุบดิน
หาสาระในธรรมไม่ได้ ในหนังสือว่าอะไรก็ลอกเอามาตอบแบบส่งเดช

การกล่าวถึงพระไตรปิฎก จะต้องกล่าวถึงความหมายทางธรรม
และจะต้องกล่าวถึงที่มาของพระไตรปิฎก ไอ้ที่กรัชกายพูดมามันไม่ใช่
ความหมายของพระไตรปิฎก

ถ้าเป็นข้อสอบแบบอัตนัย กรัชกายได้ศูนย์ แถมถูกครูด่าด้วยว่า ไอ้นกแก้ว :b32:


กรัชกาย เขียน:
ธรรมะอยู่ที่คน อยู่ในคน หรือคนนี่แหละธรรมะ ต้องพิจารณาที่นี่


ธรรมะบ้าบอที่ไหนบอก คนคือธรรมะ ธรรมะแท้ๆมีแต่สัตว์โลก
และการพิจารณาธรรม ต้องพิจารณาที่กายใจของตนเอง
ไม่ใช่ไปพิจารณาคน หรือกายในผู้อื่น.....เข้าใจมั้ย
กรัชกาย เขียน:

ถามอีกหน่อย ตัณหาในปฏิจจสมุปบาท กับ ที่ในอริยสัจ 4 ข้อ 2 เหมือนกันหรือต่างกัน


ธรรมที่พระพุทธองค์ทรงสอน จะต้องอยู่ในหลักแห่งอริยสัจจ์
นั้นหมายความว่า อริยสัจจ์สี่เป็นหลักแห่งธรรมทั้งมวล ธรรมทุกบัญญัติต้องอยู่
ในกรอบของอริยสัจจ์สี่

ตัณหาในปฏิจจ์สมุบาท ถ้ากล่าวในหลักแห่งอริยสัจจ์สี่
ตัณหาในปฏิจจ์เป็น......ทุกข์ ในอริยสัจจ์สี่


ส่วนที่กรัชกายถามว่า เหมือนหรือแตกต่างกับอริยสัจจ์สี่ ข้อ๒อย่างไร
กรัชกายถามทั้งๆไม่มีความเข้าใจแต่ต้น ไม่เป็นไรจะอธิบายให้ฟัง......

อริยสัจจ์สี่ในข้อ๒ นั้นก็คือสมุทัย เมื่อตัณหาในปฏิจจ์เป็นทุกข์แล้ว
ย่อมต้องไม่ใช่สมุทัย

กล่าวโดยรวม ปฏิจจ์สมุบาทคือ............ทุกข์
สังขารที่เป็นขันธ์ห้าก็คือ.........สมุทัยเหตุแห่งทุกข์



ที่พูดมาพ้นไปจากคนไหมนั่น หรือว่าอยู่นอกคน นอกมนุษย์ ซึ่่งเขาตกลง (สมมุติบัญญัติ) เรียกว่าคนว่ามนุษย์ พ้นไปจากนี่ไหมน่ะ :b10:

ที่โฮฮับเพ้อนั่นนั่นคงคิดว่าธรรมะพ้นจากคนซิท่า

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 พ.ย. 2013, 14:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
โฮฮับ เขียน:
กรัชกาย เขียน:
เอาฉันทะบ้าง ฉันทะที่นิวรณ์ คือ กามฉันทะ กับ ฉันทะ ที่อิทธิบาท 4 ข้อ 1 เหมือนกันหรือต่างกัน เหมือนกันแล้วไป ถ้าต่างกัน ต่างกันอย่างไร อธิบาย :b10:


ฉันทะก็คือฉันทะ มันเป็นอาการของจิต เป็นหนึ่งในเจตสิก๕๒

ถ้าเป็นฉันทะสภาวะโดดๆมันจะไม่แตกต่างกัน แต่ที่แตกต่างมันเป็นเพราะมีเหตุหรือเป็นเหตุปัจจัย
ที่แตกต่างกัน

ตัวอย่างเช่น กามฉันทะ ...ก็คือ มีกามคุณห้าเป็นเหตุให้เกิดฉันทะ

ส่วนอิทธิบาทสี่ หมายถึง.....สภาพธรรมอันเป็นกุศล(งาน) เป็นเหตุให้เกิดฉันทะ

สังเกตุ มันมีธรรมตัวอื่นเป็นเหตุปัจจัย มันต่างกันที่เหตุปัจจัย ไม่ใช่ต่างกันที่ฉันทะ

สิ่งที่เกิดขึ้นภายในกายใจ มันเป็นสภาวะที่เรียกว่าสังขาร มันเกิดดับ

กามฉันทะ .......กามฉันทะไม่ได้เกิดพร้อมกัน มันมีธรรมตัวหนึ่งเกิดและดับไป
แล้วจึงเกิดธรรมอีกตัวขึ้น

ฉันทะในอิทธิบาทสี่ก็เช่นกัน เกิดการจำได้หมายรู้ในสภาพธรรมและดับไป
จึงเกิดสภาวะธรรมตัวใหม่ขึ้น


อ้างคำพูด:
ฉันทะก็คือฉันทะ


พูดเหมือนไม่ไ้ด้พูดฉันทะก็คือฉันทะ จิตก็คือจิต นิพพานก้คือนิพพาน คิกๆๆ

มันก็ดับทั้งนั้นแหละ ไ่ม่ว่า กามฉันทะ หรือ ฉันทะให้อิทธิบาทฮี่ๆ

นึกถึงคำพูดที่เมสซิ่งว่า ธรรมะทิ้งเมีย คิกๆๆ


ถึงได้บอกไงว่า...ไม่อยากสีซอให้คว เอ้ย ไม่ใช่ไม่อยากสีซออู้ให้คนหูเป็นน้ำหนวกฟัง :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 พ.ย. 2013, 14:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
โฮฮับ เขียน:
กรัชกาย เขียน:
พระไตรปิฎก (ตะกร้าสามใบ) คือกระดาษที่ใช้บันทึกอักษรหรือคำสอน ที่แยกเป็นส่วนๆไป เป็นพระสูตร ส่วนหนึ่ง อภิธรรม ส่วนหนึ่ง วินัย ส่วนหนึ่ง ก็แค่นี้ :


ถึงได้บอกให้เอาปัญญามาพิจารณาธรรม อย่าเอาความจำได้หมายรู้มาพูดธรรม
การไม่ใช้ปัญญาใคร่ครวญ หาเหตุผลก่อนที่จะตอบคำถาม
คำตอบก็จะเป็นอย่างที่กรัชกายกำลังตอบ นั้นก็คือตอบเหมือนกำปั่นทุบดิน
หาสาระในธรรมไม่ได้ ในหนังสือว่าอะไรก็ลอกเอามาตอบแบบส่งเดช

การกล่าวถึงพระไตรปิฎก จะต้องกล่าวถึงความหมายทางธรรม
และจะต้องกล่าวถึงที่มาของพระไตรปิฎก ไอ้ที่กรัชกายพูดมามันไม่ใช่
ความหมายของพระไตรปิฎก

ถ้าเป็นข้อสอบแบบอัตนัย กรัชกายได้ศูนย์ แถมถูกครูด่าด้วยว่า ไอ้นกแก้ว :b32:


กรัชกาย เขียน:
ธรรมะอยู่ที่คน อยู่ในคน หรือคนนี่แหละธรรมะ ต้องพิจารณาที่นี่


ธรรมะบ้าบอที่ไหนบอก คนคือธรรมะ ธรรมะแท้ๆมีแต่สัตว์โลก
และการพิจารณาธรรม ต้องพิจารณาที่กายใจของตนเอง
ไม่ใช่ไปพิจารณาคน หรือกายในผู้อื่น.....เข้าใจมั้ย
กรัชกาย เขียน:

ถามอีกหน่อย ตัณหาในปฏิจจสมุปบาท กับ ที่ในอริยสัจ 4 ข้อ 2 เหมือนกันหรือต่างกัน


ธรรมที่พระพุทธองค์ทรงสอน จะต้องอยู่ในหลักแห่งอริยสัจจ์
นั้นหมายความว่า อริยสัจจ์สี่เป็นหลักแห่งธรรมทั้งมวล ธรรมทุกบัญญัติต้องอยู่
ในกรอบของอริยสัจจ์สี่

ตัณหาในปฏิจจ์สมุบาท ถ้ากล่าวในหลักแห่งอริยสัจจ์สี่
ตัณหาในปฏิจจ์เป็น......ทุกข์ ในอริยสัจจ์สี่


ส่วนที่กรัชกายถามว่า เหมือนหรือแตกต่างกับอริยสัจจ์สี่ ข้อ๒อย่างไร
กรัชกายถามทั้งๆไม่มีความเข้าใจแต่ต้น ไม่เป็นไรจะอธิบายให้ฟัง......

อริยสัจจ์สี่ในข้อ๒ นั้นก็คือสมุทัย เมื่อตัณหาในปฏิจจ์เป็นทุกข์แล้ว
ย่อมต้องไม่ใช่สมุทัย

กล่าวโดยรวม ปฏิจจ์สมุบาทคือ............ทุกข์
สังขารที่เป็นขันธ์ห้าก็คือ.........สมุทัยเหตุแห่งทุกข์



ที่พูดมาพ้นไปจากคนไหมนั่น หรือว่าอยู่นอกคน นอกมนุษย์ ซึ่่งเขาตกลง (สมมุติบัญญัติ) เรียกว่าคนว่ามนุษย์ พ้นไปจากนี่ไหมน่ะ :b10:

ที่โฮฮับเพ้อนั่นนั่นคงคิดว่าธรรมะพ้นจากคนซิท่า


จะพูดธรรมมันต้องพูดในหลักของผู้เป็นเจ้าของบัญญัติ ไม่ใช่เอาคำที่แต่งเองมามั่ว
กรัชกายนี่มันชอบมั่วทั้งพระไตรปิฎก ทั้งพุทธพจน์ บิกทู่ชอบโม้ กรัชกายชอบมั่ว พอกัน :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 พ.ย. 2013, 16:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




1382287104-1367332977-o.gif
1382287104-1367332977-o.gif [ 16.55 KiB | เปิดดู 2797 ครั้ง ]
สรุปที่ถามสอง คห. ข้างบน ไม่ไ้ด้ไม่มีคำตอบอะไรที่เป็นอรรถเป็นธรรมเลย เสียกระดาษเปล่าๆ :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 พ.ย. 2013, 05:01 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ก.พ. 2013, 19:24
โพสต์: 300

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คนหลงป่า ถามหาทางออกจากคนหลงป่า


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 พ.ย. 2013, 07:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ธรรมมา เขียน:
คนหลงป่า ถามหาทางออกจากคนหลงป่า


"คนป่ากำลังว่าคนหลงป่า".......ไม่รู้เจ้าของความเห็น ศึกษาธรรมจากซีกโลกใน
แต่ผมว่า คงจะได้รับการอบรมมาจากแม่ค้าขายผักในตลาดสด

วันๆเอาแต่พูดจาเสียดสีปะชดชัน โดยเข้าใจเอาเองว่ามันเป็น...ธรรมะ :b6:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 พ.ย. 2013, 08:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ธรรมมา เขียน:
คนหลงป่า ถามหาทางออกจากคนหลงป่า



นึกถึง เมสซิ่ง กับ bigtoo :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 พ.ย. 2013, 09:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เท่าที่สังเกตตามเวปบอร์ดธรรมะ (เขาว่ากันยังงั้น) หลายๆแห่ง มีไม่กี่คนที่เล่นๆ (โพสต์ๆ) กันอยู่ นับคนได้ :b1: เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาอยู่ โยกไปโยกมากันอยู่ :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 พ.ย. 2013, 09:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
เท่าที่สังเกตตามเวปบอร์ดธรรมะ (เขาว่ากันยังงั้น) หลายๆแห่ง มีไม่กี่คนที่เล่นๆ (โพสต์ๆ) กันอยู่ นับคนได้ :b1: เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาอยู่ โยกไปโยกมากันอยู่ :b32:


กรัชกายเล่นเว็บพันทิบหรือเปล่า ถ้าเล่นช่วยไปชวนพวกนั้นมาแสดงความเห็นในลานธรรมจักร
เห็นหลายคนในพันทิบ ชอบเถียงกันเรื่องพระไตรปิฎก แบบนี้มันถึงจะน่าคุย

ไอ้ที่แสดงความเห็นอยู่ที่นี้ มันไม่ได้เรื่อง แสดงความเห็นเคลิ้มกันไปมา
เอาพระธรรมของพระพุทธเจ้า ไปทำเป็นธรรมะโวหารทั้งที่พระพุทธองค์ทรงห้าม

แต่อย่าเอาพวกเอาแต่ด่าอย่างเดียวมาน่ะ :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 พ.ย. 2013, 09:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
กรัชกาย เขียน:
เท่าที่สังเกตตามเวปบอร์ดธรรมะ (เขาว่ากันยังงั้น) หลายๆแห่ง มีไม่กี่คนที่เล่นๆ (โพสต์ๆ) กันอยู่ นับคนได้ :b1: เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาอยู่ โยกไปโยกมากันอยู่ :b32:


กรัชกายเล่นเว็บพันทิบหรือเปล่า ถ้าเล่นช่วยไปชวนพวกนั้นมาแสดงความเห็นในลานธรรมจักร
เห็นหลายคนในพันทิบ ชอบเถียงกันเรื่องพระไตรปิฎก แบบนี้มันถึงจะน่าคุย

ไอ้ที่แสดงความเห็นอยู่ที่นี้ มันไม่ได้เรื่อง แสดงความเห็นเคลิ้มกันไปมา
เอาพระธรรมของพระพุทธเจ้า ไปทำเป็นธรรมะโวหารทั้งที่พระพุทธองค์ทรงห้าม

แต่อย่าเอาพวกเอาแต่ด่าอย่างเดียวมาน่ะ :b32:



นอกจากพันทิพแล้วยังมีอีกหลายๆบอร์ด ที่เข้าไปอ่านๆดูว่า ใครพูดอะไรพูดว่ายังไงกันบ้าง แต่ไม่ได้เป็นสมาชิก


อ้างคำพูด:
เห็นหลายคนในพันทิบ ชอบเถียงกันเรื่องพระไตรปิฎก แบบนี้มันถึงจะน่าคุย



ไหนลองคุยพระไตรปิฎกให้ฟังหน่อยสิ ยังไง

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 พ.ย. 2013, 09:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
โฮฮับ เขียน:
กรัชกาย เขียน:
เท่าที่สังเกตตามเวปบอร์ดธรรมะ (เขาว่ากันยังงั้น) หลายๆแห่ง มีไม่กี่คนที่เล่นๆ (โพสต์ๆ) กันอยู่ นับคนได้ :b1: เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาอยู่ โยกไปโยกมากันอยู่ :b32:


กรัชกายเล่นเว็บพันทิบหรือเปล่า ถ้าเล่นช่วยไปชวนพวกนั้นมาแสดงความเห็นในลานธรรมจักร
เห็นหลายคนในพันทิบ ชอบเถียงกันเรื่องพระไตรปิฎก แบบนี้มันถึงจะน่าคุย

ไอ้ที่แสดงความเห็นอยู่ที่นี้ มันไม่ได้เรื่อง แสดงความเห็นเคลิ้มกันไปมา
เอาพระธรรมของพระพุทธเจ้า ไปทำเป็นธรรมะโวหารทั้งที่พระพุทธองค์ทรงห้าม

แต่อย่าเอาพวกเอาแต่ด่าอย่างเดียวมาน่ะ :b32:



นอกจากพันทิพแล้วยังมีอีกหลายๆบอร์ด ที่เข้าไปอ่านๆดูว่า ใครพูดอะไรพูดว่ายังไงกันบ้าง แต่ไม่ได้เป็นสมาชิก


อ้างคำพูด:
เห็นหลายคนในพันทิบ ชอบเถียงกันเรื่องพระไตรปิฎก แบบนี้มันถึงจะน่าคุย



ไหนลองคุยพระไตรปิฎกให้ฟังหน่อยสิ ยังไง


การสอนธรรมของพระพุทธเจ้า เป็นไปในลักษณะของการชี้ให้เห็นถึงกิเลส
นั้นหมายความว่า.....มีบุคคลกำลังหลง จะเป็นการแสดงอาการทางกาย วาจา
เมื่อมีเหตุที่ว่า พระพุทธองค์จึงจะแสดงธรรมโปรดแก่บุคคลนั้น

เช่นเดียวกัน มันไม่ใช่เรื่องที่อยู่ดีๆ พี่โฮถึงจะพูดธรรมชนิดไม่ดูเหนือใต้ออกตก
ถามหน่อย ถ้ามีคนมาโพส พระไตรแต่อย่างเดียว กรัชกายเคยคิดในใจมั้ยว่า
คนโพสมันจะสื่ออะไร ถ้าเป็นพี่โฮ พี่โฮจะคิดว่า ไอ้คนโพสนี่มันไม่รู้ความ
ไม่มีวุฒิภาวะ ไร้ซึ่งกาลเทศะ :b32:




โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 พ.ย. 2013, 10:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
กรัชกาย เขียน:
โฮฮับ เขียน:
กรัชกาย เขียน:
เท่าที่สังเกตตามเวปบอร์ดธรรมะ (เขาว่ากันยังงั้น) หลายๆแห่ง มีไม่กี่คนที่เล่นๆ (โพสต์ๆ) กันอยู่ นับคนได้ :b1: เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาอยู่ โยกไปโยกมากันอยู่ :b32:


กรัชกายเล่นเว็บพันทิบหรือเปล่า ถ้าเล่นช่วยไปชวนพวกนั้นมาแสดงความเห็นในลานธรรมจักร
เห็นหลายคนในพันทิบ ชอบเถียงกันเรื่องพระไตรปิฎก แบบนี้มันถึงจะน่าคุย

ไอ้ที่แสดงความเห็นอยู่ที่นี้ มันไม่ได้เรื่อง แสดงความเห็นเคลิ้มกันไปมา
เอาพระธรรมของพระพุทธเจ้า ไปทำเป็นธรรมะโวหารทั้งที่พระพุทธองค์ทรงห้าม

แต่อย่าเอาพวกเอาแต่ด่าอย่างเดียวมาน่ะ :b32:



นอกจากพันทิพแล้วยังมีอีกหลายๆบอร์ด ที่เข้าไปอ่านๆดูว่า ใครพูดอะไรพูดว่ายังไงกันบ้าง แต่ไม่ได้เป็นสมาชิก


อ้างคำพูด:
เห็นหลายคนในพันทิบ ชอบเถียงกันเรื่องพระไตรปิฎก แบบนี้มันถึงจะน่าคุย



ไหนลองคุยพระไตรปิฎกให้ฟังหน่อยสิ ยังไง


การสอนธรรมของพระพุทธเจ้า เป็นไปในลักษณะของการชี้ให้เห็นถึงกิเลส
นั้นหมายความว่า.....มีบุคคลกำลังหลง จะเป็นการแสดงอาการทางกาย วาจา
เมื่อมีเหตุที่ว่า พระพุทธองค์จึงจะแสดงธรรมโปรดแก่บุคคลนั้น

เช่นเดียวกัน มันไม่ใช่เรื่องที่อยู่ดีๆ พี่โฮถึงจะพูดธรรมชนิดไม่ดูเหนือใต้ออกตก
ถามหน่อย ถ้ามีคนมาโพส พระไตรแต่อย่างเดียว กรัชกายเคยคิดในใจมั้ยว่า
คนโพสมันจะสื่ออะไร ถ้าเป็นพี่โฮ พี่โฮจะคิดว่า ไอ้คนโพสนี่มันไม่รู้ความ
ไม่มีวุฒิภาวะ ไร้ซึ่งกาลเทศะ :b32:





ศีล - ควบคุม กาย วาจา (กำจัดกิเลสอย่างหยาบ)

สมาธิ - กำจัดกิเลสอย่างกลาง

ปัญญา -กำจัดกิเลสอย่างละเอียด (อนุสัยกิเลส)


จะต้องปฏิบัติควบคู่กันไปทั้งสามด้านนี้ ต้องทำต้องปฏิบัติต่อเนื่อง และถูกทาง ไม่ใช่ทำเพียงชั่วครู่ชั่วยาม ใช้เวลาเท่ากับเวลาที่ตนลืมตาดูโลกนี้ คือ เกิดมากี่ปีก็ทำไปเท่านั้นปี นี่ว่าโดยทำถูกทางน่ะ ถ้าผิดท่างก็ไม่ต้องนับชาติเลย :b1:

การกำจัดกิเลสไม่ใช่เรื่องง่ายขอบอก :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 พ.ย. 2013, 14:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
โฮฮับ เขียน:
กรัชกาย เขียน:
โฮฮับ เขียน:
กรัชกาย เขียน:
เท่าที่สังเกตตามเวปบอร์ดธรรมะ (เขาว่ากันยังงั้น) หลายๆแห่ง มีไม่กี่คนที่เล่นๆ (โพสต์ๆ) กันอยู่ นับคนได้ :b1: เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาอยู่ โยกไปโยกมากันอยู่ :b32:


กรัชกายเล่นเว็บพันทิบหรือเปล่า ถ้าเล่นช่วยไปชวนพวกนั้นมาแสดงความเห็นในลานธรรมจักร
เห็นหลายคนในพันทิบ ชอบเถียงกันเรื่องพระไตรปิฎก แบบนี้มันถึงจะน่าคุย

ไอ้ที่แสดงความเห็นอยู่ที่นี้ มันไม่ได้เรื่อง แสดงความเห็นเคลิ้มกันไปมา
เอาพระธรรมของพระพุทธเจ้า ไปทำเป็นธรรมะโวหารทั้งที่พระพุทธองค์ทรงห้าม

แต่อย่าเอาพวกเอาแต่ด่าอย่างเดียวมาน่ะ :b32:



นอกจากพันทิพแล้วยังมีอีกหลายๆบอร์ด ที่เข้าไปอ่านๆดูว่า ใครพูดอะไรพูดว่ายังไงกันบ้าง แต่ไม่ได้เป็นสมาชิก


อ้างคำพูด:
เห็นหลายคนในพันทิบ ชอบเถียงกันเรื่องพระไตรปิฎก แบบนี้มันถึงจะน่าคุย



ไหนลองคุยพระไตรปิฎกให้ฟังหน่อยสิ ยังไง


การสอนธรรมของพระพุทธเจ้า เป็นไปในลักษณะของการชี้ให้เห็นถึงกิเลส
นั้นหมายความว่า.....มีบุคคลกำลังหลง จะเป็นการแสดงอาการทางกาย วาจา
เมื่อมีเหตุที่ว่า พระพุทธองค์จึงจะแสดงธรรมโปรดแก่บุคคลนั้น

เช่นเดียวกัน มันไม่ใช่เรื่องที่อยู่ดีๆ พี่โฮถึงจะพูดธรรมชนิดไม่ดูเหนือใต้ออกตก
ถามหน่อย ถ้ามีคนมาโพส พระไตรแต่อย่างเดียว กรัชกายเคยคิดในใจมั้ยว่า
คนโพสมันจะสื่ออะไร ถ้าเป็นพี่โฮ พี่โฮจะคิดว่า ไอ้คนโพสนี่มันไม่รู้ความ
ไม่มีวุฒิภาวะ ไร้ซึ่งกาลเทศะ :b32:





ศีล - ควบคุม กาย วาจา (กำจัดกิเลสอย่างหยาบ)

สมาธิ - กำจัดกิเลสอย่างกลาง

ปัญญา -กำจัดกิเลสอย่างละเอียด (อนุสัยกิเลส)


จะต้องปฏิบัติควบคู่กันไปทั้งสามด้านนี้ ต้องทำต้องปฏิบัติต่อเนื่อง และถูกทาง ไม่ใช่ทำเพียงชั่วครู่ชั่วยาม ใช้เวลาเท่ากับเวลาที่ตนลืมตาดูโลกนี้ คือ เกิดมากี่ปีก็ทำไปเท่านั้นปี นี่ว่าโดยทำถูกทางน่ะ ถ้าผิดท่างก็ไม่ต้องนับชาติเลย :b1:

การกำจัดกิเลสไม่ใช่เรื่องง่ายขอบอก :b1:


กรัชกาย ที่เอามาพูดน่ะ มันเป็นโวหารของคนที่อยากเป็นผู้รู้ พูดง่ายก็คือ
อวดอุตริมาสอนธรรม ทั้งๆที่ไม่รู้ เลยต้องอาศัยสร้างคำพูดให้มันเป็นโวหาร
ให้คนอื่นหลง ที่ว่าหลงก็เพราะ คิดว่ามันเท่ แท้จริงหาสาระในธรรมไม่ได้

กิเลสบ้าบอที่ไหนมีสามระดับ นี้แสดงว่าไม่รู้จักสังโยชน์


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 43 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร