วันเวลาปัจจุบัน 20 ก.ค. 2025, 09:55  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 21 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 มิ.ย. 2017, 06:39 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ก.พ. 2013, 19:24
โพสต์: 300

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อานิสงส์ที่จัดอยู่ในวิสุทธิข้อนี้
โดยเฉพาะผู้ที่ผ่านวิปัสสนาปัญญาขั้นภังคญาณ
หรือภังคานุปัสสนาญาณแล้ว
จะได้รับอานิสง ๘ ประการ คือ

๑. ละความใคร่ในภพต่าง ๆ เพราะรู้แล้วว่าไม่ใช่ความสุข

๒. ละความใคร่ในชีวิต เพราะเห็นแล้วว่าชีวิตเป็นไปเพื่อทุกข์และการแก้ไขเท่านั้น

๓. หมั่นประกอบความเพียร เพื่อจะได้พ้นจากทุกข์

๔ เลี้ยงชีพด้วยความบริสุทธิ์ ถูกต้องตามพระธรรมวินัย

๕. ไม่ขวนขวายในทางที่ผิด ให้ผิดไปจากพระธรรมวินัย

๖. มีความกล้าหาญ ไม่ยอมผิดศีล ไม่เกรงกลัวต่อสิ่งที่จะทำให้เสียศีลธรรม

๗. มีขันติอดทน ไม่เป็นไปกับกิเลสของคนอื่น เป็นคนสอนง่าย เลี้ยงง่าย ไม่ดื้อรั้น

๘. อดกลั้นต่อความยินดียินร้ายไม่ตอบสนองกิเลสของตนเองในอารมณ์ต่างๆ โดยผิดทาง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 มิ.ย. 2017, 07:27 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ธรรมมา เขียน:
อานิสงส์ที่จัดอยู่ในวิสุทธิข้อนี้
โดยเฉพาะผู้ที่ผ่านวิปัสสนาปัญญาขั้นภังคญาณ
หรือภังคานุปัสสนาญาณแล้ว
จะได้รับอานิสง ๘ ประการ คือ

๑. ละความใคร่ในภพต่าง ๆ เพราะรู้แล้วว่าไม่ใช่ความสุข

๒. ละความใคร่ในชีวิต เพราะเห็นแล้วว่าชีวิตเป็นไปเพื่อทุกข์และการแก้ไขเท่านั้น

๓. หมั่นประกอบความเพียร เพื่อจะได้พ้นจากทุกข์

๔ เลี้ยงชีพด้วยความบริสุทธิ์ ถูกต้องตามพระธรรมวินัย

๕. ไม่ขวนขวายในทางที่ผิด ให้ผิดไปจากพระธรรมวินัย

๖. มีความกล้าหาญ ไม่ยอมผิดศีล ไม่เกรงกลัวต่อสิ่งที่จะทำให้เสียศีลธรรม

๗. มีขันติอดทน ไม่เป็นไปกับกิเลสของคนอื่น เป็นคนสอนง่าย เลี้ยงง่าย ไม่ดื้อรั้น

๘. อดกลั้นต่อความยินดียินร้ายไม่ตอบสนองกิเลสของตนเองในอารมณ์ต่างๆ โดยผิดทาง


ข้อที่ 1 และ 2 ที่ว่า..ละความใคร่ในภพ...ละความใคร่ในชีวิต...จะเรียกว่า..ละ...ซะทีเดียวก็ไม่น่าจะถูก...เพราะอาจมีความเข้าใจว่า..ละขาด...

แต่ถ้า...เข้าใจว่า..ละได้ชั่วคราวขณะที่อยู่ในอารมณ์ญาณนั้น...จะถูกกว่า....หากใช้คำว่า.."หน่าย"..น่าจะใกล้เคียงความเป็นจริงกว่า...ครับ..


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 มิ.ย. 2017, 09:18 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ก.พ. 2013, 19:24
โพสต์: 300

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คุณกบ
มันอาจเป็นเพียงเหมือนกินข้าวอยู่
แต่มันใกล้จะอิ่มแล้ว ไม่อยากกินอีกแล้ว
แต่ก็ยังกินอยู่ครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 มิ.ย. 2017, 15:15 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ภังคา....ยังไม่ใกล้อิ่มหรอกครับ...

ยัง...อีกเยอะ..


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 มิ.ย. 2017, 06:51 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ก.พ. 2013, 19:24
โพสต์: 300

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คุณธรรมทั้ง ๘ ประการนี้ เป็นอานิสงส์
อันเนื่องมาจากปัญญาของผู้ปฏิบัติที่เข้าถึง
ภังคานุปัสสนาญาณดังกล่าว อาศัยคุณธรรมเหล่านี้

เป็นปัจจัยให้บรรลุถึงธรรมที่ดับทุกข์
ถ้าผู้ใดยังไม่ได้รับอานิสงส์นี้แล้ว ก็ยากจะดำเนิน
ถึงพระนิพพานได้ อานิสงดังกล่าวมิใช่เกิดจากทาน

หรือจากศีล หรือจากสมาธิ แต่จะต้องได้มาจาก
เเหตุโดยตรง คือ จากวิปัสสนาเท่านั้น

จะเห็นว่า วิปัสสนาญาณแต่ละลักษณะ
ทำให้เกิดวิสุทธิได้ไม่เท่ากัน ทั้งนี้ก็เพราะญาณปัญญา
แต่ละข้อมีอำนาจไม่เท่ากันนั่นเอง

วิปัสสนาบางข้อก็มีอำนาจให้เกิดวิสุทธิได้เต็มข้อ เช่น
นาม-รูปปริจเฉทญาณ ทำให้เกิดทิฎฐิวิสุทธิเต็ม
ปัจจยปริคหญาณ ทำให้เกิดกังขาวิตรณวิสุทธิ

ส่วนอุทยัพพยญาณที่ยังมีวิปัสสนูปกิเลสจัดอยู่
ในขั้นมัคคามัคคญาณทัสสนวิสุทธิ

ถ้าปราศจากวิปัสสนูปกิเลสจะจัดอยู่ในขั้น
ปฏิปทาญาณทัสสนวิสุทธิ เป็นต้น แต่วิปัสสนาบางข้อ
ต้องรวมกันหลายข้อ จึงจะสามารถ ทำให้เกิดวิสุทธิได้
เพียงข้อเดียว เช่น อุทยัพพยญาณส่วนหลัง

จนถึงโคตรภูญาณ รวม ๑๐ ญาณ ทำให้เกิด
ปฏิปทาญาณทัสนวิสุทธิ เพียงข้อเดียว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 มิ.ย. 2017, 06:38 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ก.พ. 2013, 19:24
โพสต์: 300

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


๗. ญาณทัสสนวิสุทธิ

คือ ปัญญาในมัคคญาณที่เห็นแจ้งพระนิพพนาน
เป็นปัญญาขั้นสูงสุดของการเจริญวิปัสสนา
หรือเจริญมหาสติปัฏฐาน จนเห็นอริยสัจจ์ทั้ง ๔ ครบถ้วน
ตั้งแต่วิสุทธิที่ ๑ ถึงวิสุทธิที่ ๖ นั้น

รู้อริยสัจจ์เพียง ๒ สัจจะ คือ รู้ทุกข์สัจจ์กับสมุทัยสัจจ์
ส่วนญาณทัสสนวิสุทธิเป็นโลกุตตรวิสุทธิ
เพราะรู้แจ้งอริยสัจจ์ครบทั้ง ๔

ทั้งนี้วิสุทธิแต่ละวิสุทธิจะเป็นปัจจัยแก่กันและกันตามลำดับ
ไม่มีการข้ามขั้นตั้งแต่วิสุทธิที่๑ ถึงวิสุทธิที่ ๗

คำสอนในพระพุทธศาสนานั้นมีพระพุทธประสงค์
ก็เพื่อให้สัตว์ทั้งหลายเข้าถึงปัญญาที่เชื่อว่า
ญาณทัสสนวิสุทธิเท่านั้น และธรรมทั้งหลายในคำสอน
ก็สงเคราะห์อยู่ในอริยสัจจ์ทั้งหมด


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 21 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร