วันเวลาปัจจุบัน 21 ก.ค. 2025, 20:32  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 52 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ก.ย. 2012, 16:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
bigtoo เขียน:

นี่แหล่ะครับที่คนมักจะกลัวกันแล้วบอกว่าเป็นอัตตกิละ มันไม่ใช่การทรมานตนหรอกครับคนละเรื่องกันไม่ใช่การไปนั่งบนตะปู ยืนกินแดดกิรลม แช่น้ำอะไรบ้าๆบ่อ ก็เลยไม่เจอของดี และส่นนี้เป็นส่วนที่ผมปฎิบัติเอง ไม่เกี่ยวกับการสอนของสำนักปฎิบัติใดๆ มันเป็นการที่เราสงสัยขึ้นมาในใจเอง เลยหายสงสัยทั้งหมดทั้งสิ้นเดินหน้าลุย ไม่มีกิจไหนให้น่าธรรมยิ่งกว่าการเดินออกจากวัฎฎะสงสาร .บทอธิฐานความเพียรอีกพระองค์แสดงเพื่ออะไรภิกษุ ท ! เรายังรู้สึกได้อยู่ซึ่งธรรม ๒ อย่าง คือความไม่รู้จักอิ่ม จักพอ (สันโดษ) ในกุศลธรรมทั้งหลาย และ ความเป็นผู้ไม่ถอยกลับ(อัปปฏิวานี)ในการทำ ความเพียร.

ภิกษุ ท ! เราย่อมตั้งไว้ซึ่งความเพียรอันไม่ถอยกลับ (ด้วยการ อธิษฐานจิต) ว่า "จงเหลืออยู่แต่หนัง เอ็น กระดูกเท่านั้น, เนื้อและเลือดในสรีระจงเหือดแห้งไป; ประโยชน์ใด อันบุคคลจะบรรลุได้ด้วยกำลัง ด้วยความเพียร ด้วยความบากบั่น ของบุรุษ, ยังไม่บรรลุประโยชน์นั้นแล้ว จักหยุดความเพียรเสีย เป็นไม่มี" ดังนี้
ภิกษุ ท ! การตรัสรู้เป็นสิ่งที่เราถึงทับแล้วด้วยความไม่ประมาท อนุตตรโยคักเขมธรรม ก็เป็น สิ่งที่เราถึงทับแล้วด้วยความไม่ประมาท.
ภิกษุ ท ! ถ้าแม้พวกเธอ พึงตั้งไว้ซึ่งความเพียรอันไม่ถอยกลับ (ด้วยการอธิ ฐานจิต)ว่า "จงเหลืออยู่แต่หนัง เอ็น กระดูกเท่านั้น, เนื้อและเลือดในสรีระจงเหือด แห้งไป; ประโยชน์ใด อันบุคคลจะบรรลุได้ด้วยกำลัง ด้วยความเพียร ด้วยความบาก บั่น ของบุรุษ, ยังไม่บรรลุประโยชน์นั้นแล้วจักหยุดความเพียรเสีย เป็นไม่มี" ดังนี้ แล้วไซร้;

ภิกษุ ท ! พวกเธอก็จักกระทำให้แจ้งด้วยปัญญาอันยิ่งเอง ซึ่งที่สุดแห่ง พรหมจรรย์ อันไม่มีอะไรอื่นยิ่งกว่า อันเป็นประโยชน์ที่ต้องการของกุลบุตรผู้ออก บวชจากเรือนเป็นผู้ไม่มีเรือนโดยชอบ, ได้ต่อกาลไม่นานในทิฏฐธรรม เข้าถึงแล้ว แลอยู่ เป็นแน่นอน.


ผู้อ่านพระสูตรสำนวนนี้ แล้วก็อ่านมุมเดียวแล้วยึดเป็นหลักปฏิบัติเลย ก้มหน้าก้มตาเอาเป็นเอาตายทำหงุดๆ บีบคั้นตนเอง เพื่อที่จะเป็นเหมือนสุตรนั้น
น้อง big ไปอ่านสูตรที่พระโสณะเดินจงกรมจนเท้าแตก แล้วพระพุทธเจ้าแนะนำบ้างดิ คำสอนมีหลายด้านหลายมุมดูให้ถ้วนทั่ว

พระสูตรที่นำมาเนี่ย หมายถึงผู้ที่ปฏิบัติจนเห็นทางรู้ทางแล้ว เหมือนคนเห็นแสงสว่าง่ที่ปลายอุโมงค์แล้ว อย่างพระโพธิสัตว์คืนวันตรัสรู้ฉะนั้น ยังงี้ได้ตายเป็นตายได้

เทียบกับน้อง big ยังไม่รู้เหนือรู้ใต้ตะวันออกตะวันตกเลย ดันสะแระ :b32: นีก็เป็นอัตตกิลมถานุโยคชนิดหนึ่ง มิใช่นอนบนหนาม-บนตะปูเท่านั้น เข้าใจมั้ย
ภิกษุ ท ! ถ้าแม้พวกเธอ พึงตั้งไว้ซึ่งความเพียรอันไม่ถอยกลับ (ด้วยการอธิ ฐานจิต)ว่า "จงเหลืออยู่แต่หนัง เอ็น กระดูกเท่านั้น, เนื้อและเลือดในสรีระจงเหือด แห้งไป; ประโยชน์ใด อันบุคคลจะบรรลุได้ด้วยกำลัง ด้วยความเพียร ด้วยความบาก บั่น ของบุรุษ, ยังไม่บรรลุประโยชน์นั้นแล้วจักหยุดความเพียรเสีย เป็นไม่มี" ดังนี้ แล้วไซร้;
ภิกษุ ท ! พวกเธอก็จักกระทำให้แจ้งด้วยปัญญาอันยิ่งเอง ซึ่งที่สุดแห่ง พรหมจรรย์ อันไม่มีอะไรอื่นยิ่งกว่า อันเป็นประโยชน์ที่ต้องการของกุลบุตรผู้ออก บวชจากเรือนเป็นผู้ไม่มีเรือนโดยชอบ, ได้ต่อกาลไม่นานในทิฏฐธรรม เข้าถึงแล้ว แลอยู่ เป็นแน่นอน.
มันครับอยู่ตรงนี้แล้วไม่ว่าจะอริยบทไหนต้องเพียรอย่างหนักครับ และอย่างที่ว่านั้นแบบสบายๆมันพึ่งหัดเดิน พอถึงจุดนี้ก็ต้องลงมือลุยครับ ส่วนคนที่บรรลุไวด้วยการฟังเขาลุยหนักมาแล้วในอดีตแต่ปัญญาไม่เคยรับรู้เรื่องอริสัจสี่พอรับรู้ก็บรรลุเลย อย่างเราๆท่านฟังให้ตายก็ไม่บรรลุหรอกครับถ้าบรรลุมันบรรลุไปนานแล้ว ซิบอกให้ ดูตัวหนังสือดำใหญ่ท่านสอนใคร

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ก.ย. 2012, 16:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




54498d4a82e6eaf1fa88e1aa892edab6.gif
54498d4a82e6eaf1fa88e1aa892edab6.gif [ 325.17 KiB | เปิดดู 2755 ครั้ง ]
จะเล่านิทานให้ฟัง :b38:

นายช่างสั่งเด็กฝึกงานให้เจาะไม้ เอ็งเจาะไม้นี่ให้ทะลุนะ โน้นสว่าน โน้นไม้ :b4:

ครับผม เด็กฝึกงานรับคำ :b1:

เด็กต้องการโชว์พาวให้เจ้านายเห็น หยิบดอกสว่านใส่ได้ก็ไม่ฟังอิร้าค่าอิรม เสียบไฟได้จิ้มพรวดๆเข้าไปให้
เป็นไง? ถามได้ ดอกสว่านหักดิ เขาเพียรทำเพียรเจาะอยู่นั้นเป็นเวลานาน ดอกสว่านหักไป 3-4 ดอก ไม้ก็ไม่ทะลุ ดอกสว่านก็หักเสียหาย เขายืนบาดเหงือ :b5:

เจ้านายมาเห็นจึงเบิร์ดกะโหลกเข้าให้ที :b33:
เอ็งจะเจาะก็เลือกเอาดอกสว่านที่พอเหมาะพอดีกับไม้ ในขณะที่เอ็งเจาะเอ็งไช ก็ต้องสังเกต ผ่อนหนักผ่อนเบา อย่าดันอย่าใช้แต่กำลังเข้าทุ้ม (อย่าทำเป็นย่าโมออกศึก) เข้าใจมั้ยหือ เจาะไปกดบ้างดึงขึ้นบ้าง สังเกตดู เมื่อใกล้ทะลุแล้ว เอ็งจะดันก็ได้ ทำแบบนี้งานก็สำเร็จ ดอกสว่านก็ไม่หัก เข้าใจไหม เด๋วพั้ด :b1:

การปฏิบัติธรรมหรือปฏิบัติกรรมฐานเพื่อกำจัดกิเลส ยากครับ ไม่ใช่เรื่องง่าย ถ้ายังไม่เห็นทางขืนดันทุรังเอากำลังเข้าทุ้ม ผลเสียเกิดขึ้นแก่ร่างกายและจิตใจตนเองในระยะยาว :b28:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ก.ย. 2012, 16:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


[quote="กรัชกาย"][quote="bigtoo"]

[/quote]พี่กายจะอยู่เที่ยวในวัฎฎะอีกหน่อยก็ไม่มีใครว่าหรอกครับ ผมไม่เอาด้วยแล้วนานๆจะได้เกิดมาฉลาดอย่างนี้สักทีโงมาเยอะแย๊ว ขอไปก่อนนะ เดียวผมไปรออยู่ที่บนโน้นก่อนจะได้หัวเราะสบายใจ

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ก.ย. 2012, 16:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
จะเล่านิทานให้ฟัง :b38:

นายช่างสั่งเด็กฝึกงานให้เจาะไม้ เอ็งเจาะไม้นี่ให้ทะลุนะ โน้นสว่าน โน้นไม้ :b4:

ครับผม เด็กฝึกงานรับคำ :b1:

เด็กต้องการโชว์พาวให้เจ้านายเห็น หยิบดอกสว่านใส่ได้ก็ไม่ฟังอิร้าค่าอิรม เสียบไฟได้จิ้มพรวดๆเข้าไปให้
เป็นไง? ถามได้ ดอกสว่านหักดิ เขาเพียรทำเพียรเจาะอยู่นั้นเป็นเวลานาน ดอกสว่านหักไป 3-4 ดอก ไม้ก็ไม่ทะลุ ดอกสว่านก็หักเสียหาย เขายืนบาดเหงือ :b5:

เจ้านายมาเห็นจึงเบิร์ดกะโหลกเข้าให้ที :b33:
เอ็งจะเจาะก็เลือกเอาดอกสว่านที่พอเหมาะพอดีกับไม้ ในขณะที่เอ็งเจาะเอ็งไช ก็ต้องสังเกต ผ่อนหนักผ่อนเบา อย่าดันอย่าใช้แต่กำลังเข้าทุ้ม (อย่าทำเป็นย่าโมออกศึก) เข้าใจมั้ยหือ เจาะไปกดบ้างดึงขึ้นบ้าง สังเกตดู เมื่อใกล้ทะลุแล้ว เอ็งจะดันก็ได้ ทำแบบนี้งานก็สำเร็จ ดอกสว่านก็ไม่หัก เข้าใจไหม เด๋วพั้ด :b1:

การปฏิบัติธรรมหรือปฏิบัติกรรมฐานเพื่อกำจัดกิเลส ยากครับ ไม่ใช่เรื่องง่าย ถ้ายังไม่เห็นทางขืนดันทุรังเอากำลังเข้าทุ้ม ผลเสียเกิดขึ้นแก่ร่างกายและจิตใจตนเองในระยะยาว :b28:
ผมเข้าใจมันถึงมีบัวสี่เหล่าไงพี่ แต่อย่าประมาทในอรรถในธรรมจนกลายเป็น ไม่มีความเพียรอะไรเลย ปล่อยวางเสียจนผิดทางไปก็เท่านั้น

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ก.ย. 2012, 17:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


bigtoo เขียน:

พี่กายจะอยู่เที่ยวในวัฎฎะอีกหน่อยก็ไม่มีใครว่าหรอกครับ ผมไม่เอาด้วยแล้วนานๆจะได้เกิดมาฉลาดอย่างนี้สักทีโงมาเยอะแย๊ว ขอไปก่อนนะ เดียวผมไปรออยู่ที่บนโน้นก่อนจะได้หัวเราะสบายใจ



วัฏฏะอีก อะไรหรอวัฏฏะ บอกมั่งฮี่


คุยกับนักธรรมไม่เอายังงี้ จะเอายังโง้น :b12:

คุยกับหนุ่มสาวแช่มชื่นเบิกบาน
คุยกับสมภารทะยานเหิรฟ้า
คุยกับพ่อค้าอายุยืนหมื่นๆปี
คุยกับยายชีตายวันตายคืน

ครั้งก่อนไม่ได้ขยายความ แต่ทีนี่จะขยายความสะหน่อย
นักธรรมบ้านเราเนีย ทิ้งอารมณ์ปัจจุบัน จะหนีจากปัจจุบันอารมณ์ว่างั้นเถอะ ชะเง้อชะแง้แลหาแต่อารมณ์ (สิ่ง) ที่เป็นอนาคตที่ยังไม่มีไม่มา นี่นักธรรมบ้านเราเป็นงี้ จึงว่า "คุยกับนักธรรมไม่เอายังงี้ จะเอายังโง้น"

คนวัยหนุ่มวัยสาว มีแต่โลกสีชมพู ร่าเริงสดใส ไม่มีเรื่องคิดเรื่องเครียด อารมณ์สดใสเบิกบาน ได้คุยด้วย...ก็ร้องเพลงพี่ยังไม่แก่หรอกน้องเอ๋ย :b32:

ได้คุยกับสมภารเจ้าวัด ก็เหมือนอยู่บนโลกแห่งจินตนาการ คือ ท่านชวนสร้างโบสถ์สร้างวิหาร ฯลฯ ว่าแล้วจะได้ไปสวรรค์

คุยกับพ่อค้า ก็ว่าปีหน้าปีโน้น อีกห้าปี อีกสิบปี อีกสามสิบปี ฯลฯ จะไปลงทุนที่เวียตนาม ที่เขมร ที่ลาว ลงทุนสองสามพันล้าน...นี่อีกสามปีประตูเปิดอาเซียนจะเปิดให้ค้าขายกันอย่างเสรี พูดเหมือนว่าชีวิตเป็นอมตะ

คุยแม่ชี ซึ่งก็อายุเจ็ดแปดสิบแล้ว จะลุกก็โอย จะนั่งก็โอย เหมือนดอกไม้โรยไม่มีเกสร พูดแต่เรื่องตาย ๆ จึงว่า "คุยกับยายชีตายวันตายคืน"

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ก.ย. 2012, 17:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


ส่วนสติปัฎฐานสี่นั้นเป็นข้อปฎิบัติเพื่อให้เกิดสัมมาสติเรื่องของการปฎิบัติโดยตรงสร้างสิตให้มีกำลังเพื่อให้สมาธิบริบูรณ์ปัญญาบริบูรณ์ จนเป็นสัมมาทิฎฐิที่แท้จริงคือเห็นอนิจัง ทุกขัง อนัตตาที่แท้จริงเป็นอริยบุคคลขั้นต้นขึ้นไป จนถึงโพชฌงค์บริบูรณ์ เสร็จกิจ ทั้งหมด กัตตญาณก็จะปรากฎขึ้นมาในใจ
ฉะนั้น กิจจะญาณคือหน้าที่สำคัญที่สุด สติปัฎฐานก็อยู่ในมรรค มรรคก็อยู่ในกิจญาณ

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


แก้ไขล่าสุดโดย bigtoo เมื่อ 11 ก.ย. 2012, 17:30, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ก.ย. 2012, 17:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


bigtoo เขียน:


ผมเข้าใจมันถึงมีบัวสี่เหล่าไงพี่ แต่อย่าประมาทในอรรถในธรรมจนกลายเป็น ไม่มีความเพียรอะไรเลย ปล่อยวางเสียจนผิดทางไปก็เท่านั้น


ที่ว่าปฏิบัติธรรมๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ก็อย่าเพิ่งว่าใจว่าเป็นธรรม อาจผิดทางก็ได้ อันนี้ก็ต้องสอบสวนทวนความให้ท่องแท้ เดี๋ยวจะเรียกหาแม่

http://atcloud.com/stories/78176

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ก.ย. 2012, 17:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
bigtoo เขียน:

พี่กายจะอยู่เที่ยวในวัฎฎะอีกหน่อยก็ไม่มีใครว่าหรอกครับ ผมไม่เอาด้วยแล้วนานๆจะได้เกิดมาฉลาดอย่างนี้สักทีโงมาเยอะแย๊ว ขอไปก่อนนะ เดียวผมไปรออยู่ที่บนโน้นก่อนจะได้หัวเราะสบายใจ



วัฏฏะอีก อะไรหรอวัฏฏะ บอกมั่งฮี่


คุยกับนักธรรมไม่เอายังงี้ จะเอายังโง้น :b12:

คุยกับหนุ่มสาวแช่มชื่นเบิกบาน
คุยกับสมภารทะยานเหิรฟ้า
คุยกับพ่อค้าอายุยืนหมื่นๆปี
คุยกับยายชีตายวันตายคืน

ครั้งก่อนไม่ได้ขยายความ แต่ทีนี่จะขยายความสะหน่อย
นักธรรมบ้านเราเนีย ทิ้งอารมณ์ปัจจุบัน จะหนีจากปัจจุบันอารมณ์ว่างั้นเถอะ ชะเง้อชะแง้แลหาแต่อารมณ์ (สิ่ง) ที่เป็นอนาคตที่ยังไม่มีไม่มา นี่นักธรรมบ้านเราเป็นงี้ จึงว่า "คุยกับนักธรรมไม่เอายังงี้ จะเอายังโง้น"

คนวัยหนุ่มวัยสาว มีแต่โลกสีชมพู ร่าเริงสดใส ไม่มีเรื่องคิดเรื่องเครียด อารมณ์สดใสเบิกบาน ได้คุยด้วย...ก็ร้องเพลงพี่ยังไม่แก่หรอกน้องเอ๋ย :b32:

ได้คุยกับสมภารเจ้าวัด ก็เหมือนอยู่บนโลกแห่งจินตนาการ คือ ท่านชวนสร้างโบสถ์สร้างวิหาร ฯลฯ ว่าแล้วจะได้ไปสวรรค์

คุยกับพ่อค้า ก็ว่าปีหน้าปีโน้น อีกห้าปี อีกสิบปี อีกสามสิบปี ฯลฯ จะไปลงทุนที่เวียตนาม ที่เขมร ที่ลาว ลงทุนสองสามพันล้าน...นี่อีกสามปีประตูเปิดอาเซียนจะเปิดให้ค้าขายกันอย่างเสรี พูดเหมือนว่าชีวิตเป็นอมตะ

คุยแม่ชี ซึ่งก็อายุเจ็ดแปดสิบแล้ว จะลุกก็โอย จะนั่งก็โอย เหมือนดอกไม้โรยไม่มีเกสร พูดแต่เรื่องตาย ๆ จึงว่า "คุยกับยายชีตายวันตายคืน"
เอาตอบง่ายๆนะ สาระวนไม่รู้จักจบจักสิ้น
และเรื่องนักปฎิบัติธรรมเอาอย่างนี้อย่างโน้นมันไม่ใช่ผม แต่ถ้าฉลาดหาความพอดีให้ตัวเองนะผมครับ คือสัปปายะ7ไง

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


แก้ไขล่าสุดโดย bigtoo เมื่อ 11 ก.ย. 2012, 18:00, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ก.ย. 2012, 17:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
bigtoo เขียน:


ผมเข้าใจมันถึงมีบัวสี่เหล่าไงพี่ แต่อย่าประมาทในอรรถในธรรมจนกลายเป็น ไม่มีความเพียรอะไรเลย ปล่อยวางเสียจนผิดทางไปก็เท่านั้น


ที่ว่าปฏิบัติธรรมๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ก็อย่าเพิ่งว่าใจว่าเป็นธรรม อาจผิดทางก็ได้ อันนี้ก็ต้องสอบสวนทวนความให้ท่องแท้ เดี๋ยวจะเรียกหาแม่

http://atcloud.com/stories/78176
ผมไม่เคยประมาทหรอกครับ ผมถึงต้องการเดินทางนี้ตามรอยเท้าพระพุทธองค์ไง

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ก.ย. 2012, 17:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


bigtoo เขียน:
ส่วนสติปัฎฐานสี่นั้นเป็นข้อปฎิบัติเพื่อให้เกิดสัมมาสติเรื่องของการปฎิบัติโดยตรงสร้างสิตให้มีกำลังเพื่อให้สมาธิบริบูรณ์ปัญญาบริบูรณ์ จนเป็นสัมมาทิฎฐิที่แท้จริงคือเห็นอนิจัง ทุกขัง อนัตตาที่แท้จริงเป็นอริยบุคคลขั้นต้นขึ้นไป จนถึงโพชฌงค์บริบูรณ์ เสร็จกิจ ทั้งหมด กัตตญาณก็จะปรากฎขึ้นมาในใจ
ฉะนั้น กิจจะญาณคือหน้าที่สำคัญที่สุด




อ้าวไปสติปัฏฐานสี่อีก น้องbig จะพากายไปไหนนักเนีย เขาเหนี่อยนะ :b1:


วัฏฏะน่ะอะไรอยู่ไหน บอกบ้างฮี่ จะได้ตามไปถูก :b8:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ก.ย. 2012, 17:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
bigtoo เขียน:
ส่วนสติปัฎฐานสี่นั้นเป็นข้อปฎิบัติเพื่อให้เกิดสัมมาสติเรื่องของการปฎิบัติโดยตรงสร้างสิตให้มีกำลังเพื่อให้สมาธิบริบูรณ์ปัญญาบริบูรณ์ จนเป็นสัมมาทิฎฐิที่แท้จริงคือเห็นอนิจัง ทุกขัง อนัตตาที่แท้จริงเป็นอริยบุคคลขั้นต้นขึ้นไป จนถึงโพชฌงค์บริบูรณ์ เสร็จกิจ ทั้งหมด กัตตญาณก็จะปรากฎขึ้นมาในใจ
ฉะนั้น กิจจะญาณคือหน้าที่สำคัญที่สุด




อ้าวไปสติปัฏฐานสี่อีก น้องbig จะพากายไปไหนนักเนีย เขาเหนี่อยนะ :b1:


วัฏฏะน่ะอะไรอยู่ไหน บอกบ้างฮี่ จะได้ตามไปถูก :b8:
เปล่าเอาไว้ให้ท่านอื่นอ่าน

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ก.ย. 2012, 17:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โอ๊ย เหนื่อย แวะข้างทางดื่มกาแฟฟังเพลงก่อน :b12:



.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ก.ย. 2012, 17:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
โอ๊ย เหนื่อย แวะข้างทางดื่มกาแฟฟังเพลงก่อน :b12:
]
ผมชอบฟังเพลงนี้http://www.youtube.com/watch?v=rFpTiUW0rzY

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ก.ย. 2012, 18:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ลิงค์ อริยสัจ ๔

http://fws.cc/whatisnippana/index.php?t ... n#msg16035

ที่น่าสนใจ (อริยสัจกับปฏิจจสมุปบาท)

ว่าที่จริงหลักธรรมใหญ่ทั้งหมดเป็นหลักเดียว แต่ที่ท่านแยกแสดงก็เพื่อให้เห็นแง่มุมของธรรมข้อนั้น ชุดนั้น

รวมแล้วก็อยู่ที่ชีวิตซึ่งเป็นธรรมชาติ ที่สมมติเรียกว่าคน คนหนึ่งๆนี่

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ก.ย. 2012, 18:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




imagesCAIJ240B.jpg
imagesCAIJ240B.jpg [ 7.99 KiB | เปิดดู 2728 ครั้ง ]
กรัชกาย เขียน:
เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มก็เป็นกิเลสนะ คือ แสดงว่าคนนุ่งห่มเสื้อผ้ายังมีอายอยู่



ยังมีอายอยู่ก็ยังมีกิเลสอยู่ น้องgig ใส่เสื้อนุ่งกางเกง แสดงว่ายังมีกิเลสอยู่ ยังไม่หมดกิเลส ถูกไหมครับ :b14:

ต้องคนขวามือ หมดกิเลสแล้ว ผู้เดินตามใส่เสื้อผ้า ยอมตัวเป็นศิษย์เลยเห็นป่ะ :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/
แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 52 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร