http://www.naewna.com/local/159150

..........................
21 พ.ค. 58 นายชูชาติ ศรีแสง อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว "Chuchart Srisaeng" แสดงความคิดเห็นต่อกรณีสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชน (UNHCR) เรียกร้องให้ประเทศไทยจัดตั้งศูนย์พักพิงให้แก่ชาวโรฮีนจา โดยได้ยกกรณีการประชุมวางมาตรการป้องกันผู้ลี้ภัยสงครามในลิเบียของสหภาพยุโรปหรืออียูมาเปรียบเทียบ

นอกจากนี้ นายชูชาติ ยังได้ยกนิทานอีสปเรื่อง "ชาวนากับงูเห่า" ขึ้นมาเตือนสติคนไทยบางกลุ่มที่หลงเชื่อคารมของต่างชาติ

ระบุข้อความดังนี้

.....ขณะที่สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติหรือยูเอ็นเอชซีอาร์พยายามบีบให้ประเทศไทย จัดตั้งศูนย์พักพิงให้แก่ชาวโรฮินยา
.....สหภาพยุโรปหรืออียูก็ประชุมกันวางมาตรการป้องกันไม่ให้ผู้หลบหนีภัยสงครามในลิเบียเดินทางเข้าไปในประเทศในอียู
.....สงครามในลิเบียเกิดมาจากสหรัฐอเมริกาและประเทศกลุ่มนาโต้ซึ่งส่วนใหญ่ก็คือประเทศในกลุ่มอียู ต้องการกำจัดพันเอกกัดดาฟี่ ผู้นำลิเบียที่ขัดขวางไม่ให้ประเทศตะวันตกเข้าไปแสวงหาประโยชน์จากน้ำมันในลิเบีย
.....สหรัฐอเมริกาและกลุ่มประเทศนาโต้จัดตั้งกลุ่มคนลิเบียขึ้นมาต่อต้านพันเอกกัดดาฟี่ ส่งอาวุธยุทธปกรณ์ไปให้ และเมื่อเหตุการณ์สุกงอมก็ส่งทหารเข้าไปช่วยและใช้เครื่องบินทิ้งระเบิดใส่ที่มั่นทางทหารของลิเบียด้วย
.....เมื่อพันเอกกัดดาฟี่ถึงแก่ความตายและมีรัฐบาลใหม่ขึ้นมาแล้ว แต่ในลิเบียยังมีการสู้รบกันตลอดมาจนถึงปัจจุบัน
.....ชาวลิเบียต้องหนีตายจากภัยสงครามในประเทศที่เกิดจากการกระทำของสหรัฐอเมริกาและประเทศในกลุ่มนาโต้ และประเทศอียูมีมาตรการป้องกันไม่ให้เข้าประเทศ ถึงกับให้ฝ่ายทหารทำลายเรือที่จะนำผู้หนีตายเหล่านี้เข้าประเทศอียู
.....แต่ไม่ปรากฎข่าวว่า ยูเอ็นเอชซีอาร์ ได้ดำเนินการอะไรเพื่อช่วยเหลือผู้อพยพหนีตายชาวลิเบียแต่อย่างใด
.....ชาวโรฮินยาที่เดินทางออกมาทั้งจากบังคลาเทศและเมียนมาโดยที่ไม่ภัยสงครามหรือภัยใดๆ ที่ทำให้เขาไม่มีความปลอดภัยเฉกเช่นชาวลิเบีย แต่เป็นเดินทางเพื่อแสวงหาการดำรงชีวิตที่ดีกว่าเดิมในประเทศอื่นๆ เท่านั้น.....แต่ยูเอ็นเอชซีอาร์ กลับเห็นเป็นเรื่องใหญ่ เป็นเรื่องสิทธิมนุษยชน เป็นเรื่องที่ต้องช่วยเหลือเพื่อมนุษยธรรม
.....นี่แหละคือสิ่งที่ฝรั่งชาวตะวันตกพยายามยัดเยียดให้คนทั่วโลกคล้อยตาม
.....น่าดีใจที่คนไทยส่วนใหญ่ไม่หลงกลของฝรั่งพวกนี้ รวมทั้งรัฐบาลชุดนี้ก็ไม่ทำตามที่เขาต้องการ
.....แต่ก็น่าเสียดายที่ยังมีคนไทยบางกลุ่มที่ิหลงเชื่อตามที่ฝรั่งป้อนข้อมูลให้และมองปัญหาแบบผิวเผินเห็นว่า การที่คนไทยส่วนใหญ่ไม่ยอมช่วยเหลือและรัฐบาลไม่ยอมตั้งศูนย์พักพิงให้แก่ชาวโรฮินยา เป็นเรื่องใจร้าย ไม่มีเมตตาธรรม
.....ผู้ที่เคยอ่านนิทานอีสป คงจะจำเรื่องชาวนากับงูเห่าได้ว่า ผลของการที่ชาวนาผู้มีเมตตาธรรมได้รับจากการช่วยเหลืองูเห่าคือ ถูกงูเห่ากัดตาย ครับ

.....................

http://www.naewna.com/local/158910

..........................
20 พ.ค.58 "อุ๊" ช่อผกา วิริยานนท์ พิธีกรและสื่อมวลชนชื่อดัง โพสต์ในเฟสบุ๊คส่วนตัว "ช่อผกา วิริยานนท์" ถึงการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชนต่อประเด็น "โรฮีนจา หรือ "โรฮิงญา" โดยระบุว่า ในฐานะ อดีตทีมข่าวของ ดร.สมเกียรติ อ่อนวิมล นักสื่อสารมวลชน ว่า การเป็นสื่อมวลชนที่ดี ต้องรายงานข้อมูล และข้อเท็จจริง อย่างเป็นธรรม ไม่ควรสอดแทรกความคิดเห็นส่วนตัว โดยเฉพาะเรื่องระหว่างประเทศ ซึ่งมีความซับซ้อน เปราะบาง เพราะหากไม่รู้จริง แล้วนำเสนอไป ไม่ใช่แค่กระทบแค่เรตติ้งเท่านั้น แต่ย่อมจะส่งผลกระทบต่อประเทศชาติอีกด้วย

กรณีกระแสถล่มสื่อ..เรื่องโรฮิงญา
ในฐานะที่เคยเป็นผู้สื่อข่าว
ในทีมข่าวของ ดร.สมเกียรติ อ่อนวิมล
เคยทำข่าวเจาะ ทำสกู๊ปข่าวมาแล้ว ทั้งในและต่างประเทศ
ขอย้ำว่า...บทบาทหน้าที่ของผู้สื่อข่าว
คือการรายงานข้อมูล และข้อเท็จจริง อย่างเป็นธรรมเท่านั้น
ไม่ควรสอดแทรกความคิดเห็นส่วนตัว แม้การรายงานข่าว อาจต้องมีการใส่สีตีไข่
แต่ทั้งหมดต้องไม่ล้ำเส้น
โดยเฉพาะข่าวที่เป็นเรื่องระหว่างประเทศ
เพราะมันมีบริบทที่ซับซ้อนมากมาย
คนเป็นสื่อจึงต้องหาความรู้อย่างมาก
หากยังไม่เก๋าพอ ภูมิรู้ยังไม่ถึง อาจจับประเด็นพลาดได้
ผลเสียไม่ใช่ rating ช่อง แต่คือประเทศชาติและประชาชน
เมื่อนักข่าว..เจอข่าวสะเทือนใจ
ในฐานะมนุษย์ เราสงสารเขาได้ สุดหัวใจ
แต่ในขณะสวมหมวกสื่อ
ปาดน้ำตาให้แห้งก่อน แล้วค่อยถ่ายคิวปิดนะ
ถอดหมวกปิดกล้องแล้ว จึงค่อยเอาดราม่าไปโพสท์ส่วนตัวค่ะ
.............................

http://www.naewna.com/local/158904
................
20 พ.ค. 58 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในโลกสังคมออนไลน์ขณะนี้มีการแชร์ข้อความพร้อมรูปภาพจากผู้ใช้เฟซบุ๊คชื่อ "Jakkrit Parito" กันเป็นจำนวนมาก ซึ่งขณะนี้มียอดผู้แชร์ไปแล้วกว่า 25,658 ครั้ง โดยผู้ใช้เฟซบุ๊ครายดังกล่าวเป็นแพทย์ จากโรงพยาบาลสกลนคร ซึ่งเขาได้เขียนข้อความถึงน.ส.ฐปณีย์ เอียดศรีไชย ผู้สื่อข่าวสามมิติ เกี่ยวกับการนำเสนอข่าวชาวโรฮีนจา โดยระบุข้อความว่า

"คืนนี้ ผ่าสมอง เด็กหญิง อายุ 4 ปี คนไทย 100 % อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ‪ ‎ท่ายาก‬ ‪นอนคว่ำ‬ ‪‎เลือดออกcerebellum‬ ‎โอกาสเสียชีวิตสูงมาก‬ ‎ขอให้น้องรอดปลอดภัยครับ‬ ประเด็นคือ คนไข้ยากไร้ในประเทศไทย ที่เป็นคนไทยจริงๆ เยอะมากๆ และโรงพยาบาลที่ติดชายแดน อย่างผม ต้องรับรักษาคนไข้ ข้ามฝั่งมาจาก ‪ฝั่งลาว‬ เยอะพอสมควร ตามหลักมนุษยชน‬ เราไม่เคยปฎิเสธ รักษา ผ่าตัดหมด ส่วนใหญ่เก็บเงินไม่ได้และขาดทุน‬ ‎โรงพยาบาลตามเขตชายแดนขาดทุนและเสียเงินไปมากขนาดไหน‬ ไม่มีใครทราบคนไทยไม่แล้งน้ำใจ‬ คนไทยเป็นชาติที่มีมนุษยธรรมสูงมาก‬

จริงๆแล้ว หาก‎คุณฐาปนีย์‬ รักในชาติไทย ควรจะสละ เวลาที่ทำข่าวโรฮิงญา‬ มาทำข่าวโรงพยาบาลในประเทศไทยรับรักษาคนไข้ต่างชาติที่ยากไร้‬จากลาว‬ ‎เขมร‬ ‪พม่า‬ หมดเงินซึ่งเป็นภาษีของคนไทยไปแต่ละปีมากขนาดไหน‬
....

................

จริง..จริง...คนไทยก็ยังใจดีอยู่หน่า...

สำหรับโรงพยาบาลในไทยนั้น อยากแสดงความเห็นว่า
ไม่แน่ใจว่า สภากาชาดไทยนั้น ขึ้นตรงต่อรัฐบาลไทยหรือเป็นองค์กรอิสระ โดยมีสมเด็จเป็นองค์อุปนายิกา โดยที่เห็นหลักๆคือ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โรงพยาบาลสมเด็จ ณ ศรีราชา และอื่นๆทั่วประเทศไทย กลับมีผลงานในการควบคุมและรักษาโรคได้ดีกว่าโรงพยาบาลของรัฐเองด้วยซ้ำ เพราะรัฐบาลไม่มีนโยบาลยกระดับการแพทย์ให้ก้าวหน้า แม้อยากจะให้ก้าวหน้าแต่ก็ไม่มีทุนให้ (เงินก็เยอะแยะ)

ไม่สามารถก้าวไปข้างหน้าด้วยการใช้เทคโนโลยีใหม่ทางโลก เช่นแผนที่แสดงเขตของไข้มาลาเลียด้วยการใส่ข้อมูลผ่านGIS รวมถึง google map อย่างชัดเจน จนนักเรียนนักศึกษาหรือองค์กรอนามัยไม่สามารถศึกษาข้อมูลที่ชัดเจนด้วยการค้นคว้าอย่างง่ายๆรวดเร็วทางอินเตอร์เนต แต่ต้องเสียเวลาค้นคว้า จังหวัดต่อจังหวัด อำเภอต่ออำเภอ เป็นตารางปีต่อปี อย่างนี้เป็นต้นในขณะที่ ประเทศอื่นสามารถดูข้อมูลผู้ป่วยด้วยโรคต่างๆผ่าน GIS ไปเลย

สำหรับการรัษาผู้ป่วยต่างๆ ไทยเราไม่ใช่ว่าพึ่งขาดทุน แต่เป็นมานานตั้งแต่สมัยปู่ย่า ตายายครับ

ปัญหาจึงขึ้นอยู่กับรัฐบาลที่ต้องสนใจพัฒนาอย่างเต็มที่ ไม่ปล่อยปะละเลยให้คนไทยดูแลกันเองตามมีตามเกิด

เรื่องหมอ..เรื่องโรค..เรื่องสุภาพระดับชาติ...เรื่องโรงพยาบาล...มีเยอะมาก....แต่เรื่องทั้งหมดมีต้นตอเดียวกัน....

โลก....มีต้นตอเดียวกัน...



เคยได้ยินมาว่า....

"ทรัพยากรบนโลกใบนี้มีเพียงพอสำหรับคนทุกคน แต่มีไม่เพียงพอสำหรับคนโลภแม้เพียงคนเดียว" มหาตมะ คานธี

ยิ่งตอนนี้..มีทรัพยากรให้ต้องหาเพิ่ม....คือ..ธนบัตร
ยิ่งบ้าไปใหญ่.....

โรฮีนจาฆ่ากันเอง!ตายกว่า 100 ชิงอาหารบนเรือ.


โรฮีนจาฆ่ากันเอง!ตายกว่า 100 ชิงอาหารบนเรือ....

ผู้รอดชีวิตซึ่งได้รับความช่วยเหลือจากทางการอินโดฯ เปิดเผยว่ามีการต่อสู้เพื่อแบ่งอาหารบนเรือจนเสียชีวิต บีบีซีเปิดเผยรายงานหลังจากได้มีโอกาสพูดคุยกับผู้รอดชีวิตชาวโรฮีนจา 3 รายที่อินโดนีเซียโดยทั้ง3 ระบุเหมือนกันว่า มีการฆ่ากันตายบนเรือ ทั้งการแทงกัน การแขวนคอ และโยนออกนอกเรือ เพื่อแย่งชิงอาหารกัน โดยมีผู้เสียชีวิตกว่า 100 คน ซึ่งหากเรื่องดังกล่าวเป็นความจริงก็จะเป็นการกดดันให้ชาติในเอเชียเร่งแก้ปัญหาดังกล่าว


อ่านต่อได้ที่ :

http://www.posttoday.com/รอบโลก/ข่าวรอบโลก/365556/โรฮีนจาฆ่ากันเอง-ตายกว่า-100-ชิงอาหารบนเรือ

เรื่องชาวโรฮิงญานั้นถ้าเรามองไปในทางเชิงวิทยาศาสตร์
แล้วตั้งคำถามไม่ต้องให้ลึกซึ้งเกินไปนัก อาจจะมองเห็นคล้อยตามได้ง่าย

ถามว่าชาวโรฮิงญาลอยเรือในทะเลมานานกว่า ๓ เดือน
๑. เขาอยู่กันอย่างแออัดอย่างนี้จะเกิน ๓ เดือนได้หรือ ถ้าหากไม่มีคนคอยช่วยเหลือ
๒. เขาจะเอาอาหาร และน้ำที่ไหนใช้กิน อาบ ทำความสะอาด ไม่มีที่ว่างสำหรับเก็บกักตุนได้ถึง ๓ เดือน
๓. น้ำมันในการเดินทางจะเอาพื้นที่ตรงไหนมากักตุนน้ำมันไม่ที่ว่างเลย
๔. จะหลับนอนกันยังไงในเมื่อไม่มีที่ให้นอน
๕. ฝนตกแดดออกจะหลบฝนหลบแดดกันยังไง
๖. ฟืนไฟจะเอาที่ไหนหุงต้ม
๗. ถ้าอาการดังในภาพที่เห็นนี้ไม่ถึง ๑ เดือนหลอกตายเกลี้ยง