ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
นิพพานดิบ http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=18321 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | ฌาณ [ 14 ต.ค. 2008, 08:48 ] |
หัวข้อกระทู้: | นิพพานดิบ |
คิริมานนทสูตร ![]() ดูกรอานนท์ อันว่าความสุขในพระนิพพาน นั้นมี ๒ ประเภท คือ ดิบ ๑ สุก ๑ ได้ความว่า เมื่อยังเป็นคนมีชีวิตอยู่ได้เสวยสุขในพระนิพพานนั้นได้ชื่อว่า พระนิพพานดิบ เมื่อตายไปแล้วได้เสวยสุขในพระนิพพานนั้น ชื่อว่าพระนิพพานสุก ![]() ![]() พระนิพพานดิบนั้นเป็นของสำคัญ ควรให้รู้ให้เห็น ให้ได้ให้ถึงไว้เสียก่อนตาย ถ้าไม่ได้พระนิพพานดิบนี้แล้ว ตายไปก็จะได้พระนิพพานสุกนั้นไม่มีเลย ![]() ![]() ![]() อยากเรียนถามอาจารย์ พี่ๆ ทุกท่านครับ (ฉลองวันออกพรรษาและฉลองบอร์ดใหม่) ![]() ![]() นิพพานดิบ นั้นคืออย่างไร พึงกระทำตนอย่างไรให้ได้ในขณะมีชีวิตอยู่ครับ ![]() ![]() |
เจ้าของ: | ชาติสยาม [ 14 ต.ค. 2008, 08:58 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: นิพพานดิบ |
อ้างคำพูด: ได้ความว่า เมื่อยัง เป็นคน มีชีวิตอยู่ได้เสวยสุขในพระนิพพานนั้นได้ชื่อว่า พระนิพพานดิบ ก็คือบรรลุพระอรหันต์ขั้นสูงสุดแล้วนั่นเองคับ แต่ยังคงมีชีวิตอยู่ไปเรื่อยๆ อย่างเช่นหลวงตาบัวในเวลานี้ คือพระอรหันต์ที่ "ทำนิพพานให้แจ้ง" ท่านแจ้งแล้วซึ่งนิพพาน เดี๋ยวเมื่อไหร่ท่านละกายไป ก็นั่นแหละ นิพพานสุก ทฤษฏีเป็นอย่างนัน้นะ ผมฟังๆ มา |
เจ้าของ: | guest [ 14 ต.ค. 2008, 09:14 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: นิพพานดิบ |
สอุปาทิเสสนิพพาน |
เจ้าของ: | จักรวัฏ [ 14 ต.ค. 2008, 10:20 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: นิพพานดิบ |
![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | natdanai [ 14 ต.ค. 2008, 13:55 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: นิพพานดิบ |
นิพพานดิบ เหมือนข้าวกำลังหุง กลิ่นหอมหวนชวนกิน แต่ยังกินไม่ได้ นิพพานสุก ก็หุงสุกแล้ว ทั้งหอมทั้งอร่อย และอิ่ม ![]() ![]() |
เจ้าของ: | ผ้าขี้ริ้ว [ 14 ต.ค. 2008, 15:31 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: นิพพานดิบ |
พึงได้ยินได้เห็นนี่แหละนิพพานดิบ นิพฺพานํ ปรมํ สุขํ นิพพานเป็นสุข(สุก)อย่างยิ่ง......... ![]() |
เจ้าของ: | บัวไฉน [ 14 ต.ค. 2008, 18:47 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: นิพพานดิบ |
สำหรับข้าพเจ้า จะสุกจะดิบ ก็ขอพบสักครั้งหนึ่งเถิด (ฝันที่ไม่มีวันเป็นจริง) ![]() |
เจ้าของ: | สุนันท์ [ 14 ต.ค. 2008, 19:59 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: นิพพานดิบ |
![]() ![]() แล้วป้า จอย จะมีโอกาศ พบมะเนี้ยยยย แต่ก็ขอให้ได้พบผู้ที่ได้นิพพานดิบ นะเจ้าคะ |
เจ้าของ: | ฌาณ [ 14 ต.ค. 2008, 21:50 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: นิพพานดิบ |
![]() |
เจ้าของ: | ธรรมรัตน์ [ 14 ต.ค. 2008, 23:21 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: นิพพานดิบ |
จิตที่เป็นธรรมชาติเดิมแท้ที่ปกติคือนิพพุติ |
เจ้าของ: | บุญชัย [ 15 ต.ค. 2008, 17:30 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: นิพพานดิบ |
![]() ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | ตรงประเด็น [ 16 ต.ค. 2008, 09:54 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: นิพพานดิบ |
จาก ธาตุสูตร นิพพานธาตุ ๒ ประการนี้ พระตถาคต ผู้มีจักษุผู้อันตัณหาและทิฐิไม่อาศัยแล้ว ผู้คงที่ประกาศไว้แล้ว อันนิพพานธาตุอย่างหนึ่งมีในปัจจุบันนี้ ชื่อว่า สอุปาทิเสส เพราะสิ้นตัณหาเครื่องนำไปสู่ภพ ส่วนนิพพานธาตุ (อีกอย่างหนึ่ง) เป็นที่ดับสนิทแห่งภพทั้งหลายโดยประการทั้งปวง อันมีในเบื้องหน้าชื่อว่า อนุปาทิเสส ชนเหล่าใดรู้บทอันปัจจัยไม่ปรุงแต่งแล้วนี้มีจิตหลุดพ้นแล้วเพราะสิ้นตัณหาเครื่องนำไปสู่ภพ ชนเหล่านั้นยินดีแล้วในนิพพานเป็นที่สิ้นกิเลสเพราะบรรลุธรรมอันเป็นสาระ เป็นผู้คงที่ ละภพได้ทั้งหมด ฯ ผมขอแยกแยะตรงนี้ให้อ่านง่ายๆดังนี้ สอุปาทิเสส นั้นมีลักษณะ 1.มีในปัจจุบัน 2เพราะสิ้นตัณหาเครื่องนำไปสู่ภพ อนุปาทิเสสนั้นมีลักษณะดังนี้ 1.มีในเบื้องหน้า 2.เป็นที่ดับสนิทแห่งภพทั้งหลายโดยประการทั้งปวง ลองดูนิพาน2ประเภทของพระอรหันต์ตามที่ท่านผู้รู้ท่านประมวลไว้น่ะครับ จาก พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต) สอุปาทิเสสนิพพาน นิพพานยังมีอุปาทิเหลือ, ดับกิเลสแต่ยังมีเบญจขันธ์เหลือ คือ นิพพานของพระอรหันต์ผู้ยังมีชีวิตอยู่, นิพพานในแง่ที่เป็นภาวะดับกิเลส คือ โลภะ โทสะ โมหะ; เทียบ อนุปาทิเสสนิพพาน http://84000.org/tipitaka/dic/v_seek.php?text=สอุปาทิเสสนิพพาน อนุปาทิเสสนิพพาน นิพพานไม่มีอุปาทิเหลือ, ดับกิเลสไม่มีเบญจขันธ์เหลือ คือ สิ้นทั้งกิเลสและชีวิต หมายถึง พระอรหันต์สิ้นชีวิต, นิพพานในแง่ที่เป็นภาวะดับภพ; เทียบ สอุปาทิเสสนิพพาน http://84000.org/tipitaka/dic/v_seek.php?text=อนุปาทิเสสนิพพาน |
เจ้าของ: | ตรงประเด็น [ 16 ต.ค. 2008, 09:59 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: นิพพานดิบ |
1.พระนิพพานในปัจจุบัน(สอุปาทิเสสนิพพานธาตุ)ของพระอรหันต์ที่ยังไม่สิ้นชีวิต จะเห็นพระพุทธพจน์บรรยายไว้ว่า ".....ย่อมรู้ชัดว่า ชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำทำเสร็จแล้ว กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มี ...."หรือ ในธาตุสูตรที่ว่า ".....อันนิพพานธาตุอย่างหนึ่งมีในปัจจุบันนี้ ชื่อว่าสอุปาทิเสส เพราะสิ้นตัณหาเครื่องนำไปสู่ภพ....." 2.พระนิพพานที่กล่าวถึงในเวลาพระอรหันต์ดับขันธ์(สิ้นชีวิต) จะเห็นพระพุทธพจน์บรรยายไว้ว่า ".....“ดิน น้ำ ลม ไฟ ย่อมไม่ตั้งอยู่ในที่ใด สงสารทั้งหลายยอมกลับแต่ที่นี้ วัฏฏะย่อมเป็นไปในที่นี้ นามก็ดี รูปก็ดี ย่อมดับหมดในที่นี้” ตรงกับ ในธาตุสูตร ที่ว่า ".......ส่วนนิพพานธาตุ (อีกอย่างหนึ่ง) เป็นที่ดับสนิทแห่งภพทั้งหลายโดยประการทั้งปวง อันมีในเบื้องหน้าชื่อว่า อนุปาทิเสส..." |
เจ้าของ: | ตรงประเด็น [ 16 ต.ค. 2008, 10:03 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: นิพพานดิบ |
ธรรมที่ไม่ตาย ตรงประเด็น เพราะไม่รู้ แจ้งทั่ว ในตัวตน จึงเวียนวน ปรุงแต่ง แหล่งสังขาร ก่อกำเนิด ตัณหา อุปาทาน อหังการ มมังการ เผาผลาญใจ ต่อเมื่อรู้ แจ้งทั่ว ในตัวตน ไม่มืดมน ธรรมส่อง ใจผ่องใส อาสวัก ขยญาณ เบิกบานใจ ตลอดไป แสนสุข เพราะทุกข์คลาย สอุปา ทิเสสะ นิพพานธาตุ ธรรมประกาศ งดงาม ด้วยความหมาย ดับกิเลส เย็นใจ ให้สบาย ไม่วุ่นวาย สมุจเฉท กิเลสกาม อนุปา ทิเสสะ นิพพานธาตุ ไม่มีชาติ เพราะขาดจบ ภพทั้งสาม อมตะธาตุ ปรากฏ สุดงดงาม หยุดเวียนตาม ตาย-เกิด ประเสริฐเอย ๆลๆ |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |