วันเวลาปัจจุบัน 19 เม.ย. 2024, 02:16  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 25 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 พ.ย. 2008, 08:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 พ.ย. 2008, 17:20
โพสต์: 1051

งานอดิเรก: อ่านหนังสือธรรมะ
อายุ: 0
ที่อยู่: Bangkok

 ข้อมูลส่วนตัว


:b43: เป็นสมาชิกใหม่ค่ะ รบกวนท่านผู้ปฏิธรรม :b42: ที่เข้าใจเรื่องการแผ่เมตตา คือทุกวันดิฉันจะสวดมนต์ ในการสวดนั้นจะมีบทกรวดน้ำใหญ่ บทอนุญาตเวร บทอุทิศส่วนกุศล ซิ่งดิฉันก็จสวดเจาะชื่อผู้รับด้วย และทั่วๆ ไปด้วย บทคำอธิฐาน คำขอขมา และจะจบด้วยการแผ่เมตตา :b41: ดิฉันสงสัยในข้อที่ว่า เวลาเราสวด อะหัง..สุขิโต เราควรตั้งจิตอธิฐานอย่างไรคะ และเมื่อสวด สัพเพ..สัตตา...เราควรตั้งอธิฐานจิตอย่างไร บางคนบอกว่าต้องระบุชื่อคนที่เราจะแผ่ให้ จะเป็นคนที่ยังมีชีวิตอยู่หรือคะ ช่วยอธิบายด้วยค่ะ ว่าต่างจากการที่เราอุทิศส่วนกุศลนั้นอย่างไร อยากปฏิบัติให้ถูกวิธีค่ะ รบกวนท่านผู้รู้ช่วยอธิบายเป็นธรรมทานแก่สมาชิกใหม่ด้วยค่ะ ธรรมะขอบคุณ :b39:

.....................................................
    มีสิ่งใด น่าโกรธ อย่าโทษเขา.... ต้องโทษเรา ที่ใจ ไม่เข้มแข็ง
    เรื่องน่าโกรธ แม้ว่า จะมาแรง ....ถ้าใจแข็ง เหนือกว่า ชนะมัน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 พ.ย. 2008, 13:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ก.ค. 2008, 14:11
โพสต์: 839

ที่อยู่: สงขลา

 ข้อมูลส่วนตัว


1.อะหัง สุขิโต นึกให้ตนเองมีสุขสมหวังนึกภาษาไทยเราๆนีละ
2.สัพเพ สัตตา ให้สัตว เพื่อนๆที่เรา รักนึกเหมือน รักพ่อแม่ แล้วส่งไปๆ
3.ให้ คนที่ยังมีชีวิต นึกภาษาไทยเลยว่า ขอบุญนี้ถึงซึ่งเทวดารักษาร่าง บิดามารดา
ญาตผู้ใหญ่ชื่อ..เมื่อได้รับบุญแล้ว..จงดลบันดาลให้มีความสุข ปลอดภัย จากโรค แข็งแรง ว่าไปๆ
นึกถึงแผ่ไปๆๆ

.....................................................
ทำดีทุกทุกวัน เมื่อโอกาสมา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 พ.ย. 2008, 14:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 พ.ย. 2008, 08:36
โพสต์: 3


 ข้อมูลส่วนตัว


การสวดมนต์แผ่เมตตาก็เป็นวิธีที่ทำให้จิตสงบและเป็นสมาธิได้ แต่ถ้าจะให้ดีอยากแนะนำให้ลองนั่งสมาธิดูค่ะ ใหม่ ๆ ก็ลองฝึกทีละนิด ฝึกไปเรื่อยๆ จะสามารถนั่งสมาธิได้นานแล้วจะทำให้จิตสงบดีค่ะ การแผ่เมตตาก็จะมีพลังมากค่ะ เพราะว่าจิตเราสงบ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 พ.ย. 2008, 15:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ก.ค. 2008, 14:11
โพสต์: 839

ที่อยู่: สงขลา

 ข้อมูลส่วนตัว


ถูกต้องครับ ต้องทำสมาธิก่อนแผ่เมตตาจะได้อนิสงฆถึงผู้ที่เราส่งให้แน่นอน
ใช้บทอิมินา ก็ได้ ผมใช้ทุกวันหลังนั่ง..
เวลาใส่บาตร ให้ทาน แจก บรืจาค ก็นึกได้ตามแต่ใจ
เพราะธรรมะมีอยู่ไม่เป็นรูปแบบ ธรรมใดๆ จิตคิดจะให้ย่อมนำไปถึงแน่นอน

.....................................................
ทำดีทุกทุกวัน เมื่อโอกาสมา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 พ.ย. 2008, 18:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 พ.ย. 2008, 17:20
โพสต์: 1051

งานอดิเรก: อ่านหนังสือธรรมะ
อายุ: 0
ที่อยู่: Bangkok

 ข้อมูลส่วนตัว


แล้วบทอิมินา...คือบทที่เราใช้กรวดน้ำหลังทำบุญไหมคะ อยากถามอีกข้อค่ะ คือแต่ก่อน
เวลาใส่บาตรหรือทำบุญต้องกรวดน้ำ โดยใช้น้ำ แต่เดี๋ยวนี้เราจะสวดมนต์ตอนเช้า และในบทสวด
จะมีอุทิศส่วนกุศลด้วย เลยไม่ได้กรวดโดยใช้น้ำ แต่เราไม่ได้ใส่บาตร,ทำบุญทุกวัน แต่สวดมนต์ทุกวัน
ได้ใช่ไหม :b9: เวลาเราไปทำบุญที่วัด แล้วจะมีน้ำมาให้กรวดเวลาที่พระสวด ช่วยแนะนำได้ไม๊คะว่า
เราควรสวดบทไหน เพราะเราสังเกตเห็นคนอื่นๆ เค้าทำเร็วมาก แล้วก็ฟังพระสวดต่อ แต่เราแค่
ท่องบทอิมินา (แบบสั้น) ยังไม่ทันนึกถึงผู้รับส่วนกุศลเลยคนอื่นเค้าก็วางน้ำแล้ว เราก็ต้องวางด้วย
แต่ยท่องไม่หมดเลย รบกวนท่านผู้รู้แนะนำด้วนค่ะ อยากทำให้ถูกค่ะ ธรรมะขอบคุณ :b8: :b8:

.....................................................
    มีสิ่งใด น่าโกรธ อย่าโทษเขา.... ต้องโทษเรา ที่ใจ ไม่เข้มแข็ง
    เรื่องน่าโกรธ แม้ว่า จะมาแรง ....ถ้าใจแข็ง เหนือกว่า ชนะมัน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 พ.ย. 2008, 21:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 ก.ค. 2008, 14:47
โพสต์: 1562

อายุ: 0
ที่อยู่: หิมพานต์

 ข้อมูลส่วนตัว www


สวัสดีครับพี่ครับ :b8:

ไม่ว่าจะบทสวดอะไรก็แล้วแต่ หรือคำบริกรรมอะไรก็แล้วแต่ จะกรวดน้ำแบบไม่มีน้ำ มีน้ำก็ตาม

ล้วนเป็นพิธีการ เป็นรูปแบบอุบายทำให้ใจน้อมนึกถึงคุณพระรัตนตรัย และขออานุภาพของท่าน

กระทำการตามจุดประสงค์ของเราให้สัมฤทธิ์ผล.....

ดังนั้นไม่ว่าจะทำกิจกรรมใดๆก็ตามขอให้เรามีจิตใจที่ระลึกถึงคุณพระรัตนตรัยอย่างจริงๆ

(ไม่ใช่ท่องบทสวดไปปาวๆ...แต่ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว สวดแทบตายก็ไม่สัมฤทธิ์ผล)

แล้วเราจะสัมฤทธิ์ผลได้ในที่สุด .....

เช่นหลังทำบุญ เราแค่ทำจิตใจน้อมถึงคุณพระรัตนตรัยได้อย่างจริงๆนะ ขออุทิศส่วนกุศลนั้นให้ใคร
ก็ว่าไป น้อมใจตามนั้นก็พอแล้ว...ไม่ต้องมีพิธี มีน้ำหรืออะไรวุ่นวายเลยครับ...
:b13:

.....................................................
อิมาหัง ภะคะวา อัตตะภาวัง ตุมหากัง ปะริจจะชามิฯ
ข้าแต่องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า ข้าพระพุทธเจ้าขอมอบกายถวายชีวิต แด่พระพุทธเจ้า แด่พระธรรม แด่พระสงฆ์ นับแต่บัดนี้ตราบจนเข้าสู่พระนิพพาน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 พ.ย. 2008, 10:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ก.ค. 2008, 14:11
โพสต์: 839

ที่อยู่: สงขลา

 ข้อมูลส่วนตัว


1ไม่ต้องใช้น้ำเวลากรวดก็ได้เพราะน้ำเป็นเพียงอุปโลกให้แทนแม่ธรณี
มารับไว้เพื่อให้เราโลกหน้า ให้กรวดแห้งๆ โดยนึกแผ่ความรู้สึกเมตตาๆ
ไปให้เขาเหล่านั้นก็ได้แล้วแค่นึกว่า .....ให้ว่าบุญนี้ให้ เขานั้นๆก็แห่มาโขยง
รีบๆรับแล้ว...ไม่ต้องน้ำหรอกน้ำเป็นเพียง สักขีพยานกะแม่พระธรณีเท่านั้นท่องกะนึกก็พอ
2...สวดมนตแล้วแผ่เมตตาได้อนิสงมากแล้วได้เกิด ชั้นจตุมหาราชิกา นะ
3....อิมินาสั้นใช้ได้แล้วเป็นหัวใจแผ่เมตตาแล้ว
ถ้าว่าตามไม่ทันวางแก้วน้ำแล้วท่องต่อในใจจนจบเลยใคร จะลุกไปไหนชั่งเขา
ว่าจนจบก็พอไม่ต้องสนเรื่องน้ำว่า ทันไม่ทันพระ เพราะ จิต คิดจะให้ผ่องใสนั่นคือบุญที่ให้ไปแล้ว
ย่อมบังเกิดมากโข ในเทวโลก เขาเหล่านั้นไปเกิดภพภูมิที่สูงกว่าเดิมทันที่ที่สาธุ...
ขอโมทนาที่ท่านมีใจเมตตาสรรพสัตว สาธุๆๆๆๆ

.....................................................
ทำดีทุกทุกวัน เมื่อโอกาสมา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 พ.ย. 2008, 13:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 มิ.ย. 2008, 22:48
โพสต์: 1173


 ข้อมูลส่วนตัว


การสวดมนต์เป็นการทำสมาธิแบบหนึ่ง การทำสมาธิก็เหมือนการเติมอาหารให้จิต เมื่อจิตได้รับ
อาหารแล้ว จิตก็มีพลัง นำพลังจิตนั้นไปช่วยสรรพวิญญาณต่างๆได้ แต่เราต้องระวังเรื่องการแผ่
เมตตาเอาไว้ให้มาก บทสวดมนต์แผ่เมตตาให้วิญญาณทั้งหลายทั้งปวงที่พระสอนนั้น เป็นการแผ่
เมตตาให้สรรพวิญญาณทั้งปวง

ผมถามคุณว่า คุณมีพลังจิตสูงพอจะแผ่เมตตาให้สรรพวิญญาณใน 3 ภพได้หรือ? คุณ
เติมอาหารให้จิตได้นิดเดียว มีพลังแห่งเมตตา แค่อาหารจาน 2 จาน ไปใช้บทสวดมนต์แผ่เมตตาให้
สรรพวิญญาณใน 3 ภพ เท่ากับเอาอาหารจาน 2 จาน เต็มที่ก็กระสอบเดียว ให้คนล้านคน มันก็จะ
เกิดโกลาหล แล้วสุดท้ายคุณก็จะเจอวิญญาณที่ไม่ได้รับเมตตาจากคุณมาขอ

ก็คือ คุณจะโดนผีหลอก นั่นเอง

การแผ่เมตตาควรระบุให้กับใครก็บอกไป ไม่ต้องใช้บทสวดมนต์อะไรเลย เมื่อแผ่เมตตาก็ไม่ต้องกรวด
น้ำอะไรด้วย กรวดน้ำนั้นใช้สำหรับทำบุญปกติ แต่การสวดมนต์หรือการทำสมาธิใช้จิตของเราส่งกุศลไป
ให้ดวงวิญญาณโดยตรง ไม่ต้องใช้ทางอ้อม คือ ใช้น้ำเป็นสื่อ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 พ.ย. 2008, 19:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 พ.ย. 2008, 17:20
โพสต์: 1051

งานอดิเรก: อ่านหนังสือธรรมะ
อายุ: 0
ที่อยู่: Bangkok

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: ผมถามคุณว่า คุณมีพลังจิตสูงพอจะแผ่เมตตาให้สรรพวิญญาณใน 3 ภพได้หรือ? คุณ
เติมอาหารให้จิตได้นิดเดียว มีพลังแห่งเมตตา แค่อาหารจาน 2 จาน ไปใช้บทสวดมนต์แผ่เมตตาให้
สรรพวิญญาณใน 3 ภพ เท่ากับเอาอาหารจาน 2 จาน เต็มที่ก็กระสอบเดียว ให้คนล้านคน มันก็จะ
เกิดโกลาหล แล้วสุดท้ายคุณก็จะเจอวิญญาณที่ไม่ได้รับเมตตาจากคุณมาขอ

ก็คือ คุณจะโดนผีหลอก นั่นเอง
รบกวนk.พลศักดิ์ อธิบายรายละเอียดอีกครั้งนะคะ :b5: เพราะเป็นน้องใหม่ อยากเข้าใจให้แน่นๆค่ะ
จะได้นำไปปฏิบัติได้ถูกน่ะค่ะ :b9:

.....................................................
    มีสิ่งใด น่าโกรธ อย่าโทษเขา.... ต้องโทษเรา ที่ใจ ไม่เข้มแข็ง
    เรื่องน่าโกรธ แม้ว่า จะมาแรง ....ถ้าใจแข็ง เหนือกว่า ชนะมัน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 พ.ย. 2008, 15:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ก.ค. 2008, 14:11
โพสต์: 839

ที่อยู่: สงขลา

 ข้อมูลส่วนตัว


สงสัยคุณพงศักดิ จะเข้าใจผิดเรากะลังพูดเรื่องแผ่เมตตาให้ญาตผู้ใหญ่
แบบเจาะจงชื่อ ไม่ใช่ ให้ ทั้ง3โลก หมายถึงญาตๆครับคุณพงศักด
อย่าตีความไปโลก อื่นๆ
.....การแผ่เมตตาให้สัตววโลกนี้ก็ไม่ไหวแล้วใครจะไปให้3โลก
อย่า อ่านคัมภ๊ร เทวดามากไปครับ....เดี๋ยงผมแจ้งลบกะทู้ที่อ่านรุนแรงเกินนะครับ

.....................................................
ทำดีทุกทุกวัน เมื่อโอกาสมา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 พ.ย. 2008, 21:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 มิ.ย. 2008, 22:48
โพสต์: 1173


 ข้อมูลส่วนตัว


O.wan เขียน:
:b8: ผมถามคุณว่า คุณมีพลังจิตสูงพอจะแผ่เมตตาให้สรรพวิญญาณใน 3 ภพได้หรือ? คุณ
เติมอาหารให้จิตได้นิดเดียว มีพลังแห่งเมตตา แค่อาหารจาน 2 จาน ไปใช้บทสวดมนต์แผ่เมตตาให้
สรรพวิญญาณใน 3 ภพ เท่ากับเอาอาหารจาน 2 จาน เต็มที่ก็กระสอบเดียว ให้คนล้านคน มันก็จะ
เกิดโกลาหล แล้วสุดท้ายคุณก็จะเจอวิญญาณที่ไม่ได้รับเมตตาจากคุณมาขอ

ก็คือ คุณจะโดนผีหลอก นั่นเอง
รบกวนk.พลศักดิ์ อธิบายรายละเอียดอีกครั้งนะคะ :b5: เพราะเป็นน้องใหม่ อยากเข้าใจให้แน่นๆค่ะ
จะได้นำไปปฏิบัติได้ถูกน่ะค่ะ :b9:


ง่ายๆ ถ้าคุณไม่ทำสมาธิ(สวดมนต์ ภาวนา หรืออะไรที่ทำให้จิตมันรวมเป็นหนึ่งเดียว) จิตคุณก็ไม่มี
พลัง แต่พอจิตมันเริ่มค่อยๆสงบลง พลังจิตมันก็เกิด ถ้าเกิดจนถึงขั้นฌาน 4 มันก็นำไปใช้งานได้
ถ้าไปใช้ในทางที่ผิดก็เป็นคุณไสย ถ้าใช้ในทางที่ถูก มันก็มีอำนาจ สามารถแผ่เมตตาให้วิญญาณ
ต่างๆได้ เมื่อ 7 ปีก่อน ผมทำสมาธิจิตยังไม่ค่อยนิ่ง แต่ใจต้องการช่วยเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่จมน้ำตาย
ชื่อเด็กหญิงพิณผกา ผมต้องแผ่เมตตาให้เขาหลายวัน เขาจึงไปสู่สุขคติภูมิ

แต่เมื่อเดือนก่อน ผมไปอุดรธานี ลองแผ่เมตตาออกไป ปรากฏว่าช่วยิวญญาณได้ถึง 200,000 ดวง
เทวดาในโรงแรมที่ผมพักมาบอกผมว่า มีวิญญาณประมาณ 200,000 ดวงมาขอบคุณผม

ก่อนหน้านั้น 6-8 เดือน มีวิญญาณพม่าคาดว่าเป็นแสนดวงมาหาผมเพื่อให้ผมช่วย ผมก็ทำกรรมฐาน
แผเมตตาออกไป ช่วยได้ครั้งละเประมาณ 20,000 ดวง กว่าจะช่วยหมดก็ 5 วัน

เมื่อจิตมันนิ่งถึงจุดที่ทุกอย่างเป็นจุดเดียว มันมีพลังมหาศาลจนคุณคาดไม่ถึง คุณสามารถเปลี่ยน
แปลงสภาวะของโลกก็ย่อมได้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 พ.ย. 2008, 21:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 มิ.ย. 2008, 22:48
โพสต์: 1173


 ข้อมูลส่วนตัว


บุญชัย เขียน:
สงสัยคุณพงศักดิ จะเข้าใจผิดเรากะลังพูดเรื่องแผ่เมตตาให้ญาตผู้ใหญ่
แบบเจาะจงชื่อ ไม่ใช่ ให้ ทั้ง3โลก หมายถึงญาตๆครับคุณพงศักด
อย่าตีความไปโลก อื่นๆ
.....การแผ่เมตตาให้สัตววโลกนี้ก็ไม่ไหวแล้วใครจะไปให้3โลก
อย่า อ่านคัมภ๊ร เทวดามากไปครับ....เดี๋ยงผมแจ้งลบกะทู้ที่อ่านรุนแรงเกินนะครับ


ก็บทสวดมนต์ของพระยังไงล่ะ คุณลองไปศึกษาดู พระท่านแผ่ใท้ทั้ง 3 โลกเลย ท่านไป copy
คำสอนของพระพุทธเจ้าที่สอนให้พระอริยะเจ้ามา พระเหล่านั้นท่านไม่รู้เลยว่า คนที่มีพลังทำได้เช่นนั้น
คือ พระพุทธเจ้า และพระอรหันต์ อย่างน้อยก็พระอริยะเจ้า ไม่ใช่พระที่เป็นปถุชนและชาวบ้าน

ผู้ทำกรรมฐานจำนวนมากเจอผีมาแล้วมากมาย มาถามผมก็เยอะ ส่วนผู้ที่รับไม่ได้ เขาก็ย่อมไม่เชื่อ
ในเรื่องที่ตาเขามองไม่เห็น

กรุณาอย่าขู่ผมเลยครับ ผมโดนแบนกระทู้ และโดนไล่ออกจากเว็บต่างๆมาแล้วมากมาย ผมไม่ไป
สะดุ่งอะไรหรอกครับ เว็บนี้ก็แบนกระทู้ผมไปหลายกระทู้แล้ว

ผมพูดแต่ความจริงทางธรรมเท่านั้น ส่วนใครจะรับได้ รับไม่ได้ หรือตีความอย่างไร เป็นสิทธิของเขาครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 พ.ย. 2008, 12:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


พลศักดิ์ วังวิวัฒน์ เขียน:
เมื่อเดือนก่อน ผมไปอุดรธานี ลองแผ่เมตตาออกไป ปรากฏว่าช่วยวิญญาณได้ถึง 200,000 ดวง
เทวดาในโรงแรมที่ผมพักมาบอกผมว่า มีวิญญาณประมาณ 200,000 ดวงมาขอบคุณผม

ก่อนหน้านั้น 6-8 เดือน มีวิญญาณพม่าคาดว่าเป็นแสนดวงมาหาผมเพื่อให้ผมช่วย ผมก็ทำกรรมฐาน
แผ่เมตตาออกไป ช่วยได้ครั้งละประมาณ 20,000 ดวง กว่าจะช่วยหมดก็ 5 วัน


:b14: ถามคุณพลศักดิ์ วิญญาณที่คุณกล่าวถึงแสนๆดวงนั่น เป็นวิญญาณ 1 ในขันธ์ 5 ป่าวครับ

1. รูป
2.เวทนา
3.สัญญา
4.สังขาร
5.วิญญาณ

คุณค้นหาอัตตาด้วย อัตตาอยู่ข้อไหน :b38:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 พ.ย. 2008, 15:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 มิ.ย. 2008, 22:48
โพสต์: 1173


 ข้อมูลส่วนตัว


[quote="กรัชกาย"


:b14: ถามคุณพลศักดิ์ วิญญาณที่คุณกล่าวถึงแสนๆดวงนั่น เป็นวิญญาณ 1 ในขันธ์ 5 ป่าวครับ

1. รูป
2.เวทนา
3.สัญญา
4.สังขาร
5.วิญญาณ

:b38:[/quote]

ใช่และไม่ใช่ครับ

วิญญาณมี 2 อย่าง คือ

1. วิญญาณธาตุ ตัวนี้จิตสังขารสร้างขึ้นมาจากอวิชชา อยู่ในหมวดข้อ 4 ของคุณ

2. วิญญาณขันธ์ ตัวนี้ วิญญาณธาตุสร้างขึ้นมา อยู่ในหมวดข้อ 5 ของคุณ


เวลาที่เราตายวิญญาณขันธ์ ตาย แต่วิญญาณธาตุไม่ได้ตาย มันยังคงอยู่ต่อไป วิญญาณธาตุ
นี้ก็คือเจตภูตหรือผีวิญญาณที่คนทั่วโลกเขาเรียกกัน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 พ.ย. 2008, 16:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ครั้งหนึ่ง ภิกษุชื่อสาติ เป็นบุตรชาวประมง มีความเห็นผิดว่าพระพุทธเจ้าสอนว่า วิญญาณดวงเดียวกันนี้
ท่องเที่ยวไปในสังสารวัฏฏ์ ภิกษุทั้งหลายพยายามเปลื้องความเห็นผิดของเธอแต่ไม่สำเร็จ จึงพากันไป
กราบทูลพระพุทธเจ้า พระองค์จึงตรัสเรียกพระสาติมา และทรงสอบถามดังความว่า

พระพุทธเจ้า: เป็นความจริงหรือ สาติ มีข่าวว่า เธอเกิดความเห็นชั่วร้ายอย่างนี้ว่า “ข้าพเจ้ารู้ทั่วถึง
ธรรมตามที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงไว้แล้ว วิญญาณนี้นั่นเอง ย่อมวิ่งแล่น ย่อมท่องเที่ยวไป
มิใช่อื่น ? ”
พระสาติ: ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เป็นอย่างนั้น ฯลฯ

พระพุทธเจ้า: นี่แน่ะสาติ วิญญาณเป็นอย่างไร ?
พระสาติ: ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ (วิญญาณนั้น) คือ ตัวสภาวะที่เป็นผู้พูด เป็นผู้รู้ เสวยวิบาก
ของกรรมทั้งหลาย ทั้งดีและชั่วในที่นั้นๆ

พระพุทธเจ้า: ดูก่อนโมฆะบุรุษ เธอรู้ทั่วถึงธรรมที่เราแสดงแล้วอย่างนี้ แก่ใครหนอ เรากล่าวไว้โดย
อเนกปริยายมิใช่หรือว่า วิญญาณอาศัยปัจจัยประชุมกันเกิดขึ้น (ปฏิจจสมุปบัน) เว้นจากปัจจัยเสีย
การเกิดแห่งวิญญาณย่อมไม่มี ก็แล ด้วยความเห็นที่ตนเองถือไว้ผิด เธอย่อมกล่าวตู่เรา ย่อมขุดตนเอง
และประสบสิ่งที่มิใช่บุญเป็นอันมาก ความเห็นนั้นแหละจักเป็นไปเพื่อไม่เกื้อกูล เพื่อความทุกข์แก่เธอตลอด
กาลนาน”


จากนั้นได้ตรัสกะภิกษุทั้งหลายว่า


“ภิกษุทั้งหลาย วิญญาณอาศัยปัจจัยใดๆเกิดขึ้น ก็ถึงความนับไปตามปัจจัยนั้นๆนั่นแหละ (กล่าว
คือ) วิญญาณอาศัยจักษุและรูปเกิดขึ้น ก็ถึงความนับว่าจักขุวิญญาณ วิญญาณอาศัยโสตและเสียง
เกิดขึ้น ก็ถึงความนับว่าโสตวิญญาณ วิญญาณอาศัยฆานะและกลิ่นเกิดขึ้น ก็ถึงความนับว่าฆานวิญญาณ
วิญญาณอาศัยชิวหาและรสเกิดขึ้น ก็ถึงความนับว่าชิวหาวิญญาณ วิญญาณอาศัยกายและโผฏฐัพพะ
เกิดขึ้น ก็ถึงความนับว่ากายวิญญาณ วิญญาณอาศัยมโนและธรรมารมณ์เกิดขึ้น ก็ถึงความนับว่า
มโนวิญญาณ เปรียบเหมือนไฟอาศัยเชื้อใดๆติดขึ้น ก็ถึงความนับไปตามเชื้อนั้นๆ...ว่าไฟไม้...ว่าไฟ
เศษของ...ว่าไฟหญ้า...ว่าไฟโคมัย...ว่าไฟแกลบ...ว่าไฟหยากเยื่อ...ฯลฯ”

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 25 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 21 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร


cron