| ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
| ได้บุญคือเมตตา สงสาร หรือบาปที่โกงเพื่อนหรือเปล่า http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=19087 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
| เจ้าของ: | O.wan [ 17 พ.ย. 2008, 09:32 ] |
| หัวข้อกระทู้: | ได้บุญคือเมตตา สงสาร หรือบาปที่โกงเพื่อนหรือเปล่า |
ขอถามนะคะ เรามีธุกกิจเล็กๆหุ้นกับเพื่อน เค้าไว้ใจเรานะให้เราเป็นคนจัดการทุกอย่าง เรามีฝ่ายบ/ชด้วยเป็นคนของเราเอง เพื่อนแค่ตรวจบ/ช และรับเงินส่วนแบ่ง ทุกเดือนเราทำกันมานานมากแล้วแต่ปัญหาในใจเราคือ เราจะเป็นคนที่สงสารลูกน้อง เงินเดือนเราก็ให้ตามความเหมาะสม ทุกคนอยู่กับเรามานาน เรามักจะเอาเงินมาซื้ออาหารกลางวันเลี้ยงพวกเค้าบ้าง ให้พิเศษเวลาเจ็บป่วย พาไปเที่ยวปีละครั้งฟรี หรือมีความจำเป็นต้องหยุดงานเราก็ไม่หักเงิน เพราะพวกนี้อยู่กับเรามานาน เราดุว่าเมื่อทำงานผิดพลาด เค้าก็ไม่โกรธ ไม่เถียง เพราะเราประเภทปากร้ายแต่ใจดี..มากๆๆ ไม่มีใครคิดจะเปลี่ยนงานเลย คงอยู่กับเราไปจนตายจากกันไปข้าง เราอยากถามว่าเวลาเราเอาเงินมาใช้ตามที่เล่ามา เราไม่ได้บอกหุ้นส่วนเราเลย เพราะหุ้นส่วนเราคงไม่เห็นด้วย คือเค้าจะธุรกิจเป็นธุรกิจ แต่เราอยู่กับพนักงานเราจะเข้าใจพวกเค้าดี เราไม่ได้เอามาใข้นอกเหนือจากนี้นะ แค่เลี้ยงลูกน้องเป็นครั้งคราว บ/ชก็ไม่ได้ผิดพลาด เราเอาลงเป็นเบ็ดเตร็จ เพราะเราถือศีล 5 เราต้องซื่อสัตย์ต่อเพื่อนเรา แบบนี้เราผิดศีลธรรมไม๊ เพราะเราไม่ได้โกหกเค้า แต่เราไม่ได้บอก ใจเราเพียงแค่อยากให้เท่านั้น แต่ก่อนเราไม่คิดอะไร แต่เมื่อเรามาศึกษาธรรมะ เราเลยอยากทำในสิ่งที่ถูกต้อง และได้บุญจริงๆค่ะ รบกวนช่วยแนะนำด้วยนะคะ ธรรมะขอบคุณค่ะ
|
|
| เจ้าของ: | ศิรัสพล [ 17 พ.ย. 2008, 10:18 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: ได้บุญคือเมตตา สงสาร หรือบาปที่โกงเพื่อนหรือเปล่า |
ขอตอบคุณ O.wan ดังนี้ครับ เรื่องเงินที่นำมาเลี้ยงลูกน้อง หากคุณเป็นเจ้าของร่วมกับเพื่อน คุณควรจะบอกเพื่อนจะดีที่สุดครับ เพราะจะไม่ผิดกับศีล เพราะเงินนั้นจัดว่ามีเจ้าของอีกคนไม่ใช่ของคุณคนเดียว ยกเว้นว่าคุณได้อภิสิทธิตกลงกันไว้ก่อนที่จะนำเงินไปใช้อะไรก่อนโดยไม่ต้องบอกล่วงหน้า หากไม่ได้ตกลงกันการนำเงินไปอย่างนี้จัดว่าศีลด่างพร้อยหรือศีลขาดได้ เจตนาของคุณดี แต่วิธีการนำเงินมาไม่ดีเท่าไรครับ เหมือนกับคนที่ไปปล้นเขามาหรือโกง ยักยอกเงินเขามาเพื่อเลี้ยงดูครอบครัวนั่นแหละครับ อีกประการหนึ่งคุณอย่าไปคิดล่วงหน้าคิดแทนเพื่อนของคุณว่าไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ เพราะบางทีหากคุณมีเหตุผลดี คุณมีความหนักแน่นในหลักการ สามารถบอกได้ว่าเป็นประโยชน์ต่อบริษัทอย่างไร มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นอย่างไร ข้อดี ข้อเสียกับการดูแลลูกน้องอย่างนี้คืออะไร ให้เพื่อนของคุณรู้ ผมว่าเพื่อนของคุณจะเข้าใจ แล้วดีไม่ดีอาจจะยอมที่จะตกลงกันถึงขั้นกันเงินส่วนหนึ่งเอาไว้สำหรับประเด็นนี้โดยเฉพาะทุกๆ ปีก็เป็นได้ครับ ทีนี้คุณก็จะไม่ผิดศีล เพื่อนของคุณก็จะได้บุญไปกับคุณด้วย งานก็มีประสิทธิภาพขึ้นด้วย พนักงานก็มีความสุข ลองพิจารณาดูนะครับ |
|
| เจ้าของ: | O.wan [ 17 พ.ย. 2008, 18:26 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: ได้บุญคือเมตตา สงสาร หรือบาปที่โกงเพื่อนหรือเปล่า |
ขอบคุณค่ะ k.ศิรัสพล สำหรับคำแนะนำ เวลาเราทำแล้วคิดว่าได้บุญ ก็อยากได้บุญเต็มร้อยนะคะจะลองหาโอกาสพูดกับเพื่อนค่ะ
|
|
| เจ้าของ: | กรัชกาย [ 17 พ.ย. 2008, 18:54 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: ได้บุญคือเมตตา สงสาร หรือบาปที่โกงเพื่อนหรือเปล่า |
เพื่อนคงเห็นว่าเราเป็นคนซื่อสัตย์จึงไว้ใจให้ดูแลทุกอย่าง ... และที่ว่าเค้างานเป็นงานธุรกิจเป็นธุรกิจเป็นคนตรงไปตรงมา คงพอมีเหตุผลฟังรับฟังผู้อื่นอยู่บ้าง แต่ค่อยๆครับใจเย็นๆ อย่าเพิ่งพูดอะไรแบบม้วนเดียวจบ งานใหญ่จะเสีย หากเขาไม่เห็นด้วยอย่างแรง ลองหยั่งเชิงดูโดยพูดถึงผลงานของคนงาน ในแง่บวกให้เค้าฟัง... แล้วสรุปว่า เราน่าจะทำอย่างนั้นอย่างนี้ต่อพวกเค้าบ้างนะ เพื่อเป็นสินน้ำใจเล็กน้อยๆ เพื่อยึดเหนี่ยวน้ำใจพวกเขาไว้ ...เพื่อนเห็นว่าอย่างไร ? ประมาณเนี่ยแล้วเรารอฟังน้ำเสียงและกิริยาของเพื่อน น่าจะพอมองออก มองชีวิตและโลกกว้างๆ ไม่ควรคิดมากครับ และคุณได้ปฏิบัติธรรมต่อไปนี้แล้ว เหฏฐิมทิศ- ทิศเบื้องต่ำ ลูกจ้าง, บ่าว นาย พึงบำรุงด้วยสถาน 5 1) ด้วยการงานให้ทำตามสมควรแก่กำลังความสามารถ (ความรู้) 2) ด้วยให้อาหารและรางวัล 3) ด้วยรักษาพยาบาลในเวลาเจ็บไข้ 4) ด้วยแจกของมีรสแปลกประหลาดให้กิน 5) ด้วยปล่อยในสมัย บ่าว เมื่อได้รับการบำรุงอย่างนี้แล้ว ย่อมอนุเคราะห์นายด้วยสถาน 5 1) ลุกขึ้นทำการงานก่อนนาย 2) เลิกการงานทีหลังนาย 3) ถือเอาแต่ของที่นายให้ 4) ทำการงานให้ดีขึ้น 5) นำคุณของนายไปสรรเสริญในที่นั้นๆ (ที.ปาฏิ.11/205) |
|
| เจ้าของ: | O.wan [ 17 พ.ย. 2008, 19:21 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: ได้บุญคือเมตตา สงสาร หรือบาปที่โกงเพื่อนหรือเปล่า |
k.กรัชกาย เราก็ยังลังเลอยู่เหมือนกันว่า จะบอกเพื่อนแบบไหน ถ้าบอกหมดกลัวเค้าจะคิดว่าเราไม่น่าเชื่อถืออีกต่อไป แล้วที่ผ่านมาแล้วเป็นบาปหรือไม่ถ้าเราปล่อยเลยตามเลย เพื่อเริ่มต้นใหม่ในวันนี้ตอนนี้เราเชื่อเรื่องเวร-กรรม ยิ่งอ่านโพสต์มากๆ เราก็ยิ่งอยากทำความดีให้มากยิ่งขึ้น อย่างน้อยเราก็เคยเสียเวลามาค่อนชีวิตแล้ว ตอนนี้เลยอยากทำดีต่อตัวเอง และผู้อื่นให้มากที่สุด รบกวนแนะนำด้วยนะคะ
|
|
| เจ้าของ: | กรัชกาย [ 17 พ.ย. 2008, 19:36 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: ได้บุญคือเมตตา สงสาร หรือบาปที่โกงเพื่อนหรือเปล่า |
คุณเข้าไปศึกษาศัพท์ที่กังวลใจที่นี้ครับ http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=15732 ที่คุณทำก็ไม่เห็นเสียหายอะไร ทำเพื่อองค์กรให้งานดำเนินไปด้วยดี เป็นหน้าที่ที่เจ้านายทุกคนพึงทำเพื่อความเจริญของบริษัทหรืองานที่เราเป็นหัวหน้ารับผิดชอบ |
|
| เจ้าของ: | พลศักดิ์ วังวิวัฒน์ [ 17 พ.ย. 2008, 22:56 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: ได้บุญคือเมตตา สงสาร หรือบาปที่โกงเพื่อนหรือเปล่า |
คุณ"O.wan" ครับ ก็คุณเป็นคนจัดการ คุณบริหารงานแบบเมตตา ไม่กดขี่ขูดรีดพนักงาน มันก็ดีแล้วนิครับ ไม่เห็นต้องไปคิดมากเลย เรื่องไม่มีความทุกข์ ไปคิดให้มันมีความทุกข์ ถ้าเพื่อนเขาสงสัย ก็ตอบเขาไปตรงๆว่าฉันบริหารงานแบบนี้ ไม่ใช่บริหารงานแบบเอาเปรียบลูกน้อง |
|
| หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
| Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |
|