ลานธรรมจักร
http://dhammajak.net/forums/

การสวดขอขมากรรม
http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=19335
หน้า 1 จากทั้งหมด 5

เจ้าของ:  O.wan [ 02 ธ.ค. 2008, 14:26 ]
หัวข้อกระทู้:  การสวดขอขมากรรม

:b8: มีคนบอกเราว่าการสวดขอขมากรรม เพื่อให้กรรมเก่าลดลงเป็นการสวดที่
ต้องตั้งอธิฐานจิตมีส่วนช่วย นอกเหนือจากการสวดมนต์ นั่งสมาธิและแผ่เมตตา :b10:
มีด้วยหรือคะ รบกวนท่านผู้รู้ช่วยแนะนำด้วยค่ะ :b27: :b27: :b27:
:b44: บทไหนคะอยากสวดด้วยคนค่ะ เผื่อตอนนี้ต้องรับผลกรรมเก่าอยู่
:b44: แต่ทุกวันนี้ก็ยังทำความดีอยู่เสมอนะคะ :b29: :b29:

เจ้าของ:  ฌาณ [ 02 ธ.ค. 2008, 15:43 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: การสวดขอขมากรรม

รูปภาพ

เจ้าของ:  ฌาณ [ 02 ธ.ค. 2008, 15:44 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: การสวดขอขมากรรม

รูปภาพ

เจ้าของ:  ฌาณ [ 02 ธ.ค. 2008, 15:50 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: การสวดขอขมากรรม

รูปภาพ

เจ้าของ:  chalom [ 02 ธ.ค. 2008, 16:20 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: การสวดขอขมากรรม

;)
บทขมาพระรัตนตรัยอย่างบาลี

"อุกาส อจฺจโยโนภนฺเต อจฺจขมายถาพาเล ยถามูลฺลเห ยถาอกุสฺสเล เยมยงฺกร์มฺหาเอวํ
ภนฺเตอจฺจโยโนปฏิคนฺหตุ อายติงสํวเรยฺยา"(มหานิกาย)


"สพฺพํ อปราธํขมถเมภนฺเตอุกาส ทวารตฺตเยน กตํ สพฺพํ อปราธํ
ขมถเมภนฺเตอุกาส ขมามิภนฺเต"( ธรรมยุตินิกาย )

หมายเหตุ* ติง เขียนอย่างบาลี (ต. เต่าสระอินิคคะหิต)
*ผู้เดียวใช้ (มิ) หมู่คณะใช้ (มะ)

อะไรทำแล้วทำให้ใจสบายก็ทำเหอะ
..ฮฮฮ :b42: :b39: :b39:

เจ้าของ:  O.wan [ 02 ธ.ค. 2008, 19:46 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: การสวดขอขมากรรม

:b16: :b16: ขอบคุณนะคะที่แนะนำบทสวด แต่รบกวนถามต่อว่าเราควรสวด
ช่วงไหนคะ ก่อนนั่งสมาธิ ได้ไม๊คะ ที่ถามละเอียดเพราะ :b3: :b3: อยากทำให้ถูกค่ะ
:b10: :b8: :b10: :b8: :b10: :b8: :b10: :b8:
:b35: เป็นกำลังใจให้k.ฌาณ ให้ได้ดาว 10 ดวงเร็วๆนะคะ :b4: :b4: :b4:

เจ้าของ:  พลศักดิ์ วังวิวัฒน์ [ 03 ธ.ค. 2008, 11:26 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: การสวดขอขมากรรม

O.wan เขียน:
:b8: มีคนบอกเราว่าการสวดขอขมากรรม เพื่อให้กรรมเก่าลดลงเป็นการสวดที่
ต้องตั้งอธิฐานจิตมีส่วนช่วย นอกเหนือจากการสวดมนต์ นั่งสมาธิและแผ่เมตตา :b10:
มีด้วยหรือคะ รบกวนท่านผู้รู้ช่วยแนะนำด้วยค่ะ :b27: :b27: :b27:
:b44: บทไหนคะอยากสวดด้วยคนค่ะ เผื่อตอนนี้ต้องรับผลกรรมเก่าอยู่
:b44: แต่ทุกวันนี้ก็ยังทำความดีอยู่เสมอนะคะ :b29: :b29:



การสวดขอขมากรรมก็คือ การก้าวล่วงบาปกรรม ผมขอนำเอาเรือง 16563.ในเว็บนี้ เรื่องทำบาปไป
แล้ว ทำอย่างไรจึงจะทำให้วิบากกรรมจากบาปนั้นเบาบางลง
มาลงอีกครั้งหนึ่ง

.............................................................................................................


ผมคิดว่า ไม่เคยมีใครไมเคยทำบาป แต่ทำบาปไปแล้ว ทำอย่างไรจึงจะทำให้วิบากกรรมจากบาปนั้นเบาบางลง

การสำนึกผิดอย่างเด็ดขาด ทำให้วิบากกรรมในโลก ที่จะส่งผลถึงคุณนั้นจะเบาบางลง ส่วนในปรโลก
วิบากกรรมนั้นจะกลายเป็นเศษกรรมไป


มีพุทธพจน์ของพระพุทธเจ้าอยู่บทหนึ่ง ที่อยู่ในสุตตันต มัชฌิชนิกาย สัจจวิภังคสูตร สัจจภังคสูตร 22/542-546
(ผมอ่านมาจากหนังสือธรรมธาตุ ธรรมชาติของสรรพสิ่ง ของคณะสังคมผาสุก เพื่อความผาสุกของสังคม
หน้า 229) เรื่องการก้าวล่วงบาปกรรม สมมุติสงฆ์พุทธเถรวาทของเราส่วนใหญ่มักจะไม่ค่อยรู้เรื่องนี้

จริงๆ เรื่องการก้าวล่วงบาปกรรมนั้น ก็คือการสำนึกบาปอย่างจริงใจนั่นเอง สิ่งนี้เป็นการขจัดมลทินแห่งอกุศล
ออกไปจากจิต ทำให้กรรมดำกลายเป็นกรรมขาว และวิบากของกรรมดำที่เราเคยทำไปแล้วในอดีต เบาบางลงได้

พระพุทธองค์ทรงตรัสแนะนำให้ก้าวล่วงออกจากกรรมเสีย โดยการกำหนดอธิษฐานจิต ตั้งใจมั่นว่า

“ กรรมนั้นๆเป็นสิ่งไม่สมควร ต่อไปนี้ตลอดไปนิรันดร
เราจะไม่กระทำกรรมนั้นอีกเป็นอันขาด ”


เมื่อเราตั้งใจแน่วแน่ดังนี้แล้ว ใจของเราจะก้าวออกจากกรรมนั้นได้

ในโลกมนุษย์ เพราะว่าคุณได้สำนึกผิดอย่างเด็ดขาดไปแล้ว วิบากกรรมที่จะส่งผลถึงคุณนั้นจะเบาบางลง
ส่วนในปรโลก วิบากกรรมนั้นจะกลายเป็นเศษกรรมไป


ตัวอย่าง หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม ในวัยเด็กท่านเคยฆ่าไก่ตายเป็นจำนวนมากด้วยการหักคอไก่
ต่อมาหลังจากท่านมาบวชเป็นพระแล้ว ท่านก็สำนึกในบาปกรรมที่เคยได้ทำในวัยเด็ก และท่านก็
รู้ในจิตของท่านจากการปฏิบัติกรรมฐานด้วยว่า เหล่าวิญญาณไก่ที่เป็นเจ้ากรรมนายเวรของท่านตามมา
ทวงหนี้แล้ว ท่านก็ต้องรับผลกรรมนั้น โดยต้องคอหักตายในวันที่ 14 ตุลาคม 2521 (ขออภัยถ้าจำผิด)
และแล้ว.....เหตุการณ์นั้นก็เกิดขึ้นจริงๆ ท่านรถคว่ำคอหัก แต่ทว่าท่านไม่ตายครับ อยู่ต่อมาถึงทุกวันนี้
ให้เราได้กราบไหว้ เป็นผลมาจากการสำนึกบาปหรือการก้าวล่วงกรรมของท่าน ทำให้วิบากกรรมของท่านนั้น
เบาบางลงนั่นเอง


ส่วนวิบากกรรมในปรโลก ผมคงนำตัวอย่างของคนอื่นมาแสดงไม่ได้ นอกจากประสพการณ์ส่วนตัวของผม

เรื่องมีอยู่ว่า

เมื่อ 20 กว่าปีก่อน ผมเคยอกหักกับผู้หญิงคนหนึ่ง ผมก็ไม่รู้ว่าผมทำกรรมอะไรไว้ จึงส่งผลให้ผมต้องอกหัก
วันหนึ่งผมก็ไปกราบนมัสการพระพรหมที่โรงแรมแกรนไฮเอ็ตเอราวัน อธิษฐานจิตขอให้พระพรหมช่วย
แต่ถ้าท่านช่วยผมไม่ได้ อย่างน้อย ผมก็ขออนุญาตให้ท่านช่วยมาตอบปัญหาผมหน่อยว่า ทำไมคนดีๆ
อย่างผม ที่เป็นคนชอบทำบุญ และช่วยเหลือคนอื่นมามาก อีกทั้งยังชอบทำสมาธิ เหตุใด? หรือทำไม?
ผมจึงต้องประสพกับชะตากรรมอกหักเช่นนี้

เนื่องจาก ผมเป็นคนที่ฝรั่งเขาเรียกว่า มีSIXSENSE สามารถติดต่อกับเหล่าวิญญาณในปรโลกได้
ดังนั้น ผมจึงเชื่อว่า พระพรหมจะต้องมาหาผมอย่างแน่นอน เพราะไม่มีเหตุผลอะไร ที่ท่านจะปฏิเสทการมาหาผม
แล้วท่านก็มาหาผมจริงๆ...... เวลา
ผ่านไปไม่ถึงสัปดาห์ ที่บ้านผมก็มีแขกผู้มีเกียรติท่านหนึ่งมาหา ด้วยกระแสพลังของท่าน ผมรู้ว่า
ท่านเป็นเทพชั้นสูงมากๆ แต่นึกไม่ถึงว่า ท่านจะเป็นถึงพระพรหม ดวงวิญญาณของท่านเป็นวิญญาณ
มนุษย์ชั้นเทพภูมิสูงมากๆ ผมจำคำสอนของพระพุทธองค์ได้ว่า มนุษย์ผู้ใดประกอบไปด้วยพรหมวิหาร 4
มนุษย์ผู้นั้นเมื่อตายในฌาน 4 เขาจะได้ไปเกิดในชั้นพรหม และอาจจะได้เป็นพระพรหม

ผมสงสัยว่า ตำแหน่งพระพรหมนี้ไม่ใช่ตำแหน่งตายตัวที่ผูกขาดอยู่กับวิญญาณดวงเดียว อาจมี
การสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไป นอกจากนี้ พระพรหมองค์นี้ก็ไม่น่าใช่พระพรหม หรือพระเจ้าผู้สร้าง
สรรพสิ่งในโลกอย่างแน่นอน แต่ท่านมาประจำอยู่ตรงนี้ได้ ก็ด้วยความบริสุทธิ์ในวิญญาณของท่าน
ซึ่งประกอบไปด้วยเมตตา กรุณา มุทิตา และอุเบกขา


พระพรหมท่านไม่ได้เสด็จเข้ามาในบ้านผมหรอก ท่านยืนอยู่หน้าประตูบ้าน แล้วท่านก็ตอบคำถามผม
แต่ไม่ใช่ด้วยคำพูดนะครับ ท่านเนรมิตให้มีดวงวิญญาณดวงหนึ่งพุ่งขึ้นมาจากใต้โซฟาของผม และทะลุ
โซฟาที่ผมนอน เข้ามากอดผมทางด้านหลังแบบพิศวาส จู่ๆ ผมก็รู้คำตอบขึ้นมาทันทีเลยว่า บาปกรรม
ทางเพศที่ผมทำหลายสิบครั้งสมัยวัยรุ่น มันไม่ได้หายไปไหน ความจริงผมต้องรับผลของกรรมเมื่อเกิดใหม่
ในชาติหน้า หรือรับโทษในนรกภูมิ โดยต้องถูกพวกลักเพศเรียงคิว หรือไม่ก็รุมโทรมในนรก


แต่ด้วยเหตุที่ผมได้และจะได้เข้าใจในแก่นธรรม และจะทำสมถและวิปัสสนากรรมฐานดีขึ้นเรื่อยๆ
ใน(อนาคต)ชาตินี้ ทำให้กรรมนี้ตามผมไปในสวรรค์หรือในชาติหน้าไม่ได้ การอกหักของผมในชาตินี้
ก็เป็นผลมาจากบาปกรรมดังกล่าวนั่นเอง เพราะมันเป็นกรรมหนัก ถ้าผมไม่ได้ละวางจากความรัก
จะมีผลที่เลวร้ายอื่นๆ ตามมา แต่ผมสามารถละวางจากความรักได้ บาปกรรมนั้นได้ส่งผลถึงตัวผมแล้ว
แต่มันดันเข้าไปทำร้ายจิตใจผมไม่ได้เอง( หมายถึง ได้ แต่ไม่มากเท่าที่ควร)


พอพระพรหมให้ผมรับรู้ผลของกรรมนี้ในนรก ตอนนั้น ผมไม่ได้ปฏิเสทแต่อย่างใด คิดแต่ว่า เราทำกรรม
เหล่านั้นจริง และเราก็ขอยอมรับผลของกรรมนั้นด้วยความเต็มใจ ยอม รับโทษในนรก หลังจากนั้น
ผมทำสมาธิและท่อง “รัก เมตตา กรุณา และให้อภัย” ไป 2-3 เที่ยว เมื่อจิตเป็นสมาธิมั่นคงแล้ว
ร่างของดวงวิญญาณที่พระพรหมท่านเนรมิตมาก็สลายไป


เหมือนกับพระพรหมจะบอกกับในจิตว่า ผลของบาปนั้นไม่มีแล้ว ผมก็เลยสงสัยว่า..... ยังไม่ทันคิดจบ
เหมือนกับพระพรหมท่านรู้ว่า ผมสงสัยอะไรอยู่ ท่านก็ตอบให้ผมรู้ในใจว่า คำตอบนั้นอยู่ในพระไตรปิฎก
แล้วผมจะพบคำตอบเอง


เมื่อผมพบแล้วว่า การก้าวล่วงบาปกรรมทำให้วิบากกรรมที่จะส่งผลถึงเรานั้นจะเบาบางลง ส่วนในปรโลก
วิบากกรรมนั้นจะกลายเป็นเศษกรรม ผมจึงนำเรื่องนี้มานำเสนอในทุกเว็บศาสนาที่ผมเข้าไป

เจ้าของ:  อินทรีย์5 [ 03 ธ.ค. 2008, 12:56 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: การสวดขอขมากรรม

:b42: :b39: บทขอขมากรรมที่โพสท์มาข้างต้นก็คือบทเดียวกับบทอโหสิกรรม แต่ที่โพสท์อ่านแล้ว
ดูละเอียดกว่า เวลาจะสวดให้สวดก่อนหรืออยู่หน้าบทแผ่เมตตาและบทอุทิศส่วนกุศล :b41:

:b40: เพราะบทที่กล่าวมานี้ มีจุดหมายเพื่อขอขมาต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรืออโหสิกรรมกับคนอื่นเมื่อเราทำสิ่งไม่ดีๆกับใครเอาไว้ รวมถึงให้อภัยหรืออโหสิกรรมต่อทุกคนเมื่อใครๆก็ตามทำไม่ดีกับเราไว้เหมือนกัน เมื่อสวดบทนี้ก่อน และสวดแผ่เมตตาทีหลังจะให้การแผ่ของเรามีพลังมาก :b43: :b39:

เจ้าของ:  O.wan [ 04 ธ.ค. 2008, 06:19 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: การสวดขอขมากรรม

K.อินทรีย์5 ดีจังที่ได้บทสวดนี้ แต่ขอถาม มีคนเคยให้เรามาแบบนี้ :b27:
ไม่รู้ว่าเป็นบทอะไร และขึ้นต้นจะมีภาษาบาลีนำก่อน 2 บรรทัด :b23: :b23: :b23:
:b27: ถ้าเราสวดเฉพาะที่อ่านง่ายของคุณได้ไม๊คะ เพราะเราต้องใช้เวลานานนิดหน่อยค่ะ
กว่าจะจำได้ แต่อยากสวดง่ายๆแบบนี้ ตอนนี้พอดีมากด้วนอายุ :b27:
เลยกลัวว่าจะทำไม่ถูกค่ะ :b8: :b8: :b8: :b8: :b8: :b8:

เจ้าของ:  บัวไฉน [ 04 ธ.ค. 2008, 09:13 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: การสวดขอขมากรรม

:b18: ขออนุโมทนาบุญ กับคุณ O.wan ด้วยจ้า :b18:

เจ้าของ:  O.wan [ 04 ธ.ค. 2008, 09:40 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: การสวดขอขมากรรม

:b16: :b16: ชีวิตที่เหลือเพื่อธรรมะ :b4: :b4: :b4:
:b45: :b45: ใช่เลยค่ะประโยคนี้เพราะมากเลย เหมาะกับเราเวลานี้เลยค่ะ :b18: :b18:
:b8: :b8: :b8: ขอบคุณ k.บัวหิมะ ที่นะคะเป็นกำลังใจ สู้ตายค่ะ :b4: :b4: :b4:

เจ้าของ:  อินทรีย์5 [ 04 ธ.ค. 2008, 13:07 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: การสวดขอขมากรรม

:b39: :b40: :b40: :b42: ผมมีบทสวดอโหสิกรรม ที่ได้มาจากวัดอัมพวันสิงห์บุรีน่ะครับ ดังนี้
** บทสวดคำอธิษฐานอโหสิกรรม **
:b49: ข้าพเจ้าขออโหสิกรรม กรรมใดที่ทำแก่ผู้ใด ในชาติใดๆก็ตาม ขอให้เจ้ากรรมนายเวรอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้า อย่าได้จองเวรจองกรรมต่อไปเลย :b40:

:b43: แม้แต่กรรมที่ใครๆ ทำแก่ข้าพเจ้าก็ตาม ข้าพเจ้าขออโหสิกรรมให้ทั้งสิ้น ยกถวายพระพุทธเจ้าเป็นอภัยทาน เพื่อจะได้ไม่มีเวรกรรมต่อไป :b40:

:b44: ด้วยอานิสงส์แห่งอภัยทานนี้ ขอให้ข้าพเจ้า ครอบครัว บุตรหลาน ตลอดจนวงศาคณาญาติ และผู้มีอุปการคุณของข้าพเจ้า มีความสุข ความเจริญ ปฏิบัติแต่สิ่งที่ดี และสิ่งที่ชอบด้วยเทอญ :b41:

(ไม่มีภาษาบาลี เป็นบทอธิษฐานที่เป็นภาษาไทยล้วนๆ)
** ซึ่งจะสวดบทที่กล่าวโพสท์มาข้างต้น หรือจะสวดง่ายๆแบบบทที่ให้นี้ก็ได้

เจ้าของ:  ปกรโณ [ 04 ธ.ค. 2008, 13:43 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: การสวดขอขมากรรม

บทขอขมากรรม

อธิษฐานหน้าพระพุทธรูป หรือสวดก่อนนอนก็ได้

(นะโม 3 จบ)

สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถุเม ภันเตอุกาสะ ทะวารัตะเยนะ กะดัง

สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถุเม ภันเตอุกาสะ ขะมามิ ภันเต


หากข้าพเจ้า จงใจหรือประมาทพลาดพลั้งล่วงเกินบิดา-มารดา ครูบาอาจารย์ พระพุทธ พระธรรม พระอรพันต์ทุกพระองค์ พระอยิยสงฆ์เจ้าตลอดจนสิ่งศักดิ์สิทธิทั้งหลายรวมถึงผู้มีพระคุณ และท่านเจ้ากรรมนายเวรจะด้วย กาย วาจา ใจ ก็ดีขอได้โปรดอโหสิกรรมแก่ข้าพเจ้าด้วย
หากข้าพเจ้ามีเจ้าของในตัวติดตามมาขออนุญาตมีคู่มีครอบครัวได้เหมือนคนปกติทั่วๆไปขอถอนคำอธิษฐาน คำสาบานที่จะติดตามคู่ในอดีตขอให้ต่างฝ่ายต่างเป็นอิสระต่อกัน ข้าพเจ้าจะประพฤติตนในทางที่ถูกที่ชอบที่ควรขอบุญบารมีในอดีตกาลที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันจงส่งผลให้ข้าพเจ้าและครอบครัวตลอดจนบริวารที่เกี่ยวข้องจงเจริญด้วย อายุ วรรณะ สุขะ พละ ลาภ ยศ สุข สรรเสริฐ สติปัญญา ปฏิภาณ ธนสารสมบัติ อุปสรรคใด ๆ โรคภัยใด ๆ ขอให้มลายสิ้นไป ขอให้ข้าพเจ้ามีความสว่างทั้งทางโลก ทางธรรม ตั้งแต่บัดนี้ ตราบเข้าสู่พระนิพพานเทอญ
หากมีผู้ใดเคยสร้างเวรสร้างกรรมกับข้าพเจ้าไม่ว่าจะชาติใดภพใดก็ตาม ข้าพเจ้ายินดีอโหสิกรรมให้ ขอถอนความพยาบาทความอาฆาตและคำสาปแช่งในทุกชาติ ทุกภพ ขอให้ข้าพเจ้าพ้นจากคำสาปแช่งของปวงชน ของเจ้ากรรมนายเวร ขอให้พ้นนรกภูมิ พบแสงสว่างทั้งทางโลก ทางธรรม เทอญ....

เจ้าของ:  O.wan [ 05 ธ.ค. 2008, 07:12 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: การสวดขอขมากรรม

:b8: :b8: จะตั้งใจเพียรปฏิบัตินะคะ ธรรมะขอบคุณทุกๆ คำแนะนำนะคะ :b35: :b35:
:b18: :b41: :b18: :b41: :b41: :b18: :b41: :b18: :b41: :b18: :b41:

เจ้าของ:  Bwitch [ 19 มิ.ย. 2009, 13:16 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: การสวดขอขมากรรม

:b48:
รูปภาพ
:b48:
พุทโธ กัมมัฏฐาโม กรรมมะจุติ สัมพุทโธ

แปลว่ากรรมใดๆก็ขอให้อโหสิกรรมต่อกันด้วยอานุภาพพระสัมพุทโธ
:b8: :b8: :b8:
พระคาถาอโหสิกรรมแผ่เมตตา(หลวงปู่เงิน บางคลาน พิจิตร)

ที่มาของพระคาถานี้
มาจากพระโอษฐ์พระศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า
(ท่านผู้สนใจหาอ่านเองนะคะ ขอไม่นำมาโพสต์ซ้ำเพราะยาวค่ะ)

หน้า 1 จากทั้งหมด 5 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/