ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
กระทู้ตามคำเรียกร้อง เรื่องพระจี้กง และพระวักกริ-พระโคธิก http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=19600 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 2 |
เจ้าของ: | อวบอั๋นขั้นสุดท้าย [ 16 ธ.ค. 2008, 01:43 ] |
หัวข้อกระทู้: | กระทู้ตามคำเรียกร้อง เรื่องพระจี้กง และพระวักกริ-พระโคธิก |
จากกระทู้ http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=19592 ที่คุณพลศักดิ์ กล่าวถึง "จี้กงกล้าทำผิดศีลของพระเลย พระพุทธเจ้าห้ามกินเนื้อหมา ห้ามกินเหล้า จี้กงก็กินซะเลย กินจนท่านเป็นพระอรหันต์ พระวักกริและพระโคธิกะ พวกท่านก็เชือดคอฆ่าตัวตาย แต่พระพุทธองค์กลับยืนยันว่า ท่านทั้ง 2 เป็นอรหันต์" เมื่อกระผมมีแนวร่วม คือ คุณ MoSS (ลากมาเป็นตัวประกันด้วย ) ที่อยากทราบเกล็ดธรรมดังกล่าว จึงขอความกรุณา คุณ พลศักดิ์ ช่วยแสดงเป็น ธรรมทานด้วยครับ เพราะในความเข้าใจของกระผม การกระทำทั้ง 2 อย่างนั้นผิดวินัยสงฆ์ โดยเฉพาะ พระวักกริและพระโคธิกะ พวกท่านก็เชือดคอฆ่าตัวตาย นั้นเป็นการฆ่าตัวตาย ซึ่งบาปหนักอยู่อะครับ อย่างไรก็ขอความกรุณาด้วยครับ |
เจ้าของ: | พลศักดิ์ วังวิวัฒน์ [ 16 ธ.ค. 2008, 12:31 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: กระทู้ตามคำเรียกร้อง เรื่องพระจี้กง และพระวักกริ&พระโคธิก |
1. พระอรหันต์วักกลิเถระ ฆ่าตัวตาย คัดจากกว่าจะถึงอรหันต์ http://www.asoke.info/09Communication/D ... 9/073.html "........ ........ ........ พระศาสดาเอง - ได้ตรัสฝากให้ท่านว่า อย่ากลัวเลยวักกลิ เธอจะมีความตายอันไม่ต่ำช้า จะมีความตาย อันไม่เลวทรามเลย" วักกลิเห็นดวงตาธรรมแล้ว จึงฝากตอบพระพุทธเจ้าไปว่า "พวกท่านช่วยกันไปทูลพระศาสดา ตามคำพูดของผมด้วยว่าวักกลิภิกษุอาพาธเป็นไข้หนัก ได้รับทุกขเวทนา กล้าเหลือเกิน ขอถวายบังคมลา เบื้องพระยุคลบาท ของพระผู้มีพระภาคเจ้า ด้วยเศียรเกล้า ข้าพระองค์ไม่เคลือบแคลงว่า รูป (เวทนา-สัญญา-สังขาร-วิญญาณ) ไม่เที่ยง ไม่สงสัยว่า สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นทุกข์ ไม่สงสัยว่า สิ่งใดไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา ความพอใจก็ตาม ความกำหนัดก็ตาม ความรักใคร่ก็ตามในสิ่งนั้นๆ มิได้มีแก่ข้าพระองค์แล้ว" ภิกษุเหล่านั้นรับคำของพระวักกลิเถระ เมื่อภิกษุเหล่านั้นออกจากที่นั้นแล้ว พระวักกลิเถระ ก็นำเอาศัสตรา (อาวุธมีคม) มาปาดคอตัวเอง" |
เจ้าของ: | พลศักดิ์ วังวิวัฒน์ [ 16 ธ.ค. 2008, 12:34 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: กระทู้ตามคำเรียกร้อง เรื่องพระจี้กง และพระวักกริ&พระโคธิก |
พระวักกลิ พระฉันนะ พระโคธิกะ ต่างก็ทำอัตวินิบาตกรรม แม้แต่พระโมคัลลานะ และพระพุทธเจ้า ฯลฯ พวกท่านจะไม่ตายก็ได้ แต่พวกท่านไม่ยอมหนีกรรม เมื่อหมดหน้าที่ทางโลกแล้ว พวกท่านก็ยินยอมให้กรรมเก่านำชีวิตของพวกท่านไป เพราะวิญญานในขันธ์ 5 ไม่ใช่ตัวจริงของพวกท่าน ตัวจริงของพวกท่าน คือ วิญญาณบริสุทธิ์ ไม่มีราคะ โทสะ โมหะ ที่เรียกว่า พุทธะ หรือ จะเรียกว่า ธรรมกาย หรือจิตเดิมแท้ที่เป็นประภัสสรก็ได้ |
เจ้าของ: | พลศักดิ์ วังวิวัฒน์ [ 16 ธ.ค. 2008, 12:48 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: กระทู้ตามคำเรียกร้อง เรื่องพระจี้กง และพระวักกริ&พระโคธิก |
พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๒ - หน้าที่ 63 ๓. โคธิกสูตร ว่าด้วยพระโคธิกะปรินิพพาน ครั้งนั้นแล ท่านโคธิกะได้เกิดความคิดอย่างนี้ว่า เราได้เสื่อมจาก เจโตวิมุตติอันเป็นโลกีย์ถึง ๖ ครั้งแล้ว ถ้ากระไร เราพึงนำศัสตรามา. [๔๙๐] ลำดับนั้นแล มารผู้มีบาปทราบความปริวิตกแห่งจิตของท่าน โคธิกะด้วยจิตแล้ว จึงเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับ ครั้นแล้ว ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าด้วยคาถาว่า ข้าแต่พระองค์ผู้มีจักษุ มีเพียรใหญ่ มีปัญญามาก รุ่งเรืองด้วยฤทธิ์และยศ ก้าวล่วงเวรและภัยทั้งปวง ข้าพระองค์ขอถวายบังคมพระบาททั้งคู่ ข้าแต่พระองค์ ผู้มีเพียรใหญ่ สาวกของพระองค์อันมรณะครอบงำแล้ว ย่อมคิดจำนงหวังความตาย ข้าแต่พระองค์ ผู้ทรงไว้ซึ่งความรุ่งเรื่อง ขอพระองค์ จงห้ามสาวกะองพระองค์นั้น เสียเถิด. ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้ปรากฏในหมู่ชน สาวกของพระองค์ยินดีในพระ- ศาสนา ยังไม่ได้บรรลุพระอรหัต ยังเป็นพระเสขะอยู่ ไฉนจะพึงกระทำกาละ เสียเล่า. ก็เวลานั้น ท่านโคธิกะได้นำศัสตรามาแล้ว. [๔๙๑] ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทราบว่า ผู้นี้เป็นมารผู้มีบาป จึงได้ตรัสกะมารผู้มีบาปด้วยพระคาถาว่า ปราชญ์ทั้งหลายย่อมทำอย่างนี้แล ย่อมไม่ห่วงใยชีวิต โคธิกะภิกษุ ถอนตัณหาพร้อมด้วยราก นิพพานแล้ว. [๔๙๒] ครั้งนั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสเรียกภิกษุทั้งหลายมา แล้วตรัสว่า ภิกษุทั้งหลาย เรามาไปสู่กาลศิลา ข้างภูเขาอิสิคิลิ อันเป็นที่โคธิกกุลบุตร นำศัสตรามาแล้ว ภิกษุเหล่านั้น กราบทูลรับพระดำรัสของพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้ว. ครั้นนั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้าพร้อมด้วยภิกษุหลายรูปได้เข้าไปยังกาลศิลาข้างภูเขาอิสิคิลิ. พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ทอดพระเนตรเห็นโคธิกะมีคออันพลิกแล้ว นอนอยู่บนเตียงที่ไกลเทียว ก็เวลานั้นแล ควันหรือหมอกพลุ่งไปสู่ทิศตะวันออกทิศตะวันตก ทิศเหนือ ทิศใต้ ทิศเบื้องบน ทิศเบื้องต่ำ และอนุทิศ. [๔๙๓] ครั้งนั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสเรียกภิกษุทั้งหลายว่า ก่อนภิกษุทั้งหลาย พวกเธอเห็นไหม ควันหรือหมอกนั้นพลุ่งไปสู่ทิศตะวันออก ทิศตะวันตก ทิศเหนือ ทิศใต้ ทิศเบื้องบน ทิศเบื้องต่ำ และอนุทิศ เมื่อภิกษุเหล่านั้นกราบทูลรับพระดำรัสแล้วจึงตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย นั่นมารผู้มีบาป เที่ยวแสวงหาวิญญาณ. ของโคธิกกุลบุตร ด้วยคิดว่า วิญญาณของโคธิกกุลบุตรตั้งอยู่ ณ ที่ไหน ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย โคธิกกุลบุตร มีวิญญาณอันไม่ตั้งอยู่แล้ว ปรินิพพานแล้ว. [๔๙๔] ครั้งนั้นแล มารผู้มีบาปถือพิณมีสีเหลืองเหมือนมะตูมสุก เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับ ครั้นแล้ว ได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคเจ้าด้วยคาถาว่า ข้าพระองค์ได้ค้นหาวิญญาณของโคธิกกุลบุตร ทั้งในทิศเบื้องบน ทั้งทิศ เบื้องต่ำ ทั้งทางขวาง ทั้งทิศใหญ่ ทิศน้อยทั่วแล้ว มิได้ประสบ โคธิกะนั้นไป ณ ที่ไหน. [๔๙๕] พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสตอบว่า นักปราชญ์ผู้ใดสมบูรณ์ด้วยธิติ มีปกติเพ่งพินิจ ยินดีแล้วในฌานทุกเมื่อ พากเพียรอยู่ตลอดวันและคืน ไม่มีความอาลัยในชีวิต ชนะเสนาของมัจจุราชแล้ว ไม่กลับมาสู่ภพใหม่ นักปราชญ์นั้นคือ โคธิกกุลบุตร ได้ถอนตัณหาพร้อมด้วยราก ปรินิพพานแล้ว. |
เจ้าของ: | พลศักดิ์ วังวิวัฒน์ [ 16 ธ.ค. 2008, 12:54 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: กระทู้ตามคำเรียกร้อง เรื่องพระจี้กง และพระวักกริ&พระโคธิก |
เรื่อง พระฉันนะฆ่าตัวตาย สุดท้ายเป็นพระอรหันต์ เพราะสะสมปัญญามาพร้อม พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์ เล่ม ๓ ภาค ๒ - หน้าที่ 435 ข้อความบางตอนจาก ฉันโนวาทสูตร คำว่า นำศัสตรามาแล้ว คือ เอาศัสตราสำหรับคร่าชีวิตมาแล้ว ตัดก้านคอแล้ว. ก็ขณะนั้น ความกลัวตายของท่านก็ก้าวลง คตินิมิตปรากฏขึ้น. ท่านรู้ว่าตัวยังเป็นปุถุชน เกิดสลดใจ ตั้งวิปัสสนา พิจารณาสังขาร สำเร็จเป็นพระอรหันต์ เป็นสมสีสี แล้วก็ปรินิพพาน. |
เจ้าของ: | พลศักดิ์ วังวิวัฒน์ [ 16 ธ.ค. 2008, 13:03 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: กระทู้ตามคำเรียกร้อง เรื่องพระจี้กง และพระวักกริ&พระโคธิก |
081 ฆ่าตัวตายไม่ควรตำหนิเสมอไป ๗๙. ปัญหา เรื่องมีอยู่ว่า พระฉันนะอาพาธหนัก และคิดจะฆ่าตัวตายด้วยศาสตรา พระสารีบุตรได้เทศนาสั่งสอนและห้ามปรามไว้ แต่ในที่สุดพระฉันนะก็ฆ่าตัวตายจนได้ และได้รับคำตำหนิติเตียนจากญาติมิตรและคนเป็นอันมาก พระสารีบุตรจึงทูลถามพระพุทธเจ้าถึงเรื่องนี้ พระพุทธองค์ทรงมีทรรศนะว่าอย่างไร ? พุทธดำรัสตอบ “ดูก่อนสารีบุตร พระฉันนะยังมีสกุลมิตร สกุลสหายและสกุลที่คอยตำหนิอยู่ก็จริง แต่เราหาเรียกบุคคลว่า ควรถูกตำหนิด้วยเหตุเพียงเท่านี้ไม่...... บุคคลใดแลทิ้งกายนี้และยึดมั่นกายอื่น บุคคลนั้นเราเรียกว่า ควรถูกตำหนิ ฉันนะภิกษุหามีลักษณะนี้ไม่ ฉันนะภิกษุหาศาสตรามาฆ่าตัว อย่างไม่ควรถูกตำหนิ” ฉันโนวาทสูตร อุ. ม. (๗๕๓) ตบ. ๑๔ : ๔๗๙ ตท. ๑๔ : ๔๐๗ ตอ. MLS. III : ๓๑๘-๓๑๙ |
เจ้าของ: | พลศักดิ์ วังวิวัฒน์ [ 16 ธ.ค. 2008, 13:07 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: กระทู้ตามคำเรียกร้อง เรื่องพระจี้กง และพระวักกริ&พระโคธิก |
ย้ำ!!! แต่เราหาเรียกบุคคลว่า ควรถูกตำหนิด้วยเหตุเพียงเท่านี้ไม่...... บุคคลใดแลทิ้งกายนี้และยึดมั่นกายอื่น บุคคลนั้นเราเรียกว่า ควรถูกตำหนิ ฉันนะภิกษุหามีลักษณะนี้ไม่ ฉันนะภิกษุหาศาสตรามาฆ่าตัว อย่างไม่ควรถูกตำหนิ เนื่องจาก ฉันนะภิกษุไม่ได้ทิ้งกายนี้ ไปหากายอื่น และยึดมั่นในกายอื่น |
เจ้าของ: | พลศักดิ์ วังวิวัฒน์ [ 16 ธ.ค. 2008, 13:22 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: กระทู้ตามคำเรียกร้อง เรื่องพระจี้กง และพระวักกริ&พระโคธิก |
คุณ"อวบอั๋นขั้นสุดท้าย"ครับ ตอนนี้ ผมขอตอบคำถามคุณให้ชัดๆเลยว่า การฆ่าตัวตายซึ่งเป็นการผิดวินัยสงฆ์อย่างรุนแรงที่สุด พระวักกลิ พระโคธิกะ และพระฉันนะ พวกท่านก็ล้วนฆ่าตัวตาย แต่กลับไม่เป็นบาปหนัก เพราะสิ่งที่เป็นบาปหนักคือ: "ทิ้งกายนี้ เพื่อไปหากายใหม่ ต้องการไปยึดมั่นในกายใหม่" = ผิดศีล 5 ซึ่งเป็นโลกียะธรรม แต่พระวักกลิ พระโคธิกะ และพระฉันนะ พวกท่านก็ล้วนฆ่าตัวตาย แต่กลับไม่เป็นบาปหนัก เนื่องจาก: พวกท่านล้วนละทิ้งกาย(ขันธ์ 5)เหล่านี้ ไม่ได้เพื่อไปหากาย(ขันธ์ 5)ใหม่ เพื่อจะไปยึดมั่นในกาย(ขันธ์ 5)ใหม่นั่นเอง |
เจ้าของ: | พลศักดิ์ วังวิวัฒน์ [ 16 ธ.ค. 2008, 13:32 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: กระทู้ตามคำเรียกร้อง เรื่องพระจี้กง และพระวักกริ&พระโคธิก |
ประเด็นจี้กง และพระวักกลิ โคธิกะ ฉันนะ เหมือนกันตรงที่ พวกท่านต่างไม่ยึดมั่นถือมั่นว่า " นี่เป็นตัวกู นี่เป็นของกู " พระศาสดาประทานพระโอวาทนี้ว่า " (พระวินัยมีเยอะ)ถ้ากระนั้น เธอจงรักษาเฉพาะจิตของตนไว้, เธออาจพ้นจากทุกข์ได้" และว่า " ภิกษุ ถ้าเธอจักสามารถรักษา(จิต)ได้เพียงสิ่งเดียวเท่านั้น, กิจคือการรักษาสิ่งทั้งหลายที่เหลือ ย่อมไม่มี " ดังนั้น ผู้ที่บรรลุธรรม เป็นผู้รักษาจิตให้บริสุทธิ์อย่างเดียว พระวินัย ศีล 5 ศิล 8 ศีล 227 ข้อ ถ้ารักษาจิตให้บริสุทธิ์ เพียงข้อเดียวก็เกินพอแล้ว ภิกษุที่พยายามรักษาพระวินัย ศีล 5 ศิล 8 ศีล 227 ข้อ แต่ไม่ได้รักษาใจให้บริสุทธิ์ ถือว่าไม่เข้าถึงแก่นธรรมของพระพุทธเจ้า จี้กง และพระวักกลิ โคธิกะ ฉันนะ ท่านรักษาใจให้บริสุทธิ์ ไม่ยึดมั่นในพระวินัย แสดงว่า พวกท่านล้่วนแล้วแต่เข้าถึงแก่นธรรมของพระพุทธเจ้า ทั้งสิ้น |
เจ้าของ: | แวะมา [ 16 ธ.ค. 2008, 14:50 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: กระทู้ตามคำเรียกร้อง เรื่องพระจี้กง และพระวักกริ&พระโคธิก |
แค่มาทักทายสหาย(อวบ)อั๋น...... |
เจ้าของ: | thammathai [ 16 ธ.ค. 2008, 15:20 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: กระทู้ตามคำเรียกร้อง เรื่องพระจี้กง และพระวักกริ&พระโคธิก |
อ้างคำพูด: ตอนนี้ ผมขอตอบคำถามคุณให้ชัดๆเลยว่า การฆ่าตัวตายซึ่งเป็นการผิดวินัยสงฆ์อย่างรุนแรงที่สุด ผมขอเรียนถามคุณพลศักดิ์ครับว่าผิดวินัยสงฆ์ข้อไหน...ช่วยอ้างอิงในพระวินัยปิฏกให้ดูเป็นธรรมทานหน่อยครับเล่มไหน หน้าที่เท่าไรครับ.... ขอบคุณครับ |
เจ้าของ: | พลศักดิ์ วังวิวัฒน์ [ 16 ธ.ค. 2008, 15:37 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: กระทู้ตามคำเรียกร้อง เรื่องพระจี้กง และพระวักกริ&พระโคธิก |
thammathai เขียน: อ้างคำพูด: ตอนนี้ ผมขอตอบคำถามคุณให้ชัดๆเลยว่า การฆ่าตัวตายซึ่งเป็นการผิดวินัยสงฆ์อย่างรุนแรงที่สุด ผมขอเรียนถามคุณพลศักดิ์ครับว่าผิดวินัยสงฆ์ข้อไหน...ช่วยอ้างอิงในพระวินัยปิฏกให้ดูเป็นธรรมทานหน่อยครับเล่มไหน หน้าที่เท่าไรครับ.... ขอบคุณครับ เว้นจากการฆ่าสัตว์ทั้งมนุษย์และเดรัจฉาน มันเป็นพระวินัยข้อไหน หาเองซิครับ |
เจ้าของ: | thammathai [ 16 ธ.ค. 2008, 15:48 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: กระทู้ตามคำเรียกร้อง เรื่องพระจี้กง และพระวักกริ&พระโคธิก |
“จิตฺเต สงฺกิลิฏฺเฐ ทุคฺคติ ปาฏิกงฺขา จิตฺเต อสงฺกิลิฏฺเฐ สุคติ ปาฏิกงฺขา” แปลว่า ..เมื่อจิตผ่องใสสุคติเป็นอันหวังได้ เมื่อจิตเศร้าหมองทุคติเป็น อันหวังได้ ท่านเหล่านั้นทำการฆ่าตัวตายด้วยใจบริสุทธิ์ .... ละวางโลกทั้งปวงได้..... เรื่องราวต่างๆของท่านเหล่านั้นจะสังเกตุว่าเป็นผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบมาตลอด..... ยึดมั่นในพระวินัยตลอด ในพระวินัยไม่ได้บัญญัติเรื่องการฆ่าตัวตายว่าเป็นปราชิกข้อไหน มีแต่เรื่องวานจ้างฆ่าผู้อื่น.... การรักษาจิตให้บริสุทธิ์เพียงอย่างเดียวคือการยึดมั่นตรงตามพระวินัยทั้งหมด ก่อนหน้านั้นท่านเหล่านั้นยังไม่บรรลุอรหัตผล...เมื่อคราต้องทำการฆ่าตัวตาย.... รู้จริงเห็นจริง วางโลกทั้งปวงได้ เมื่อวางมีดก่อนสิ้นลมท่านทั้งหลายนั้นก็บรรลุพระอรหันต์.... ถ้าใครยังฝึกจิต....ฝึกใจทำไม่ได้เช่นท่านเหล่านั้น.... อ่านเรื่องนี้แล้วอย่าคิดว่าการฆ่าตัวตายไม่บาป จิตของปุถุชนย่อมเศร้าหมอง ..... ทุคติเป็นอันหวังได้ |
เจ้าของ: | แวะมา [ 16 ธ.ค. 2008, 22:12 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: กระทู้ตามคำเรียกร้อง เรื่องพระจี้กง และพระวักกริ-พระโคธิก |
สหาย......อั๋น.......เราเห็นท่าน online |
เจ้าของ: | อวบอั๋นขั้นสุดท้าย [ 16 ธ.ค. 2008, 22:25 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: กระทู้ตามคำเรียกร้อง เรื่องพระจี้กง และพระวักกริ-พระโคธิก |
แวะมา เขียน: สหาย......อั๋น.......เราเห็นท่าน online สวัสดีครับ สหายธรรมแวะมา กำลังอ่านเรื่องที่คุณ พลศักดิ์ post ขอรับ น่าสนใจทีเดี่ยว เป็นช่างเวลาเพียงเสี่ยววินาที ที่มีค่า เปลี่ยนจากบาปหนาที่สุด ไปสู่การบรรลุธรรม เพียงแต่ว่าเราจะใช้เวลาเพียงเสี้ยววินาทีนั้น เปลี่ยนความคิดเราอย่างไร ขอบคุณสำหรับ เรื่องราวดีๆขอรับ |
หน้า 1 จากทั้งหมด 2 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |