ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
เพื่อนขายปลาให้มากินบาปหรือเปล่า http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=19775 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | O.wan [ 24 ธ.ค. 2008, 11:17 ] |
หัวข้อกระทู้: | เพื่อนขายปลาให้มากินบาปหรือเปล่า |
![]() ![]() เค้าให้เราไปเอามากิน เพราะปลาเค้าเลี้ยงเอง ถ้าเป็น 6 เดือนก่อนเราก็จะไปเอาทันที ซึ่งตอนนั้นจะเป็นปลาที่เหลือจากที่เค้าคัดส่งแล้ว เราเอามาก็จะมีเป็น (แบบใกล้ตาย ) และก็ตาย เราก็จะเอาไปแจกจ่าย เพราะจะสด และตัวใหญ่ แต่เราได้มาฟรี เราก็จะเอาตัวที่ตายแล้วนิดหน่อย ส่วนที่เหลือเราก็จะให้ลูกน้อง แม่บ้านคนที่เค้าไม่มีโอกาศที่จะซื้อกิน เพราะคิดว่าให้ทานน่ะค่ะ : ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | kokorado [ 24 ธ.ค. 2008, 13:19 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เพื่อนขายปลาให้มากินบาปหรือเปล่า |
น่าจะบาปนะเพราะปลามันก็ตายเพราะเรา เค้าฆ่ามาให้เรา คือผมคิดว่า อยู่ในโลกนี้จะไม่ให้ทำบาปเลยมันเป็นไปได้ยาก เพราะเราต้องสังคมกับโลกภายนอก แต่พยายามยั้ง ๆไว้หน่อย มีคนถามว่าคนบางคนทำกรรมอย่างนี้แล้วไปนรก แต่บางคนทำแล้วแต่ไม่ได้ไปนรกเป็นเพราะอะไร ซึ่งคำตอบคือ บุคคลที่อบรมตน ทั้ง กายและใจ ทำกรรมไม่ดีก็ไม่ไปอบาย เพราะอบรมตน ส่วนผู้ที่ไม่ได้อบรมตน ทำความชั่วเพียงเล็กน้อย ก็ไปอบาย เปรียบได้ว่า มีเรือสองลำ ขนาดเท่า ๆกัน แต่ละลำ จุน้ำหนักได้ 50 กิโลกรัม ลำหนึ่ง ใส่น้ำหนักไป 48 กิโล พอเพิ่มอีก 2กิโลกรัมก็จมลงทันที ส่วนอีกลำหนึ่ง บรรจุน้ำหนักไว้10 กิโล ใส่อีก 10 กิโลกรัมก็ยังลอยอยู่ปกติ |
เจ้าของ: | พลศักดิ์ วังวิวัฒน์ [ 24 ธ.ค. 2008, 15:10 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เพื่อนขายปลาให้มากินบาปหรือเปล่า |
คุณ"O.wan"ครับ คนที่มีความรักเมตตากรุณาอยู่ในใจ ถือว่าเป็นผู้ประเสริฐ แต่คนที่รักเมตตากรุณาสัตว์ ก็เป็นคนมีมิจฉาทิฏฐิเช่นกัน พระพุทธเจ้าไม่เคยตรัสห้ามการกินเนื้อปลาเลยแม้แต่ครั้งเดียว และสัตว์ที่ห้ามกิน 10 ประเภท ก็ไม่ได้มีปลาอยู่ บาปไม่มี คุณนำบาปมาใส่ตัวเอง ผู้ที่เกิดมาเป็นปลาให้เขาจับกิน ถือว่าเขารับวิบากกรรมของเขา การที่คุณจะไม่ยอมให้เขารับวิบากกรรมของเขา เท่ากับคุณผิดกฎสวรรค์ และยังใจดำอีก เขากำลังจะหมดกรรมนั้นแล้ว คุณดันไปยื้อไม่ให้เขาหมดกรรมอีก แล้วคุณก็ช่วยปลาตัวนั้นไม่ได้.....ใช่ไหมตรับ (ตามหลักพุทธศาสนาจะห้ามกินเนื้อสัตว์ 10 อย่างคือ คน, ช้าง, ม้า, งู, สิงห์ เสือ, สุนัข, แมว, หอยขม หอยโข่ง, เต่า ตะพาบน้ำ และ นกแร้ง นกแสก นกเค้า) แต่ถ้าคนนั้นกินเนื้อเหล่านี้ เขาย่อมไม่ใช่คนธรรมดา เป็นผู้เข้าใจโลกุตตรธรรม เช่น จี้กงกินเนื้อหมา ท่านเป็นพระอรหันต์ เพราะจิตท่านไม่คิดปรุงแต่งแล้ว |
เจ้าของ: | พลศักดิ์ วังวิวัฒน์ [ 24 ธ.ค. 2008, 15:54 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เพื่อนขายปลาให้มากินบาปหรือเปล่า |
คุณ"kokorado"ครับ 1. น่าจะบาปนะเพราะปลามันก็ตายเพราะเรา เค้าฆ่ามาให้เรา ....คุณน่าจะเข้าใจคลาดเคลื่อน พระพุทธเจ้าไม่ได้ตรัสว่า การทำให้สิ่งใดตายเป็นบาปนะครับ คุณเหยียดมดตาย ไม่บาป เพราะคุณไม่มีเจตนา เนื่องจากมองไม่เห็นมด การฆ่าสำหรับคุณowanนั้นโคตรบาปเลยครับ เพราะเขาไปคิดปรุงแต่ง และไปกอดศีลข้อปาณานั่นเอง โดยไม่รู้ที่มาของศีลข้อปาณา และยังไม่รู้ด้วยว่า สัตว์ 10 ประเภทที่พระพุทธเจ้าห้ามคืออะไร คือผมคิดว่า อยู่ในโลกนี้จะไม่ให้ทำบาปเลยมันเป็นไปได้ยาก เพราะเราต้องสังคมกับโลกภายนอก แต่พยายามยั้ง ๆไว้หน่อย มีคนถามว่าคนบางคนทำกรรมอย่างนี้แล้วไปนรก แต่บางคนทำแล้วแต่ไม่ได้ไปนรกเป็นเพราะอะไร ซึ่งคำตอบคือ บุคคลที่อบรมตน ทั้ง กายและใจ ทำกรรมไม่ดีก็ไม่ไปอบาย เพราะอบรมตน ส่วนผู้ที่ไม่ได้อบรมตน ทำความชั่วเพียงเล็กน้อย ก็ไปอบาย เปรียบได้ว่า มีเรือสองลำ ขนาดเท่า ๆกัน แต่ละลำ จุน้ำหนักได้ 50 กิโลกรัม ลำหนึ่ง ใส่น้ำหนักไป 48 กิโล พอเพิ่มอีก 2กิโลกรัมก็จมลงทันที ส่วนอีกลำหนึ่ง บรรจุน้ำหนักไว้10 กิโล ใส่อีก 10 กิโลกรัมก็ยังลอยอยู่ปกติ ....ไม่เห็นด้วยครับ คนบางคนทำกรรมอย่างนี้แล้วไปนรก แต่บางคนทำแล้วแต่ไม่ได้ไปนรกเป็นเพราะ เขามีความยึดมั่นถือมั่นต่างกัน ถ้าเขามีความยึดมั่นถือมั่นสูง เกาะตำราไว้แน่น เขาย่อมไปนรกแน่นอน อีกคนเขาไม่มีความยึดมั่นถือมั่น คิดว่าเป็นปลา เป็นของที่กินได้ เขาจะมีบาปได้อย่างไร พระพุทธเจ้าเคยให้หลักการว่า ถ้าภิกษุองค์ใดไปคิดปรุงแต่งว่า สัตว์ตัวนั้น ชาวบ้านต้องไปฆ่ามาเพื่อบิณฑบาตร ถือว่าต้องอาบัติเป็นบาปแล้ว บาปทั้งหมดอยู่ที่การคิดปรุงแต่งอย่างเดียว ถ้าปรุงแต่งเป็นอกุศล และยังทะลึ่งไปทำอีก ก็เป้นบาป |
เจ้าของ: | natdanai [ 24 ธ.ค. 2008, 16:38 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เพื่อนขายปลาให้มากินบาปหรือเปล่า |
ท่านรู้สึกอยู่ในใจท่านอยู่แล้วครับว่าบาปหรือไม่ จะเป็นบาปหรือบุญขึ้นอยู่ที่เจตนาครับ....(เหมือนท่านพลศักดิ์มาตอบยังไงก็ไม่รู้) แต่ความจริงแล้วเป็นอย่างนั้นจริงๆครับ จากเรื่องที่ท่านเล่ามา ท่านไม่กล้ารับปลามากินเพราะจิตท่านจะกินปลา แต่ก็กลัวว่าจะเบียดเบียนชีวิตปลา ความคิดแบบนี้ หากท่านรับปลามากินก็ย่อมต้องบาปแน่นอนครับ แต่ถ้าท่านตัดเรื่องของปลาออกเสีย เพื่อนท่านเป็นคนมีน้ำใจเอาปลามาฝาก(เจตนาที่เป็นกุศล) ท่านรับปลานั้นไว้เพื่อรักษาน้ำใจเพื่อนคนนี้(เจตนากุศล) แล้วก็แบ่งปลาที่เพื่อนเอามาฝากให้กับคนอื่นๆได้กิน(เจตนากุศล) สังเกตว่าไม่มีเจตนาในการกินปลาเหล่านั้น การกินปลาเหล่านั้นจึงไม่เป็นบาปครับ ส่วนปลาที่ต้องตายก็เป็นกรรมของปลาเหล่านั้นอยู่แล้วครับ "มีกรรมที่ต้องเอาเนื้อให้ทาน" |
เจ้าของ: | O.wan [ 27 ธ.ค. 2008, 19:41 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เพื่อนขายปลาให้มากินบาปหรือเปล่า |
![]() ![]() ดีกว่านะคะ ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | ฌาณ [ 28 ธ.ค. 2008, 08:25 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เพื่อนขายปลาให้มากินบาปหรือเปล่า |
บาปชัวร์ป้าบ........ครับ ทั้งคนเลี้ยงปลา และเราผู้สนับสนุนทางอ้อม ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | O.wan [ 28 ธ.ค. 2008, 11:29 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เพื่อนขายปลาให้มากินบาปหรือเปล่า |
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | natdanai [ 28 ธ.ค. 2008, 11:40 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เพื่อนขายปลาให้มากินบาปหรือเปล่า |
O.wan เขียน: ![]() ![]() ดีกว่านะคะ ![]() ![]() ![]() ปลาที่ตลาดก็ต้องตายเพราะเราจะกินอยู่ดี....แล้วมันต่างกันอย่างไรกับกินปลาที่เพื่อนเลี้ยง ![]() เคยได้ฟังมาว่า "บาปอยู่กับคนทำ กรรมอยู่กับคนกิน" เพื่อนท่านมีเมตตาเอาปลามาให้ท่านก็หวังจะให้ท่านมีความสุขอิ่มท้อง ท่านก็เป็นคนมีเมตตาก็ปราถนาให้เพื่อนท่านมีความสุขใจ ท่านก็กรุณาตอบแทนความเมตตาของเพื่อนท่านด้วยการรับปลานั้นมา และท่านก็มุฑิตา ที่เพื่อนท่านสมหวังที่ท่านรับปลาที่เขาตั้งใจนำมาฝาก และด้วยความเมตตาของท่านอยากจะให้คนอื่นได้มีความสุขอิ่มท้อง ท่านจึงกรุณาเอาปลาไปแบ่งให้กับเพื่อนบ้าน และท่านก็มุฑิตากับเพื่อนบ้านอีกที่เขามีความสุขอิ่มท้อง ส่วนชีวิตของปลานั้นท่านก็อุเบกขาเสีย..... |
เจ้าของ: | O.wan [ 28 ธ.ค. 2008, 12:29 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เพื่อนขายปลาให้มากินบาปหรือเปล่า |
![]() ![]() ![]() ![]() เราเข้าไปหาคำอธิบายแล้ว เข้าใจแล้วค่ะ ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | น้ำใส [ 29 ธ.ค. 2008, 10:59 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เพื่อนขายปลาให้มากินบาปหรือเปล่า |
ถ้าปลานั้นตายมาก่อน เราเอาไปทำอาหารได้ ถ้าปลาไม่ตาย แต่เขาทำให้ตายเพื่อมาฝากเรา ถ้าเรารับ เราก็บาป อาหารของมนุษย์ที่จริงคือ พืชผัก ผลไม้ ไม่ใช่เนื้อสัตว์ ขออนุโมทนากับคุณ O.wan ครับ |
เจ้าของ: | พลศักดิ์ วังวิวัฒน์ [ 30 ธ.ค. 2008, 11:24 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เพื่อนขายปลาให้มากินบาปหรือเปล่า |
ทุกท่านครับ สิ่งที่ไม่บาป เอามาสอนกันว่าเป็นบาป ช่วยกันมั่วเข้าไป นรกไม่ถามหา ดันถามหานรกเสียเอง สมัยที่พระพุทธเจ้าเกิดเป็นเด็กชาวประมง ท่านต้องจับและฆ่าปลามาเยอะ แต่ท่านไมบอกว่าไม่บาป แต่ตอนที่พระพุทธเจ้าไม่ได้จับปลาและไม่ได้ฆ่าปลา เพียงแต่สะใจที่เห็นชาวประมงคนอื่นฆ่าปลา กลับเป็นบาป ทำให้พระพุทธเจ้าต้องเจ็บปวดศรีษะในขณะที่วิทูฑภะฆ่าพวกศากยะในกรุงกบิลพัสด์ บาปไม่ได้เกิดจากกายและวาจา เกิดจากใจที่ไปคิดปรุงแต่งเป็นอกุศล ถ้าไม่เห็นความจริงข้อนี้ ก็ไม่ได้ชื่อว่าเห็นธรรม พระผู้มีพระภาคตรัสว่า เจตนาคือตัวกรรม และว่า ใจเป็นใหญ่ ใจเป็นประธาน ทุกอย่างสำเร็จที่ใจ แต่พวกเราชาวพุทธเถรวาทกลับไปเก่งกว่าพระพุทธเจ้า ไปสอนกันเอง ให้เข้าใจผิดว่า กายเป็นใหญ่ กายเป็นประธาน ทุกอย่างสำเร็จที่กาย เอาการกระทำผิดศีล 5 ทางกาย และวาจา เป็นใหญ่ ไม่เอาใจเป็นใหญ่ซะแล้ว |
เจ้าของ: | แมวขาวมณี [ 31 ธ.ค. 2008, 21:41 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เพื่อนขายปลาให้มากินบาปหรือเปล่า |
ดีค่ะ คุณ 0.wan ฝึกใช้ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา ใช้ให้ถูก ใช้ให้คล่อง เมื่อเจอสถานการณ์ต่างๆ นะคะ ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | อมิตาพุทธ [ 08 ม.ค. 2009, 02:28 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เพื่อนขายปลาให้มากินบาปหรือเปล่า |
ถือว่าคุณ O.Wan เป็นผู้มีจิตเมตตามากเลยทีเดียว เราคิดว่ามันอยู่ที่เจตนานะ ถ้าจะให้สบายใจ ลองหันมาทานอาหาร มังสวิรัติ น่าจะดีนะ ไม่เบียดเบียน สัตว์ สบายใจด้วย ![]() |
เจ้าของ: | บุญชัย [ 12 ม.ค. 2009, 12:07 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เพื่อนขายปลาให้มากินบาปหรือเปล่า |
บาปอยู่ที่คนทำ กรรมอยู่ที่คนกิน รับคนละครึ่งครับ ถ้ามันตามไม่ทันก็ ไม่เป็นไร ทำสมาธิเยอะๆๆๆมันจะอโหสิให้ แผ่เมตตาเยอะๆๆๆ |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |