ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
สวัสดีปีใหม่ด้วยอิฐสองก้อน?!? http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=19803 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 2 |
เจ้าของ: | กุหลาบสีชา [ 25 ธ.ค. 2008, 13:40 ] |
หัวข้อกระทู้: | สวัสดีปีใหม่ด้วยอิฐสองก้อน?!? |
![]() สุขสันต์วันคริสต์มาส และสวัสดีปีใหม่ค่ะ ![]() นิตยสารฉบับส่งท้ายปลายปี ๒๕๕๑ นี้ เปิดมาก็ได้ทักทายคุณผู้อ่านตรงกับ "วันคริสต์มาส" พอดีเลยนะคะ เป็นวันบรรยากาศเริงรื่น ชื่นมื่น ได้อารมณ์จิงเกิลเบลล์ กันอีกคราหนึ่ง หลังจากที่ผ่านวันวุ่นวายในช่วงสามร้อยกว่าวันที่ผ่านมา เห็นความแตกแยกทะเลาะเบาะแว้งของผู้คนในประเทศ ในช่วงที่ผ่านมาแล้ว กลับมาคิดดูอีกที ที่จริงแล้ว ถึงแม้จะไม่มีเหตุการณ์บ้านเมืองมาเป็นปัจจัยก็ตาม แต่ในชีวิตประจำวันของการอยู่ร่วมกัน การมีปฏิสัมพันธ์ต่อกันในสังคมเล็กๆ ย่อยๆ เราต่างคนต่างก็มีเรื่องให้กระทบกระทั่งผิดใจกันได้ไม่ยากในทุกๆ วันอยู่แล้วนะคะ บ้างคนนี้ก็เข้าใจผิดคนโน้น บ้างคนโน้นก็ไม่พอใจคนนี้ บ้างคนนี้ก็พูดจาไม่เข้าหูคนนั้น บ้างคนนั้นก็ไม่ยอมคนโน้น ฯลฯ จนบางทีที่เคยเห็นเดินกอดคอกันอยู่ ก็พลอยโกรธขึ้งมึนตึงต่อกันไปได้ง่ายดาย ทั้งที่บางเรื่องอาจเป็นเพียงน้ำผึ้งหยดเดียวเท่านั้นเอง แต่สำหรับบางคน เรื่องเล็กๆ น้อยๆ บางเรื่อง ก็กลับเป็นเรื่องที่ยากจะอภัยต่อกัน พระอาจารย์พรหมวังโส เจ้าอาวาสวัดป่าโพธิญาณ ประเทศออสเตรเลีย เคยเล่าเรื่อง "อิฐสองก้อน" ไว้ในหนังสือ "ชวนม่วนชื่น" ไว้อย่างน่าฟังทีเดียวค่ะ พูดถึงเรื่องนี้แล้วก็เลยอยากนำมาเล่าให้คุณผู้อ่านที่ยังไม่เคยอ่านได้ฟังกันดูนะคะ พระอาจารย์พรหม ท่านเล่าว่า ตอนที่ท่านเริ่มสร้างวัดจากที่ดินเปล่าๆ ผืนหนึ่ง การก่อสร้างนั้นช่างยากเย็น แม้แต่การก่อกำแพงอิฐที่ดูเหมือนเป็นเรื่องง่ายๆ แค่โปะปูนลงไป แล้ววางก้อนอิฐ แตะด้านนี้ที ด้านนั้นที ให้เข้าที่ ก็น่าจะใช้ได้แล้ว แต่ความจริง... ตอนเริ่มก่ออิฐใหม่ๆ แตะกดมุมหนึ่ง อีกมุมหนึ่งก็กลับยกขึ้น พอกดด้านที่ยกให้ลงมา อิฐก็เริ่มแตกแนว พอดันกลับเข้าที่ มุมแรกก็สูงเกินไปอีก แต่ท่านก็อดทนก่อกำแพงอิฐนี้อย่างไม่สนใจว่าจะต้องใช้เวลายาวนานสักเท่าใด เพื่อจัดเรียงอิฐทุกก้อน ให้เป็นระเบียบเรียบร้อย และถูกวางไว้โดยสมบูรณ์ที่สุด จนกระทั่ง กำแพงอิฐแผงแรกสำเร็จลงด้วยดี ท่านก้าวถอยหลังออกมาเพื่อชื่นชมผลงานนั้น แต่แล้ว... ก็กลับสังเกตเห็นว่า มีอิฐอยู่สองก้อน ที่ทำมุมเอียงกับแนวอิฐก้อนอื่นๆ ทำให้กำแพงทั้งแผงมีตำหนิและดูไม่สวยงามเลย แต่ถึงเวลานั้น ปูนก็แข็งเกินกว่าที่จะดึงอิฐสองก้อนนั้นมาเรียงใหม่ได้แล้ว พระอาจารย์พรหมท่านรู้สึกอับอายอย่างยิ่งที่กำแพงมีความน่าเกลียด ไม่สวยงาม จึงขออนุญาตท่านเจ้าอาวาสทุบทิ้งเพื่อที่จะสร้างใหม่ แต่ท่านเจ้าอาวาสไม่อนุญาต นับตั้งแต่นั้น เมื่อมีแขกมาเยี่ยมชมวัด พระอาจารย์พรหมก็มักจะพาผู้ที่มาเยี่ยมชม เดินเลี่ยงกำแพงแถบนั้น และดึงความสนใจไปที่ส่วนอื่นๆ เสมอๆ จนกระทั่ง ๓ เดือนต่อมา มีผู้มาเยี่ยมชมวัดคนหนึ่ง เห็นกำแพงนั้นเข้า และเอ่ยกับท่านว่า "กำแพงนี้สวยดีนี่" "คุณลืมแว่นสายตาไว้ในรถหรือเปล่า คุณไม่เห็นหรือว่ามีอิฐ ๒ ก้อน ที่ก่อผิดพลาด จนกำแพงดูไม่ดี" "ใช่... ผมเห็นอิฐสองก้อนนั้น" ชายผู้นั้นตอบ "แต่ผมก็เห็นด้วยว่า มีอิฐอีก ๙๙๘ ก้อน ก่อไว้เป็นระเบียบสวยงามมาก" พระอาจารย์พรหมถึงกับอึ้ง... เป็นครั้งแรกในรอบ ๓ เดือน ที่ท่านสามารถมองเห็นอิฐก้อนอื่นๆ บนกำแพง ที่ผ่านมา นอกเหนือจากอิฐ ๒ ก้อนที่เป็นปัญหา ตาของท่านมืดบอดต่อสิ่งอื่นทั้งหมด ทั้งที่จริง อิฐทุกก้อน ทุกตำแหน่ง นอกจากอิฐ ๒ ก้อนนั้น ล้วนก่อไว้อย่างดีไม่มีที่ติ ยิ่งไปกว่านั้น จำนวนอิฐที่ดีก็มีมากกว่าอิฐไม่ดี ๒ ก้อนนั้นด้วย ท่านอยากทลายกำแพงลง เพราะมองเห็นแต่อิฐ ๒ ก้อนที่ผิดพลาด ทันทีที่ความรู้สึกเปิดกว้าง มองเห็นอิฐก้อนดีๆ จำนวนมากบนกำแพงนี้ กำแพงเดิมที่อยากทลายลงก็กลับงดงามขึ้นมาทันที "ใช่... กำแพงนี้สวยดี" พระอาจารย์พรหมหันไปเปรยกับชายผู้มาเยี่ยมชมคนนั้น นับแต่นั้น เมื่อท่านมีสายตาที่สามารถมองเห็นอิฐดีๆ ได้แล้ว กำแพงนี้ก็ไม่น่าเกลียดสำหรับท่านอีกต่อไป… เช่นเดียวกัน เราทุกคนต่างก็มีอิฐ ๒ ก้อนนั้นอยู่ในตัวเองกันทั้งนั้นนะคะ ไม่มีใครหรอกค่ะ ที่จะดีร้อยเปอร์เซ็นต์ หรือเลวร้ายร้อยเปอร์เซ็นต์ อย่าว่าแต่ใครเลยค่ะ ตัวเราเองนี่แหละ คนเดียวกัน วันเดียวกันแท้ๆ ยังแกว่งขึ้นแกว่งลง เป็นคนดีบ้าง เป็นคนน่าเกลียดบ้าง สลับกันไปได้ทั้งวัน หลายคน ตัดสัมพันธ์กับคนเคยที่เคยใกล้ชิดและปรารถนาดีต่อกันมา เพราะเพ่งมองแต่อิฐที่ไม่ดี ๒ ก้อนในคนเหล่านั้น หากเราหันมามองผู้คนรอบข้างด้วยสายตาที่เมตตาต่อกันมากขึ้น ไม่ให้เรื่องลบเพียงหนึ่งหรือสอง มาทำลายความสวยงามที่เคยมีต่อกันถึงร้อยถึงพัน ขัดแย้งกันอย่างไร เปิดใจคุยกันด้วยเหตุด้วยผล ผิดพลาดอย่างไร น้อมรับไปปรับปรุง และให้อภัยต่อกัน แม้กำแพงนั้นจะมีตำหนิอย่างไร มันก็จะยังคงตระหง่านสวยงาม และคุ้มภัยให้กันและกันได้เสมอ ที่จริง ไม่เท่าไหร่เราก็ตายจากกันอยู่แล้วนะคะ ที่จะได้อยู่ช่วยเหลือเกื้อกูลกันนั้น เอาเข้าจริงก็ไม่ได้นานสักเท่าไหร่หรอกค่ะ อิฐแค่ ๒ ก้อน ไม่ได้มีค่าควรแก่การนำมาเป็นสาระยึดถืออะไรในชีวิตเลย ทั้งเรา ทั้งคนอื่น ทุกคน ต่างก็ล้วนเป็นผู้ที่ยัง "ต้องขัดเกลา" ด้วยกันทั้งสิ้น ขอเพียงพร้อมปรับปรุงตน พร้อมให้โอกาส และพร้อมให้อภัย ทั้งต่อผู้อื่น และต่อตัวเอง เราต่างคนต่างก็จะได้พัฒนาจิตใจของตัวเราเองไปพร้อมๆ กันด้วย สุดท้ายแล้ว... กำแพงก็อาจจะไม่สวยสักหน่อย และอาจจะไม่มีวันสวยขึ้นเลยก็ได้ แต่เชื่อเลยค่ะว่า ผู้คนรอบรั้วกำแพงน่าจะดูมีความสุขกว่ากันเป็นกอง ว่าไหมคะ ![]() ![]() ![]() (ที่มา : จากใจ บ.ก. ใกล้ตัว โดย คุณกลางชล : นิตยสารธรรมะใกล้ตัว ฉบับที่ ๕๘ ประจำวันที่ ๒๕ ธันวาคม ๒๕๕๑) |
เจ้าของ: | ชาติสยาม [ 25 ธ.ค. 2008, 13:58 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สวัสดีปีใหม่ด้วยอิฐสองก้อน?!? |
สาธุครับคุณพี่ หลวงพ่อพุทธทาสว่า เขามีส่วนเลวบ้าง ช่างตัวเขา จงเลือกเอา ส่วนดี เขามีอยู่ เราก้สมควรจะครองจิตให้อยู่ในกุศลจิต หลีกเลี่ยงอกุศลจิต แต่ถ้าให้ดีที่สุด ก้ต้องทำให้แจ้งโดยไม่เห็นว่าสิ่งใดชั่ว สิ่งใดดี ปราศว่างจากความปรุงแต่งดีชั่วทั้งปวง เหลือแต่ธรรมะ เหลือแต่หน้าที่ ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | natdanai [ 25 ธ.ค. 2008, 22:29 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สวัสดีปีใหม่ด้วยอิฐสองก้อน?!? |
คามินธรรม เขียน: แต่ถ้าให้ดีที่สุด ก้ต้องทำให้แจ้งโดยไม่เห็นว่าสิ่งใดชั่ว สิ่งใดดี ปราศว่างจากความปรุงแต่งดีชั่วทั้งปวง เหลือแต่ธรรมะ เหลือแต่หน้าที่ ![]() ![]() ![]() ว่างแล้วยังเหลือหน้าที่อีกหรือครับ.... ![]() ฟังมาว่า พระอานนท์ตอนบรรลุอรหัตผลท่านพูดว่า "เราหลุดพ้นแล้ว กิจที่ต้องทำไม่ต้องทำแล้ว ธรรมเป็นที่สิ้นสุดแห่งตัณหา" |
เจ้าของ: | ชาติสยาม [ 26 ธ.ค. 2008, 01:06 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สวัสดีปีใหม่ด้วยอิฐสองก้อน?!? |
natdanai เขียน: คามินธรรม เขียน: แต่ถ้าให้ดีที่สุด ก้ต้องทำให้แจ้งโดยไม่เห็นว่าสิ่งใดชั่ว สิ่งใดดี ปราศว่างจากความปรุงแต่งดีชั่วทั้งปวง เหลือแต่ธรรมะ เหลือแต่หน้าที่ ![]() ![]() ![]() ว่างแล้วยังเหลือหน้าที่อีกหรือครับ.... ![]() ฟังมาว่า พระอานนท์ตอนบรรลุอรหัตผลท่านพูดว่า "เราหลุดพ้นแล้ว กิจที่ต้องทำไม่ต้องทำแล้ว ธรรมเป็นที่สิ้นสุดแห่งตัณหา" คุณพี่กล่าวถูกแล้วครับ แต่คุณพี่มองขั้นเลิศที่สุดแล้ว คืออรหัตถผล แต่พวกที่รองๆลงมาจนถึงปุถุชนนี่ก็หน้าคิดนะครับ ![]() ผมหมายถึง หน้าที่เดิมแท้ของจิต คือไม่มีหน้าที่ไงครับ ![]() ![]() ![]() อีกนัยหนึ่งก้หมายถึงหน้าที่ของสติ สติของอริยชน ที่ทำหน้าที่อยู่ คอยประหัตประหารเชื้อกิเลสที่ผ่านเข้ามาทางทวาร 6 แล้วกำลังจะปรุงขึ้นเป้นอะไรต่อมิอะไร และเพราะมันทำงานอัติโนมัติ ปราศจากเจตนากำหนด เลยกล่าวว่าทำงานไปตามหน้าที่ จิตพระอรหันต์ น่าจะหมายถึง จิตว่างจากกิเลสตันหา ว่างจนเป็นปกติธรรมดา จะมองว่ามีหน้าที่ก็ได้ คือมีหน้าที่ว่างจากกิเลส จะมองว่าไม่มีหน้าที่ก้ได้ เพราะมันว่างจนเป้นปกติธรรมดา เหมือนน้ำ หรือ ไฟ น่ะครับ จะมองว่ามันมีหน้าที่ก็ได้ เช่นมีหน้าที่เย้น ร้อน ถ้าผิดหน้าที่ก็ยุ่ง หรือมองว่ามันไม่มีหน้าที่ก็ได้ เพราะมันมีปกติธรรมดาอย่างนั้น แก้ตัวน้ำขุ่นๆไปอย่างนี้ พอใช้ได้ไหมคับคุณพี่ณัฐ ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | กุหลาบสีชา [ 26 ธ.ค. 2008, 01:19 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สวัสดีปีใหม่ด้วยอิฐสองก้อน?!? |
แม้หน้าที่ของ "ความเป็นมนุษย์ที่มีตนเอง" ของพระอรหันต์ ในการทำนิพพานให้แจ้ง ซึ่งนับเป็นการบรรลุถึงวิวัฒนาการอันสูงสุดของมนุษย์นั้น จะ เสร็จกิจ แล้ว แต่ตราบเท่าที่ยังดำรงธาตุขันธ์ ก็ยังคงต้องทำ "หน้าที่ของมนุษย์ที่มีต่อสรรพสัตว์ทั้งหลายที่ยังเวียนว่ายในวัฏฏสงสาร" เป็นการกระทำหน้าที่ต่อทุกชีวิตโดยเท่าเทียมกัน โดยปราศจาก อคติทั้ง ๔ (ฉันทาคติ โทสาคติ โมหาคติ ภยาคติ) ทำเพราะหน้าที่...จึงทำด้วยความว่าง ว่างจาก อคติทั้ง ๔....จึงว่างจากการปรุงแต่งของกิเลสใดใด ผิดถูกประการใด...ขอเชิญวิสัชนากันต่อเลยนะคะ ![]() |
เจ้าของ: | ชาติสยาม [ 26 ธ.ค. 2008, 01:30 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สวัสดีปีใหม่ด้วยอิฐสองก้อน?!? |
กุหลาบสีชา เขียน: นับเป็นการบรรลุถึงวิวัฒนาการอันสูงสุดของมนุษย์ คุณพี่ใช้คำว่าวิวัฒนาการ โดนใจมากๆครับ จริงดังนั้นจริงๆ เป็นวิวัฒนาการทั้งร่างกายและจิตใจ ![]() ![]() |
เจ้าของ: | mes [ 26 ธ.ค. 2008, 10:39 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สวัสดีปีใหม่ด้วยอิฐสองก้อน?!? |
ไม่เอาแดง ไม่เอาเหลือง ไม่เอาขาว มีแต่ตัญหา และ อุปทานทั้งนั้น เอาสติปัฏฐานดีกว่า จะได้ไม่ต้องเป็นกบ เพราะกบต้องเลือกนาย แต่ผมชอบเลือกกบ 5555555 |
เจ้าของ: | ดุสิตธานี [ 26 ธ.ค. 2008, 10:46 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สวัสดีปีใหม่ด้วยอิฐสองก้อน?!? |
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | กุหลาบสีชา [ 27 ธ.ค. 2008, 02:06 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สวัสดีปีใหม่ด้วยอิฐสองก้อน?!? |
ไปปลีกวิเวก "ที่เก่า" น่ะค่ะคุณมด หากคุณมดได้ไปปลีกวิเวกที่ ตจว. ก็ขออนุโมทนาบุญล่วงหน้าด้วยนะคะ ![]() ![]() ![]() ขอให้ คุณมด และชาวลานธรรมจักรทุกท่าน เดินทางอย่างมีสติ ปลอดภัย ไม่ประมาท มีจิตสะอาด แจ่มใส ไร้โรคา มีดวงตาเห็นธรรม... กันถ้วนหน้าทุกท่าน ในปีใหม่ ๒๕๕๒ นี้นะคะ ![]() ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | natdanai [ 28 ธ.ค. 2008, 10:43 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สวัสดีปีใหม่ด้วยอิฐสองก้อน?!? |
mes เขียน: ไม่เอาแดง ไม่เอาเหลือง ไม่เอาขาว มีแต่ตัญหา และ อุปทานทั้งนั้น เอาสติปัฏฐานดีกว่า จะได้ไม่ต้องเป็นกบ เพราะกบต้องเลือกนาย แต่ผมชอบเลือกกบ 5555555 กบไม่มีเหลืองครับ....มีแต่ดำ กับแดง ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | deboykung [ 28 ธ.ค. 2008, 12:45 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สวัสดีปีใหม่ด้วยอิฐสองก้อน?!? |
อนุโมทนาสำหรับบทความครับ |
เจ้าของ: | mes [ 28 ธ.ค. 2008, 19:37 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สวัสดีปีใหม่ด้วยอิฐสองก้อน?!? |
อ้างคำพูด: กบไม่มีเหลืองครับ....มีแต่ดำ กับแดง คุณnatdanai ว้าย!!!!!!!!!!!!!!!!!! |
เจ้าของ: | ชาติสยาม [ 29 ธ.ค. 2008, 00:38 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สวัสดีปีใหม่ด้วยอิฐสองก้อน?!? |
ครบขาหรือยังครับนี่ ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | กุหลาบสีชา [ 29 ธ.ค. 2008, 03:43 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สวัสดีปีใหม่ด้วยอิฐสองก้อน?!? |
โปรดหลีกเลี่ยง "อบายมุข" เพื่อความผาสุขในชีวิต...ของทุกท่าน ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | mes [ 29 ธ.ค. 2008, 19:56 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สวัสดีปีใหม่ด้วยอิฐสองก้อน?!? |
คร้าบ ![]() ![]() ![]() |
หน้า 1 จากทั้งหมด 2 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |