ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
สาเหตุไฟไหม้ซานติก้าจริงๆ!! http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=20057 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | muntana [ 14 ม.ค. 2009, 20:47 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | สาเหตุไฟไหม้ซานติก้าจริงๆ!! | ||
สาเหตุไฟไหม้ซานติก้าจริงๆ!! -------------------------------------------------------------------------------- ถ้าใครอ่านจนจบ จะรอดตายจากภัยทั้งปวง!! เคยสังเหตุมั้ยว่า ทําไมเรือล่ม และทําไมไฟไหม้ของสถานที่ต่างๆ หากประมวลย้อนหลังจะพบว่า สถานที่ไฟไหม้ และเรือล่มส่วนมาก มักจะเป็นสถานบันเทิง และ เรือที่โดยสารนักท่องเที่ยวไปยังความบันเทิง เช่น เรือโดยสารไปเกาะพะงันเพื่อไปงานฟูลมูนปาร์ตี้ งานที่ขึ้นชื่อมั่วและมียาเสพติด ตามศาสนาพุทธเชื่อว่า สถานที่บางแห่ง งานเลี้ยงบางงาน มีแรงดึงดูดบรรดา 'คนบาป' ให้ไปรวมตัวกันมากๆ และถ้าเมื่อไหร่ที่คนบาปเข้าไปมากเกิน 80 % สถานที่แห่งนั้นก็พร้อมที่จะพรากชีวิตคนบาปไปในคราวเดียว เช่น ไฟไหม้ผับ ไฟไหม้บาร์ หรือ เรือโดยสารฟูลมูนปาร์ตี้ล่ม ถามว่าทําไม ไฟไม่ไหม้ผับทุกผับล่ะ ในเมื่อมันดึงดูดคนบาปไป คําตอบคือ ไม่ใช่ว่าทุกวัน ทุกคืนจะมีคนบาปไปมากๆ หนึ่งในนั้นยังมีคนที่มีบริสุทธิ์ที่ไปเพราะความจําเป็น หรือ ไปครั้งแรก หรือ ไปเที่ยวบ้างแต่ยังคงทําบุญอยู่ตลอด แต่ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่สถานที่นั้นเต็มไปด้วยคนบาปอย่างแท้จริง เมื่อนั้นมันก็พร้อมที่จะสําเร็จกรรม!! แล้วคุณจะรู้ได้อย่างไรว่า คืนที่คุณไปเที่ยว หรือ สถานที่คุณกําลังจะไปนั้นมีคนบาปหรือคนบริสุทธิ์ ตรงนี้ไม่มีใครตอบได้ นอกจากให้คุณหลีกเลี่ยงไปสถานที่แห่งบาป วิธีสังเกตุง่ายๆ ว่ามันคือลางสังหรณ์ได้แก่ 1. เมื่อไหร่็ตามที่คุณถูกเพื่อนชวนให้รู้ไว้เถอะว่านั่น 'คนบาป' ได้ชวนคุณไปสําเร็จกรรมร่วมกัน 2. เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณเป็นฝ่ายชวนเพื่อน...นั่นแปลว่าคุณกําลังก่อกรรมทําบาปหนัก!!! 3. เมื่อไหร่็ตามที่คุณรู้สึก 'อยาก' ไปเที่ยว อยากไปปาร์ตี้ อยากอัพยา อยากไปยังสถานที่ราตรี นั่นแปลว่า 'กรรม' และเจ้ากรรมนายเวร เรียกหาคุณให้ไป!! สถานที่บางแห่งมีอำนาจดึงดูดคนบาปให้เข้าไปอยู่รวมกัน เมื่อนั้นกรรมที่คนพวกนี้เคยทำมาจึงส่งผลให้ได้รับกรรมเช่นนี้ ใครเปิดร้านขายเหล้าจะหาความสุขสงบกายสงบใจไม่ได้ เป็นอาชีพอย่างหนึ่งที่เรียกว่ามิจฉาอาชีวะ เป็นอาชีพที่ห่างไกลจากความสุขความเจริญ เพราะว่าการเปิดร้านขายเหล้าเป็นการสร้างปัญหาให้สังคม ซึ่งเจ้าของกิจการคิดแต่จะหารายได้จากความฉิบหายของคนอื่น ในอริยมรรคมีองค์ 8 คือทางสายเอกสู่มรรคผลนิพพานนั้น มีอยู่ข้อหนึ่งซี่งพระพุทธองค์ตรัสไว้ชัดเจน เรียกว่า 'สัมมาอาชีวะ' สัมมาอาชีวะ..คือการประกอบอาชีพให้บริสุทธิ์ดีงาม *ไม่สร้างปัญหาให้แก่สังคม* อาชีพที่ตรงกันข้ามกับสัมมาอาชีวะ เรียกว่า *มิจฉาอาชีวะ* มิจฉาอาชีวะอาจจะแบ่งได้เป็นข้อต่างๆ ดังนี้คือ 1. ขายสุรา ขายเหล้าเบียร์ ขายยาเสพติด รวมทั้งบุหรี่ด้วย ฯลฯ 2. ขายอาวุธเพื่อสำหรับใช้ทำการประหัตประหารกัน เช่นขายปืนเป็นต้น 3. ขายยาพิษ ในที่นี้น่าจะรวมไปถึงยาฉีดฆ่ายุงด้วย 4. ขายสื่อลามก ยั่วยุทางกามารมณ์ต่างๆ 5. ขายมนุษย์ เช่น..แรงงานทาส..การค้าประเวณี..เปิดซ่อง.. 6. ขายสัตว์เพื่อนำไปฆ่า..เช่นการทำฟาร์มกุ้ง..ฟาร์มไก่เนื้อ หรือเลี้ยงปลาเพื่อขายเอาไปฆ่ากินเป็นต้น *ผมจำได้มาเพียงเท่านี้..ถ้าผิดพลาดขออภัยด้วย* และที่จัดเข้าได้ในกลุ่มมิจฉาอาชีพอีกอย่างหนึ่งก็คือพวกเล่นการพนัน เช่นการเปิดโต๊ะบอล..การเป็นเจ้ามือหวย..เป็นต้น.. * อาชีพเหล่านี้สร้างปัญหาและความเดือดร้อนให้กับสังคม* คือผู้ประกอบการคิดแต่สร้างความร่ำรวยบนความฉิบหายของคนอื่น เช่นผับซานติก้านี้. .ใครจะเมา..ใครจะเป็นอะไรก็ช่างมัน.. ขอให้ฉันได้เงินเป็นพอ นี่เป็นความคิดที่ผิดมากๆ..ในทางพุทธศาสนา..และศาสนาอิสลามด้วย ขอให้คุณส่งอีเมล์ฉบับนี้ต่อไป หากคุณไม่อยากเป็นคนบาป รักใครให้ส่งหาคนนั้นเพื่อหยุดบาป!! ขอกุศลจากการส่งเมล์นี้แผ่ไปถึงผู้เสียชีวิตทุกคนด้วยเทอญ สาธุ
|
เจ้าของ: | ชาติสยาม [ 14 ม.ค. 2009, 21:05 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สาเหตุไฟไหม้ซานติก้าจริงๆ!! |
คาดเดาเทียบเคียงกันไปต่างๆ นาๆ ถึงกับมีตัวเลข 80 % กันเลยทีเดียว การจะรู้อย่างที่พูดมา เป็นสมรรถนะของพระผู้มีพระภาคเชียวนะครับ |
เจ้าของ: | deboykung [ 14 ม.ค. 2009, 22:44 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สาเหตุไฟไหม้ซานติก้าจริงๆ!! |
ใน email ก็มีคนส่งมา ฮุๆ |
เจ้าของ: | kokorado [ 14 ม.ค. 2009, 23:50 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สาเหตุไฟไหม้ซานติก้าจริงๆ!! |
คนเราเกิดมาตายทุกคน เขาแค่ไปก่อน เดี๋ยวเราก็ต้องตามไป การตายไม่ใช่เรื่องน่ากลัว เป็นแค่การเปลี่ยนภพเท่านั้น ทำบุญ ทำกุศล พัฒนาจิตใจให้เจริญ ก็จะเลื่อนภพไปสู่ที่สูงขึ้น ทำบาปอกุศล ก็มีทุคติเป็นที่หวังได้ |
เจ้าของ: | ฌาณ [ 15 ม.ค. 2009, 09:56 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สาเหตุไฟไหม้ซานติก้าจริงๆ!! |
เห็นแล้วพึงสลดเพราะเหตุนี้ อย่างนี้ จึงเป็นเช่นนี้ อะนิจจา วะตะ สังขารา อุปปาทะวะยะธัมมิโน อุปปัชฌิตวา นิรุชฌนติ เตสัง วูปะสะโม สุโขฯ สังขารทั่งหลาย ไม่เที่ยงหนอ มีความเกิดขึ้นและเสื่อมไปเป็นธรรมดา เกิดขึ้นแล้วย่อมดับไป การเข้าไประงับแห่งสังขารเหล่านั้นเป็นบรมสุข. คราวหนึ่ง พระพุทธเจ้า ขณะที่อยู่กรุงสาวัตถี ได้แสดงถึงการเกิดของสัตว์โลกว่ามีมากมายปานใดแก่ภิกษุทั้งหลาย จึงทรงยกเอาน้ำตาของสัตว์โลกที่ต้องเสียไป เพราะความผิดหวัง หรือพลัดพราก โดยเปรียบเทียบกับน้ำในมหาสมุทรทั้ง ๔ ว่า สังสารวัฏ ของสัตว์โลกนี้กำหนดเบื้องต้นและเบื้องปลายไม่ได้ ด้วยเหตุที่สรรพสัตว์ต้องเกิดและตาย ชาติแล้วชาติเล่าจนนับไม่ถ้วน พวกเธอเข้าใจอย่างไร น้ำตาของสัตว์โลกที่หลั่งไหล เพราะเหตุแห่งความคร่ำครวญร้องไห้อยู่ ในแต่ละชาติที่เกิดมานั้นกับน้ำในมหาสมุทรทั้ง ๔ อย่างไหนจะมากกว่ากันหนอ พวกข้าพระองค์ ได้เคยศึกษาตามที่พระองค์เคยทรงแสดงแล้วว่า น้ำตาของสัตว์โลกที่ต้องเสียไป เพราะประสบกับสิ่งที่ไม่เป็นที่รักในแต่ละชาติ แต่ละภพที่ต้องเกิดมานั้น มีมากกว่าน้ำในมหาสมุทรทั้ง ๔ ถูกละ พวกเธอเข้าใจถูกต้อง ความที่สัตว์ทั้งหลายต้องร้องไห้เสียน้ำตาเพราะแม่ตาย ในแต่ละชาติรวมกันแล้ว ก็มากกว่าน้ำในมหาสมุทรทั้ง ๔ แล้ว มิใช่แต่แม่ตายเท่านั้น ที่เราจะกล่าวถึงน้ำตาที่สัตว์โลกต้องเสียไป เพราะพ่อตาย ปู่ย่าตายายตาย ลุงป้าน้าอาตาย พี่ชายตาย พี่สาวตาย น้องชายตาย น้องสาวตาย ลูกชายตาย ลูกสาวตาย หลานชายตาย หลานสาวตาย ฯลฯ รวมทั้งผัวตาย เมียตาย เมื่อรวมน้ำตาที่พวกเธอต้องเสียไปแต่ละครั้งในแต่ละชาติ ซึ่งนับจำนวนชาติไม่ได้ จะมากกว่าน้ำในมหาสมุทรทั้ง ๔ เป็นไหน ๆ นอกจากนี้ ความทุกข์โศกที่สัตว์โลกต้องได้รับและเสียน้ำตา เพราะเหตุแห่งความเสื่อมลาภ โรคภัยเบียดเบียน ผิดหวังจากการค้าขาย ผิดหวังจากการทำไร่ทำนา ผิดหวังจากการทำงานราชการ และความผิดหวังเกิดจากการประกอบอาชีพสารพัดอย่าง เมื่อรวมกันแล้ว ก็มากกว่าน้ำในมหาสมุทรทั้ง ๔ อย่างเทียบกันไม่ได้เลย ด้วยเหตุนี้ ควรที่สัตว์โลกจะเบื่อหน่ายในสังขารที่ต้องเกิด ๆ ตาย ๆ จนนับชาติไม่ถ้วน ด้วยการบำเพ็ญตนให้พ้นจากทุกข์โศกที่ต้องได้รับ ดังนั้น เธอทั้งหลาย จึงควรเบื่อหน่าย คลายกำหนัด เพื่อหลุดพ้นจากสังขารทั้งปวง ![]() ![]() |
เจ้าของ: | พลศักดิ์ วังวิวัฒน์ [ 15 ม.ค. 2009, 12:55 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สาเหตุไฟไหม้ซานติก้าจริงๆ!! |
มั่วนิ่มจริงๆ ที่สำคัญ คุณไปอ้าง ตามศาสนาพุทธเชื่อว่า คุณไปอ้างอย่างนี้ได้ยังไง แล้วคุณไปซ้ำเติมคนตายอีก พ่อมแม่ญาติพี่น้องเขามาเห็นเข้า คงเสียใจแย่ ตามศาสนาพุทธเชื่อว่า สถานที่บางแห่ง งานเลี้ยงบางงาน มีแรงดึงดูดบรรดา 'คนบาป' ให้ไปรวมตัวกันมากๆ และถ้าเมื่อไหร่ที่คนบาปเข้าไปมากเกิน 80 % สถานที่แห่งนั้นก็พร้อมที่จะพรากชีวิตคนบาปไปในคราวเดียว เช่น ไฟไหม้ผับ ไฟไหม้บาร์ หรือ เรือโดยสารฟูลมูนปาร์ตี้ล่ม คนเขาถูกไฟคลอกตาย เพราะเขาทำกรรมไว้ในอดีตชาติ แล้วให้ผลในชาตินี้ต่างหาก ไม่ใช่ทำกรรมในชาตินี้แล้วให้ผลในชาตินี้เลย |
เจ้าของ: | mes [ 15 ม.ค. 2009, 17:06 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สาเหตุไฟไหม้ซานติก้าจริงๆ!! |
เห็นด้วยกับคุณพลศักดิ์ วังวิวัฒน์ ผมขอเสนออย่างนี้ว่า เมื่อศึกษาธรรมะแล้วต้องสงบสำรวมเป็น เมื่อพบพานโศกนาฏกรรมต้องไม่วิพากวิจารณ์ในเดี๋ยวนั้น เหมือนเป็นการเย้ยหยันในเคราะห์ร้ายของเพื่อนมนุษย์ ว่าเป็นเพระความบาป วิบากต่างๆจึงเกิดเช่นการณ์เช่นนั้น แล้วก็วิพากวิเคราะห์ด้วยความรู้ลึกหนึ่ง และความรู้ลึกนั้นเป็นไปได้มากว่าเป็นคนละความรู้ลึกของญาติพี่น้อง ภัยพิบัติจะเกิดกับใครที่ใหนเมื่องไหร่ก็ได้ เมื่อไม่เกิดกับเราก็ไม่จำเป็นต้องวิพากวิจารณ์ การวิพากวิจารณ์ในกรณีเช่นนี้อาจทำให้เราเกิดอกุศลจิตโดยไม่รู้ตัว ตกนรกได้ครับ |
เจ้าของ: | nattakarn [ 15 ม.ค. 2009, 17:46 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สาเหตุไฟไหม้ซานติก้าจริงๆ!! |
วันที่ไฟไหม้ซานติก้าอ่า รุ่นพี่หนูที่โรงเรียนคนนึงก็ไปนะคะ แต่เขาออกมาก่อนที่ไฟจะไหม้ เพราะเพื่อนเขาบอกว่า ที่นี่คนเยอะ ไม่สนุก ก็เลยไปผับอื่นแทน ^^ แต่หนูเห็นด้วยกับคุณ พลศักดิ์ วังวิวัฒน์ นะคะ อาจารย์หนูเคยบอกว่า อาชีพ ประเภทขายหมู แน่นอนละค่ะ ว่าต้องเป็นบาป แต่เค้าทำ เพื่อความอยู่รอด แต่เค้าเองก็รู้อยู่ว่าบาป เค้าทำไปเพื่อลูก และครอบครัวของเขา และอีกอย่างหนึ่ง เป็นอาชีพที่สุจริตค่ะ ที่ไฟไหม้ซานติก้า อาจจะเป็นอุบัติเหตุก็ได้นะคะ |
เจ้าของ: | อมิตาพุทธ [ 16 ม.ค. 2009, 00:25 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สาเหตุไฟไหม้ซานติก้าจริงๆ!! |
อดีตชาติ พวกเขาคงเคยไปเผาคนตายทั้งเป็น ชาตินี้เหตุปัจจัยสุกงอม ก็เลยต้องมาตายแบบนี้ ขอให้ไปสู่สุคติทุกคน ![]() |
เจ้าของ: | น้ำใส [ 16 ม.ค. 2009, 07:31 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สาเหตุไฟไหม้ซานติก้าจริงๆ!! |
![]() 1.คนบางคน เพียงได้ข่าวคนเจ็บ คนตาย ก็เกิดความสลดใจ ตั้งหน้าตั้งตาทำความเพียรเพื่อแทงตลอดสัจจะ 2. คนบางคน ถึงจะได้ข่าว ก็ไม่เกิดความสลดใจ ต่อเมื่อได้เห็นคนเจ็บ คนตาย ด้วยตาตนเองเข้า จึงจะสลดใจ ลงมือทำความเพียรเพื่อแทงตลอดสัจจะ 3. คนบางคน ต้องเห็นเพื่อนฝูง คนรู้จักใกล้ชิด หรือญาติสายโลหิตได้รับบาดเจ็บหรือตาย จึงสลดใจ ลงมือทำความเพียรเพื่อแทงตลอดสัจจะ 4. คนบางคน ต้องรอให้ตนเองประสบความเจ็บปวด หรือ ปางตายก่อนแล้วจึงจะสลดใจคิดขึ้นได้ ตั้งหน้าตั้งตาทำความเพียรเพื่อแทงตลอดสัจจะ ๚ ๛ ๛ ๛ ท่านคิดว่าตัวท่านเป็นคนแบบไหน เลือกดูเองนะครับ ♥ |
เจ้าของ: | บัวไฉน [ 17 ม.ค. 2009, 12:03 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สาเหตุไฟไหม้ซานติก้าจริงๆ!! |
" กรรมเป็นตัวกำหนดกรรม " ![]() ![]() |
เจ้าของ: | muntana [ 29 ม.ค. 2013, 11:16 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สาเหตุไฟไหม้ซานติก้าจริงๆ!! |
เหตุการณ์เศร้าสลดใจ ที่เกิดขึ้นบ่อย ๆ ครั้ง แหล่งบันเทิงโลกีย์ ที่แวดล้อมด้วยอบายมุข ได้ผลาญคร่าชีวิต นักเที่ยว ร่วม 300 คน พิกล พิการอวัยวะที่ต้องสูญเสีย ทั้งใบหน้า ร่างกาย แขน ขา ถึง ทุกขพลภาพ อีกหลาย ๆ ร้อย ๆ คน นี่เป็นเครื่องเตือนใจ ชาวพุทธ อย่าได้ประมาท พึงหลีกเลี่ยงแหล่ง โลกีย์ บันเทิง แหล่ง รวมคนบาป http://bit.ly/VhyKbO http://www.posttoday.com/เรียนภาษา/เรียนภาษาจากข่าว/201362/fire-at-packed-nightclub-kills-233-in-brazil-police |
เจ้าของ: | din [ 29 ม.ค. 2013, 21:15 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สาเหตุไฟไหม้ซานติก้าจริงๆ!! |
คนเราทั่วไปจิตก็คิดกุศลและอกุศลปะปนกันไป ถ้าจะไม่ให้มีจิตอกุศลก็คือผู้สำเร็จธรรมขั้นสูงๆ แล้ว คนที่ตายในผับไม่ใช่ตายเพราะความเป็นคนปาบ แต่ตายด้วยผลของอกุศลกรรมที่เคยได้ร่วมก่อกันมา ซึ่งคนทั่วไปไม่สามารถรู้ได้เลยว่ามาจากอดีตชาติหรือปัจจุบันชาติ หากแบ่งขาวแบ่งดำไม่ดูความจริงไม่ดูเหตุ สิ่งนั้นก็ไม่ได้เรียกว่าธรรม ลองคิดถึงกลุ่มคนที่เขาถูกสังหารหมู่ดูสิ คิดว่าพวกเขาจะเป็นคนปาบไปหมดหรือไม่ กลุ่มคนดีๆ ที่ถูกสังหารหมู่มีหรือไม่ ถ้าอย่างนั้นแล้วความเป็นคนบาปพรากชีวิตพวกเขาหรือ กรรมวิสัยคนทั่วไปทำนายไม่ได้ อย่างมากก็รู้แต่เพียงว่าคนที่เสียชีวิตเจอวิบากกรรมมาตัดรอน ไม่สามารถทำนายถึงเหตุของกรรมได้เลย |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 29 ม.ค. 2013, 22:53 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สาเหตุไฟไหม้ซานติก้าจริงๆ!! |
ความจริงแล้ว....ไม่มีกรรมประเภทไหนที่เรา ๆ ไม่เคยทำ แม้พระอริยะเจ้า....ก็สามารถตายได้แบบนี้เช่นกัน ดังเช่น...พระมเหสีของพระเจ้าปเสนธิโกศลและบริวาร500..ทั้งหมดเป็นพระโสดาบัน...ยังตายเพราะถูกไฟคลอกเพราะมีคนมาจุดไฟเผา..เลย พระอริยะเจ้า...เป็นคนบาปหรอ? ตราบใดเรายังมีรูปนามอยู่....กรรมเก่าสามารถให้ผลได้เสมอ...ไม่ว่าปัจจุบันเราจะดีขนาดไหน..แม้เป็นพระอริยะเจ้า...รูปนามนี้ยังต้องรับกรรมอยู่หากยามเมื่อมันมาถีง แล้วในกรณีอย่างนี้....เราควรคิดอย่างไร? เราไม่ควรประมาท....ความตายสามารถมาถึงเราได้ทุกที่ทุกเวลา...อย่าประมาทว่าเราเป็นคนดี..เราเป็นคนมีบุญมาก....ความตายที่อะเน็จอนาถจะไม่เกิดแก่เรานั้น...เป็นความประมาทโดยแท้....เรา ๆ ก็ตายแบบนี้ได้....ควรเร่งรีบให้เข้าถึงความไม่ตายโดยเร็วเถิด การไปสรุปว่า....คนตายแบบนี้เป็นคนบาป....จึงไม่ใช่การมองอย่างพุทธ |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |