วันเวลาปัจจุบัน 16 เม.ย. 2024, 13:13  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 23 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 มี.ค. 2009, 16:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ม.ค. 2009, 18:57
โพสต์: 159


 ข้อมูลส่วนตัว


ตถาคตผู้อรหันตสัมมาสัมพุทธะ กับ ภิกษุผู้ปัญญาวิมุตต์

ภิกษุ ท.! ตถาคตผู้อรหันตสัมมาสัมพุทธะ หลุดพ้นแล้วจาก รูป
เพราะความเบื่อหน่ายความคลายกำหนัด ความดับ และความไม่ยึดมั่น
จึงได้นามว่า "สัมมาสัมพุทธะ".
ภิกษุ ท.! แม้ภิกษุผู้ปัญญาวิมุตต์ ก็หลุดพ้นแล้วจากรูป
เพราะความเบื่อหน่าย ความคลายกำหนัด ความดับ และความไม่ยึดมั่น
จึงได้นามว่า "ปัญญาวิมุตต์".

(ในกรณี แห่ ง เวท น า สั ญ ญ า สั งขาร และวิ ญ ญ าณ ก็ ได้ ตรั สไว้ มี ข้ อ ค ว า ม
แสดงหลักเกณฑ์อย่างเดียวกันกับในกรณีแห่งรูปที่กล่าวแล้ว).

ภิกษุ ท.! เมื่อเป็นผู้หลุดพ้นจากรูปเป็นต้นด้วยกันทั้งสองพวกแล้ว
อะไรเป็นความผิดแผกแตกต่างกัน
อะไรเป็นความมุ่งหมายที่แตกต่างกัน
อะไรเป็นเครื่องกระทำให้แตกต่างกัน
ระหว่างตถาคตผู้อรหันตสัมมาสัมพุทธะ กับ ภิกษุผู้ปัญญาวิมุตต์ ?

ภิกษุ ท.! ตถาคตผู้อรหันตสัมมาสัมพุทธะ
ได้ทำมรรคที่ยังไม่เกิดให้เกิดขึ้น
ได้ทำ มรรคที่ยังไม่มีใครรู้ให้มีคนรู้
ได้ทำมรรคที่ยังไม่มีใครกล่าวให้เป็นมรรคที่กล่าวกันแล้ว
ตถาคตเป็นมัคคัญญู (รู้มรรค) เป็นมัคควิทู (รู้แจ้งมรรค)เป็นมัคคโกวิโท (ฉลาดในมมรค).

ภิกษุ ท.! ส่วน สาวกทั้งหลายในกาลนี้ เป็นมัคคานุคา (ผู้เดินตามมรรค) เป็นผู้ตามมาในภายหลัง.

ภิกษุ ท.! นี้แล เป็นความผิดแผกแตกต่างกัน
เป็นความมุ่งหมายที่แตกต่างกัน
เป็นเครื่องกระทำให้แตกต่างกัน
ระหว่างตถาคตผู้อรหันตสัมมาสัมพุทธะ กับภิกษุผู้ปัญญาวิมุตต์.


- ขนฺธ. สํ. ๑๗/๘๑/๑๒๕.

:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 มี.ค. 2009, 23:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ม.ค. 2009, 09:03
โพสต์: 81


 ข้อมูลส่วนตัว


เมื่อมารแปลงกายเป็นพระพุทธเจ้า...เพื่อทำลายศรัทธาของชาวพุทธ เล่ม 15 หน้า 174

...นัยว่า อุบาสกนั้นฟังพระธรรมเทศนาของพระศาสดาแล้ว เป็นพระโสดาบันได้กลับไปเรือน.

ทีนั้น มารเนรมิตพระพุทธรูปอันประดับด้วยลักษณะอันประเสริฐ ๓๒ ประการ

ยืนอยู่ที่ประตูเรือนของอุบาสกนั้น แล้วส่งสาส์นไปว่า พระศาสดาเสด็จมาดังนี้.

สูรอุบาสกคิดว่า เราฟังธรรมในสำนักของพระศาสดามาเดี๋ยวนี้เอง อะไรจักมีอีกหนอ ดังนี้แล้ว เข้าไปหา
ไหว้ ด้วยสำคัญว่าเป็นพระศาสดา แล้วจึงได้ยืนอยู่.

มาร (ซึ่งแปลงเป็นพระพุทธเจ้า) กล่าวว่า อัมพัฏฐะ คำใดที่เรากล่าวแก่ท่านว่า รูปไม่เที่ยง ฯลฯ วิญญาณไม่เที่ยง
ดังนี้ คำนั้นเรากล่าวผิดไป เพราะเรายังไม่พิจารณาจึงกล่าวคำนั้นไป ฉะนั้น
เธอจงถือเอาว่า รูปเที่ยง ฯลฯ วิญญาณเที่ยง ดังนี้เถิด.

สูรอุบาสกคิดว่า ข้อที่ พระพุทธเจ้าทั้งหลายไม่พิจารณาไม่ทำการตรวจตราอย่างประจักษ์แล้ว
พึงตรัสอะไรไปนั้น ไม่ใช่ฐานะที่จะมีได้ มารนี้มาเพื่อมุ่งทำลายเราอย่างแน่นอน.
ลำดับนั้น สูรอุบาสกจึงกล่าวกะมารนั้นว่า ท่านเป็นมารใช่ไหม ดังนี้.

มารนั้นไม่อาจที่จะกล่าวมุสาวาทได้ จึงรับว่า ใช่ เราเป็นมาร ดังนี้.
อุบาสกถามว่าเพราะเหตุไร ท่านจึงมา.
มารตอบว่า เรามาเพื่อทำศรัทธาของท่านให้หวั่นไหว.
อุบาสกกล่าวว่า ดูก่อนมารผู้ใจบาปอำมหิต ท่านผู้เดียวนั้นจงหยุดอยู่ก่อน
พวกมารเช่นท่าน ร้อยก็ดี พันก็ดี แสนก็ดี ไม่สามารถจะทำศรัทธาของเราให้หวั่นไหวได้
ชื่อว่าศรัทธาอันมาแล้วด้วยมรรค เป็นของมั่นคงไม่หวั่นไหว เหมือนภูเขาสิเนรุซึ่งตั้งอยู่บนแผ่นดินอันล้วนแล้วด้วยสิลา ท่านจะทำอะไรในการมานี้ ดังนี้แล้วปรบมือขึ้น. มารนั้นเมื่อไม่สามารถจะดำรงอยู่ได้จึงหายไปในที่นั้นนั่นเอง...

นาคผู้มีฤทธิ์ก็เนรมิตให้เป็นรูปร่างดั่งพระพุทธเจ้าได้..เหมือนกัน เล่ม 1 หน้า 79

พระราชาผู้ทรงประกอบแล้วด้วยฤทธิ์เหล่านี้
วันหนึ่งทรงใช้สังขลิกพันธ์ อันกระทำด้วยทอง ให้นำพญานาคนามว่า กาฬะ มีอายุตลอดกัปหนึ่ง
ผู้ใดพบเห็นพระรูปของพระพุทธเจ้าทั้ง ๔ พระองค์เชิญให้ขนดเหนือบัลลังก์ อันควรค่ามาก ภายใต้เศวตฉัตร
ทรงกระทำการบูชา ด้วยดอกไม้ทั้งที่เกิดในน้ำ ทั้งที่เกิดบนบก หลายร้อยพรรณและด้วยสุวรรณบุปผา
ทรงแวดล้อมด้วยนางฟ้อน ๑๖,๐๐๐ ผู้ประดับแล้วด้วยอลังการทั้งปวงโดยรอบตรัสว่า

เชิญท่านกระทำพระรูปของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ทรงยังจักร คือพระสัทธรรมอันประเสริฐให้หมุนไป
ทรงพระญาณอันหาที่สุดมิได้ ให้ถึงคลองแห่งดวงตาเหล่านี้ของข้าพเจ้าก่อนเถิด ดังนี้

(เมื่อพระองค์) ทอดพระเนตรพระพุทธรูปอันพญานาคนามว่า กาฬะ นั้นเนรมิตแล้ว
ประหนึ่งว่าพื้นน้ำอันประดับแล้วด้วยดอกกมล อุบล และปุณฑริกซึ่งแย้มบาน ปานประหนึ่งว่าแผ่นฟ้า
อันพราวพรายด้วยความระยิบระยับ ด้วยการพวยพุ่งแห่งข่ายรัศมีของกลุ่มดารา เพราะความที่พระพุทธรูปนั้น
ทรงมีพระสิริด้วยพระมหาปุริสลักษณะ ๓๒ ประการ ประดับแล้วด้วยอนุพยัญชนะ ๘๐ ประการ
ซึ่งบังเกิดแล้วด้วยอำนาจแห่งบุญอันพรรณรายทั่วพระสรีระทั้งสิ้น..

ชาวพุทธที่สกปรก เล่ม 36 หน้า 373


ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อุบาสกผู้ประกอบด้วยธรรม 5 ประการ
ย่อมเป็นอุบาสกผู้เลวทราม เศร้าหมอง และน่าเกลียด ธรรม 5 ประการเป็นไฉน ? คือ

1. อุบาสกเป็นผู้ไม่มีศรัทธา
2 เป็นผู้ทุศีล
3. เป็นผู้ถือมงคลตื่นข่าว เชื่อมงคลไม่เชื่อกรรม
4. แสวงหาเขตบุญภายนอกศาสนานี้
5. ทำการสนับสนุนในศาสนานั้น

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อุบาสกผู้ประกอบด้วยธรรม ๕ ประการนี้แล เป็นอุบาสกผู้เลวทราม
เศร้าหมอง และน่าเกลียด.

แล้วใครหละที่นี้ จะเป็นผู้เสื่อมจากพระศาสนา ไม่ใช่พระศาสนาเสื่อมหรอก แต่คนนะเสื่อมเอง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 มี.ค. 2009, 23:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 พ.ย. 2008, 12:29
โพสต์: 814

ที่อยู่: กรุงเทพฯ

 ข้อมูลส่วนตัว


k พลศักดิ์ ครับ คะแนนติดลบไป 50 กว่าๆแล้วนะ ไม่เอาแต้มคะแนนออกหรอๆ ผมกลัวว่า เด๋วจะโดนติดลบมากกว่านี้น่ะครับ :b40: :b40:

.....................................................
"มีสติเป็นเรือนจิต ใช้ชีวิตเป็นเรือนใจ ใช้ปัญญาเป็นแสงสว่างส่องทางเดินไปเถิด จะได้ล้ำเลิศในชีวิตของท่าน มีความหมายอย่างแท้จริง"
ในการปฏิบัติธรรม หลวงพ่อท่านบอกว่า ให้ตัดปลิโพธกังวลใจทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ลูก สามี ภรรยา ความวุ่นวายทั้งหลายทั้งปวง อย่าเอามาเป็นอารมณ์ จากหนังสือ: เจริญกรรมฐาน7วันได้ผลแน่นอน หัวข้อ12: ระงับเวรด้วยการแผ่เมตตา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 พ.ค. 2009, 00:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ม.ค. 2009, 18:57
โพสต์: 159


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 พ.ค. 2009, 17:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 เม.ย. 2009, 19:55
โพสต์: 548

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อินทรีย์5 เขียน:
k พลศักดิ์ ครับ คะแนนติดลบไป 50 กว่าๆแล้วนะ ไม่เอาแต้มคะแนนออกหรอๆ ผมกลัวว่า เด๋วจะโดนติดลบมากกว่านี้น่ะครับ :b40: :b40:


ทำอย่างไรล่ะครับ คะแนนของท่านจึงจะเป็นบวกขึ้นได้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ก.ย. 2009, 22:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ม.ค. 2009, 18:57
โพสต์: 159


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ก.ย. 2009, 23:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 ส.ค. 2009, 02:56
โพสต์: 290

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เป็นอีกคนหนึ่งที่เลื่อมใสในพระพุทธศาสนา...ขอให้พระพุทธศาสนาจงถาวรแด่เทอญ...

onion นู๋เอเองจ้า...

.....................................................
ข้าพเจ้าเคารพพระธรรม ที่มีอยู่ในพระพุทธเจ้า
ข้าพเจ้าเคารพพระธรรม ที่มีอยู่ในพระธรรม
ข้าพเจ้าเคารพพระธรรม ที่มีอยู่ในพระสงฆ์
ข้าพเจ้าเคารพพระธรรม ที่มีอยู่ในพระมารดาพระบิดา
ข้าพเจ้าเคารพพระธรรม ที่มีอยู่ในครูอุปัชฌาย์อาจารย์
ข้าพเจ้าเคารพพระธรรม ที่มีอยู่ในทุกสิ่งทุกอย่าง...สาธุ สาธุ สาธุ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ก.ย. 2009, 23:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 ส.ค. 2009, 02:56
โพสต์: 290

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


s006 อ่ะ...คะแนนอะไรหรอค่ะ ไม่เห็นรู้เลยง่ะ...และก็มีติดลบด้วย งง!!!

:b10: :b10: ...นู๋เอเองค่ะ

.....................................................
ข้าพเจ้าเคารพพระธรรม ที่มีอยู่ในพระพุทธเจ้า
ข้าพเจ้าเคารพพระธรรม ที่มีอยู่ในพระธรรม
ข้าพเจ้าเคารพพระธรรม ที่มีอยู่ในพระสงฆ์
ข้าพเจ้าเคารพพระธรรม ที่มีอยู่ในพระมารดาพระบิดา
ข้าพเจ้าเคารพพระธรรม ที่มีอยู่ในครูอุปัชฌาย์อาจารย์
ข้าพเจ้าเคารพพระธรรม ที่มีอยู่ในทุกสิ่งทุกอย่าง...สาธุ สาธุ สาธุ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 23 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 23 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร