ลานธรรมจักร
http://dhammajak.net/forums/

กุศล-อกุศล และรากเง่า....
http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=20287
หน้า 3 จากทั้งหมด 3

เจ้าของ:  แมวขาวมณี [ 11 ก.พ. 2009, 12:18 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: กุศล-อกุศล และรากเง่า....

ค่ะ..คุณพลศักดิ์...ขอบคุณที่แนะนำ..เดี๋ยวแมวฯ หรือนกแก้วนกขุนทองจะลองไปศึกษาเพิ่มเติมค่ะ

เอ.....ทำไมคนบางพวกจึงต้องทำอาชีพที่ผิดศีลธรรมด้วยคะ
ในเมื่อสัมมาอาชีพมีอยู่และคนส่วนใหญ่เค้าก็ทำกันได้ แม้ไม่มีความรู้..ไม่มีทุนทรัพย์..

ท่านๆ และผู้อ่าน อย่างที่ได้ฝากไว้ ขึ้นชื่อว่าความชั่วอย่าทำเลยจะดีกว่า
แม้เพียงกรรมที่ล่วงเกินแก่กาย ใจ ผู้อื่น ถ้าละได้ก็จงละเถิดค่ะ
ไปอ่านเรื่องบุพกรรมของกัณหา ชาลี ที่คุณลูกโป่งมาลงแล้ว
เลยเอาไว้เตือนตัวเองค่ะ

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=4&t=20370
กรรมนี้แม้ไม่ถึงต้องตกนรกแต่ก็ตามไปให้ผลเมื่อถึงเวลาค่ะ

โลภะ โทสะ โมหะ เป็นรากเง่าแห่งอกุศล แม้มีต้น ใบ ดูสวยงามน่าเจริญใจ
แต่ย่อมให้ ผล เป็นอกุศลในที่สุด

เจ้าของ:  พลศักดิ์ วังวิวัฒน์ [ 12 ก.พ. 2009, 16:54 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: กุศล-อกุศล และรากเง่า....

คุณแมวขาวมณี



ผมตอบข้อสงสัยคุณไว้ละเอียด แต่เว็บนี้เขาโยนทิ้งขยะ ลองไปอ่านคำตอบของผมในเว็บพลังจิตดูครับ ตอนนี้กระทู้ของผมกำลังคึกคัก
เรื่อง เป็นโสเภณี เพชรฆาต ค้าอาวุธสงคราม ชาวประมง เชือดคอไก่ทำข้าวมันไก่ ไม่จำเป็นต้องตกนรกนะ
http://board.palungjit.com/showthread.php?t=173781


มีชื่อคุณแมวขาวมณีด้วยในตอนต้น เพราะผมยกข้อความของคุณมาว่า

คุณแมวขาวมณี เว็บ dhammajak.net ถามว่า เอ.....ทำไมคนบางพวกจึงต้องทำอาชีพที่ผิดศีลธรรมด้วยคะ
ในเมื่อสัมมาอาชีพมีอยู่และคนส่วนใหญ่เค้าก็ทำกันได้ แม้ไม่มีความรู้..ไม่มีทุนทรัพย์..



ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ผู้ใดไม่เห็นธรรม ผู้นั้นย่อมไม่เห็นเรา

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 12 ก.พ. 2009, 17:06 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: กุศล-อกุศล และรากเง่า....

ท่ามกลางสงคราม ก็ยังมี ? เบาๆคั่น :b1: :b12:

http://siriporn.wordpress.com/2007/10/2 ... %E0%B8%9E/

.......

http://www.imeem.com/fongfan/music/7G7PiOp_//

เจ้าของ:  แมวขาวมณี [ 13 ก.พ. 2009, 09:34 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: กุศล-อกุศล และรากเง่า....

:b16: :b16: :b16:

เจ้าของ:  แมวขาวมณี [ 17 ก.พ. 2009, 00:53 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: กุศล-อกุศล และรากเง่า....

การสร้างกุศล ที่ถึงพร้อมด้วยกาย วาจา
ก็ด้วยใจที่ไม่มีความโลภ ความโกรธ ความหลง
กิเลสทั้งสามกองนี้ล้วนมีมายา เสแสร้ง เจ้าเล่ห์ เป็นที่สุด
มันแอบแฝงในใจของชนทุกระดับ ตั้งแต่ทุรชน สุจริตชน กัลยาณชน จนถึงอารยชน

ฝึกตนให้รู้จัก ความโลภ ความโกรธ ความหลง ตั้งแต่ชั้น หยาบๆ
แล้วศึกษาให้ เห็นมัน ในชั้นที่เล็กลึก ละเอียด บางเบาไปเรื่อยๆ ซึ่งไม่ง่ายเลย

ส่วน อกุศล นั้นก็เป็นในทางตรงข้าม...
ปัญหาอยู่ที่ คนทั้งหลายไม่รู้ตัวว่า กรรมที่ตนได้ประกอบลงไปนั้น
รากเง่าของมัน...มีความโลภ ความโกรธ ความหลง ครอบงำอยู่มากน้อยเท่าไร
ถึงจะเอากรณีศึกษาของท่านผู้นั้น ผู้นี้มาดูมาเทียบว่าทำกรรมอันเป็นอกุศลแล้ว...
แต่ผลคือท่านนั้นๆไปนิพพาน... โดยหลงลืมไปว่า...จิตของพระอรหันต์...คือจิตชนิดใด

ชนทั้งหลายไม่ควรประมาทในกรรม เพราะ เราเองย่อมไม่สามารถบังคับให้
จิตหมดโลภะ โทสะ โมหะลงได้ในขณะประกอบกรรม เพราะจิตเองก็เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
เกิดดับนับไม่ถ้วน เป็นทุกข์ ไม่น่ายึดมั่นถือมั่นว่าเป็นเรา ของเรา อยู่ตลอดเวลา ฉะนั้น....
กุศล ย่อมให้ผลที่เป็นกุศลแน่นอนและ...
อกุศล ย่อมให้ผลที่เป็นอกุศลแน่นอน.....


ขออนุโมทนากับท่านทั้งหลายที่ให้ธรรมทานโดยเสนอ ชี้แนะมาทุกความคิดเห็นค่ะ

หน้า 3 จากทั้งหมด 3 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/