ลานธรรมจักร
http://dhammajak.net/forums/

ขอคำแนะนำในการปฏิบัติธรรมครับ
http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=20461
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  tbon [ 06 ก.พ. 2009, 10:33 ]
หัวข้อกระทู้:  ขอคำแนะนำในการปฏิบัติธรรมครับ

เวลาผมนั่งกรรมฐานจิตมันจะรู้ว่า จิตมันสงบ จิตมันเฉย จิตมันว่าง มันไม่เกิดอารมณ์มากระทบจิตให้รู้เลย ควรทำยังไงครับ บางทีมันเกิดมาเบาบางมากจนแทบจะมองไม่เห็น บางทีมันเกิดขึ้นมาเหมือนถูกข่มเอาไว้มันก็ดับไป ผมปฏิบัติถูกหรือเปล่า ควรแก้ไขยังไงให้อารมณ์มันเกิดเพื่อรู้ความเป็นจริง แนะนำ้ด้วยครับ ขอบคุณ

เจ้าของ:  ชาติสยาม [ 06 ก.พ. 2009, 11:51 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ขอคำแน่ะนำในการปฏิบัติธรรมครับ

นิ่งก็ไม่เที่ยง ว่างก็ไม่เที่ยง
"รู้" และ "ดู" อย่างเดียว
แล้วเดี๋ยวนิ่งมันจะไม่นิ่ง ว่างมันจะไม่ว่าง

จะไปนั่งในป่าช้า หรือที่ที่มันชวนหวาดเสียวในระดับที่คิดว่ายอมรับได้ ไม่สติแตก
ก็อาจจะช่วยได้ครับ

:b8:

เจ้าของ:  tbon [ 06 ก.พ. 2009, 12:02 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ขอคำแน่ะนำในการปฏิบัติธรรมครับ

:b8: ขอบคุณครับแต่ถ้าถึงป่าช้า จิตผมคงจะไม่ไหวน่ะครับ แต่ก็อยากลองดูเหมือนกัน
ที่จะได้รู้อารมย์ ขอบคุณครับ

เจ้าของ:  อัญญาสิ [ 07 ก.พ. 2009, 01:51 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ขอคำแน่ะนำในการปฏิบัติธรรมครับ

:b8:

:b12: ถ้าต้องไปนั่งป่าช้า...อันนี้ผมขอตัวไม่ร่วมด้วยขอรับ

ผู้ตั้งกระทู้ ลองวิธีผมดู..บางทีอาจได้ผลบ้าง...พิจารณาตามนี้..

ปฐมฌาน
เรานั้นแล สงัดแล้วจากกาม สงัดแล้วจากอกุศลธรรม ได้บรรลุปฐมฌาน มีวิตก
มีวิจาร มีปีติและสุขซึ่งเกิดแต่วิเวกอยู่.

ทุติยฌาน
เราได้บรรลุทุติยฌาน มีความผ่องใสแห่งจิต ณ ภายใน เป็นธรรมเอกผุดขึ้น ไม่มีวิตก
ไม่มีวิจาร เพราะวิตก วิจาร สงบไป มีปีติและสุขซึ่งเกิดแต่สมาธิอยู่.

ตติยฌาน
เรามีอุเบกขาอยู่ มีสติ มีสัมปชัญญะ และเสวยสุขด้วยนามกาย เพราะปีติสิ้นไป
ได้บรรลุตติยฌาน ที่พระอริยะทั้งหลายสรรเสริญว่า เป็นผู้มีอุเบกขา มีสติ มีสุขอยู่ ดังนี้ อยู่.

จตุตถฌาน
เราได้บรรลุจตุตถฌาน ไม่มีทุกข์ไม่มีสุข เพราะละสุขละทุกข์และดับโสมนัส โทมนัส
ก่อนๆ มีอุเบกขาเป็นเหตุให้สติบริสุทธิ์อยู่.

http://www.84000.org/tipitaka/pitaka1/v ... &A=0&Z=164

ลองพิจาณาดูหลายๆรอบน่ะขอรับอาจจะช่วยตอบคำถามท่านได้

:b8: เจริญในธรรม

เจ้าของ:  tbon [ 08 ก.พ. 2009, 10:11 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ขอคำแน่ะนำในการปฏิบัติธรรมครับ

มีปัญหาใหม่มาถาม เวลานั่งจิตมันว่างจนเหมือนจิตมันหายไปเลย แล้วมีอาการแปลกๆทางกาย
คือตรงหัวมันรู้สึกบีกเกร็งแล้วมันก็ไล่ลงมาทั้งตัว จนทั้งตัวสั่นไปเลยรู้สึกปวดหัวมึนหัวไปเลยพอทิ้งไว้สักพัก
มันก็หาย แต่พอกับมานั่งอีกมันก็จะเป็นอีก อาการหนักเบาไม่ีเท่ากันครับ ช่วยชี้แนะด้วยครับว่าผมปฏิบัติผิด
หรือเปล่าถึงมีอาการแบบนี้

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 08 ก.พ. 2009, 12:00 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ขอคำแน่ะนำในการปฏิบัติธรรมครับ

ถูกธรรม แต่ไม่ถูกของคุณ หมายความว่า คุณ tbon ต้องการแบบนี้อย่างนี้ แต่ธรรมก็ยังไหลตามธรรมชาติธรรมดาของมัน

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 08 ก.พ. 2009, 12:12 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ขอคำแน่ะนำในการปฏิบัติธรรมครับ


ตัวสภาวะ (หรือปรมัตถ์) ไม่วุ่นด้วย เพราะมันเป็นอย่างนั้นเองตามปกติธรรมดา ไม่เกี่ยวกับใครจะไปยึดหรือไม่ มนุษย์เป็นผู้วุ่นไปฝ่ายเดียว และเพราะสภาวะไม่วุ่นด้วย มนุษย์จึงยิ่งวุ่นวายใหญ่ เพราะขัดความปรารถนา ถูกบีบคั้นจึงเป็นปัญหาแก่มนุษย์เอง

เจ้าของ:  natdanai [ 10 ก.พ. 2009, 22:26 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ขอคำแน่ะนำในการปฏิบัติธรรมครับ

ท่านกรัชกายมาแล้ววววว.....ตอบซะเข้าใจยากไปรึป่าวเนี่ย :b6: :b6:

เจ้าของ:  จ่าสิบตรี เทวฤทธิ์ [ 11 ก.พ. 2009, 10:06 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ขอคำแน่ะนำในการปฏิบัติธรรมครับ

tbon เขียน:
เวลาผมนั่งกรรมฐานจิตมันจะรู้ว่า จิตมันสงบ จิตมันเฉย จิตมันว่าง มันไม่เกิดอารมณ์มากระทบจิตให้รู้เลย ควรทำยังไงครับ บางทีมันเกิดมาเบาบางมากจนแทบจะมองไม่เห็น บางทีมันเกิดขึ้นมาเหมือนถูกข่มเอาไว้มันก็ดับไป ผมปฏิบัติถูกหรือเปล่า ควรแก้ไขยังไงให้อารมณ์มันเกิดเพื่อรู้ความเป็นจริง แนะนำ้ด้วยครับ ขอบคุณ


อาจารย์เยอะ เลยเกิน แต่รู้ไม่จริง สักราย อิ อิ อิ ล้อเล่นขอรับ


ถ้าคุณรู้ว่าจิตว่าง แสดงว่า จิตคุณไม่สงบ เกิดความคิดแห่งความหลง ขอรับจิตว่าง จิตสงบ ยึดเอาหลักการใดใดหลักการหนึ่ง ในการปฏิบัติสมาธิ ที่ไม่ก่อให้เกิดอันตราย ก็เป็นอันถูกวิธี
การนั่งสมาธิ ทุกคน ล้วนมีอาการเกร็งเป็นธรรมดา ต่อเมื่อรู้ และเข้าใจวิธีการมากขึ้น ก็จะรู้จักบังคับผ่อนคลายอาการเกร็งนั้นได้เองอยู่แล้ว
การเกร็งร่างกายนั้น มีอันตราย อาจเกิดอาการของโรค อัลไซเมอร์ได้ ที่กล่าวไปนี้ ข้าพเจ้าประสบด้วยตัวข้าพเจ้าเองนะขอรับ เพราะการเกร็งร่างกายนั้น เกิดจากหัวใจและสมอง ขอรับ
ทำความเข้าใจให้ดีขอรับ เพราะวิธีแก้ก็อยู่ในตัวของมันเองอยู่แล้วขอรับ

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 11 ก.พ. 2009, 15:15 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ขอคำแน่ะนำในการปฏิบัติธรรมครับ

อ้างคำพูด:
ท่านกรัชกายมาแล้ว...ตอบซะเข้าใจยากไปรึป่าวเนี่ย



น้ำทะเลไหลขึ้น เราต้องการให้ไหลลง น้ำทะเลลง แต่เราต้องการให้ขึ้น
อันว่าน้ำทะเลจะขึ้นจะลงก็เป็นไปตามกฏธรรมะ กฏธรรมดาของมัน

ความจริงธรรมะได้เปิดเผยตัวเองอยู่ต่อหน้าแล้ว แต่เราเองไปคิดว่าไม่ใช่ธรรมะ ไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการ
เมื่อเป็นดังนั้น ความคิดความต้องการของเรากับธรรมะจึงสวนกระแสกันทุกลมหายใจ :b1: :b38:

ก็เมื่อความจริงเป็นอย่างนั้น แล้วจะให้เป็นอย่างที่เราต้องการได้อย่างไร ธรรมะก็เป็นไปตามวิถีของธรรมะ
หน้าที่เราคือรู้ตามที่เค้าเป็น เป็นอย่างไร ก็กำหนดรู้อย่างนั้น รู้ตามเป็นจริงนั่นแหละบ่อยๆ แล้ว
ยถาภูตญาณทัศนะจะเกิดตามมา :b42: :b41:

เจ้าของ:  โปเต้ [ 19 ก.พ. 2009, 08:45 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ขอคำแนะนำในการปฏิบัติธรรมครับ

จิตตานุปัสสนา


[๒๘๙] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุพิจารณาเห็นจิตในจิตอยู่อย่างไรเล่า

ภิกษุในธรรมวินัยนี้ จิตมีราคะ ก็รู้ว่าจิตมีราคะ หรือจิตปราศจากราคะ ก็รู้ว่าจิตปราศจากราคะ
จิตมีโทสะ ก็รู้ว่าจิตมีโทสะ หรือจิตปราศจากโทสะ ก็รู้ว่าจิตปราศจากโทสะ
จิตมีโมหะ ก็รู้ว่าจิตมีโมหะ หรือจิตปราศจากโมหะ ก็รู้ว่าจิตปราศจากโมหะ
จิตหดหู่ ก็รู้ว่าจิตหดหู่ จิตฟุ้งซ่าน ก็รู้ว่าจิตฟุ้งซ่าน
จิตเป็นมหรคต ก็รู้ว่าจิตเป็นมหรคต หรือจิตไม่เป็นมหรคต ก็รู้ว่าจิตไม่เป็นมหรคต
จิตมีจิตอื่นยิ่งกว่า ก็รู้ว่าจิตมีจิตอื่นยิ่งกว่า หรือจิตไม่มีจิตอื่นยิ่งกว่า ก็รู้ว่าจิตไม่มีจิตอื่นยิ่งกว่า
จิตเป็นสมาธิ ก็รู้ว่าจิตเป็นสมาธิ หรือจิตไม่เป็นสมาธิ ก็รู้ว่าจิตไม่เป็นสมาธิ
จิตหลุดพ้น ก็รู้ว่าจิตหลุดพ้น หรือจิตไม่หลุดพ้น ก็รู้ว่าจิตไม่หลุดพ้น

ดังพรรณนามาฉะนี้ ภิกษุย่อมพิจารณาเห็นจิตในจิตภายในบ้าง พิจารณาเห็นจิตในจิตภายนอกบ้าง
พิจารณาเห็นจิตในจิตทั้งภายในทั้งภายนอกบ้าง
พิจารณาเห็นธรรมคือความเกิดขึ้นในจิตบ้าง พิจารณาเห็นธรรมคือความเสื่อมในจิตบ้าง
พิจารณาเห็นธรรมคือทั้งความเกิดขึ้นทั้งความเสื่อมในจิตบ้าง ย่อมอยู่

อีกอย่างหนึ่ง สติของเธอที่ตั้งมั่นอยู่ว่า จิตมีอยู่ ก็เพียงสักว่าความรู้ เพียงสักว่าอาศัยระลึกเท่านั้น
เธอเป็นผู้อันตัณหาและทิฐิไม่อาศัยอยู่แล้ว และไม่ถือมั่นอะไรๆในโลก
ดูกรภิกษุทั้งหลาย อย่างนี้แล ภิกษุชื่อว่าพิจารณาเห็นจิตในจิตอยู่ ฯ

จบจิตตานุปัสสนา

:b8: :b8: :b8:

เจ้าของ:  โปเต้ [ 19 ก.พ. 2009, 08:51 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ขอคำแนะนำในการปฏิบัติธรรมครับ

อ้างคำพูด:
จิตมันจะรู้ว่า จิตมันสงบ จิตมันเฉย จิตมันว่าง มันไม่เกิดอารมณ์มากระทบจิตให้รู้เลย ควรทำยังไงครับ


น่าจะต่อด้วยการพิจารณา ตามบรรทัดนี้นะคะ

ภิกษุย่อมพิจารณาเห็นจิตในจิตภายในบ้าง
พิจารณาเห็นจิตในจิตภายนอกบ้าง
พิจารณาเห็นจิตในจิตทั้งภายในทั้งภายนอกบ้าง
พิจารณาเห็นธรรมคือความเกิดขึ้นในจิตบ้าง พิจารณาเห็นธรรมคือความเสื่อมในจิตบ้าง
พิจารณาเห็นธรรมคือทั้งความเกิดขึ้นทั้งความเสื่อมในจิตบ้าง ย่อมอยู่

อีกอย่างหนึ่ง สติของเธอที่ตั้งมั่นอยู่ว่า จิตมีอยู่ ก็เพียงสักว่าความรู้ เพียงสักว่าอาศัยระลึกเท่านั้น
เธอเป็นผู้อันตัณหาและทิฐิไม่อาศัยอยู่แล้ว และไม่ถือมั่นอะไรๆในโลก
ดูกรภิกษุทั้งหลาย อย่างนี้แล ภิกษุชื่อว่าพิจารณาเห็นจิตในจิตอยู่ ฯ

:b8:

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/