| ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
| อยากรู้ว่าการฝึกจิตกับการฝึกพลังจิตมันเหมือนหรือว่าต่างกันนะ http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=20476 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 2 |
| เจ้าของ: | sweetberry [ 08 ก.พ. 2009, 00:02 ] |
| หัวข้อกระทู้: | อยากรู้ว่าการฝึกจิตกับการฝึกพลังจิตมันเหมือนหรือว่าต่างกันนะ |
เพราะว่าแนวทางมันก็คล้ายๆกันไม่ใช่เหรอ คือการที่ทำให้ตัวเองมีสมาธิ เอาที่เราเข้าใจนะ...การฝึกจิตก็คือการที่เราคอยตามดูจิตของเรา รู้ตัวเสมอ ตามดูมันไปเรื่อยๆ แล้วมันก็ต้องอาศัยสมาธิเพื่อให้เกิดสติ ส่วนการฝึกพลังจิตมันก็ต้องอาศัยสมาธิเหมือนกัน เริ่มต้นเหมือนกันแต่ทำไมได้ผลลัพธ์ไม่เหมือนกัน หรือว่าเพราะมีจุดมุ่งหมายที่ไม่เหมือนกัน แล้วถ้าอย่างนั้นอันไหนมันฝึกง่ายกว่ากัน แล้วก็อันไหนมันดีกว่ากันนะ....แล้วก็ทั้งสองอย่างเนี่ยมันเป็นเรื่องเดียวกันแบบว่าสามารถพลิกแพลงมาใช้ด้วยกันได้หรือว่ามันเป็นคนละโลกกันเลยล่ะเนี่ย โอ๊ย......ไปๆมาชักงงเองแล้วล่ะ เอาเป็นว่าใครรู้ หรือว่ามีความคิดเห็นช่วยตอบทีละกันนะ....
|
|
| เจ้าของ: | อินทรีย์5 [ 08 ก.พ. 2009, 00:34 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: อยากรู้ว่าการฝึกจิตกับการฝึกพลังจิตมันเหมือนหรือว่าต่างกันนะ |
ว่าแต่เราชอบแบบไหนละ การฝึกจิตทั้งสองแบบก้ต้องอาศัยสมาธิด้วยกันทั้งคู่นั่นแหละ แต่ผลลัพท์ที่เกิดขึ้นมันต่างกันมาก แบบแรกเป็นสัมมาสมาธิฝึกแล้วได้ประโยชน์หลายด้านต้องอาศัยการสำรวมกาย ใจเป็นหลัก แต่อย่างหลังฝึกเพื่อให้เกิดอำนาจจิตเพื่อผลลัพท์อะไรสักอย่างหรือเป็นการทดลอง (จะว่าไปมันก็คล้ายๆกันนั่นแหละ) แต่องค์ประกอบเพื่อให้เกิดสมาธิและผลลัพท์มันคนละอย่างกัน วิธีการปฏิบัติสมาธิก็จะแตกต่างกันไปด้วย ว่าแต่ไปอ่านเจอหนังสือเล่มไหนเข้าละ ถึงอยากฝึกจิตขึ้นมา
|
|
| เจ้าของ: | ชาติสยาม [ 08 ก.พ. 2009, 01:26 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: อยากรู้ว่าการฝึกจิตกับการฝึกพลังจิตมันเหมือนหรือว่าต่างกันนะ |
การทำใจให้สงบนั้น เมื่อทำไปถึงจุดหนึ่งมันจะทำให้เกิดความสามารถพิเศษเหนือมนุษย์ธรรมดาได้ เช่นตาทิพย์ หุทิพย์ อ่านใจคนได้ เรียกว่ามีความรู้ในการทำสิ่งเหล่าัน้นได้ ฟังดูนึกว่าดีนะครับ ความจริงไม่ คนเหล่าัน้นกลับมีโอกาสที่จะยิ่งยึดเหนี่ยวในกิเลสมากกว่าเดิมอีก เช่นพอใจในลาภสักการะ พอใจในอภินิหาร บางครั้งก็เป็นพวกพ่อมดหมอผีไป ที่เขายิ่งยึดยิ่งถือเหนียวแน่นเข้าไปเพราะมีความเห็นว่า กายบังคับได้ และจิตบังคับได้ บังคับหายตัวได้ บังคับจิตให้รู้เห็นและแสดงความสามารถพิเศษต่างๆได้ เลยมีทิฐิว่ากายกับใจนี้บังคับบัญชาได้ ความสามารถพิเศษเหล่านั้นเรียกว่าอภิญญา 6 ได้แก่ 1. อิทธิวิธิ แสดงฤทธิ์ได้ เช่น ล่องหนได้ เหาะได้ ดำดินได้ 2. ทิพพโสต มีหูทิพย์ 3. เจโตปริยญาณ กำหนดรู้ใจผู้อื่นได้ 4. ปุพเพนิวาสานุสติญาณ ระลึกชาติได้ 5. ทิพพจักขุ มีตาทิพย์ 6. อาสวักขยญาณ รู้การทำอาสวะให้สิ้นไป 5 ข้อแรก จัดว่าเป้นของสาธารณะ เป็นโลกียญาน มีอยู่ก่อนแล้วในอดีตก่อนจะมีพระพุทธเจ้าอีก เช่นพวกฤาษี พวกเจ้าสำนักต่างๆในสมัยนั้น ส่วนข้อ 6 เป็นญานของพระอรหันต์ พระพุทธเจ้าเป้นผู้ค้นพบ เป็นญานที่ทำให้ท่านรู้แจ้งเห็นจริงว่า กายเป็นอนัตตา จิตเป็นอนัตตา ไม่เที่ยง บังคับบัญชาไม่ได้ การเจริญจิตภาวนา หรือภาษาปากว่าฝึกพลังจิตแบบพระพุทธเจ้านั้น เป้าหมายสุดสุดเราอยู่ที่ญานที่ 6 คือญานที่ทำให้อาสวะกิเลสสิ้นไป ญานอื่นนั้นเป้นเครื่องประกอบ เป้นบททดสอบ เป้นของแถม |
|
| เจ้าของ: | กรัชกาย [ 08 ก.พ. 2009, 20:47 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: อยากรู้ว่าการฝึกจิตกับการฝึกพลังจิตมันเหมือนหรือว่าต่างกันนะ |
คำถามมีคำตอบอยู่ในตัวส่วนหนึ่ง (...มีจุดมุ่งหมายที่ไม่เหมือนกัน) อย่างกรณีแรกสืบเนื่องสัมพันธ์กันเป็นเหตุเป็นผลกัน ตัวอย่างเช่น เริ่มต้นรักษาศีล ก็เพื่อสมาธิ สมาธิก็เพื่อ ปัญญา ปัญญาเพื่อวิมุตติ ส่วนฝึกใช้พลังจิตอย่างกรณีหลัง จะไม่สืบต่อถึงตัวปัญญา จิตที่ได้รับการฝึกแล้วจะมีพละมีกำลัง มีผลดีแก่ตนเองด้วยกันทั้งนั้นไม่ว่าจะฝึกด้วยวิธีใด แม้จะยังไม่ถึงระดับสูงสุดก็ตาม อ้างคำพูด: แล้วถ้าอย่างนั้นอันไหนมันฝึกง่ายกว่ากัน แล้วก็อันไหนมันดีกว่ากันนะ.... ดีมีหลายระดับ สมาธิก็มีหลายระดับ ดีระดับใดสมาธิระดับไหน หากมองในแง่ดีที่ทำให้พ้นจากทุกข์โทมนัสได้เด็ดขาดก็ต้องกรณีแรก แต่ก็ต้องอาศัยสมาธิพอควรแก่การ กรณียากง่าย ก็ไม่ใช่ของง่ายนัก ส่วนการฝึกพลังจิตให้ถึงขั้นดำดิน -เดินบนน้ำได้เป็นต้น หรือ ฝึกใช้พลังจิตขยับเขยื้อนวัตถุหนักๆ เช่น ตู้เสื้อผ้า เป็นต้นได้ ก็ยากมิใช่น้อย
|
|
| เจ้าของ: | sweetberry [ 08 ก.พ. 2009, 23:43 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: อยากรู้ว่าการฝึกจิตกับการฝึกพลังจิตมันเหมือนหรือว่าต่างกันนะ |
ความจริงก็อ่านมาจากหนังสือหลายๆเล่มค่ะ แล้วมันก็มีแนวทางและวิธีการปฏิบัติที่เป็นไปในแนวทางเดียวกัน แต่มันอยู่เล่มนึงที่ไม่เหมือนเล่มอื่นค่ะ เพราะว่าอ่านๆไปแทนที่จะเป็นการฝึกจิตดันกลายเป็นฝึกพลังจิตไปซะงั้น แต่มันก็น่าสนใจดีนะ น่าลองอยู่เหมือนกัน แต่ก็คงไม่ต้องถึงขั้นดำดิน เดินบนน้ำ หรือขยับตู้ได้หรอก เอาแค่ขยับกระดาษให้ได้ก่อนก็หรูแล้ว...อิอิ....
|
|
| เจ้าของ: | sweetberry [ 08 ก.พ. 2009, 23:54 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: อยากรู้ว่าการฝึกจิตกับการฝึกพลังจิตมันเหมือนหรือว่าต่างกันนะ |
ไหนๆก็ไหนๆแล้วขอถามคุณกรัชกายหน่อยนะคะ ที่บอกว่า"จิตที่ได้รับการฝึกแล้วจะมีพละมีกำลัง มีผลดีแก่ตนเองด้วยกันทั้งนั้นไม่ว่าจะฝึกด้วยวิธีใด แม้จะยังไม่ถึงระดับสูงสุดก็ตาม" งั้นก็แแสดงว่าแค่เริ่มต้นฝึกก็สามารถเพิ่มพลังให้กับจิตได้แล้วเหรอคะ แล้วถ้าจิตยังมีสมาธิบ้างหรือไม่มีสมาธิบ้างล่ะคะ แบบว่าแวบไปแวบมาน่ะค่ะ(จิตยังไม่นิ่ง)แบบนี้จิตจะมีพลังเพิ่มขึ้นซักนิดซักหน่อยมั้ยคะ
|
|
| เจ้าของ: | ชาติสยาม [ 09 ก.พ. 2009, 03:58 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: อยากรู้ว่าการฝึกจิตกับการฝึกพลังจิตมันเหมือนหรือว่าต่างกันนะ |
sweetberry เขียน: ความจริงก็อ่านมาจากหนังสือหลายๆเล่มค่ะ แล้วมันก็มีแนวทางและวิธีการปฏิบัติที่เป็นไปในแนวทางเดียวกัน แต่มันอยู่เล่มนึงที่ไม่เหมือนเล่มอื่นค่ะ เพราะว่าอ่านๆไปแทนที่จะเป็นการฝึกจิตดันกลายเป็นฝึกพลังจิตไปซะงั้น แต่มันก็น่าสนใจดีนะ น่าลองอยู่เหมือนกัน แต่ก็คงไม่ต้องถึงขั้นดำดิน เดินบนน้ำ หรือขยับตู้ได้หรอก เอาแค่ขยับกระดาษให้ได้ก่อนก็หรูแล้ว...อิอิ.... ![]() หมายถึงเขาเน้นอภิญญาเลยใช่ไหมครับ ปกติถ้าครูอาจารย์ที่เป็นสายพระพุทธเจ้า จะต้องสอนให้เอาพุทธศาสตร์ไปคุมมันอีกที เช่น สติปัฏฐาน ศีล เปรียบเหมือนการศึกษาอภิญญาเป้นม้า แต่เอาพุทธศาสตร์เป็นคนบังคับม้าอีกที ไม่งั้นคนเรียนจะบ้าครับ เพราะไปรู้เห็นอะไำรมากแล้วเข้าไปยึดถืออุปาทาน จริงหรือไม่จริงก็ไม่สามารถจะแยกแยะได้ นานเข้าก็หลอน สติแตก บ้าไปเลย เพราะขาดศีล ขาดกำลังสมาธิ ขาดปัญญา ขาดกำลังสติ การฝึกวิชาพวกนี้ต้องระมัดระวังอย่างมาก ต้องมีครูที่ดี ไม่งั้นบ้าเอาง่ายๆครับ |
|
| เจ้าของ: | กรัชกาย [ 09 ก.พ. 2009, 08:49 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: อยากรู้ว่าการฝึกจิตกับการฝึกพลังจิตมันเหมือนหรือว่าต่างกันนะ |
อ้างคำพูด: งั้นก็แแสดงว่าแค่เริ่มต้นฝึกก็สามารถเพิ่มพลังให้กับจิตได้แล้วเหรอคะ เอาง่ายๆ ยามปกตินี่ล่ะ คุณ sweetberry หากจิตไม่มีพลัง ไม่มีกำลัง มนุษย์จะเดินเหินยกแขนยกขา ยกแก้วน้ำ เป็นต้นไม่ไหว (เว้นกรณีคนเป็นอัมพาตนะครับ) ดูชัดๆอีกมุมหนึ่ง คนที่ร่างกายแข็งแรงนี่ล่ะ เมื่อได้ทราบว่า คนที่ตนรักประสบอุบัติเสียชีวิตกะทันหัน พอได้ทราบข่าวเท่านั้นแหละ กำลังยืนอยู่แท้ๆ เข่าอ่อนทรุดลงกองกับพื้น ยืน-เดินไม่ไหว อ่อนเปลี้ยทั้งกาย-ใจ ต้องช่วยกันพยุงให้เดิน ถึงกระนั้นก็ยังต้องลากไป ![]() นั่นเพราะจิตหมดแรงหมดกำลัง จึงทำให้ทั้งองคาพยพเป็นไปเช่นนั้น |
|
| เจ้าของ: | กรัชกาย [ 09 ก.พ. 2009, 09:16 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: อยากรู้ว่าการฝึกจิตกับการฝึกพลังจิตมันเหมือนหรือว่าต่างกันนะ |
อ้างคำพูด: แล้วถ้าจิตยังมีสมาธิบ้างหรือไม่มีสมาธิบ้างล่ะคะ แบบว่าแวบไปแวบมาน่ะค่ะ(จิตยังไม่นิ่ง)แบบนี้จิตจะมีพลังเพิ่มขึ้นซักนิดซักหน่อยมั้ยคะ ตอบสืบเนื่องจาก คห. บน มันก็มีเท่าที่มีตามที่คุณพูดนั่นแหละ แต่ไม่เพียงพอที่จะทำการงานที่ละเอียดยิ่งขึ้นไปได้ จึงต้องฝึกอีกเพื่อทำงานทางปัญญา เพราะปัญญาจะได้โอกาสทำงาน ก็ต้องอาศัยจิตที่มีสมาธิพอสมควร แม้ไม่ถึงขนาดนำไปใช้ด้านปัญญาก็มีประโยชน์ ตัวอย่าง เช่น นักกายกรรมเดินไต่ลวดสลิงซึ่งขึงอยู่ในที่สูง กว่าเขาจะเดินไต่ได้เช่นนั้น จะต้องผ่านการฝึกจิตให้นิ่งมิใช่น้อยๆชั่วโมง จึงเดินบนลวดได้เช่นนั้น ส่วนผู้มิได้ฝึกเพื่อเล่นกายกรรม แต่จะมีประโยชน์ในการดำรงชีวิตประจำวัน คือ ทำงานได้มีประสิทธิ์ภาพมากขึ้น เหมือนมีกำลังกายใจดีขึ้น สังเกตความอ่อนเพลียซึ่งก่อนทำงานเท่านี้ชั่วโมงหรือนอนไม่ถึงเท่านั้นชั่วโมง จะเมี่อยขบไปทั้งกาย นอนซมทั้งวันถึงไข้ขึ้น แต่หลังจากฝึกสมาธิได้สมควรแล้ว อาการเช่นนั้นหายไป หรือ เช่นความจำก็ดีขึ้น เมื่อก่อนวางสิ่งของมักลืมบ่อยๆ นึกไม่ออกว่าวางไว้ตรงไหน แต่พอมาฝึกจิตฝึกสมาธิ อาการขี้หลงขี้ลืมลดลง แม้วางสิ่งของต้องใช้แม้ผ่านไปนานแล้ว ต้องการใช้ก็นึกได้ว่าอ้อ เราวางไว้ตรงนั้น ฯลฯ |
|
| เจ้าของ: | ถนอม021 [ 09 ก.พ. 2009, 09:56 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: อยากรู้ว่าการฝึกจิตกับการฝึกพลังจิตมันเหมือนหรือว่าต่างกันนะ |
อนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ |
|
| เจ้าของ: | sweetberry [ 09 ก.พ. 2009, 14:54 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: อยากรู้ว่าการฝึกจิตกับการฝึกพลังจิตมันเหมือนหรือว่าต่างกันนะ |
คามินธรรม เขียน: sweetberry เขียน: ความจริงก็อ่านมาจากหนังสือหลายๆเล่มค่ะ แล้วมันก็มีแนวทางและวิธีการปฏิบัติที่เป็นไปในแนวทางเดียวกัน แต่มันอยู่เล่มนึงที่ไม่เหมือนเล่มอื่นค่ะ เพราะว่าอ่านๆไปแทนที่จะเป็นการฝึกจิตดันกลายเป็นฝึกพลังจิตไปซะงั้น แต่มันก็น่าสนใจดีนะ น่าลองอยู่เหมือนกัน แต่ก็คงไม่ต้องถึงขั้นดำดิน เดินบนน้ำ หรือขยับตู้ได้หรอก เอาแค่ขยับกระดาษให้ได้ก่อนก็หรูแล้ว...อิอิ.... ![]() หมายถึงเขาเน้นอภิญญาเลยใช่ไหมครับ ปกติถ้าครูอาจารย์ที่เป็นสายพระพุทธเจ้า จะต้องสอนให้เอาพุทธศาสตร์ไปคุมมันอีกที เช่น สติปัฏฐาน ศีล เปรียบเหมือนการศึกษาอภิญญาเป้นม้า แต่เอาพุทธศาสตร์เป็นคนบังคับม้าอีกที ไม่งั้นคนเรียนจะบ้าครับ เพราะไปรู้เห็นอะไำรมากแล้วเข้าไปยึดถืออุปาทาน จริงหรือไม่จริงก็ไม่สามารถจะแยกแยะได้ นานเข้าก็หลอน สติแตก บ้าไปเลย เพราะขาดศีล ขาดกำลังสมาธิ ขาดปัญญา ขาดกำลังสติ การฝึกวิชาพวกนี้ต้องระมัดระวังอย่างมาก ต้องมีครูที่ดี ไม่งั้นบ้าเอาง่ายๆครับ หนังสือเล่มอื่นๆเป็นของครูบาอาจารย์ที่ชาวพุทธทั่วไปเลื่อมใสศรัทธานี่ล่ะค่ะ แต่เล่มที่ไม่เหมือนชาวบ้านเขาเนี่ย เป็นคนที่ได้ลองฝึกแล้วเขียนเล่าประสบการณ์ แล้วก็เป็นชาวต่างชาติค่ะ
|
|
| เจ้าของ: | sweetberry [ 09 ก.พ. 2009, 15:09 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: อยากรู้ว่าการฝึกจิตกับการฝึกพลังจิตมันเหมือนหรือว่าต่างกันนะ |
หรือ เช่นความจำก็ดีขึ้น เมื่อก่อนวางสิ่งของมักลืมบ่อยๆ นึกไม่ออกว่าวางไว้ตรงไหน แต่พอมาฝึกจิตฝึกสมาธิ อาการขี้หลงขี้ลืมลดลง แม้วางสิ่งของต้องใช้แม้ผ่านไปนานแล้ว ต้องการใช้ก็นึกได้ว่าอ้อ เราวางไว้ตรงนั้น ฯลฯ ถ้าอย่างนั้นคนที่สมาธิสั้น ถ้ามาฝึกนั่งสมาธิก็สามารถช่วยให้หายจากอาการสมาธิสั้นได้ใช่มั้ยคะ ส่วนผู้มิได้ฝึกเพื่อเล่นกายกรรม แต่จะมีประโยชน์ในการดำรงชีวิตประจำวัน คือ ทำงานได้มีประสิทธิ์ภาพมากขึ้น เหมือนมีกำลังกายใจดีขึ้น สังเกตความอ่อนเพลียซึ่งก่อนทำงานเท่านี้ชั่วโมงหรือนอนไม่ถึงเท่านั้นชั่วโมง จะเมี่อยขบไปทั้งกาย นอนซมทั้งวันถึงไข้ขึ้น แต่หลังจากฝึกสมาธิได้สมควรแล้ว อาการเช่นนั้นหายไป มิน่าล่ะคนที่เค้าปฏิบัติกันเคร่งๆ แบบว่าไปปฏิบัติที่วัดประมาณนี้นอนก็ดึกแถมตื่นเร็วอีก แต่เขาไม่มีอาการของคนที่พักผ่อนน้อยเลย แต่อย่างเราปฏิบัติเองที่บ้าน จะได้เรื่องบ้างมั้ยน๊า......
|
|
| เจ้าของ: | พลศักดิ์ วังวิวัฒน์ [ 09 ก.พ. 2009, 17:32 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: อยากรู้ว่าการฝึกจิตกับการฝึกพลังจิตมันเหมือนหรือว่าต่างกันนะ |
ฝึกพลังจิตคือ ฝึกสมาธิ สมถะกรรมฐาน พอเข้าถึงระดับฌาน 4 และอรูปฌาน จึงมันจะมีอภิญญาต่างๆ ส่วนที่คุณบอก "เราคอยตามดูจิตของเรา รู้ตัวเสมอ ตามดูมันไปเรื่อยๆ แล้วมันก็ต้องอาศัยสมาธิเพื่อให้เกิดสติ" นั่นเป็นการวิปัสสนา การวิปัสสนาใช้เพียงสมาธิขึ้นฌาน 1-2 ก็พอ ที่เหลือก็ตามดูจิต คนที่ฝึกวิปัสสนา เขาจะได้ปัญญา ตัดกิเลสได้ ไปสูงสุดเป็นพระอรหันต์สุขวิปัสสโก ไม่มีพลังจิตเหมือนพวกฝึกสมาธิ สมถะกรรมฐาน เพราะฤทธิอภิญญาจะเกิด และใช้งานได้จริงจัง ก็ต้องระดับฌาน 4 และอรูปฌาน |
|
| เจ้าของ: | กรัชกาย [ 09 ก.พ. 2009, 18:05 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: อยากรู้ว่าการฝึกจิตกับการฝึกพลังจิตมันเหมือนหรือว่าต่างกันนะ |
อ้างคำพูด: ถ้าอย่างนั้นคนที่สมาธิสั้น ถ้ามาฝึกนั่งสมาธิก็สามารถช่วยให้หายจากอาการสมาธิสั้นได้ใช่มั้ยคะ ได้ครับ ก่อนพูดประเด็นนี้ต่ออีกหน่อย ขอบอกกันเช้าใจผิดสักเล็กน้อยว่า ในขณะที่ฝึกมิใช่มีแต่สมาธิเท่านั้น ที่ทำหน้าที่อยู่ ยังมีองค์ธรรมอื่นอีกตามสมควร ที่ร่วมด้วยช่วยกันทำหน้าที่ขวักไขว่อยู่แต่ละขณะๆ (พูดเปรียบเทียบให้เข้าใจง่ายก็ว่า ทำงานกันเป็นทีม ในทีมนั้นเก่งกันทุกคน ไม่ใช่เก่งคนเดียว) เช่น สติ สัมปชัญญะ สมาธิ สัญญา เจตนา มนสิการ เอกัคคตา เป็นต้น ซึ่งทำหน้าที่ของตนๆ หนุนเสริมกันและกัน เป็นเหตุปัจจัยกัน หรือพูดตามหลักปฏิจจสมุปบาทว่า สิ่งนี้มีสิ่งนี้จึงมี มันมีมันเป็น อย่างมีเหตุมีผล ไม่ใช่มีเป็นหรือเกิดขึ้นลอยๆ อย่างไร้เหตุผลว่างั้นเถอะ เมื่อเข้าใจเหตุผลแล้วพาวกเข้าประเด็น สำหรับคนสมาธิสั้น พึงฝึกต่อสมาธิให้ยึดยาวขึ้น พึงทราบตัวอย่างดังนี้ เด็กชาย ก. มีความอดทนทำ การบ้านประมาณ 4 นาที พ้นนั้นเริ่มหลุกหลิก ๆ รุกรี้รุกรน ทิ้งสมุดปากกาไปเล่นอย่างอื่น ผู้เป็นพ่อ-แม่ หรือ อาจารย์ พึงฝึกเด็กชาย ก. ด้วยการให้ทำการบ้าน โดยกำหนดเวลาให้ที่ 5 นาที โดยมีเราคุมอยู่ ค่อยปลุกฉันทะให้เค้าทำงานนั้นให้ครบกำหนด 5 นาที อาจใช้อุบายตามความเหมาะสม เพื่อให้เค้าไปให้ถึงจุดเวลาที่ต้องการ แล้วพึงสังเกตเอา เมื่อเห็น เด็กชาย ก. เริ่มนิ่งอยู่ตัวที่ 5 นาที แล้ว วันต่อไปก็ขยับขึ้นไปอีกสัก 1 นาที. เป็น 6 นาที ตามอุบายเดิม ฯลฯ แล้วขยับไปเรื่อยๆ ตามนั้น จนเขามีสมาธิสนใจในการทำงานนั้น มีสมาธิในการเขียน ในการทำกิจกรรมอื่น ได้นานขึ้นเป็นชั่วโมง ฉันใด ก็ฉันนั้น ผู้ปฏิบัติกรรมฐานก็ฉันนั้น โดยเริ่มต้นที่เท่าไหร่แล้วแต่ ทำไปสังเกตไป แล้วขยับเวลาไล่ๆขึ้นไปเรื่อยๆ สมาธิจะดีขึ้นยาวขึ้นตามลำดับ มีความมั่นคงต่ออารมณ์กรรมฐานได้นานขึ้น |
|
| เจ้าของ: | กรัชกาย [ 09 ก.พ. 2009, 18:11 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: อยากรู้ว่าการฝึกจิตกับการฝึกพลังจิตมันเหมือนหรือว่าต่างกันนะ |
อ้างคำพูด: มิน่าล่ะคนที่เค้าปฏิบัติกันเคร่งๆ แบบว่าไปปฏิบัติที่วัดประมาณนี้นอนก็ดึกแถมตื่นเร็วอีก แต่เขาไม่มีอาการของคนที่พักผ่อนน้อยเลย แต่อย่างเราปฏิบัติเองที่บ้าน จะได้เรื่องบ้างมั้ยน๊า ต้องใช้เวลาครับ ไม่พึงหักโหมเอาให้มีให้เป็นเพียง 5 วัน หรือ 7 วัน 15 วัน จะต้องฝึกทำนองดังกล่าวให้อยู่ตัว จนมันเป็นไปเองโดยอัตโนมัติ แบบไม่ต้องฝืนหรือกักกดอีกต่อไป คือ ไหลไปเองเลยว่างั้นเถอะ เปรียบ่ให้พอมองเห็นภาพ เหมือนเราเทน้ำในตุ่มซึ่งมีพิษออกจากตุ่มให้หมด แล้วเติมน้ำใหม่ลงไปแทน ที่นี้ก็จะมีแต่น้ำใหม่ซึงไร้พิษ ฉันใดก็ฉันนั้น สภาพจิตที่เคยชินผิดๆอยู่เดิมเปรียบเหมือนสิ่งมีพิษ จะต้องขจัดกวาดล้างด้วยกุศลภาวนาขับออกไป แล้วกุศลธรรมทั้งหลายมีสัมมาสติ เป็นต้น จะเข้าแทนที่ ฉันนั้น อ้างคำพูด: แต่อย่างเราปฏิบัติเองที่บ้าน จะได้เรื่องบ้างมั้ยน๊า จะปฏิบัติที่บ้านหรือที่ใดก็ตามที ท่านว่ากุศลเกิดทุกที่ แม้เพียงช้างกระดิกหูงูแลบลิ้นก็ได้เรื่องเป็นกุศล ตามเหตุปัจจัยของมันเหมือนกัน แต่พึงทำบ่อยๆ แม้ในการทำงานประจำวันก็ใช้ได้ เสริมความเข้าใจลิงค์นี้นะขอรับ viewtopic.php?f=2&t=20241 |
|
| หน้า 1 จากทั้งหมด 2 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
| Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |
|