ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
พลังงาน http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=20482 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | เทพกระบี่ [ 08 ก.พ. 2009, 12:48 ] |
หัวข้อกระทู้: | พลังงาน |
มีคำกล่าวว่า การเข้าถึงธรรมชาติได้นั้น พึงรวมกาย ใจ เป็นหนึ่งกับธรรมชาติ คือการรวมพลังงานเป็นหนึ่งเดียว เข้าใจแตกฉาน เห็นทางออก สู่หลุดพ้น |
เจ้าของ: | tttchaittt [ 12 ก.พ. 2009, 09:39 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พลังงาน |
สั้นถูกใจดีผมว่าเมื่อจิตเราสงบพลังงานในตัวจะรวมกับธรรมชาติเองเพราะจิตเปิดทางนะจริงไหม |
เจ้าของ: | เทพกระบี่ [ 13 ก.พ. 2009, 17:26 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พลังงาน |
ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนคือพลังงาน ก้อนดินก้อนหินต้นหญ้า แม้กระทั่งคน สรรพสิ่งคือพลังงาน เช่นคน หนึ่งร่างกายแยกย่อยเป็นอวัยวะต่างๆเช่นมือ เท้า ฯลฯ หนึ่งอวัยวะ แยกย่อยเป็นหลายเนื้อเยื่อ หนึ่งเนื้อเยื่อ แยกย่อยเป็นหลายเซลล์ หนึ่งเซลล์ แยกย่อยเป็นหลายโมเลกุล หนึ่งโมเลกุล แยกย่อยเป็นหลายอะตอม หนึ่งอะตอม ประกอบด้วย โปรตอน นิวตรอน อิเล็กตรอน เหล่านี้คือพลังงาน ไร้รูป มีอำนาจ ดังนั้น ร่างกายคนหนึ่งคนหลายๆอะตอมนั้นคือกลุ่มพลังงานก้อนหนึ่ง เมื่อสามารถควบคุมพลังงาน ให้มีความถี่มากขึ้นน้อยลงได้ นั้นคือการซึ้งถึงธรรมชาติ เข้าถึงธรรมชาติแห่งจิต |
เจ้าของ: | หล่อ ลูกแม่อ้วน [ 13 ก.พ. 2009, 22:18 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พลังงาน |
แล้วพลังงานต้นกำเนิดมาจากไหนครับ......หรือเกิดขึ้นเองลอยๆ |
เจ้าของ: | ariyachon [ 14 ก.พ. 2009, 00:10 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พลังงาน |
พลังงาน เดินทางสู่ความว่าง |
เจ้าของ: | mes [ 14 ก.พ. 2009, 15:38 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พลังงาน |
หล่อ ลูกแม่อ้วน เขียน: แล้วพลังงานต้นกำเนิดมาจากไหนครับ......หรือเกิดขึ้นเองลอยๆ ขออนุญาตร่วมถามต่อว่า ผมเคยรับรู้มาว่าถ้าวัตถุเคลื่อนที่เข้าสู่ความเร็วของแสงจะกลายเป็นพลังงาน แต่จะทำอย่างไรให้พลังงานมากลายเป็นโมเลกุล และอะตอม จนกลายเป็นธาตุต่างๆได้ |
เจ้าของ: | เทพกระบี่ [ 19 มี.ค. 2009, 15:22 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พลังงาน |
ขออนุญาตร่วมถามต่อว่า ผมเคยรับรู้มาว่าถ้าวัตถุเคลื่อนที่เข้าสู่ความเร็วของแสงจะกลายเป็นพลังงาน แต่จะทำอย่างไรให้พลังงานมากลายเป็นโมเลกุล และอะตอม จนกลายเป็นธาตุต่างๆได้ กีฬาทางจิต จิตทำได้มากกว่าที่คิด ฮ่าๆๆๆๆ |
เจ้าของ: | กามโภคี [ 19 มี.ค. 2009, 15:55 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พลังงาน |
เทพกระบี่ เขียน: มีคำกล่าวว่า การเข้าถึงธรรมชาติได้นั้น พึงรวมกาย ใจ เป็นหนึ่งกับธรรมชาติ คือการรวมพลังงานเป็นหนึ่งเดียว เข้าใจแตกฉาน เห็นทางออก สู่หลุดพ้น ![]() (สมาธิ ภิกฺขเว สมาหิโต ยถาภูตํ ปชานาติ ดูกรภิกษุทั้งหลาย สมาธิเมื่อตั้งมั่นดีเสมอแล้ว ย่อมรู้ตามความจริง) หรือว่า สมาหิโต (ความตั้งมั่น) นั่นคือพลังที่คุณมีความเห็นมา ??? อนุโมทนาครับ ด้วยจิตคารวะอย่างสูง(ส่ง) ![]() |
เจ้าของ: | natdanai [ 20 มี.ค. 2009, 11:28 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พลังงาน |
หล่อ ลูกแม่อ้วน เขียน: แล้วพลังงานต้นกำเนิดมาจากไหนครับ......หรือเกิดขึ้นเองลอยๆ ตัณหา อุปปาทาน |
เจ้าของ: | ชาติสยาม [ 20 มี.ค. 2009, 12:04 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พลังงาน |
ท่านทั้งหลายครับ พึงทำความเข้าใจอย่างนี้ว่า คำว่า"พลังงาน-energy"ในทางวิทยาศาสตร์นั้นมีนิยามที่ชัดเจนแน่นอน และสามารถตรวจวัดได้ มีหน่วยเป็นจูล ทีนี้คำว่า " จิต " ในทางพระพทุธศาสนา มันไม่ใช่"พลังงาน" ในแบบวิทยาศาสตร์ กล่าวคือจิตไม่มีความร้อน ไม่มีพลังงานแบบที่วิทยาศาสตร์เข้าใจ ปัญหาคือ ถ้าเราเอาคำว่า "พลังงาน" มาใช้กับ "จิต" มันก็จะสร้างความสับสนให้กับผู้ฟังที่เขามีพื้นมาทางวิทยาศาสตร์ แล้วก็จะกลายเป้นเข้าใจต่อไปว่าพระพุทธศาสนานี้เลอะเทอะ ในที่สุดก็คุยกันแบบโอละพ่อ คนละเื่รื่องเดียวกัน เพราะความสับสนของนิยามของคำ (ความเข้าใจคำศัพท์ที่แตกต่างกันไป) แต่ผมพอจะเข้าใจว่าท่านทั้งหลายที่พยามใช้คำว่า "พลังงาน" คงอยากจะหมายถึงว่า จิตมี"อานุภาพ มีสมรรถนะ มีพลังบางอย่าง" ถ้ายังไงใช้คำว่า "พลังจิต" น่าจะพออนุโลมกันได้ แต่คนก็จะเข้าใจไปในทางมายากลอีก ประเภทงอช้อน หักตะเกียบ ครูอาจารยืท่านมักจะเรียก"จิต"ว่าเป้น "ธาตุ" แต่ไม่ใช่ธาตุเงิน ธาตุทอง ธาตุฟอสฟอรัสนะครับ อันนั้นมันธาตุวัตถุ ครูอาจารย์ทั้งหลายเพิ่มคำเข้าไปให้มันชัดขึ้น เลยเรียกว่า "ธาตุรู้" ซึ่งจะเห็นว่าพวกธาตุเงิน ธาตุทอง ธาตุไฟ ธาตุน้ำ ฯลฯ มันไม่มีสมรรถนะในการ"รู้" แต่จิตเป้น"ธาตุรู้" ซึ่งก้ตรงกับปรมัตถะธรรมคือ "จิตมีหน้าที่รู้อารมณ์" หรือพูดให้ถูกเลยก้ต้องพูดว่า "จิตมีหน้าที่รู้เจตสิก" ความรู้ของพระพุทธเจ้านั้น ต้องเรียกว่า พุทธศาสตร์ ครับ เน้นตรงคำว่า "ศาสตร์" เพราะว่าพุทธธรรมเป็นอีกวิชาหนึ่ง ที่ไม่ใช้วิทยาศาสตร์ แล้วก็ไม่ใช่ปรัชญา พุทธศาสตร์มีองค์ความรู้ นิยาม ในแบบของตัวเอง หรือเรียกว่า อภิธรรม นั่นแหละครับ คือตัวศาสตร์ล้วนๆของพระพุทธศาสนา ถ้าเราศึกษาแบบเอาวิทยาศาสตร์มาผสม และ/หรือ เอาปรัชญามาผสม รับรองว่า"งง"ครับ นอกจากจะงงแล้ว ยังจะทำให้เสื่อมศรัทธาได้ง่ายๆ แม้ผู้ที่เขาไม่ตั้งใจศึกษา แค่เดินผ่านไปผ่านมาหน้าบ้าน พอได้ยินคำว่า "จิตเป็นพลังงาน" รับรองว่านักวิทยาศาสตรืทุกคนส่ายหัวใส่ หาว่าชาวพุทธเลอะเทอะ จะพาลเข้าใจว่าศาสนาเรามั่ว ถ้าท่านทั้งหลายอยากจะรู้ว่าพุทธศาสนา-ปรัชญา-วิิทยาศาสตร์ มันแตกต่างกันยังไง ลองศึกษางานท่านพุทธทาส และเจ้าคุณประยุตต์มากๆ จะเกิดความกระจ่างเอง |
เจ้าของ: | เทพกระบี่ [ 31 มี.ค. 2009, 13:31 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พลังงาน |
ถาม มีมั้ย ตอบ มี ถามไม่มีใช่มั้ย ตอบ ไม่มี ถามว่า มีหรือไม่มี ตอบ มีและไม่มี |
เจ้าของ: | mes [ 31 มี.ค. 2009, 14:17 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พลังงาน |
คุณคามินธรรมครับ จิตน่าจะ มีพลังงาน หรือเป็นพลังงานครับ |
เจ้าของ: | ชาติสยาม [ 31 มี.ค. 2009, 17:51 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พลังงาน |
mes เขียน: คุณคามินธรรมครับ จิตน่าจะ มีพลังงาน หรือเป็นพลังงานครับ ผมนิยามคำว่าำ"พลังงาน-enery" ในแบบวิทยาศาสตร์นะครับ ดังนั้นถ้าตอบแบบวิทยาศาสตร์ ต้องบอกว่าจิตไม่มีพลังงาน และไม่เป็นพลังงาน เพราะถ้าจิตมีพลังงานจิตต้องตวงวัดได้ด้วยเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ คือจิตไม่มี Enery แต่ถ้าตอบแบบพุทธศาสตร์ คือ "จิตมีพลัง" (เอาคำว่า "งาน" ออก) คือ จิตมี Power แต่ไม่มี Energy ![]() ![]() |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |