เชื่อว่าทุกท่านที่ได้ติดตามปัญหาบ้านเมืองในขณะนี้ คงทราบดีว่า ชาติไทยเรากำลังเผชิญกับปัญหาเศรษฐกิจ อันเนื่องมาจากพิษแฮมเบอร์เกอร์จากอเมริกา อยากให้ร่วมแสดงความเห็นว่าถ้าเราจะแก้ปัญหานี้อย่างไร ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว เราคงทำอะไรไม่ได้มากนัก เพราะไม่มีอำนาจอยู่ในมือ แต่นโยบายของรัฐในขณะนี้ ทำถูกทางหรือยัง การแจกเงิน 2,000 บาท ให้กับผู้มีรายได้ ไม่เกิน 15,000 บาทนั้น สมควรหรือไม่ ในเมื่อในประเทศไทยยังมีผู้ลำบากกว่าบุคคลเหล่านั้นอยู่อีกมาก มีข้อมูลเปิดเผยว่า บัญชีเงินที่มากกว่าหนึ่งล้านบาท มีกว่าเก้าแสนบัญชี และบัญชีที่มากกว่า 10 ล้านบาท มีกว่า 67,000 บัญชี ซึ่งบัญชีไม่มีการเคลื่อนไหว เพราะประชาชนอยากเก็บเอาไว้ ที่สงสัยคือรัฐต้องการ ให้บุคคลเหล่านั้นนำเงินออกมาใช้จ่าย ตกลง การฟุ่มเฟือยกับประหยัดนี่ จะให้เลือกอย่างไหน หรือว่าต้องให้ผู้มีเงินเยอะ ไปซื้อรถเก๋งแพงๆ เพื่อให้บริษัทรถยนต์ อยู่ได้ มันจะไม่ขัด กับสูตรเศรษฐี อุ อา กะ สะ กระนั้นเหรอ เชื่อว่า ปัญญาจะแก้ปัญหาได้ทุกอย่าง

เพียงรักษาจิตของเราคนเดียว ก็รักษาชาติแล้วครับ

มีสติรักษาจิต
มีศีลรักษาจิต
ถ้ารักษาอย่างนี้ไว้ได้ จึงค่อยไปรักษาอย่างอื่น

คนขาดสติ จะรักษาอะไรๆได้อย่างไร
คนไม่มีศีล จะรักษาอะไรๆได้อย่างไร

สมัยนี้มีแต่คนขาดสติ ที่ขาดศีลอีกต่างหาก
แล้วชอบคิดจะไปรักษานู่นนี่นั่นกัน มันเลยดูไม่จืดอย่างที่เห็นๆกันอยู่น่ะครับ

ตอนนี้มีเงินก็ต้องซื้อครับ เพราะเป็นโอกาสดีที่จะได้ซื้อของถูก เพราะปริมาณอุปสงค์ในตลาดลดลงมาก ในขณะที่ปริมาณอุปทานมีอยู่เท่าเดิม....ส่วนคนที่มีเงินน้อยก็ต้องใช้จ่ายอย่างระมัดระวังและควรหาโอกาศที่จะหารายได้เสริมจากต้นทุนของตนที่มีอยู่ (ความรู้ ความสามารถ)....ส่วนคนที่ไม่มีเงินแต่มีหนี้ก็ไม่ต้องเครียดไป เพราะเจ้าหนี้เขาเครียดกว่าเราแน่นอน...(ไม่รู้ว่าจะโดนเบี้ยวรึป่าว ) ค่อยๆ แก้ไขไป ลดความอยากของตัวเองลงมาอยู่แค่ กินข้าว แค่นั้นพอ

พูดถึงเรื่องแจกเงินซะหน่อย....

กระผมเองเป็นคนนึงที่ประกอบอาชีพอิสระครับ ไม่ได้เป็นผู้ประกันตน(ไม่มีสิทธิ์รับแน่แล้ว) แต่ก็ไม่ได้น้อยเนื้อต่ำใจอะไรหรอกที่ไม่ได้รับเงิน 2000
แต่สิ่งที่ทำให้รู้สึกตะขิดตะขวงใจก็คือ กระผมเองทำงานรับเหมา ถึงตอนรับค่าจ้างคนจ่ายก็หักภาษี ณ.ที่จ่าย 5% ตลอด และพอถึงตอนยื่นแบบกระผมก็ยื่นตามกติกาทุกอย่าง คำนวนภาษีแล้วจะต้องได้เงินภาษีคืนปีนึงก็เป็นเงินประมาณ 20000 บาท....ทุกวันนี้นึกอยู่ว่าทำไมไม่คืนเงินให้เรา(3 ปีแล้วนะที่โดนเบี้ยว) พอทวงถามก็บอกว่า "กำลังตรวจสอบ" พอนานไปก็บอกว่า "คืนไม่ได้แล้ว ส่งเงินกลับเข้าคลังแล้ว" แล้วยังงี้ประชาชนอย่างกระผมจะทำอย่างไรดี จ่ายภาษีไปก็ไม่เห็นประเทศชาติจะดีขึ้น ถึงตอนจะได้ส่วนที่จ่ายเกินไปคืนมาก็ไม่ได้ แถมทำเป็นใจดีเอาเงินที่ต้องคืนให้เราไปแจกคนอื่นอีก ไอ้จะไม่จ่ายก็เดี๋ยวจะเดือดร้อนหนักเข้าไปอีก ทุกวันนี้เลยทำได้แค่ "กรรมของเรา"

ถ้าเกิดว่ามีผู้ที่มีอำนาจเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ได้อ่านก็ขอความกรุณาท่านช่วยนำเรื่องนี้เสนอให้ รมต.คลัง ไปพิจารณาถึงกระบวนการการทำงานของคนเก็บภาษีหน่อยเถอะ ( คนขายหุ้นเป็นหลายๆหมื่นล้านไม่เก็บภาษีทำได้ง่ายๆ แต่เงินคืนภาษีของกระผมแค่ปีละหมื่นกว่าสองหมื่นทำไมมันยากเหลือเกิน)

เพราะการกระทำแบบนี้ของข้าราชการ เป็นปัจจัยให้เกิดความแตกแยกของคนในชาติ เพราะประชาชนไม่ได้รับความเป็นธรรม และคนที่เป็นผู้นำก็ไม่อาจคืนความเป็นธรรมให้ประชาชนได้ จึงปฏิเสธไม่ได้เลยที่ประชาชนผู้ที่เดือดร้อนจะไม่มีความภูมิใจในความเป็นคนไทย

สิ่งที่จะตามมาก็คือมีแนวคิดแยกดินแดน ปกครองตนเอง รัฐอิสระ ฯ ซึ่งแนวคิดเหล่านี้จะเป็นไปไม่ได้เลยหารข้าราชการหรือผู้ที่ถืออำนาจรัฐมีความยุติธรรม และซื่อสัตย์ และเป็นคนทีเห็นประโยชน์ของชาติมาก่อน(แต่ทุกวันนี้จะหาได้ที่ไหนหนอ)

และที่ทุกวันนี้แนวคิดเหล่านั้นยังไม่ชัดเจนก็เพราะพระบารมีของในหลวงนั่นเอง

คุณพี่ nat พูดมา ต่อมอยากพูดของผมมันแตก
ขอพูดเรื่องเงินมั่ง

ผมไม่เข้าใจว่า คนที่มีสิทธิได้เงิน 2000 ต้องเป้นผู้ประกันตนเท่านั้น
แต่เงินที่เอามาให้ ไม่ใช่เงินจากกองทุนประกันสังคม แต่กลับเป้นเงินที่มาจากงบประมาณกลางปี
แต่ว่าจ่ายผ่านประกันสังคม แล้วก็ให้แต่คนที่มีประกันตน
ผมไม่เข้าใจจริงๆเลยครับท่านทั้งหลาย

ทำไมแม่ค้าขายข้างแกง มอเตอร์ไซด์รับจ้าง หรืออาชีพอิสระอื่นอย่างผมหรือคุณพี่ nat
ถึงถูกกาหัวว่าเป้นผู้ไม่มีสิทธิ์ในเงิน 2000

ผมคิดๆอยู่ว่าจะไปฟ้องศาลปกครอง
แต่ให้ประชาชนเขาได้เงินก่อน ค่อยฟ้องคนจ่าย

รัฐบาล เอาเงินมาแจก ก็ดีนะ อยู่ๆ ก็ได้เงินเพิ่ม ในกระเป๋า แต่ประเทศเราเนี่ยรวยขนาดแจกเงิน 16,000 ล้านได้เลยเหรอ เงินจะไม่หมดประเทศเหรอ คือในความคิดนะ เงินในระบบโลกมันคงน้อยไปมั้ง ถึงได้มีคนไม่มีจะกินเยอะอย่างนี้ ประเทศไทย ทำไมถึงไม่มีโรงทานนะ ค่าใช้จ่ายวันละล้าน เนี่ย ไม่ได้เยอะไปเลย ถ้าทำให้คุณภาพชีวิตประชากรดีขึ้น