ลานธรรมจักร
http://dhammajak.net/forums/

ท่านมีความเห็นอย่างไรกับคำๆ นี้ “เห็นด้วยสมาธิ”
http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=20830
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  บัวไฉน [ 27 ก.พ. 2009, 18:24 ]
หัวข้อกระทู้:  ท่านมีความเห็นอย่างไรกับคำๆ นี้ “เห็นด้วยสมาธิ”

ท่านมีความเห็นอย่างไรกับคำๆ นี้ “เห็นด้วยสมาธิ”
วาน..ท่านผู้รู้ช่วยพิจารณา และขยายความด้วย


:b39: เห็นด้วยสมาธิ :b39:

พิจารณาจนกระทั่งเบื่อหน่าย
เห็นโทษของร่างกาย
เห็นโทษของความเกิดดับ
เห็นโทษของปฏิกูลเปื่อยเน่าทั้งหลายนี้
เราได้ของไม่ดีน่าสลดสังเวช
เราหวงมันหนักหนา
แท้ที่จริงนั่นหวงของตาย
หวงของเน่าของปฏิกูล
เห็นชัดเช่นอันนี้ ก็จะปล่อยวางเอง
อันนั้นเรียกว่า เห็นด้วยสมาธิ


:b42: ธรรมะของ...หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี :b42:

เจ้าของ:  natdanai [ 27 ก.พ. 2009, 23:01 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ท่านมีความเห็นอย่างไรกับคำๆ นี้ “เห็นด้วยสมาธิ”

เห็นธรรมของจริงครับ
เห็นไตรลักษณ์
เห็นกุศลจริง....อกุศลจริง

พิจารณาได้อยู่แค่นี้แหละครับ....แต่รู้อยู่ว่ามีมากกว่านี้ครับ :b13:

เจ้าของ:  murano [ 28 ก.พ. 2009, 21:49 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ท่านมีความเห็นอย่างไรกับคำๆ นี้ “เห็นด้วยสมาธิ”

เป็นการใช้คำในอีกความหมายหนึ่ง คล้ายๆ ว่า เข้าใจ หรือ รู้ถึง ไม่ได้มีความหมายในแบบ เห็นเป็นภาพ

เจ้าของ:  ตรงประเด็น [ 28 ก.พ. 2009, 22:29 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ท่านมีความเห็นอย่างไรกับคำๆ นี้ “เห็นด้วยสมาธิ”

เห็นแจ้ง สื่อถึง สัมมาญาณะ เป็นปัญญาประจักษ์ไตรลักษณ์ด้วย"ญาน".....หาใช่ เป็นความเห็นที่อาศัยความนึกคิดระดับธรรมดา. ท่านผู้รู้กล่าวว่า เป็นกุศลที่พ้นเจตนา

สัมมาญาณะ(ปัญญินทรีย์อันบริบูรณ์)นี้ ยืนอยู่บนพื้นฐานของ สัมมาสมาธิ(สมาธินทรีย์อันบริบูรณ์) หรือ เอกัคคตาจิต ซึ่งก็คือ"ฌาน"นั่นเอง

ทั้ง ฌาน และ ญาน ก็เป็นสิ่งที่สืบเนื่องมาจาก สตินทรีย์อันบริบูรณ์ หรือ การเจริญภาวนาตามหลักแห่งสติปัฏฐาน


ผู้ที่มีทั้งฌานและปัญญาจึงอยู่ใกล้พระนิพพาน(นิพพานสันติเก)
ด้วยเหตุนี้

เจ้าของ:  คนไร้สาระ [ 04 มี.ค. 2009, 05:16 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ท่านมีความเห็นอย่างไรกับคำๆ นี้ “เห็นด้วยสมาธิ”

:b8: :b8: :b8:

เจ้าของ:  ฌาณ [ 04 มี.ค. 2009, 13:59 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ท่านมีความเห็นอย่างไรกับคำๆ นี้ “เห็นด้วยสมาธิ”

เห็นด้วยสมาธิ คือการเห็นชัด เห็นตามความเป็นจริง เห็นตามปรมัตถธรรม
เมื่อเห็นตามนั้นแล้ว เห็นชัดต่อเนื่องแล้ว......

สมาธิที่เกิดต่อเนื่องเราเรียกว่า ฌาณ
พิจารณาความเป็นจริงต่อเนื่อง เป็นโลกุตตระฌาณ หรือ สัมมาสมาธิ

นำมาซึ่งสัมมาญาณะ และสัมมาวิมุติในที่สุด......


เห็นจึงเห็นด้วยสมาธิ.......แต่วาง จะละวางด้วยปัญญาเท่านั้น

สัมมาสมาธิ มีในสมัยนั้น เป็นไฉน ?

ความตั้งอยู่แห่งจิต ความดำรงอยู่แห่งจิต ความมั่นอยู่แห่งจิต
ความไม่ส่ายไปแห่งจิต ความไม่ฟุ้งซ่านแห่งจิต ภาวะที่จิตไม่ส่ายไป
ความสงบ สมาธินทรีย์ สมาธิพละ ความตั้งใจชอบ ในสมัยนั้น อันใด
นี้ชื่อว่า สัมมาสมาธิมีในสมัยนั้น.

สัมมาสมาธิที่บุคคลเจริญแล้ว กระทำให้มากแล้ว
มีการกำจัดราคะเป็นที่สุด
มีการกำจัดโทสะเป็นที่สุด
มีการกำจัดโมหะเป็นที่สุด.

จาก ความข้างต้น แสดงให้ทราบว่า สัมมาสมาธิสามารถขจัดมิจฉาสมาธิ ตลอดจนกิเลสและความฟุ้งซ่าน สามารถทำให้ผู้ปฏิบัติเข้าสู่เป้าหมายสูงสุดคือ พระนิพพานได้

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/