ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
ธรรมมีอุปการะมาก 2 ประการ http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=20899 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | จ่าสิบตรี เทวฤทธิ์ [ 04 มี.ค. 2009, 20:51 ] |
หัวข้อกระทู้: | ธรรมมีอุปการะมาก 2 ประการ |
ท่านทั้งหลาย ที่ข้าพเจ้าเขียนบทความนี้ ก็เพื่อ สร้างความรู้ ความเข้าใจให้ท่านทั้งหลาย ได้รู้จักจดจด และมีความเข้าใจเกี่ยวกับหลักธรรม ต่างๆ ที่มีอยู่หลักพุทธศาสนา เหตุเพราะ ได้มีบุคคล บางกลุ่ม หรือได้มีบางบุคคล ได้ใช้หลักธรรมทางพุทธศาสนา มาสร้าง ความเข้าใจผิด อันไม่เป็นไปตามหลักธรรมชาติ ไม่เป็นไปตามหลักความจริง จะด้วยความรู้เท่าไม่ถึงกาลของบุคคลเหล่านั้น หรือจะเป็นการจงใจกระทำก็ตามที ดังนั้น ข้าพเจ้าจึงได้เขียนบทความเรื่อง "ธรรมมีอุปการะมาก 2 การ" เพื่ออรรถาธิบายให้ท่านทั้งหลายได้มีความเข้าใจ ในหลักธรรม ดังกล่าวอย่างถ่องแท้ และถูกต้อง "ธรรมมีอุปการะมาก 2 ประการ" ได้แก่ (จากพจนานุกรมพุทธศาสน์ฉบับพระธรรมปิฎก) 1.สติ คือ ความระลึกได้, นึกได้, ความไม่เผลอ, การคุมใจไว้กับกิจ หรือกุมจิตไว้กับสิ่งที่เกี่ยวข้อง, จำการที่ทำและคำที่พูดแล้ว แม้นานได้ 2.สัมปชัญญะ คือ ความรู้ตัวทั่วพร้อม, ความรู้ตระหนัก, ความรู้ชัดเข้าใจชัด ซึ่งสิ่งที่นึกได้; มักมาคู่กับ สติ เมื่อท่านทั้งหลายได้อ่าน ความหมายของ ธรรมมีอุปการะมาก แล้ว ถ้ามีปฏิภาณไหวพริบ ย่อมจะเกิดความเข้าใจ แล้วว่า สติ กับ สัมปชัญญะ มาพร้อมกัน จะขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้ ถ้าขาด สติ ก็ย่อม ขาด สัมปชัญญะ ถ้าขาด สัมปชัญญะ อาจจะมีสติ แบบ แผ่นเสียงตกร่อง ซ้ำๆอยู่ที่เดิม จำได้เฉพาะ การที่ได้แสดงออกมาทางพฤติกรรมต่างๆ หมายความว่า การแสดงออกทางพฤติกรรมต่างๆของบุคคลนั้น คือ สติ หรือความระลึกได้ หรือนึกได้ รูปแบบหนึ่ง แต่จำได้เพียงเท่านั้น ข้อมูลความรู้ อื่นๆ ไม่สามารถจำได้ อย่างนี้เป็นต้น ดังนั้น สติ และสัมปชัญญะ จึงมาพร้อมกัน แยกออกจากกันไม่ได้ อนึ่ง คำว่า สติ หรือ การระลึกได้ หรือ นึกได้ ไม่เผลอ นี้ ย่อมหมายถึง การระลึก นึกได้ ถึง ความรู้ ความเข้าใจ หลักวิชาการ พฤติกรรม การกระทำ หรือการปฏิบัติ ทั้งทางกาย วาจา และใจ และสติ ย่อมต้องมี สัมปชัญญะ เป็นตัวควบคุม อยู่เสมอ เพราะหากมีสติ ระลึกได้อย่างเดียว ไม่มี สัมปชัญญะ คือ ความรู้สึกตัว บุคคลผู้นั้น อาจจะกลายเป็นคนวิกลจริต ก็เป็นได้ แต่ก็มีบางบุคคล ที่มีพฤติกรรมหรือการกระทำ หรือปฏิบัติ ทั้งทางกาย วาจา และใจ โดยไม่รู้สึกตัว อันเกิดจาก ระบบการทำงานของสมอง และหัวใจเกิด ขัดข้อง เช่นหลับใน สมองล้า หรือสมองหยุดทำงานในบางส่วน ซึ่งบุคคลนั้นๆ จะมีสติ หรือระลึกได้เพียงแต่ว่า กำลังทำอะไรอยู่ แต่ไม่สามารถรับรู้ จากสิ่งที่เกิดขึ้น ภายนอกร่างกาย อย่างนี้เป็นต้น จากการอธิบายในเรื่องของ สติ และสัมปชัญญะ ที่ได้กล่าวไป ท่านทั้งหลายที่สนใจ และใฝ่ศึกษา คงได้รับความรู้ ความเข้าใจ ที่ถูกต้องว่า มนุษย์ทุกตน ย่อมต้องมีทั้ง สัมปชัญญะ และ มีทั้ง สติ ประกอบกัน จะขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้ ในการประกอบกิจการใดใด หรือในการปฏิบัติ หรือการแสดงพฤติกรรม ใดใด หากขาดอย่างใดอย่างหนึ่ง ย่อมจะเกิดผลเสียทั้งต่อตัวเอง และผู้อื่น ไม่มากก็น้อย แลท่านทั้งหลาย ก็จงได้ทำความเข้าใจไว้ว่า คำว่า "ขาดสติ" นั้น แท้จริงแล้ว คำเต็ม ก็คือ "ขาดสติ สัมปชัญญะ" ซึ่งท่านทั้งหลายคงพอจะรู้ในเรื่องของค่านิยมของการใช้ภาษา ว่าทำไมคำว่า "สัมปชัญญะ"จึงขาดหายไป เหลือแต่คำว่า "ขาดสติ |
เจ้าของ: | จ่าสิบตรี เทวฤทธิ์ [ 05 มี.ค. 2009, 19:53 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ธรรมมีอุปการะมาก 2 ประการ |
อนึ่ง ในการเรียนรู้หลักธรรม หรือศึกษาในหลักธรรม หรือการปฏิบัติในหลักธรรม หรือ การเผยแพร่ในหลักธรรมใดใด ตามหลักพุทธศาสนานั้น ท่านทั้งหลายควรได้จดจำ และทำความเข้าใจ เอาไว้ว่า ต้องเรียนรู้ในทุกข้อแห่งธรรมของแต่ละหมวดธรรมะ ต้องปฏิบัติ หรือย่อมมีการปฏิบัติในทุกข้อแห่งธรรมของแต่ละหมวดธรรมะ หรือต้องเผยแพร่ธรรมะทุกข้อในแต่ละหมวดธรรม พร้อมกัน ไม่ใช่หยิบยกเอามาเพียงข้อเดียวจากจำนวนหลายข้อในหมวดธรรมะนั้นๆ ที่เป็นเช่นนั้น ก็เพราะหลักธรรมล้วนเกี่ยวข้องสัมพันธ์กัน อย่างชนิดที่แยกกันไม่ได้ จึงขอให้ท่านทั้งหลายได้พิจารณา ไตร่ตรอง ตามหลักความเป็นจริงด้วย |
เจ้าของ: | อธิคม [ 07 มี.ค. 2009, 02:32 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ธรรมมีอุปการะมาก 2 ประการ |
ขออนุโมทนากับท่านผู้นี้ด้วย อนุโมทนา สาธุ |
เจ้าของ: | จ่าสิบตรี เทวฤทธิ์ [ 07 มี.ค. 2009, 06:02 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ธรรมมีอุปการะมาก 2 ประการ |
อนึ่ง ธรรมะในหมวดนี้ เป็นเพียงรายละเอียด หรือเป็นเพียงธรรมะส่วนอธิบายขยายความของ ขันธ์ 5 หรือจะกล่าวในอีกรูปแบบหนึ่ง ก็คือ ขันธ์ 5 อันได้แก่ จิตวิญญาณ, รูป ,สัญญา ,เวทนา ,สังขาร มีระบบการทำงาน ทำให้เกิดผลเป็น"ธรรมะมีอุปการะมาก 2 ประการ" และ/หรือ หากปฏิบัติ สมาธิ ก็จะเกิดผล หรือ หากผู้ใดมีสมาธิจากการฝึกหัดในรูปแบบใดก็ตาม ไม่ว่าจะเกิดจากการได้รับการขัดเกลาจากสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่ กรรมพันธุ์ ครอบครัว หรือสิ่งแวดล้อมอื่นๆ ก็จะทำให้เกิดผล คือ "ธรรมะมีอุปการะมาก 2 ประการ"เช่นกัน และ "ธรรมะมีอุปการะมาก"นี้ ก็คือ "ธรรมชาติที่มีอยู่ในตัวของสรรพสิ่ง ที่มีชีวิตทั้งหลาย |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |