พระพุทธองค์ทรงสอนปัญจวัคคีย์ว่า
"อย่ายึดเอาขันธ์ห้า ตั้งแต่รูปไปจนถึงวิญญาณว่าเป็นของเราเด็ดขาด"
เพระท่านเหล่านี้ไปยึดเอาวิญญาณเป็นเรา เพราะเป็นพราหมณ์มาก่อน
แต่พอมาฟังพระพุทธเจ้าตรัสสอน จึงได้เข้าใจ พอถูกถามว่า
รูป ใช่ตัวตนของเธอหรือเปล่า
เวทนา ใช่ตัวตนของเธอหรือเปล่า
สัญญา ใช่ตัวตนของเธอหรือเปล่า
สังขาร ใช่ตัวตนของเธอหรือเปล่า
วิญญาณ ใช่ตัวตนของเธอหรือเปล่า
เมื่อเข้าใจแล้วจึงได้พากันกราบทูลว่า "ไม่ใช่พระเจ้าข้า"
เมื่อแยกกันได้ หรือรู้แค่นี้ ทุกอย่างก็จบ
ไม่ต้องศึกษาอะไร ให้มากมายถึง 45 เล่มพระไตรปิฎก
แค่รู้ว่า อัตตา คือใคร
อนัตตา คืออะไร เท่านี้ก็น่าจะพอใจแล้ว จริงไหม ทุกท่าน

สาธุ......
คนไร้สาระเห็นด้วยกับคุณวรานนท์ค่ะ
ถ้าเรา รู้และยอมรับด้วยปัญญา
ทุกอย่างก็จบ
ฟังดูมันง่ายน่ะ แต่ทำไมมันยากจัง
อาจเป็นเพราะคนไร้สาระ ปัญญาน้อย
บารมีไม่พอ
แต่ ยังงั้ย ก็ไม่เลิกเพียร พยายามอยู่ตลอด
ถึงกิเลสจะลากทั้งวัน แต่ไม่ผิดศีล 5 แน่
เพราะเห็นความน่ากลัวของวิบาก
ส่งต้นยังไม่พอ บางครั้งมาพร้อมดอกเบี้ย
ใช้หนี้ไม่หวาด...ไม่ไหว

เห็นด้วยอย่างอย่างยิ่ง เราไม่ควรยึดติด หรือยึดมั่นถือมั่นกับทุกสิ่งทุกอย่าง เพราะใด ๆ ล้วน อนิจจัง ทุกข์ขัง อนัตตา แต่การกระทำมันยากมาก ถ้าทำได้ คงได้นิพพานไปแล้วครับท่าน

ตามอนัตตลักขณสูตร นั้น เป็นการกล่าวถึงลักษณะของ อนัตตา เมื่อพระพุทธเจ้าได้ตรัสสูตรนี้จบลง พระปัญจวัคคีย์ก็พ้นจากอาสวะกิเลส เพราะได้พิจารณาเห็นรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ไม่ใช่ตัวตน บังคับบัญชาไม่ได้ จึงเบื่อหน่ายแล้วก็คลายกำหนัด คลายความติดยึด ทำราคะ โทสะ โมหะ ให้หมดไป จนที่สุดบรรลุนิพพานพ้นจากทุกข์ทั้งปวงได้ อนัตตลักขณสูตร จึงเป็นพระสูตรที่สำคัญยิ่งสูตรหนึ่งที่ควรศึกษาเรียนรู้อย่างยิ่ง ...........

ก่อนที่พระพุทธเจ้าจะปรินิพพาน พระองค์ได้ตรัสสอนพระอานนท์ว่า "ดูก่อนอานนท์ ! ธรรมและวินัยอันใดที่เราแสดงแล้ว บัญญัติแล้วแก่ท่านทั้งหลาย ธรรมและวินัยนั้นจักเป็นศาสดาของท่านทั้งหลาย เมื่อเราล่วงลับไป..." การตรัสสอนเช่นนี้จึงเป็นการแสดงให้เห็นว่า การศึกษาพระธรรมวินัยที่พระพุทธเจ้าตรัสสอนนี้จึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก พระไตรปิฏก เป็นแหล่งข้อมูลหลักของพระพุทธศาสนา ข้าพเจ้าเห็นว่าคุณวรานนท์ควรเปิดวิสัยทัศน์ทางธรรมให้กว้างขวางและลึกซึ้ง ด้วยการใช้สติปัญญาทำการศึกษาหลักธรรมจากพระไตรปิฏก ซึ่งสามารถตรวจสอบและพิสูจน์ได้ด้วยตัวท่านเอง ท่านสามารถดับกิเลส กองทุกข์ ทำจิตให้บริสุทธิ์ผ่องใส และพัฒนาจิตใจให้เป็นบุคคลที่ประเสริฐได้จริง ขออนุโมทนา

เจริญในธรรมครับ