ความจริงที่มีอยู่จริงๆที่กำลังปรากฎอยู่ขณะนี้ ควรที่จะฟัง และพิจารณาให้เข้าใจ

จริงๆในสิ่งที่กำลังปรากฎซึ่งมีลักษณะจริงๆ เ ริ่มค่อยๆเข้าใจทีละน้อย สภาพธรรมที่

เกิดขึ้น สืบต่อและดับไปอย่างรวดเร็วมาก จากการฟังเริ่มเข้าใจว่าแต่ละขณะเป็นแต่

เพียงจิต เจตสิก รูปเท่านั้นที่เกิดขึ้น และดับไป จึงไม่มีเราแม้ขณะเดียวที่จะไปทำ

อะไรได้ ความเข้าใจขั้นการฟังจะค่อยๆเป็นสังขารขันธ์ปรุงแต่งให้เข้าใจมั่นคงขึ้นจน

กว่าสังขารขันธ์ปรุงแต่งให้รู้ลักษณะสภาพธรรมตามความเป็นจริง ซึ่งเป็นหนทาง

เดียวที่จะอบรมเจริญสติปัฎฐานจนกว่าปัญญาจะสมบูรณ์มั่นคงขึ้นเป็นวิปัสสนาญาณ

ที่ ๑ เกิดขึ้นประจักษ์แจ้งลักษณะของนามธรรมและรูปธรรม ตามลำดับขั้น ฉะนั้น

จะไปวิปัสสนากรรมฐานที่ไหน ถ้าขณะนี้สภาพธรรมที่กำลังปรากฎอยู่ตรงหน้ายังไม่

สามารถรู้ได้ แล้วจะไปอยู่ป่า อยู่วัด อยู่คนเดียวที่สงบ ก็ยังไม่สามารถรู้ความจริง

ของสิ่งที่มีอยู่จริงๆในขณะนี้ได้ ความจริงซึ่งไม่มีใครสามารถรู้ได้นอกจากการตรัสรู้

ของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วทรงแสดงความจริงที่ควรแก่การรู้เพื่อการดับ

ทุกข์ทั้งปวง

วิปัสสนา คือ การดูตามความเป็นจริงที่เกิดขึ้น

ส่วนที่มีความคิดเห็นแตกต่างกันไป ก็ขึ้นอยู่กับการให้ค่าให้ความหมายกับตัวหนังสือ ให้ค่าแตกต่างย่อมมีความแตกต่าง ข้อโต้แย้งจึงมีเกิดขึ้น ให้ค่าเหมือนๆกัน ย่อมมีความเหมือนกัน ข้อโต้แย้งย่อมไม่มี

เคยฟังซีดีเหมือนกันค่ะแต่ไม่เคยไปที่สวนสันติธรรม เคยแต่ไปฟังเทศที่ศาลาลุงชิน
ลองเข้าเว็ป "วิมุตติ" สิคะ จะมีรายละเอียดบอกสถานที่การเดินทางชัดเจน แต่รู้สึกว่าคิวรอปฎิบัติน่าจะยาวเกือบ 6 หรือ 8 ปีเนี้ยแหล่ะคะ ถ้าจำไม่ผิดนะ ลองเข้าไปดูนะคะ
แต่ฟังซีดีและตั้งใจ ขยัน ปฎิบัติตามแนวทางของหลวงพ่อ คิดว่าก็น่าจะเกิดประโยชน์ต่อตนเองไม่ใช่น้อยเหมือนกันค่ะ

สวนสันติธรรมของพระอาจารย์ปราโมทย์ท่านอยู่ที่จ.ชลบุรีค่ะ ช่วงวันหยุดสงกานต์
นี้สวนสันติธรรมเปิดให้ญาติทางธรรมทั้งหลายได้ไปฟังธรรมกันวันเสาร์ที่11-อังคาร
ที่14ค่ะ (ถ้ายังไงเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่เว็บวิมุตติ)แนวทางการสอนของท่านคือให้ดูจิต(ใจ)
ของเราว่าเวลามีอารมณ์อะไรเข้ามากระทบ กิเลสที่เกิดขึ้นตามมามันเป็นอย่างไร ดูและรู้ตาม
ความเป็นจริงของอารมณ์ ณ.ปัจจุบันที่เกิดขึ้น คร่าวๆค่ะเพราะพึ่งเรื่มต้นศึกษาและปฏิบัติตามแนว
ทางของพระอาจารย์ปราโมทย์ท่านได้ไม่นาน ได้มีโอกาสไปฟังธรรมบรรยายของท่านหนึ่งครั้ง
เมื่อไม่นานมานี้ ในใจเคารพท่านเป็นพระอาจารย์อย่างหมดใจ เพราะรู้สึกว่าปฏิบัติแล้วถูกจริตกับ
ตัวเองและเห็นผลดีที่เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นกับจิต(ใจ)ตัวเอง เพราะไม่ว่าเวลาเราทำอะไรในชีวิต
ประจำวันเช่น ทำงาน หงุดหงิด โกรธ เบื่อ เครียด ง่วง เราเหมื่อนมีสติระลึกได้กับสิ่งที่เรารู้สึกนั้นๆ
ในขณะนั้น ตั้ใจไว้ว่าจะชวนเพื่อนให้ไปรับฟังธรรมบรรยายจากท่านในช่วงวันสงกานต์ปีใหม่ไทยเรา
นี้เหมือนกันค่ะ