ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
จิตกับความอ่อนโยนและซื่อตรง http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=21470 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | รสมน [ 04 เม.ย. 2009, 09:34 ] |
หัวข้อกระทู้: | จิตกับความอ่อนโยนและซื่อตรง |
ใน อังคุตรนิกาย ทุกนิบาต ที่พระผู้มีพระภาค ทรงแสดงธรรม ๒ ประเภทนี้ คือ ความเป็นผู้ซื่อตรง ๑ ความเป็นผู้อ่อนโยน ๑ . . . สำหรับ เรื่องของความตรง คือ ความเป็นผู้ซื่อตรง หมายความว่า ต้องตรง ในเหตุ ในผล ต้องตรง แม้แต่ สภาพธรรมที่เกิดกับท่านเอง ตามความเป็นจริง. . ถ้ามีความต้องการ...มีความปรารถนา.....ในผลของการปฏิบัติ จนกระทั่ง ทำให้ผลของการปฏิบัติ คลาดเคลื่อน และ ผิดไป. ใครจะแก้ได้...นอกจากตัวของท่านเอง.! สติจะต้องเกิด ระลึกรู้ ตรงต่อสภาพธรรม ตามความเป็นจริง ในขณะนั้น. คือ รู้ว่า...เป็น "ปัญญา" ที่ รู้ลักษณะ ของสภาพธรรม ที่กำลังปรากฏ จริง ๆ หรือเปล่า....? และถ้ายังไม่ใช่ "ปัญญา" ที่ รู้ลักษณะ ของสภาพธรรม ที่กำลังปรากฏ ตามปกติ ตามความเป็นจริง ในขณะนี้ แล้วไปอบรม "อย่างอื่น" และ เกิดความยินดี..........ว่า ได้รู้ลักษณะ ของ "สภาพธรรมอื่น"..........โดยที่ไม่ใช่ ลักษณะ ของสภาพธรรม ที่กำลังปรากฏ ตามปกติ ตามความเป็นจริง ที่ตรงต่อลักษณะ ของสภาพธรรม ที่กำลังปรากฏ ในขณะนี้. อย่างนี้...ย่อมไม่ใช่การอบรมเจริญปัญญา ที่จะดับกิเลส เป็นสมุจเฉท ได้. . เพราะฉะนั้น ท่านต้องเป็น "ผู้ตรง" จริง ๆ ด้วย สติ ที่ระลึกรู้ ว่า ปัญญาที่จะดับกิเลส ต้องเป็น "ปัญญา" ที่สามารถรู้สภาพธรรม ที่กำลังปรากฏ ในขณะนี้ได้ นี่คือ การไม่สงสัย ใน "ลักษณะของสติ" . แต่ถ้าท่านผู้ใด ยังคงสงสัยอยู่นะคะ...ว่า "สติ เป็นอย่างไร.?" หมายความว่า ท่านจะต้องฟัง ศึกษา พิจารณา จนกระทั่ง มีความเข้าใจ ว่า......................... สติปัฏฐาน นั้น คือ สภาพที่ระลึกรู้ ลักษณะ ของสิ่งที่กำลังปรากฏ ในขณะนี้ ทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ. . ถ้ายังมีความสงสัยอยู่ ก็ให้เป็น ผู้ที่ตรงต่อตัวท่านเอง ว่า ยังมีความสงสัยอยู่. และ อย่าเพิ่งคิดว่า ทั้งๆที่ยังสงสัยอยู่นี้ ท่านก็สามารถที่จะละคลาย การยึดถือสภาพธรรม ว่า เป็นสัตว์ บุคคล ตัวตน ได้. . ถ้าสภาพธรรม ตามความเป็นจริง คือ ยังไม่รู้ "ลักษณะของสติ" ก็ควรพิจารณาให้รู้ชัดก่อน ว่า สติ เป็นอย่างไร. . และ ที่จะพิสูจน์ได้ ว่า ท่านหมดความสงสัยใน "ลักษณะของสติ" แล้ว......ก็คือ สติ สามารถที่จะเกิดขึ้น ระลึกรู้ ลักษณะ ของสภาพธรรม ที่กำลังปรากฏ ในขณะนี้ได้. และเมื่อ สติเกิดแล้ว ผู้ที่อบรมเจริญปัญญา ก็จะต้องตรงต่อตัวท่านเองด้วย ว่า ขณะนี้ สติ กำลังระลึกรู้ ลักษณะ ของนามธรรม หรือ รูปธรรม ทางตา หรือ ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ. . . . สำหรับเรื่องของความอ่อนโยน ก็จะแสดงให้เห็น ว่า ถ้าท่านยังเป็นผู้ที่ขาดความอ่อนโยน จิต ในขณะนั้น ก็เป็นอกุศลได้ เพราะว่าในชีวิตประจำวัน ก็ย่อมประสพกับอารมณ์ ที่ไม่น่ายินดี หลายอย่าง ในบางเหตุการณ์ เช่น ได้ยินคำพูด ที่ไม่น่ายินดี หรือ ได้เห็นการกระทำกิริยาอาการของบุคคลอื่น ที่ไม่น่ายินดี เป็นต้น. . ถ้าท่านเป็นผู้ที่ไม่อ่อนโยน หรือ ไม่มีความอดทน จิต ในขณะนั้น ย่อมหยาบกระด้าง หรือ แข็งกระด้าง ซึ่งก็เป็นเหตุให้มีการเบียดเบียนต่อบุคคลอื่น ทางกาย ทางวาจา หรือเกิดอกุศลจิต คิดที่จะเบียดเบียน ทางใจ. . แต่ถ้าขณะนั้นเป็นผู้ที่เพียรขัดเกลาอกุศลธรรม เห็นว่า อกุศลธรรม เป็นสิ่งที่ละเอียดเหลือเกิน เพียงจิตไม่อ่อนโยน ก็เป็นอกุศลธรรมเสียแล้ว. . เพราะฉะนั้น............การที่จะดับกิเลสหมด ต้องดับ.....แม้ความไม่อ่อนโยน ของจิตใจ จะเป็นเหตุทำให้ท่าน เป็นผู้ที่สะสมกุศลจิต เกิดความอ่อนโยน...........ไม่หยาบกระด้าง และ ตัดความคิดที่จะเบียดเบียน บุคคลอื่น. . ก็จะเห็นได้ว่า กุศลธรรม ทั้งหลาย ก็จะนำมาซึ่ง กุศลธรรมอื่นๆ ต่อไป และ อกุศลธรรม แม้เพียงเล็กน้อย ก็จะนำมาซึ่ง อกุศลธรรมอื่นๆ ต่อไป. |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |