ลานธรรมจักร
http://dhammajak.net/forums/

ขอให้ท่านทั้งหลายจงใช้ริจารณญาณด้วย
http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=21516
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  tanaphomcinta [ 05 เม.ย. 2009, 19:42 ]
หัวข้อกระทู้:  ขอให้ท่านทั้งหลายจงใช้ริจารณญาณด้วย

ขอให้ท่านทั้งหลายจงใช้ริจารณญาณด้วย ไปอ่านเจอที่หนึ่งแล้วนำมาให้ท่านอ่านที่นี้
ตายแล้วฟื้น
สุภาพสตรีผู้นี้มือยังพนมมือถือธูปและดอกไม้อยู่ ร่างกายครึ่งนิ่มครึ่งแข็ง ปากสั่น เขาไม่สามารถพูดได้ ได้แต่เขียนลงกระดาษว่า ให้รีบไปตามหาอาจารย์ถ่ายทอดเบิกธรรมด่วน ระหว่างที่กำลังรออาจารย์ถ่ายทอดเบิกธรรม เขาก็เขียนเพิ่มอีก พอจะสรุปใจความได้ว่า ท่านพญายมเมตตาให้เวลาเขาแค่ 4 ชั่วโมง ให้โอกาสมารับวิถีธรรม พอตายไป ก็มีพญามัจจุราชมารับไปที่นรก แล้วเขาก็พบกับพญายม แล้วขณะนั้น เขาก็เห็นวิญญาณอีกดวงหนึ่ง ได้ข้ามเดินสะพานทองไป เขาจึงถามพญายมว่า ทำไมคนนั้นเขาได้ข้ามสะพานทองไปได้แล้วทำไมเขาจะข้ามไปไม่ได้เหมือนดวงวิญญาณดวงนั้น พญายมกล่าวว่า เจ้ามีชื่ออยู่ในบัญชียมโลก ส่วนเขาผู้นั้นได้รับวิถีอนุตตรธรรมแล้ว จึงไม่มีชื่อในบัญชีเรา ผู้ได้รับวิถีธรรมที่เป็นคนบุญ บัญชีจะเป็นความรับผิดชอบของเบื้องบนเท่านั้น หากเจ้าได้รับวิถีธรรม เราจะปล่อยเจ้าข้ามสะพานทองไปได้ แต่ตอนนี้ มันสายไปเสียแล้ว พอพญายมพูดจบ สตรีท่านนี้ก็รีบขอร้องให้พญายมเมตตาให้โอกาสเขาอีกครั้งหนึ่งให้ฟื้นไปรับวิถีธรรม ด้วยความ
สุภาพสตรีผู้นี้มือยังพนมมือถือธูปและดอกไม้อยู่ ร่างกายครึ่งนิ่มครึ่งแข็ง ปากสั่น เขาไม่สามารถพูดได้ ได้แต่เขียนลงกระดาษว่า ให้รีบไปตามหาอาจารย์ถ่ายทอดเบิกธรรมด่วน ระหว่างที่กำลังรออาจารย์ถ่ายทอดเบิกธรรม เขาก็เขียนเพิ่มอีก พอจะสรุปใจความได้ว่า ท่านพญายมเมตตาให้เวลาเขาแค่ 4 ชั่วโมง ให้โอกาสมารับวิถีธรรม พอตายไป ก็มีพญามัจจุราชมารับไปที่นรก แล้วเขาก็พบกับพญายม แล้วขณะนั้น เขาก็เห็นวิญญาณอีกดวงหนึ่ง ได้ข้ามเดินสะพานทองไป เขาจึงถามพญายมว่า ทำไมคนนั้นเขาได้ข้ามสะพานทองไปได้แล้วทำไมเขาจะข้ามไปไม่ได้เหมือนดวงวิญญาณดวงนั้น พญายมกล่าวว่า เจ้ามีชื่ออยู่ในบัญชียมโลก ส่วนเขาผู้นั้นได้รับวิถีอนุตตรธรรมแล้ว จึงไม่มีชื่อในบัญชีเรา ผู้ได้รับวิถีธรรมที่เป็นคนบุญ บัญชีจะเป็นความรับผิดชอบของเบื้องบนเท่านั้น หากเจ้าได้รับวิถีธรรม เราจะปล่อยเจ้าข้ามสะพานทองไปได้ แต่ตอนนี้ มันสายไปเสียแล้ว พอพญายมพูดจบ สตรีท่านนี้ก็รีบขอร้องให้พญายมเมตตาให้โอกาสเขาอีกครั้งหนึ่งให้ฟื้นไปรับวิถีธรรม ด้วยความ
เมตตาของพญายม จึงให้เวลาเขาเพียง 4 ชั่วโมงไปรับวิถีธรรม
ในวันที่ปั่นป่วนวันนั้นเอง ทุกคนก็รีบติดต่อสถานธรรมหลายแห่ง เพื่อไปตามอาจารย์เตี่ยนฉวนซือ (อาจารย์ถ่ายทอดเบิกธรรม) ท่านไหนก็ได้ ให้มาทำพิธีปั้นเต้า แต่อนิจจา ช่างโชคร้ายเหลือเกิน เพราะช่วงนั้น อาจารย์ถ่ายทอดเบิกธรรมได้กลับประเทศไต้หวันไปกันเกือบหมด เป็นช่วงเทศกาลปีใหม่ และอาจารย์หลายท่านที่ไม่ได้กลับไปก็ติดธรรมกิจที่อื่นอยู่ พอครบ 4 ชั่วโมง สตรีผู้นี้ก็เริ่มมีกลิ่นเหม็น จากบางส่วนที่ยังคงนิ่ม ก็เริ่มแข็งตัวทื่อ แล้วเขาก็จากไปทันทีด้วยเสียงอันโศกเศร้า
ในวันนั้นทำให้ญาติธรรม ญาติพี่น้อง และครอบครัวได้ตระหนักเห็นความสำคัญของวิถีอนุตตรธรรมนี้ ทำให้คนทั้งหมู่บ้าน ออกมารับวิถีธรรมกัน สร้างบุญกุศลครั้งยิ่งใหญ่ให้กับผู้ตาย
เรื่องนี้เป็นประจักษ์หลักฐานอันสำคัญให้เรารู้ว่า โองการสวรรค์มีจริง นรกมีจริง วิญญาณทั้งสามโลกต่างเห็นความสำคัญ
ของวิถีธรรมนี้กันทั้งนั้น เพราะหากได้รับเส้นทางตรงสู่นิพพานนี้ แล้วมุ่งมั่นตั้งใจบำเพ็ญ กลับตัวกลับใจเสียใหม่ ก็จะพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดได้ภายในชาตินี้ ฉะนั้น คนที่เกิดทันยุคที่ธรรมะส่งลงมาปรกโปรด ช่างโชคดีเหลือเกินแต่ทำไมเวลามีคนชวนไปรับธรรมะ คนกลับปฏิเสธได้ ทั้งๆที่เบื้องบนได้เมตตา ชี้หนทางแห่งแสงสว่างให้ไว้แล้ว
วิถีอนุตตรธรรม คือ เส้นทางการตรัสรู้แห่งอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณของพระพุทธะโพธิสัตว์และพระอริยะเจ้าทั้งสิ้น ทำไมคนเราที่มีกายเนื้อจึงไม่เปิดใจรับกันหนอ กลับมองว่าเป็นเรื่องไม่สำคัญกับชีวิต ทั้งที่ เทวดา เทพเทวา เปรต ผีวิญญาณ อยากได้รับวิถีธรรมนี้ใจจะขาดกันทั้งนั้น
ต้องขออภัยอีกนั้นแหละ ไม่ได้เข้ามานานแล้ว คิดถึงเพื่อนสหธรรมมิกทุกท่านเลย แต่ว่างานมันมีมากจึงไม่ได้เข้ามาเยี่ยมเยียน ขอให้โชคดีทุกท่านก็แล้วกันนะ ฮิฮิฮิ


ไฟล์แนป:
market_Qid_035469_ans25520316_162253.jpg
market_Qid_035469_ans25520316_162253.jpg [ 75.12 KiB | เปิดดู 4895 ครั้ง ]

เจ้าของ:  natdanai [ 05 เม.ย. 2009, 22:12 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ขอให้ท่านทั้งหลายจงใช้ริจารณญาณด้วย

คนเราเกิดมาก็มีธรรมะกันอยู่แล้วทุกคนทำไมต้องไปรับอีก ก็แค่แบกโลกอยู่...โลกมันใบใหญ่ แบกขึ้นมามันก็ท่วมหัวมองอะไรไม่เห็น เห็นแต่โลก...แถมเห็นเฉพาะตรงบริเวณที่อยู่ระดับเดียวกับตาอีกต่างหาก...พอทิ้งโลก...ก็ไม่มีอะไรมาบดบัง ก็เห็นธรรมะชัดเจน... :b13: :b13:

เจ้าของ:  tanaphomcinta [ 09 เม.ย. 2009, 22:11 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ขอให้ท่านทั้งหลายจงใช้ริจารณญาณด้วย

ท่าน อมิตาพุทธ จะลบออกอยู่ถ้าเป็นการไม่สมควร แต่ให้ท่านส่งภาพให้ทางเมล์หน่อยได้ไหมจะนำไปติดที่สถานธรรมที่อยู่ใกล้บ้านพอดี ได้รับวิถีธรรมมาหลายปีแล้วจะได้ไปทวนหน่อยหนึ่ง เพราะทุกวันนี้ก็อยู่แบบสบายๆ ช่วยส่งตามนี้ tanaphom.supashok99@gmail.com จะเป็นพระคุณอย่างยิ่ง เมื่อได้รับภาพแล้วจะลบทันที :b8: :b8: :b8:

เจ้าของ:  อมิตาพุทธ [ 10 เม.ย. 2009, 02:00 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ขอให้ท่านทั้งหลายจงใช้ริจารณญาณด้วย

******************************************************

เจ้าของ:  tanaphomcinta [ 10 เม.ย. 2009, 09:38 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ขอให้ท่านทั้งหลายจงใช้ริจารณญาณด้วย

ขอขอบคุณท่าน อมิคาพุทธ เป็นอย่างมากยิ่ง จะนำภาพไปขยายติดไว้ที่สถานธรรมที่อำเภชุมแพ หรือไม่ก้นำไปให้ท่านที่บรรยายธรรมได้นำไปแสดงให้คนที่ยังไม่รู้ให้ได้รู้ ส่วนตัวเองก็ยังเป็นผู้น้อยในเรื่องอนุตรธรรมอยู่ ยังไม่ได้ศึกาาให้ถ่องแท้เท่าที่ควร ถ้าหากว่าท่านต้องการให้ลบออกก็จะลบออก เพราะว่าเข้าใจอยู่คนที่ไม่รู้ ก็คือคนไม่รู้และก็ไม่เข้าใจเลย แม้ว่าเราจะอธิบายอย่างไรว่าอย่างไรเพื่อจะให้เขารู้และเข้าใจ เขาก็ไม่สามารถจะรู้และเข้าใจได้ (มืดบอด) บางที่ก็ถือว่าเป็นกรรมของสัตว์
ไม่เป็นไรทีติเตียนมา ก็ยิ่งจะขอบพระคุณด้วยช้ำ อย่างที่กล่าวแล้วข้างต้น คนเราไม่ได้รู้ไม่ได้เข้าใจไปหมดทุกอย่าง บางอย่างรู้ได้และเข้าใจดี บางอย่างไม่รู้และไม่เข้าใจ สิ่งใดที่มันถูกต้องก็บอกกล่าวแนะนำติติงกันได้ จึงจะสมว่าเป็นลานธรรมจักร คือลานจักรธรรมหมุนไปให้โลกสว่างขึ้นในเวลาที่เรายังลมหายใจอยู่ ขอขอบพระคุณอีกครั้งหวังว่าเราคงจะได้รู้จักกันดีมากกว่านี้นะ :b8: :b8: :b8:

เจ้าของ:  อมิตาพุทธ [ 11 เม.ย. 2009, 18:17 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ขอให้ท่านทั้งหลายจงใช้ริจารณญาณด้วย

******************************************************

เจ้าของ:  tanaphomcinta [ 11 เม.ย. 2009, 19:44 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ขอให้ท่านทั้งหลายจงใช้ริจารณญาณด้วย

ตกลงท่านอมิตาพุทธ จะให้ลบกระทู้ออกหรือไม่ หรือว่าจะดูการแสดงความเห็นไปก่อน ถ้าไม่เข้าทีค่อยลบออกดีไหม เพราะดูแล้วก็มีผู้สนใจอ่านอยู่ อาจเเป็นประโยชน์ก็ได้ ในสิ่งใดที่เรามองเห็นว่าเป็นโทษก็อาจเป็นประโยชน์แก่อีกท่านหนึ่งก็ได้ สิ่งไหนที่เรามองว่ามีประโยชน์ก็อาจมีโทษเหมือนกัน อยู่ที่ว่าท่านจะคิดอย่างไรและมองอย่างไรจะเห็นทั้งสองด้าน หรือว่าจะเห็นด้านเดียว ทุกสิ่งอย่างขึ้นอยู่ที่วิจารณญาณของท่านทั้งหลาย ไม่มีใครจะบังคับใครได้ แม้แต่พระพุทธเจ้าก็ยังบังคับใครไม่ได้ ขึ้นอยู่กับบุญบารมีของบุคคลนั้นๆเอง จริงไหมท่าน สุดท้ายได้ก๊อบเอาข้อความและเรื่องราวที่ท่านนำมาลงไปหมดแล้ว เพื่อจะนำไปอบรมผู้ที่เข้ามาใหม่ได้รู้เรื่องตามความเป็นจริง ขออนุโมทนาในกุศลจิตรที่บริสุทธิ์ของท่าน ขอให้ได้พ้นจากกองทุกข์ที่เราทนอยู่ทุกวันนี้ในชาตินี้ด้วยเทอญฯ :b8: :b8: :b8:

เจ้าของ:  อมิตาพุทธ [ 11 เม.ย. 2009, 20:36 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ขอให้ท่านทั้งหลายจงใช้ริจารณญาณด้วย

....................................................................................................

เจ้าของ:  อมิตาพุทธ [ 19 เม.ย. 2009, 03:25 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ขอให้ท่านทั้งหลายจงใช้ริจารณญาณด้วย

..................................................................................

เจ้าของ:  ผู้ดูแลสัตว์วิเศษ [ 19 เม.ย. 2009, 12:04 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ขอให้ท่านทั้งหลายจงใช้ริจารณญาณด้วย

เขียนยาวไปไหมทุกคน ขี้เกียจอ่าน แล้วทุกคนก็ไม่ใช่พระ อ่านไปไม่รู้ว่าถูกกันรึปล่าว ผมว่าผมไปถามพระดีกว่า ฮ้าๆๆ :b33:

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/