มีสองบทความ ที่ขัดแย้งกัน บางบทความบอกว่า พระพุทธเจ้าท่านสอนว่า นรกทางกายนั้นไม่มีจริงเป็นเพียงอุบายเพื่อให้เราทำความดีเท่านั้น นรกทางใจต่างหากที่มีจริง เราเชื่อย่างนั้น นี่ท่านตรัสอย่างนี้ แต่อีกบทความก็บอกว่า ท่านสอนเรื่องนรกว่ามีจริง (นรกทางกาย) คือทรมานร่างกายเราต่างๆนานา แสนสาหัส ทุกขเวทนา อยู่หลายพันปี แต่ว่าความคิดเห็นผม ผมว่าบทความแรกน่าเชื่อถือกว่า เพราะเคยได้ยินและสัมผัสกับตัวเอง เวลาเราทำความไม่ดีเล็กๆ น้อยๆ ก็จะรู้สึกไม่สบายใจ แต่ที่ทำหน่ะไม่ได้บาปมากถึงกับต้องตกนรกหรอก เพราะไม่ได้ตั้งใจ แต่ก็ทำให้เห็นจริงว่า ถ้าเราทำไม่ดีถึงแม้ไม่ได้ตั้งใจ ก็จะทำให้ไม่สบายใจ นี่นรกทางใจ และบทความแรกก็เป็นของท่านพุทธทาสด้วยครับ น่าเชื่อกว่ามาก บทความที่สองท่านพุทธทาสก็เคยบอกว่า นรกทางกายเป็นความเชื่อของพราหมณ์ครับ เป็นพวกที่สอนกันมาก่อนพระพุทธเจ้าเสียอีก ก่อนที่ท่านจะตรัสรู้ครับ

บอกแล้วจะเชื่อหรือเปล่า? ไปดูคำตอบจากผู้รู้ดีกว่า เชิญครับ

http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=16084

มีอีกวิธีหนึ่งที่ใช้พิสูจน์ได้แน่นอน 100%
คือ ลองตายดูครับ แล้วอย่าลืมนำมาบอกเล่าด้วยนะครับ

เราชอบวิธีที่สองนะ แต่คุณลองก่อนสิครับ

....!? ..ผมไม่ได้สงสัยนะครับท่าน

ไม่ได้ว่าอะไรครับผม

เป็นอุบายได้ทั้งสองอย่าง....และก็จริงทั้งสองอย่างด้วย

มีอีกวิธีหนึ่งที่ใช้พิสูจน์ได้แน่นอน 100%
คือ ลองตายดูครับ แล้วอย่าลืมนำมาบอกเล่าด้วยนะครับ

คุณ dd นี่ก็มีอารมณ์ขัน นะคะ ช่วงนี้ไม่ค่อยเห็นคุณมีข่าวประชาสัมพันธ์เลยค่ะ
เราก็คอยตามอ่านโพสต์ของคุณนะคะ และก็โมทนาบุญกับคุณ ด้วยนะคะ

บทความที่ยกมาของ dd เป็นคำเปรียบเปรยที่ดี
คนหนึ่งมีวิทยุ อีกคนไม่มี คนที่มีก็พยายามบอกว่า เสียงมันส่งผ่านอากาศได้ โต้กันไปมา หามีประโยชน์อันใดไม่

ยังไงก็ทำดีไว้เถิด ไม่ขาดทุนหรอก

ปล. ส่วนตัวเชื่อว่ามีจริง ในลักษณะของโลกคู่ขนาน แม้จะยังไม่มีทิพยจักษุ แต่ถ้ากายทิพย์มีจริง ก็แสดงว่า ต้องมีภพอันเป็นที่อยู่ของกายทิพย์นั้น...

นี่ยังหาวิธีฝึกทิพยจักษุไม่ได้เลย

นรกทางใจเป็นของตายอยู่แล้ว ที่สามารถเกิดให้รู้สึกได้ทันทีที่ทำชั่ว

นรกทางกาย ก็มีให้เห็นอยู่หลายๆ อย่างนะครับ อาจจะเพลียกว่าปกติเมื่อทำชั่ว
อาจกินข้าวไม่ได้ นอนไม่หลับ อาจต้องเจ็บไข้ได้ป่วย และอาจจะนำไปสู่
กรเกิดอุบัติเหตุได้หลายหลากรูปแบบ และอาจติดคุกติดตาราง อาจต้องสูญ
เสียทรัพย์สิน อาจต้องเร่ร่อนไม่มีที่อาศัย และอีกมากมายสำหรับนรกบนดิน
ที่คนๆหนึ่งสามารถสัมผัสได้โดยยังไม่ตาย

สำหรับนรก ที่หมายเอาถึงสถานที่แห่งหนึ่ง ที่คอยรองรับบุคคลทำชั่ว
ภายหลังจากเขาตายจากโลกนี้ไปแล้ว เป็นสิ่งที่ทั้งคนเชื่อ และคนไม่เชื่อ
ยากที่จะเป็นผู้รู้จริงด้วยตนเองแล้วจึงเชื่อ
ยากที่จะเป็นผู้เข้าถึงความรู้ที่แท้จริงด้วยตนเองก่อน แล้วจึงไม่เชื่อ

คนบางคนสามารถที่จะเชื่อได้โดยยังไม่รู้จริง
และคนบางคนก็สามารถที่จะยืนยันความไม่เชื่อได้ ทั้งที่ตนก็ไม่รู้จักมันจริงเช่นกัน

คำสอนมีมากมายที่เป็นเรื่องยากต่อการเข้าไปถึงเหตุผลด้วยวิถีคิด
เพราะบางเรื่องต้องรู้ด้วยญาณ ไม่ใช่การคิด

เรื่องอะไรที่ยังหาเหตุผลไม่ได้ ถ้าไม่มีประโยชน์ในทางจะเอามาใช้ดับทุกข์
ก็ไม่จำเป็นต้องเข้าไปขุดคุ้ย ไม่จำเป็นจะต้องเชื่อ และไม่ควรจะรีบด่วนสรุป
ในทางไม่เชื่อ วางเรื่องราวอันนั้นไว้ก่อน อย่ารีบด่วนสรุป หากมีเวลาว่าง
ก็ลองหยิบเรื่องเหล่านั้นมาหาเหตุผลเล่นๆ เป็นเครื่องออกกำลังทางสมอง
และอย่าพอใจกับทุกคำตอบที่ได้ หาคำตอบไปเรื่อยๆ หาไปเล่นๆ คุณอาจได้คำตอบ
มากมาย แต่ก็ยังเชื่อถือไม่ได้ เพราะเป็นแค่การคิด ไม่ใช่การเห็นด้วยญาณ

ของ คุณบัวศกล
ชอบท่อนนี้ของคุณจัง แต่ขอเติมนิ๊ดนึงนะ คงไม่ว่ากัน
ยากที่จะเป็นผู้รู้จริงด้วยตนเองแล้วจึงเชื่อ
ยากยิ่งกว่าที่จะเป็นผู้เข้าถึงความรู้ที่แท้จริงด้วยตนเองก่อน แล้วจึงไม่เชื่อ


ชอบภาพนี้จังเลย จริง ๆ ถ้าได้มาเห็นภาพนี้ก่อน
เราว่าจะตั้งชื่อ login ว่า ไอ้หื่น

ชะเง้อคอ รอสหายเก่าอยู่หลายเวลา สาธุที่ไม่ให้รอนาน

สถานที่แห่งนี้ ก็มีอะไรหลายอย่างที่ดีๆ และยิ่งดีเมื่อมีสหายเก่ามาเยี่ยม

คุณ boom_manman ขยันตั้งกระทู้จัง สงสัยจะเร่งสะสมดาวใช่เปล่า
ไม่ได้แล้วเดี๋ยวกระผมต้องเร่งบ้างแล้ว.... สะสมดาว...สะสมดาว....

เรื่องแบบนี้ผมขอเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งก็แล้วกันนะครับ ใครเชื่อเต็มที่ก็เชื่อไป แต่สำหรับผมคนที่ไปนรกได้จริงๆ คงเป็นคนที่มีบุญมาก ซึ่งไปกลับได้ กับ คนที่บาปหนามากๆ ซึ่งอยู่ถาวรครับ คนที่มีบุญมากๆ น่าจะเป็นพระอรหันต์ขึ้นไป แต่ที่คุณคนเล่าเป็นคนธรรมดาครับ ผมไม่แน่ใจ คุณได้มาจากไหนครับ