วันเวลาปัจจุบัน 26 เม.ย. 2024, 12:10  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 24 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 พ.ค. 2009, 14:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 พ.ค. 2009, 13:02
โพสต์: 32

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอพระคุณทุกความคิดเห็น และทุกกำลังใจค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 พ.ค. 2009, 07:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 เม.ย. 2009, 19:55
โพสต์: 548

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
คามินธรรม เขียน:


ไฉนหน๋อ...บางวันคุณก็เป็นชาติสยาม บางวันคุณก็เป็นคามิน- โอย๋...
มันทำให้เรานึกถึงเรื่อง ตายแล้วไปเกิดใหม่เลย
ประมาณว่า คนหนึ่งตาย แล้วไปเกิดใหม่ในอีกชื่อ
แล้วเนื้อคู่ก็จะไปเกิดด้วยเหมือนกัน
แล้วจำกันได้ "โอ้...คามินธรรม...ที่แท้ท่านคือชาติสยามเมื่อชาติที่แล้ว..."
"โอ้...คามินธรรม...ท่านได้โปรดอย่าทำอย่างนี้อีกเลย...ข้างง"
ช่วงนี้คุณ boom เบา ๆ เรื่องเปลี่ยนชื่อไป เราก็รู้สึกโล่งสมองไปได้มากแล้วนะ
มาเจอลูกเล่นของคุณอีก....
:b12: :b12: :b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 พ.ค. 2009, 20:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 เม.ย. 2009, 22:00
โพสต์: 406

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เรียนท่านเจ้าของกระทู้ครับ
เหตุทั้งหลายทั้งปวงต้องแ้ก้ที่เราครับ ทำตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้เสร็จตามกำหนด ไม่เอาเรื่องเรียนมาทำในเวลางานเพราะเป็นการคอรับชั่นเวลาขององค์กร ปฏิบัติดี ต่อผู้ที่เราไม่ชอบหรือไม่ชอบเรา หรือผู้ที่เราชอบ ดูเหมือนยากคับแต่ทำได้จริงๆ เทคนิคก็คืออยู่ที่ใจของเรานั่นเอง ผมขอแนะนำให้ท่าน จขกท เจริญเมตตาภาวนา แล้วแผ่เมตตาให้ผู้ที่เราไม่ชอบ เช่น ขอให้เขามีความสุขกายสุขใจ นั่งหลับตาขัดสมาธิ นึกถึงหน้าคนที่เราต้องการแผ่ให้ แล้วนึกประโยคนั้นซ้ำ แต่ก่อนอื่นเราต้องแผ่ให้ตัวเองก่อนนะครับ แผ่จนเรารู้สึกว่าเรามีความสุขจริงๆ แล้วค่อยแผ่ให้เขา แล้วเราจะอยู่กับเขาได้อย่างมีความสุขกายสุขใจ
ผมขอให้เหตุผลประกอบคับ การที่เราเจริญเมตตา อันดับแรกจะทำให้เรามีความสุขใจ อันดับต่อไปเมื่อเรามีความสุขแล้วเราก็ส่งให้คนอื่น เราก็มีความสุข เขาก็มีความสุข เหมือนกับเราสั่งจิตของเราไว้นั่นเองเวลาเจอหน้าเขาเราก็จะรู้สึกดีกับเขา ไม่รู้สึกอึดอัดเหมือนตอนก่อนเจริญเมตตา พอเรารู้สึกดีกับทุกๆ คน เราก็มีความสุข เราก็จะปฏิบัติดีกับคนอื่น สุดท้ายคนอื่นก็จะปฏิบัติดีกับเรา ถ้าเราเจริญเมตตาบ่อยๆ เนืองๆ จนสมาธิกล้าแข็งแล้ว แม้กระทั่งคนที่มายืนต่อว่าเรา เราก็จะรู้สึกเมตตาเขาได้นะครับ

่อีกวิธีหนึ่งก็คือการเจริญสติปัฎฐาน 4 เมื่อเจริญจนอินทรีย์กล้าแกร่งแล้ว ความสุขจะเกิดขึ้นเอง เพราะจิตที่มีสติ มันจะมีแต่สุข ครับ แต่สุขคนละอย่างกับเมตตาภาวนา
สรุปก็คือทุกข์เกิดที่ใจก็ต้องแก้ที่ใจละครับ

ขอความเจริญในธรรมจงมีแด่ท่าน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 พ.ค. 2009, 22:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 พ.ค. 2009, 13:02
โพสต์: 32

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบพระคุณคุณอายะสำหรับคำแนะนำค่ะ :b8: ดิฉันจะนำไปปฏิบัติค่ะ :b42:
....................................................................................

ตอนนี้กำลังทำตามคำแนะนำของหลาย ๆ ท่านที่สรุปได้ว่า ให้อดทน :b4: ไม่ต้องคิดมาก ไม่ต้องใส่ใจว่าใครจะคิดกับเราอย่างไร ดำเนินชีวิตต่อไป แต่ความจริงดิฉันเห็นด้วยกับคำแนะนำของคุณคามินธรรมทุกอย่างเลยค่ะ

คามินธรรม เขียน:

เรื่องปัญหานะ

ผมมองว่าคนที่ใกล้ชิดกันแล้วมีปัญญานี่ ส่วนใหญ่มาจาก "การสื่อสาร"
ต้องสื่อสารกันให้เข้าใจ

ส่วนใหญ่เรามักจะคิดว่า เขาเป้นแม่เขาต้องอย่างนั้น เขาเป้นลูกเขาต้องทำอย่างนั้น
เขาเป็นคนอย่างนั้น เขาจะต้องทำอย่างนั้น
คือเรามั่นใจตัวเองเกินไป ว่าที่เรากะเกณฑ์นี้มันจะเป็นจริง
พูดง่ายๆ เดาใจกันไป เดาใจกันมา


เรื่องทางแก้นะ
ถ้าเป็นผมนะ แล้วเขาเป็นผู้มีพระคุณนะ
เอาดอกไม้เข้าไปกราบขอโทษเลย
แล้วก็พูดความในใจไปให้หมด ให้เขารู้ใจเราให้หมด

คนที่มีเมตตาช่วยเหลือคนนะ เขาพร้อมจะให้อภัย
ใครเมตตามาก ก้มีความให้อภัยมากอยู่ในตัว มันเป้นธรรมะรสเดียวกัน
เหมือนดินดำ แสงว่าน้ำดี ดินถึงดำได้ อะไรทำนองนั้น
เมตตามาก มีการให้มาก แสดงว่าความให้อภัยนี้ก้มีมาก

ไม่ต้องไปเถียงเขานะ
ถูกก้ช่าง ผิดก็ช่าง แต่เรารับผิดไปทั้งหมดนั่นแหละครับ
ความผิดส่วนของเขา เขาจะรู้สึกเองทีหลัง
บางทีคนเรามันศักดิ์ศรีมาก เรื่องจะมายอมรับความน่าละอายในตนนี้ยาก
คนดีๆ ยังไงก็มีหิริโอตัปปะ ในใจรู้สึกผิดอยู่ ละอายและเหรงกลัวในความชั่วของตนอยู่
แต่ปากมันหนัก

ยิ่งคนเป้นนายคน คนเหนือกว่าเรา
เรื่องจะมาอ่อนน้อมหาเรา ยอมรับว่าตัวเขาผิดนี้ยาก
ต้องเข้าใจธรรมชาติอันนี้ของคนด้วย


แล้วเราก้อย่าไปถือคำพูดคนมากนะ
ใครให้สัญญาว่าอะไรแล้วอย่าไปยึดว่าอนาคตมันจะต้องเกิด
อย่าลืมว่าธรรมชาติยังเปลี่ยนเลย ใจคนยิ่งเปลี่ยน
ถ้าเขาเปลี่ยน ก็แปลว่าเป้นเรื่องธรรมดา
ถ้าเขารักษาคำพูด ก้ถือเป้นบุญของเรา เป้นกำไรส่วนเกินในใจ

สาธุครับ


แต่ไม่กล้าไปกราบขอโทษ ไปอธิบายอะไรให้ฟังค่ะ เพราะไม่แน่ใจ :b10: ว่าท่านคิดกับเราอย่างไร เพราะเวลาที่เห็นว่าจะต้องเดินสวนกัน ท่านจะพยายามเลี่ยงโดยเดินก้มหน้าหรือดูหนังสือในมือ ยกมือไหว้ก็ไม่รับไหว้ แต่บางครั้งดิฉันรู้ว่าท่านพยายามเลี่ยง เลยก้มหน้าบ้าง ทำเป็นมองอย่างอื่นตามทางเดินบ้าง ท่านกลับเป็นคนยิ้มให้ ดูออกว่าไม่ได้เสแสร้งค่ะ หรือเป็นเพราะท่านกำลังเจริญเมตตาอยู่ก็ไม่รู้ เพราะท่านก็เป็นคนมีศีลมีธรรมคนหนึ่งเหมือนกัน :b27: แต่ดิฉันไม่ได้ยิ้มตอบค่ะ เพราะตอนนั้นเป็นช่วงที่เข้าใจผิดใหม่ ๆ ดิฉันทั้งโกรธทั้งน้อยใจว่าเราคิดดี แต่กลับเข้าใจเราผิดเสียนี่ :b33: :b2: นี่คงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ท่านเข้าใจผิดว่าดิฉันหลงตัวเอง คิดว่าท่านง้อ ก็ยิ้มไม่ออกจริง ๆ นี่นา และมีอยู่ครั้งหนึ่งที่ท่านบังเอิญเจอดิฉันรอรถกลับหอพัก ท่านก็เรียกให้ขึ้นรถ แล้วมาส่ง คือเมื่อก่อนตอนทำงาน (จ๊อบค่ะ ไม่ใช่งานประจำ) กับท่าน ท่านก็เคยมาส่งค่ะ คงเป็นเพราะดิฉันไม่มีรถส่วนตัวด้วย แต่ก่อนลงจากรถ ดิฉันยกมือไหว้ขอบคุณ ท่านก็ทำเป็นไม่มอง งงจริง ๆ เลยค่ะ :b10: :b10:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 พ.ค. 2009, 01:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3835

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: อนุโมทนาครับ

ลองสังเกตุให้ดีๆในความรู้สึกของเรา ที่เราไม่กล้าทำความดี
มันมีการ "ถือ รั้ง ยึดเอาไว้"

มันอาย มันหนัก มันเหนียว ทิ้งความรู้สึกอันนี้ไม่ลง

สิ่งนี้แหละ เรียกว่าความยึดมั่นถือมั่น
สิ่งที่ถือนั้นก็มีแต่ความรู้สึก
ความรู้สึกเหล่านั้นก็เป้นผลผลิตจากความคิด ค่านิยม นิสัย อะไรต่างๆที่ประกอบกันขึ้นเป็น "เรา"

เรื่องจะทิ้งความรู้สึกพวกนี้ได้ มันคงยากไป ฝากโอฬาฬเอาไว้ก่อนเนาะ
เราไปหัดทิ้งความรู้สึกเล็กๆน้อยๆไปก่อน

เบื้องต้นหัดเจริญสติดูนะครับ
ลองไปที่ http://www.wimutti.net/pramote/mp.php
โหลดฟังไล่ไปจากแผ่นที่ 1 นะครับ ไล่ไปหา 2 ..3 ..4..
ฟังไปเรื่อยๆ ไม่รู้เรื่องหรือรู้เรื่องก็ฟังไปเรื่อย
ท่านพาทำอะไรก็ทำ อย่าสงสัยมาก


อีกด้านหนึ่งก็หัดทำทาน คือสละความหวงแหน
เวลาเราทำทานไม่ใช่ว่าเอาเศษเหลือไปให้ อันนี้ไม่ค่อยช่วยอะไรมาก
ให้ไปแล้วเฉยๆ ไม่ค่อยได้ผลอะไรกับการปฏิบัติธรรม
ถ้าจะให้ดีให้สละของที่เราหวง ที่สละแล้วไม่เดือดร้อนตัวเอง
เช่น ของสะสมทั้งหลาย หนังสือ เสื้อผ้า
ไล่จากของง่ายๆ สละง่ายๆ

จากนั้นก็เริ่มสละของยากขึ้นมา เช่นสละความรู้สึกต่างๆ เช่นเคยชอบกินอะไร พอเราอยากจะกินก็สละ(จาคะ-บริจาค)ความรู้สึก อันนี้ออกไป บริจาคความชอบนี้ออกไป
ลองสละความคิดต่างๆที่มันฟุ้งซ่านเรื่อยเปื่อย ก็หัดสละมันออกไป กล่าวคืออย่าปล่อยให้มันคิดไปเรื่อยเปื่อย หัดสละนิสัยอันี้ออกไป


อีกด้านคือสละความรู้สึกไม่ชอบออกไป เช่น การถือศีลต่างๆ
เวลาเราถือศีล เราไม่ชอบ อึดอัด อดเปรี้ยว อดหวาน
ก็หัดสละความรู้สึกอึดอัดไม่ชอบเหล่านี้ออกไป
สละมันออกไปด้วยสติ(ฟังเทศน์ตามลิงก์ที่ให้ไป)
เวลารู้สึกไม่ชอบก็หัดใช้ใจเราสังเกตุดูความรู้สึกของเรา
ว่าความไม่ชอบมันมีรสอย่างนี้ รู้สึกอย่างนี้ มันตึง มันหย่อนอย่างไร มันดัน มันเหนียว มันไหล อะไรยังไงก็ดูไปเรื่อยๆ มีให้ดูเท่าไหร่ก็ดูเท่านั้น
ไม่เห็นก็ไม่ดู มีให้เห็นก็ดู เหมือนนั่งดูรถหน้าบ้านผ่านไปผ่านมา
มันมาให้เห็นก็ดู สังเหตุมันไป
พอมันผ่านไปก็ปล่อยมันไป ไม่ตามไปชะเง้อหา หรือผ่านไปสามวันแล้วยังเอามานั่งคิด อย่างนี้ไม่เอา
ให้ตั้งใจอยู่แต่เฉพาะตรงหน้า ตรงปัจจุบัน
ความรู้สึกอะไรเกิดขึ้นก็รับรู้ มันจบไปแล้วก็รับรู้ ความรู้สึกอะไรเกิดขึ้นอีกก็รับรู้ลูกเดียว

นานเข้าใจเรามันจะมีกำลังใจมากขึ้น
เรื่องที่เคยมือหนัก หัวหนัก ไม่กล้าขอโทษคน ไม่กล้ากราบคน ไม่กล้ายอมคน
มันจะอ่อนลง เบาลง
เพราะว่าเราฝึกมามากแล้ว

อะไรที่ถือ เราก็จะวางมากขึ้น ถือเอาไว้น้อยลง
คิดกับมันน้อยลง ไม่ยึดรั้งเอาไว้มากอย่างเก่า


เวลามีความรู้สึกอะไรขึ้นมาก็บริจาคมันออกไป
ดีใจก็บริจาคมันออกไป
เสียใจก็บริจาคมันออกไป
ทิ้งมันออกไป ไม่เอา ไม่ถือ ไม่คิด หน้าตาศักดิ์ศรีอะไรๆทิ้งมันไปให้หมด
ทำได้มากก้ทำ ทำได้น้อยก็ทำ ทำไปไม่พัก ไม่เร่ง ทำไปจนเป็นนิสัย
บริจาคมันออกไปให้หมด แล้วสิ่งดีๆจะตามมาครับ


ที่พูดมานี้ ไม่ต้องกลัวนะครับ ทำกันเป็นปีๆ
มันไม่ยาก แต่ต้องอาศัยความเพียร ทำโจทย์ง่าย ไปหายาก
เราต้องปฏิบัติธรรมไปตามกำลังใจของเรา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 พ.ค. 2009, 08:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 เม.ย. 2009, 06:18
โพสต์: 731

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อันที่จริงเขาอยากให้เราได้ดี
แต่ถ้าเด่นขึ้นทุกทีเขาหมั่นไส้
จงทำดีแต่อย่าเด่นจะเป็นภัย
ไม่มีใครเขาอยากเห็นเราเด่นเกิน :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 พ.ค. 2009, 15:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 พ.ค. 2009, 13:02
โพสต์: 32

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


damjao เขียน:
อันที่จริงเขาอยากให้เราได้ดี
แต่ถ้าเด่นขึ้นทุกทีเขาหมั่นไส้
จงทำดีแต่อย่าเด่นจะเป็นภัย
ไม่มีใครเขาอยากเห็นเราเด่นเกิน :b8:



ไม่ได้อยากเด่นอะไรเลยค่ะ :b1:

ที่คุณ damjao เห็นว่าเด่นนี่คือโพสต์หัวข้อไม่เหมาะสม หรือทำตัวไม่เหมาะสม (เรื่องที่เล่ามา) กันแน่คะ ช่วยขยายความหน่อยนะคะ ตีความไม่ออกค่ะ :b10:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 พ.ค. 2009, 15:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 พ.ค. 2009, 13:02
โพสต์: 32

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอถามผู้อ่านทุกคนอีกนิดนะคะว่า กระทู้ "วิธ๊การลดกรรมเหล่านี้ให้ผลอย่างไร" กระทู้นี้แรงไหมคะ ก่อนจะโพสต์ก็คิดตั้งนาน ตั้งหลายรอบนะคะ ว่าควรโพสต์ไหม ถ้าโพสต์ควรเขียนยังไงดี กลัวเหมือนกันค่ะ :b5: เพิ่งเป็นสมาชิกไม่กี่วัน ก็โดนแบนซะแล้ว แต่ก็ลองเสี่ยงดู เพราะอยากรู้ให้หายข้องใจค่ะ :b23:

ช่วยแสดงความคิดเห็นหน่อยนะคะ ยินดีรับฟังค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 พ.ค. 2009, 15:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 พ.ค. 2009, 08:40
โพสต์: 27


 ข้อมูลส่วนตัว


ในโลกนี้ไม่มีใครที่ไม่เคยถูกติฉินนินทาเลย ขอให้สบายใจเถอะครับ ความจริงก็เป็นความจริง
ดัง นางจิญจมาณวิกา ที่กล่าวหาพระพุทธเจ้า ด่าเสียเทเสียต่อหน้าพระพักต์ และผู้ที่มาฟังธรรม พระพุทธเจ้ากล่าวแค่คำเดียว ว่า ความจริงมีแต่เราและนางที่รู้ พระอินทร์และเทพยดา ๔ องค์ นิมิตลงมาเป็นหนูกัดเชือกผูกท่อนไม้ขาด แล้วแผ่นดินก็สูบนางจิญจมาณวิกาลงไปในนรก

.....................................................
นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 24 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 142 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร