ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
กินเนื้อวัวมากเป็นมะเร็งเน้อ http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=22269 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 3 |
เจ้าของ: | ผู้ดูแลสัตว์วิเศษ [ 13 พ.ค. 2009, 15:24 ] |
หัวข้อกระทู้: | กินเนื้อวัวมากเป็นมะเร็งเน้อ |
ไม่เชื่อลองกินดูสิ กินต่อไปเรื่อยๆ สักวันก็จะเป็นมะเร็งเพราะสารอดีนลีนในเนื้อวัว ตอนมันจะถูกฆ่ามันดันรู้ตัวแล้วก็กลัวปล่อยสารนี้ออกมาทำให้คนที่กินเข้าไปสะสมสารก่อมะเร็งในตัว ถ้าใครไม่เชื่อก็ต้องไปพิสูจน์กันเอาเองนะจ้ะ |
เจ้าของ: | อมิตาพุทธ [ 13 พ.ค. 2009, 16:01 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: กินเนื้อวัวแล้วเป็นมะเร็ง2 |
![]() ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | วรานนท์ [ 13 พ.ค. 2009, 18:09 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: กินเนื้อวัวมากเป็นมะเร็งเน้อ |
![]() ![]() ![]() สมแล้วครับที่เป็นผู้ดูแลสัตว์วิเศษ เพราะท่านชอบพูดถึงเรื่องสัตว์อยู่เรื่อยเชียว ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | ผู้ดูแลสัตว์วิเศษ [ 14 พ.ค. 2009, 22:42 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: กินเนื้อวัวมากเป็นมะเร็งเน้อ |
วรานนท์ เขียน: :b8: ![]() ![]() สมแล้วครับที่เป็นผู้ดูแลสัตว์วิเศษ เพราะท่านชอบพูดถึงเรื่องสัตว์อยู่เรื่อยเชียว ![]() ![]() ![]() ดูเหมือนจะเป็นคำชม thank you เด้อ |
เจ้าของ: | natdanai [ 15 พ.ค. 2009, 10:40 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: กินเนื้อวัวมากเป็นมะเร็งเน้อ |
สารประเภทนี้(เขาเรียกกันว่า อนุมูนอิสระ รึป่าวไม่รู้)มีอยู่ในสัตว์ที่มีวิญญาณครอง ไม่เฉพาะวัว แม้กระทั่งมนุษย์ เมื่อเกิดความเครียดก็จะหลั่งสารประเภทนี้ออกมา แต่ตามธรรมชาติแล้วร่างกายที่สมดุลย์(สมบูรณ์แข็งแรง)จะสามารถขับถ่ายสารเหล่านี้ออกจากร่างกายได้ แต่ก็ได้ตาม อัตตภาพ(ตามสภาพร่างกาย)เพราะร่างกายมันเป็นอนิจจังครับ การกินเนื้อสัตว์ที่มีความเครียดสูงก่อนตายนั้นก็เป็นธรรมดาที่จะมีสารประเภทนี้สะสมอยู่ในเนื้อเหล่านั้นในปริมาณที่สูง(เพราะไม่ได้ถูกขับถ่ายออก) แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นสาเหตุหลักของมะเร็ง เพราะหากคนที่กินเนื้อสัตว์ที่มีสารเหล่านี้สะสม แต่คนๆนั้นเป็นคนที่มีสุขภาพกายดี(สมดุลย์) สุขภาพจิตดี(จิตใจผ่องใส) ร่างกายก็ไมหลั่งสารก่อมะเร็งที่ว่านั่น แล้วไอ้ที่กินเข้าไปก็จะถูกขับถ่ายออกมาหมด กลับกัน...คนที่ไม่กินเนื้อสัตว์เพราะจิตใจจดจ่ออยู่แต่ว่าไอ้นี่กินไม่ได้เดี๋ยวเป็นโรคนั่น โรคนี่ ระแวงกลัวตาย กลัวเจ็บป่วย กลัวความสูญเสีย ฯลฯ คนเหล่านี้ มีชีวิตอยู่บนความเครียด ร่างกายก็จะหลั่งสารก่อมะเร็งที่ว่านี้ออกมาอยู่เรื่อย ๆ ร่างกายก็จะเสียดุลย์ ระบบขับถ่ายก็ผิดปกติ สารก่อมะเร็งจึงสะสมอยู่ในร่างกายเพราะขับถ่ายออกไม่ทันกับที่หลั่งออกมา และก็เป็นมะเร็งได้เหมือนกัน ทั้งนี้ไม่ได้มาคัดค้าน จขกท นะครับ เพราะความจริงแล้วการรักษาสมดุลย์ของร่างกายก็ไม่จำเป็นที่จะต้องกินเนื้อสัตว์...แต่ก็ไม่จำเป็นต้องเลิกกินเช่นกัน... และอีกอย่างนึงคือ...ความเจ็บป่วยนั้นเป็นผลกรรมของเราเอง |
เจ้าของ: | บัวศกล [ 15 พ.ค. 2009, 11:43 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: กินเนื้อวัวมากเป็นมะเร็งเน้อ |
คุณnatdanai เล่นแจงละเอียด แล้วท่านผู้เลี้ยงดูสัตว์ประหลาด ท่านจะเอาหน้าไปซุกมุมไหน หากคิดเมตตา กรุณาทำไม่รู้ไม่ชี้เสียบ้างนะท่านนะ ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 15 พ.ค. 2009, 11:58 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: กินเนื้อวัวมากเป็นมะเร็งเน้อ |
หลวงพ่อ (ของผม) เทศน์ สอนเรื่องนี้มากกก..เรื่องกิน..เรื่องมะเร็งนี้.. สรุปได้ว่า.. ..อาหาร..ดี ![]() ..อากาศ..ดี ![]() ..อารมณ์..ดี ![]() |
เจ้าของ: | muntana [ 15 พ.ค. 2009, 12:15 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | Re: กินเนื้อวัวมากเป็นมะเร็งเน้อ | ||
ฟันธงกิน"เนื้อแดง"มาก เพิ่มเสี่ยงป่วยมะเร็ง-โรคหัวใจ นักวิทยาศาสตร์พบหลักฐานใหม่ยืนยันว่า การกินเนื้อแดงและเนื้อแปรรูปในปริมาณที่มากเกินไปส่งผลเสียต่อสุขภาพ นักวิจัยสถาบันมะเร็งแห่งชาติ สหรัฐอเมริกา ศึกษาและเก็บข้อมูลจากผู้บริโภคกว่า 500,000 คน พบว่า ผู้ที่กินเนื้อแดง (เรดมีต) หรือเนื้อแปรรูปประมาณ 160 กรัมต่อวัน หรือเทียบเท่ากับสเต๊ก 6 ออนซ์ มีความเสี่ยงมากขึ้นที่จะเสียชีวิตจากโรคภัยไข้เจ็บ โดยเฉพาะโรคมะเร็งและโรคหัวใจ เมื่อเทียบกับผู้ที่กินเนื้อแดง หรือเนื้อแปรรูปแค่วันละ 25 กรัม หรือเทียบเท่ากับเบคอนชิ้นเล็กๆ บางๆ เพียงชิ้นเดียว ในทางตรงกันข้าม กลุ่มที่กินเนื้อขาว (ไวต์มีต) จำพวกเนื้อสัตว์ปีกและเนื้อปลา จะมีความเสี่ยงลดลงที่จะเสียชีวิตด้วยโรคภัยไข้เจ็บดังกล่าว ผลการคำนวณยังพบว่า ร้อยละ 11 ของการเสียชีวิตในผู้ชาย และร้อยละ 16 ของการเสียชีวิตในผู้หญิงสามารถป้องกันได้ ถ้าพวกเขาหันมาบริโภคเนื้อแดงให้เหลือแค่วันละ 25 กรัม หรือเท่ากับเบคอนชิ้นบางๆ เล็กๆ 1 ชิ้น นักวิจัยระบุด้วยว่า สารก่อมะเร็งจะเกิดขึ้นในช่วงที่นำเนื้อแดงไปปรุงเป็นอาหารด้วยอุณหภูมิร้อนจัด เนื้อแดงประกอบไปด้วยไขมันอิ่มตัว ซึ่งมีส่วนเชื่อมโยงกับมะเร็งเต้านมและมะเร็งลำไส้ การบริโภคเนื้อแดงแต่น้อยจึงทำให้ความเสี่ยงเป็นมะเร็งน้อยลง และลดความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจ เพราะการกินเนื้อแดงน้อย จะส่งผลให้ความดันเลือดและระดับคอเลสเตอรอลลดลง ข้อมูลจาก นสพ มติขน รายวัน 1 เมษายน 2552 ฟันธงกิน"เนื้อแดง"มาก เพิ่มเสี่ยงป่วยมะเร็ง-โรคหัวใจ - สาเหตุทำไมชาวอเมริกันมีผู้ป่วยโรคมะเร็ง และ หัวใจ สูงเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก **************************************** เวปน่าสนใจ มีสาระ เพื่อสุขภาพที่ดีกว่า เพื่อลด ความเสี่ยงจากโรคมะเร็งร้าย http://www.watisan.com/showdetail.asp?boardid=1080 เอกสาร งานวิจัย ที่น่าสนใจจาก ตปท เพื่อสุขภาพที่ดี กว่า ลดความเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยด้วยโรคมะเร็งร้าย for your healthy life เพื่อสุขภาพที่ดี กว่า ลดความเสี่ยงจากโรคมะเร็งร้าย โรคหัวใจ http://www.watisan.com/showdetail.asp?boardid=1080
|
เจ้าของ: | muntana [ 15 พ.ค. 2009, 12:51 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | Re: กินเนื้อวัวมากเป็นมะเร็งเน้อ | ||
งานวิจัยล่าสุดเรือง โรคมะเร็งร้าย ----- Red meat links to various kinds of Cancer risk esp the Breast Cancer in women and also the colon cancer - new finding from the latest study and research by several international renowned medics institues and the World Cancer Research Forum ***************************************************************************** จากผลการศึกษา วิจัยล่าสุดจากหลาย ๆ หน่วยงานศึกษา วิจัยโรคมะเร็ง ได้ข้อมูลใหม่ ๆ ว่า เนื้อสัตว์แดง มีส่วนสำคัญ เป็นอย่างยิ่งต่อการเกิดโรคมะเร็งเต้านม และ มะเร็งลำไส้ ที่ผู้ป่วยเสียชีวิตเป็นอันดับต้น ๆ ในประเทศ ตะวันตก และรุกลามมาทางแถบเอเซีย ปีละหลาย ๆ สิบล้าน คน ในไทย ตกว้นละกว่า 200 คน หรือปีละนับเกือบแสนราย นอกจากนี้ยังข้อมูลใหม่ ของโรคมะเร็งตับอ่อน และ มะเร็ง ต่อมน้ำเหลือง มีส่วนโยงไยถึงการบริโภคเนื้อสัตว์ จากการ เก็บข้อมูล และ วิจัยจากผู้ป่วยหลาย ๆ แสนคน จากข้อมูล ล่าสุดโดยมหาวิทยาลัยแพทย์ฮาวาด สหรัฐ ที่มีการศึกษา วิจัยจากผู้ป่วยโรคมะเร็งกว่า 500000 คน ใช้เวลากว่า 7 ปี ยังมีข้อมูลอีกมากมาย จากผลศึกษาทางวิทยาศาสตร์ และ ทางการแพทย์ โดยคณะผู้เชียวชาญโรคมะเร็ง ทางการไทยไม่ค่อยยอมที่จะเปิดเผยข่าวที่มีการศึกษาวิจัย ล่าสุดทางการแพทย์ เนื่องจากหลายหน่วยงานราชการมี ส่วนเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์การค้าขายยาข้ามชาติ ซึ่ง มีผลประโยชน์ตอบแทนมหาศาล นับแสนล้านบาทต่อปี ระวังอันตรายโรคมะเร็งร้าย มีโอกาสรักษาและรอดชีวิตไม่ มากถึงแม้จะเสียค้าใช้จ่ายนับล้าน บาท เพียงเพือพยุงชีวิต หรือต่ออายุเพียงระยะเวลาสั้น ๆ เท่านั้น น้อยคนนักที่จะรู้ว่ายังมีคนไทยป่วยโรคมะเร็ง นับล้าน คน หรืออาจมากกว่า 3 ล้าน คน ที่รอการบำบัดรักษา **************************************************** ภัยเงียบ...มะเร็งลำไส้ใหญ่ / อ.นพ.วรมินทร์ เหรียญสุวรรณ ศัลยแพทย์ โดย ผู้จัดการออนไลน์ 21 สิงหาคม 2551 08:27 น. คอลัมน์สายตรงสุขภาพกับศิริราช ทุกวันนี้ โรคมะเร็ง ยังเป็นสาเหตุการตายอันดับต้นๆ ของคนในโลกรวมทั้งในประเทศไทย ยิ่งมะเร็งลำไส้ใหญ่ด้วยแล้ว มีแนวโน้มผู้ป่วยด้วยโรคนี้เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วรำ มะเร็งลำไส้ใหญ่ เป็นโรคที่มีอุบัติการณ์สูงในประเทศแถบตะวันตก เช่น สหรัฐอเมริกา และ ประเทศทางยุโรป ในสหรัฐอเมริกา ประชากรมีโอกาสที่จะเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ตลอดชีวิตประมาณร้อยละ 6 หรือ 1 ต่อ 20 ของประชากร ประมาณการว่ามีผู้ป่วยรายใหม่เกิดขึ้น 138,000 รายต่อปี และจะมีผู้ป่วยเสียชีวิตจากมะเร็งลำไส้ใหญ่ประมาณ 60,000 คนต่อปี มะเร็งลำไส้ใหญ่และการตรวจสวนแป้งลำไส้ใหญ่ (Barium Enema) สำหรับประเทศไทย มะเร็งลำไส้ใหญ่ มีอุบัติการณ์ต่ำกว่าประเทศที่พัฒนาแล้ว จากสถิติของสถานวิทยามะเร็ง โรงพยาบาลศิริราชพบว่า มะเร็งลำไส้ใหญ่ มีอุบัติการณ์สูงเป็นอันดับ 4 ในเพศชาย (รองจากมะเร็งตับ ปอด และ ต่อมลูกหมาก) ส่วนในเพศหญิงพบมากเป็นอันดับ 3 (รองจากมะเร็งปากมดลูกและ เต้านม) ใครมีโอกาสเสี่ยงสูง ถึงแม้ว่ามะเร็งลำไส้ใหญ่ อาจเกิดขึ้นได้ในทุกอายุ แต่อัตราเสี่ยงของการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ จะสูงขึ้นในผู้สูงอายุ ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักจะถูกวินิจฉัยในช่วงอายุระหว่าง 50-70 ปี นอกจากนี้อัตราเสี่ยงจะเพิ่มขึ้นในผู้ป่วยที่มีประวัติเป็นโรคลำไส้อักเสบบางชนิด (Crohn’s disease และ Ulcerative colitis) ผู้ที่มีประวัติมีติ่งเนื้องอก (Polyp) ในลำไส้ใหญ่ หรือมีประวัติโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ในครอบครัว อาการของมะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งลำไส้ใหญ่จำนวนมากจะไม่มีอาการให้เห็นในระยะแรกๆ จนกว่าตัวเนื้องอกจะมีขนาดค่อนข้างใหญ่ หากสามารถตรวจพบก้อนเนื้องอกในระยะเริ่มแรกหรือพบในขณะที่เป็นติ่งเนื้องอก (Polyp) ผลการรักษาจะดีและมีโอกาสหายขาดได้ ดังนั้นจึงมีคำแนะนำให้มีการตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่ตั้งแต่ไม่มีอาการ อาการของมะเร็งลำไส้ใหญ่ ที่พบบ่อย ได้แก่ อาการถ่ายอุจจาระมีมูกปน หรือมีเลือดออกทางทวารหนัก มีการถ่ายอุจจาระที่ผิดปกติเกิดขึ้น เช่น ท้องผูก ท้องเสียที่ไม่หายหลังได้รับการรักษา หรือมีท้องผูกสลับท้องเสีย อาการอื่นๆที่อาจจะพบได้คือ น้ำหนักลด เบื่ออาหาร สำหรับมะเร็งลำไส้ใหญ่ส่วนต้นอาจตรวจพบว่ามีอาการซีดซึ่งเกิดจากการเสียเลือดโดยที่ไม่มีเลือดออกในอุจจาระให้เห็นได้ด้วยตาเปล่า อาจคลำพบก้อนที่บริเวณท้องน้อยด้านขวา ผู้ป่วยบางรายอาจมาพบแพทย์ด้วยอาการของลำไส้อุดตันซึ่งจะมีอาการปวดท้อง ท้องอืด อาเจียน และถ่ายอุจจาระ หรือผายลมลดลง การส่องกล้องลำไส้ใหญ่ (Colonoscopy) การรักษา มะเร็งลำไส้ใหญ่ สามารถรักษาโดยการผ่าตัดเอาลำไส้ส่วนที่มีมะเร็งรวมถึงเส้นเลือดและต่อมน้ำเหลืองบริเวณเนื้องอกออก ในผู้ป่วยส่วนใหญ่ลำไส้จะถูกต่อเข้าหากันใหม่และผู้ป่วยจะสามารถถ่ายอุจจาระทางทวารหนักได้ตามปกติ โดยปกติการผ่าตัดจะทำผ่านแผลผ่าตัดทางหน้าท้อง ในปัจจุบันศัลยแพทย์สามารถทำการผ่าตัดโดยใช้ กล้อง(Laparoscopic Surgery) ในผู้ป่วยที่มีเนื้องอกขนาดเล็ก ซึ่งจะทำให้แผลผ่าตัดมีขนาดเล็กลงและผู้ป่วยจะมีอาการปวดบริเวณแผลหลังผ่าตัดลดลง ถ้ามะเร็งเกิดขึ้นที่บริเวณลำไส้ตรงส่วนปลาย หรือทวารหนัก และก้อนเนื้องอกอยู่ในระยะเริ่มแรก การผ่าตัดสามารถทำได้โดยตัดเอาเนื้องอกออกผ่านทางทวารหนัก อย่างไรก็ตามถ้าก้อนเนื้องอกมีขนาดใหญ่และใกล้ปากทวารหนักมาก การผ่าตัดอาจจะต้องผ่าตัดเอาทั้งลำไส้ตรงและทวารหนักออกทั้งหมด ทำให้ไม่สามารถต่อลำไส้เข้าหากันได้ ผู้ป่วยกลุ่มนี้จึงจำเป็นต้องมีลำไส้เทียมมาเปิดที่ผนังหน้าท้องสำหรับการถ่ายอุจจาระ หากตรวจพบว่ามะเร็งกระจายไปที่ต่อมน้ำเหลืองแล้ว ผู้ป่วยควรได้รับการรักษาเพิ่มเติมโดยการให้ยาเคมีบำบัดและถ้าเนื้องอกอยู่ในตำแหน่งลำไส้ตรงส่วนปลายหรือทวารหนัก ผู้ป่วยอาจจะต้องได้รับการฉายรังสีเพิ่มเติม ป้องกันได้หรือไม่ แนวทางการป้องกันโรคนี้คือ ควรรับประทานอาหารที่มีกากใยสูงเช่น ผักและผลไม้ รวมไปถึงอาหารที่มีส่วนประกอบของไขมันต่ำจะช่วยลดการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ลดลง อย่างไรก็ตามเป็นที่ยอมรับว่า การตรวจคัดกรองสามารถป้องกันการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ ในผู้ที่ไม่มีอาการและไม่มีปัจจัยเสี่ยงควรเริ่มต้นที่อายุ 50 ปี สำหรับผู้ที่มีประวัติมะเร็งลำไส้ใหญ่ในครอบครัว ควรเริ่มตรวจคัดกรองที่อายุ 40 ปีหรือที่อายุ 5 ปีก่อนอายุของคนในครอบครัวที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ ส่วนผู้ที่มีประวัติเป็นลำไส้อักเสบชนิด Crohn’s disease และ Ulcerative colitis หรือ ผู้ป่วยที่มีติ่งเนื้องอกจำนวนมาก (Polyposis Coli) การตรวจอาจเริ่มในอายุที่เร็วขึ้นโดยสามารถปรึกษาแพทย์ของท่านได้ ติ่งเนื้องอก (Polyp) และการตัดติ่งเนื้องอกผ่านทางกล้อง (Polypectomy) วิธีการตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่มีหลายวิธีดังนี้ * การส่องกล้องลำไส้ใหญ่ (Colonoscopy) ทุก 5 ถึง 10 ปี หรือ * ตรวจอุจจาระหาเลือดที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า (Fecal Occult Blood Test) ทุกปี หรือ * การส่องกล้องลำไส้ใหญ่ส่วนปลาย (Sigmoidoscopy) ร่วมกับ การตรวจสวนแป้งลำไส้ใหญ่ (Barium Enema) ทุก 5 ปี จะเห็นได้ว่าการตรวจคัดกรองมีความสำคัญ เนื่องจากก่อนที่จะเกิดเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ขึ้น จะมีความผิดปกติเริ่มจากการเกิดมีติ่งเนื้องอก (Polyp) ขึ้นมาก่อน ดังนั้นถ้าสามารถส่องกล้องลำไส้ใหญ่และตรวจพบติ่งเนื้องอกได้ตั้งแต่ไม่มีอาการ แพทย์จะสามารถตัดติ่งเนื้องอกผ่านทางกล้อง (Polypectomy) โดยไม่ต้องทำผ่าตัดซึ่งจะเป็นการป้องกันการเกิดเป็นมะเร็งขึ้น โดยสรุปหากแก้ไขพฤติกรรมการบริโภคและหมั่นสำรวจสุขภาพระบบขับถ่ายของคุณ จะทำให้มะเร็งลำไส้ใหญ่ไม่สามารถทำร้ายคุณได้ หลีกเลี่ยง ลด ละ เลิกบริโภคเนื้อสัตว์ ช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคมะเร้งร้ายนานาชนิด คำยืนยันจาก ทีมคณะแพทย์ มหาวิทยาลัยแพทย์ชื่อดังแห่งสหรัฐ สถาบันศึกษา และ วิจัยโรคมะเร็ง สหรัฐ -----
|
เจ้าของ: | ผู้ดูแลสัตว์วิเศษ [ 15 พ.ค. 2009, 15:03 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | Re: กินเนื้อวัวมากเป็นมะเร็งเน้อ | ||
บัวศกล เขียน: คุณnatdanai เล่นแจงละเอียด แล้วท่านผู้เลี้ยงดูสัตว์ประหลาด ท่านจะเอาหน้าไปซุกมุมไหน หากคิดเมตตา กรุณาทำไม่รู้ไม่ชี้เสียบ้างนะท่านนะ ![]() ![]() ![]() คุณนั่นแหละ ยังไม่รู้ตัวอีกเหรอ ![]() ![]() ![]()
|
เจ้าของ: | ผู้ดูแลสัตว์วิเศษ [ 15 พ.ค. 2009, 15:08 ] | ||||
หัวข้อกระทู้: | Re: กินเนื้อวัวมากเป็นมะเร็งเน้อ | ||||
natdanai เขียน: สารประเภทนี้(เขาเรียกกันว่า อนุมูนอิสระ รึป่าวไม่รู้)มีอยู่ในสัตว์ที่มีวิญญาณครอง ไม่เฉพาะวัว แม้กระทั่งมนุษย์ เมื่อเกิดความเครียดก็จะหลั่งสารประเภทนี้ออกมา แต่ตามธรรมชาติแล้วร่างกายที่สมดุลย์(สมบูรณ์แข็งแรง)จะสามารถขับถ่ายสารเหล่านี้ออกจากร่างกายได้ แต่ก็ได้ตาม อัตตภาพ(ตามสภาพร่างกาย)เพราะร่างกายมันเป็นอนิจจังครับ การกินเนื้อสัตว์ที่มีความเครียดสูงก่อนตายนั้นก็เป็นธรรมดาที่จะมีสารประเภทนี้สะสมอยู่ในเนื้อเหล่านั้นในปริมาณที่สูง(เพราะไม่ได้ถูกขับถ่ายออก) แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นสาเหตุหลักของมะเร็ง เพราะหากคนที่กินเนื้อสัตว์ที่มีสารเหล่านี้สะสม แต่คนๆนั้นเป็นคนที่มีสุขภาพกายดี(สมดุลย์) สุขภาพจิตดี(จิตใจผ่องใส) ร่างกายก็ไมหลั่งสารก่อมะเร็งที่ว่านั่น แล้วไอ้ที่กินเข้าไปก็จะถูกขับถ่ายออกมาหมด กลับกัน...คนที่ไม่กินเนื้อสัตว์เพราะจิตใจจดจ่ออยู่แต่ว่าไอ้นี่กินไม่ได้เดี๋ยวเป็นโรคนั่น โรคนี่ ระแวงกลัวตาย กลัวเจ็บป่วย กลัวความสูญเสีย ฯลฯ คนเหล่านี้ มีชีวิตอยู่บนความเครียด ร่างกายก็จะหลั่งสารก่อมะเร็งที่ว่านี้ออกมาอยู่เรื่อย ๆ ร่างกายก็จะเสียดุลย์ ระบบขับถ่ายก็ผิดปกติ สารก่อมะเร็งจึงสะสมอยู่ในร่างกายเพราะขับถ่ายออกไม่ทันกับที่หลั่งออกมา และก็เป็นมะเร็งได้เหมือนกัน ทั้งนี้ไม่ได้มาคัดค้าน จขกท นะครับ เพราะความจริงแล้วการรักษาสมดุลย์ของร่างกายก็ไม่จำเป็นที่จะต้องกินเนื้อสัตว์...แต่ก็ไม่จำเป็นต้องเลิกกินเช่นกัน... และอีกอย่างนึงคือ...ความเจ็บป่วยนั้นเป็นผลกรรมของเราเอง บ้านป้าคุณสิ เชิญกินเข้าไปเหอะ จะได้เป็นมะเร็งสมใจ ถ้าคุณมั่นใจนักหน่ะนะ คุณมันไม่มีค่าให้ผมแคหรอก
|
เจ้าของ: | ผู้ดูแลสัตว์วิเศษ [ 15 พ.ค. 2009, 15:14 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | Re: กินเนื้อวัวมากเป็นมะเร็งเน้อ | ||
บัวศกล เขียน: คุณnatdanai เล่นแจงละเอียด แล้วท่านผู้เลี้ยงดูสัตว์ประหลาด ท่านจะเอาหน้าไปซุกมุมไหน หากคิดเมตตา กรุณาทำไม่รู้ไม่ชี้เสียบ้างนะท่านนะ ![]() ![]() ![]() มันเป็นเรื่องของคุณตรงไหนเหรอ อย่า............. หน่อยเลยน่า
|
เจ้าของ: | natdanai [ 15 พ.ค. 2009, 15:20 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: กินเนื้อวัวมากเป็นมะเร็งเน้อ |
![]() ![]() ![]() ป้ากระผมนับถือเจ้าแม่กวนอิม....ไม่ทานเนื้อวัวครับ....และเขาก็อยู่บ้านเฉยๆ คุณจะไปยุ่งกะท่านทำไมครับ ![]() และเริ่มจะรู้สึกว่าคุณไม่มีปัญญามากพอที่จะพิจารณาธรรมที่กระผมแสดงไป..... ![]() ![]() พระจึงมักเตือนว่า "ธรรมสูงอย่าแสดงกับคนปัญญาต่ำ" |
เจ้าของ: | ผู้ดูแลสัตว์วิเศษ [ 15 พ.ค. 2009, 15:27 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | Re: กินเนื้อวัวมากเป็นมะเร็งเน้อ | ||
natdanai เขียน: :b10: ![]() ![]() ป้ากระผมนับถือเจ้าแม่กวนอิม....ไม่ทานเนื้อวัวครับ....และเขาก็อยู่บ้านเฉยๆ คุณจะไปยุ่งกะท่านทำไมครับ ![]() และเริ่มจะรู้สึกว่าคุณไม่มีปัญญามากพอที่จะพิจารณาธรรมที่กระผมแสดงไป..... ![]() ![]() พระจึงมักเตือนว่า "ธรรมสูงอย่าแสดงกับคนปัญญาต่ำ" พระท่านเตือนผมต่างหาก ว่าอย่าแสดงธรรมกับคุณ เพราะคุณหาเรื่องก่อน อย่ามาบังอาจทำผิดไม่ยอมรับผิดนะ มันเป็นการกระทำของสวะ พวกเห็นแก่ตัว คุณมันก็แค่คนเห็นแก่ตัวที่ว่าคนอื่นได้แต่คนอื่นว่ากลับไม่ได้ ผมไม่ได้ด่าป้าคุณ ผมด่าคุณ แต่ผมเอ่ยถึงบ้านป้าคุณไม่ได้เอ่ยถึงป้าคุณ อ่านภาษาไทยไม่ออกเหรอ ไอ้คนปัญญาต่ำ
|
เจ้าของ: | ผู้ดูแลสัตว์วิเศษ [ 15 พ.ค. 2009, 15:34 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: กินเนื้อวัวมากเป็นมะเร็งเน้อ |
natdanai เขียน: :b10: ![]() ![]() ป้ากระผมนับถือเจ้าแม่กวนอิม....ไม่ทานเนื้อวัวครับ....และเขาก็อยู่บ้านเฉยๆ คุณจะไปยุ่งกะท่านทำไมครับ ![]() และเริ่มจะรู้สึกว่าคุณไม่มีปัญญามากพอที่จะพิจารณาธรรมที่กระผมแสดงไป..... ![]() ![]() พระจึงมักเตือนว่า "ธรรมสูงอย่าแสดงกับคนปัญญาต่ำ" จำไว้เลยนะ ว่าแกมันใจหยาบช้ามากเลย ที่เขียนวิทยาศาสตร์บวมๆของแกนั่นหน่ะ ข้าก็เรียนวิทย์โว้ย ของแกหน่ะมันข่าวเก่าแล้ว หัดศึกษาเพิ่มเติมเสียบ้างสิ แล้วมาหาว่าที่แกเขียนมันสูงส่ง สูงในยุคแกหน่ะสิ ไอ้ตกยุคเอ้ย เขียนแบบนี้ก็สวยสิวะ เป็นไงเป็นกันโว้ย |
หน้า 1 จากทั้งหมด 3 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |