ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
น้องใหม่ มาถามเรื่องศีลข้อที่ 5 ครับ http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=22353 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | Norrachai [ 17 พ.ค. 2009, 20:31 ] |
หัวข้อกระทู้: | น้องใหม่ มาถามเรื่องศีลข้อที่ 5 ครับ |
สวัสดีครับ อยากทราบว่า การที่เราละเมิด ศึลข้อที่ 5 นั้น จำเป็นต้องเป็นการ กินเหล้า เสพยา เสมอไปหรือไม่ ![]() เป็นไปได้ไหมครับ ว่าที่จริง แล้ว ก็มีอีกหลายสิ่งที่ทำให้เราขาดสติได้ ที่ถามคือ ไปเห็นที่ร้านเกม อินเทอร์เน็ตมาครับ ( เพราะผมก็แวะไปเล่น ![]() มีคนเล่นเกมอยู่ .. ปรากฏว่า เค้าอินกับเกม มากๆๆ ทั้งอารมณ์เสีย พูดจา มีสัตว์น้อยใหญ่เต็มไปหมด ![]() แต่เคยได้ยินคนพูดกันมาอีกที่น่ะครับ บางทีก็เลยเถิดไปกว่านี้ด้วย อันนี้ตัวอย่างน่ะครับ เลยมาถามด้วยเหตุประการนี้ ล่ะครับ ![]() |
เจ้าของ: | มิตรตัวน้อย [ 18 พ.ค. 2009, 11:51 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: น้องใหม่ มาถามเรื่องศีลข้อที่ 5 ครับ |
ศีลข้อ ๕ ท่านให้ระวังสติ สิ่งที่ทำให้ขาดสติที่เห็นง่าย สำหรับผู้มีปัญญาน้อยอย่างเราท่าน ก็คือ สุรา ยาดอง สิ่งเสพติดทั้งหลาย สิ่งที่ทำให้ขาดสติอื่น ๆ ก็มี แต่เรามองเห็นยาก ยกตัวอย่าง เช่น :-- ความโลภ โลภมาก ก็ขาดสติ ถูกโกง ถูกยักยอก ถูกฉ้อฉล ก็เพราะความโลภเป็นเหตุ ความหลง ก็ทำให้ขาดสติ หลงตน หลงท่าน หลงอำนาจ ทำให้ขาดสติได้มาก ความโกรธ ยิ่งเห็นง่าย เห็นได้ทั่วไป สังเกตุดี ๆ จะเห็นว่ามีมากกว่า ความโลภ ความหลง การเล่นเกม เป็นการ "สมมุติขึ้น" แล้วก็ปรุงแต่งว่า ตนเป็นอย่างนั้น อย่างนี้ ตนต้องได้ ตนต้องเป็น หลงไปตามที่ตนเองสมมุติ เมื่อมีข้อขัดข้อง ไม่เป็นไปตามที่ตนปรุงแต่ง ก็โกรธก็ขัดเคือง จึงได้แสดงอาการกริยาดังกล่าว เจริญธรรม ![]() |
เจ้าของ: | อินทรีย์5 [ 18 พ.ค. 2009, 12:24 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: น้องใหม่ มาถามเรื่องศีลข้อที่ 5 ครับ |
คุณมิตรฯ หายไปนานเลยนะ ดีใจที่เห็นกลับมาโพสท์เหมือนเดิมอีก ![]() ซะแล้ว อ้างคำพูด: ที่ถามคือ ไปเห็นที่ร้านเกม อินเทอร์เน็ตมาครับ ( เพราะผมก็แวะไปเล่น บ้าง) มีคนเล่นเกมอยู่ .. ปรากฏว่า เค้าอินกับเกม มากๆๆ ทั้งอารมณ์เสีย พูดจา มีสัตว์น้อยใหญ่เต็มไปหมด แต่เคยได้ยินคนพูดกันมาอีกที่น่ะครับ บางทีก็เลยเถิดไปกว่านี้ด้วย อันนี้ตัวอย่างน่ะครับ ![]() ก็สิ่งที่บริโภคทางตา ทางหู ล้วนแต่เป็นสิ่งที่ไม่ดี ที่มาจากเกมส์ เล่นมากๆสะสมไว้มาก ก็แสดงอาการ เหมือนกับเกมส์ที่เล่น ไม่สนใจว่าใครจะได้ยินได้ฟังยังไง ทำให้เปลี่ยนนิสัยได้ ตัวอย่างที่หยิบยกมานี้ จัดว่าทำให้ขาดสติอย่างมาก จะเรียกว่า ความหลงก็ได้ ซึ่งดูแล้วก้ขาดสติไม่แพ้ การกินเหล้า ของมึนเมาทั้งหลาย และทำให้ขาดสมาธิ เป็นคนใจร้อน ไม่รู้จักรับผิดชอบตัวเอง ทำให้เสีย การเรียนและเสียเงินเสียทองไปด้วย ![]() |
เจ้าของ: | มิตรตัวน้อย [ 18 พ.ค. 2009, 12:53 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: น้องใหม่ มาถามเรื่องศีลข้อที่ 5 ครับ |
สวัสดีครับ คุณอินทรีย์5 คงไป ๆ มา ๆ แหละครับ ![]() ![]() |
เจ้าของ: | ฌาณ [ 18 พ.ค. 2009, 16:06 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: น้องใหม่ มาถามเรื่องศีลข้อที่ 5 ครับ |
พระสาคตเถระ ชาติภูมิ ท่านพระสาคตะ เกิดในตระกูลพราหมณ์ ในพระนครสาวัตถี มารดาให้ชื่อว่า “สาคตมาณพ” ครั้นเจริญวัยแล้ว ได้ฟังพระธรรมเทศนาในสำนักของพระบรมศาสดา เกิดศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา จึงได้ออกบรรพชาอุปสมบทถือเพศเป็นบรรพชิต ยังฌานสมาบัติแปดประการให้บังเกิดขึ้น มีความชำนิชำนาญในองค์ฌานนั้นฯ ต้นบัญญัติสุราเมรยปานสิกขาบท ต่อมาสมเด็จพระบรมศาสดาเสด็จจาริกไปตามชนบท บรรลุถึงภัททวติกาคามในพระนครโกสัมพี พระองค์ได้ประทับอยู่ในบ้านนั้น ท่านพระสาคตะได้ตามเสด็จไป ตามตำนานท่านกล่าวว่า ที่ท่าชื่อว่าอัมพะ มีพญานาคมีฤทธิ์เดชกล้า ชื่อว่าอัมพติฏฐนาค ท่านพระสาคตะได้ทรมาณพญานาคนั้นให้เสื่อมสิ้นฤทธิ์เดช แล้วได้กลับไปยังสำนักพระบรมศาสดาที่ภัททวติกาคาม เมื่อเสด็จประทับอยู่ในบ้านนั้นตามสมควรแก่พุทธอัธยาศัยแล้ว ชาวบ้านได้ทำการต้อนรับเสด็จพระองค์ตามสมควร เมื่อได้ทราบว่าพระผู้เป็นเจ้าสาคตะ ได้สู้กับพญานาคซึ่งอยู่ ณ ท่าชื่อว่าอัมพะมีชัยชนะ พากันมีความปีติยินดี มีความประสงค์จะหาของอย่างดี เป็นที่พอใจถวาย จึงเข้าไปหาท่านพระสาคตะ ไหว้แล้วยืนอยู่ ณ ที่สมควรแห่งหนึ่ง จึงกล่าวถามว่า ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้าผู้เจริญ อะไรเป็นของหายากและชอบใจยิ่งของพระผู้เป็นเจ้า พวกภิกษุฉัพพัคคีย์จึงบอกแก่อุบาสกเหล่านั้นว่า สุราอ่อนใสสีแดงดังเท้านกพิราบเป็นของหายาก และเป็นของชอบใจยิ่งของภิกษุทั้งหลายด้วย ท่านทั้งหลายจงจัดสุราเหล่านั้นไว้ถวายเถิด อุบาสกอุบาสิกาเหล่านั้นจึงจัดสุรานั้นไว้ทุก ๆ เรือน เมื่อเห็นพระสาคตเถระเที่ยวบิณฑบาตจึงนิมนต์ท่านว่า ขอพระผู้เป็นเจ้าจงดื่มสุราอ่อนอันแดงใสดังเท้านกพิราบก่อน พระสาคตะก็ได้ดื่มสุรานั้นทุก ๆ เรือน ด้วยอำนาจสุราทำให้ท่านมึนเมาลืมสติ เมื่อออกจากพระนครก็ล้มลงที่ประตูนคร พระบรมศาสดาทรงทราบ จึงรับสั่งให้พวกภิกษุพยุงเธอไปสู่วิหาร แล้วทรงตำหนิติเตียนมีประการต่าง ๆในท่ามกลางสงฆ์ แล้วทรงบัญญัติสิกขาบทห้ามภิกษุไม่ให้ดื่มสุราเมรัยอีกต่อไปว่า “สุราเมรยปาเน ปาจิตฺติยํ” แปลความว่า “เป็นอาบัติปาจิตตีย์เพราะดื่มสุราและเมรัยฯ” ครั้นรุ่งขึ้นพระสาคตะสร่างเมาได้สติแล้ว กราบทูลขอขมาให้พระบรมศาสดาทรงยกโทษแล้ว ก็บังเกิดความสังเวชสลดใจในการกระทำเช่นนั้น ตั้งแต่นั้นมาท่านก็อุตส่าห์เจริญวิปัสสนากรรมฐานไม่นานก็ได้สำเร็จพระอรหัตผล เป็นพระอเสขบุคคลในพระพุทธศาสนาฯ เอตทัคคะ ครั้นกาลต่อมา เมื่อพระบรมศาสดาเสด็จประทับอยู่ที่พระเชตวันมหาวิหาร ได้ทรงตั้งท่านพระสาคตะไว้ในตำแหน่งเอตทัคคฐานว่า เป็นผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลาย ฝ่ายข้างเป็นผู้ฉลาดในเตโชกสิณสมาบัติ ตามตำนานปรากฏว่า ท่านเป็นพุทธอุปัฏฐากองค์หนึ่ง พระสาคตะนั้นดำรงชนมายุสังขารอยู่โดยสมควรแก่กาล ก็ดับขันธปรินิพพานฯ พรรณาสิกขาบท ๒ ........ก็ในคําว่า สุราเมรยมชฺชปมาทฏฐานา นี้ บทว่า สุรา ได้แก่สุรา ๕ อย่าง คือ สุราทําดวยแป้ง สุราทําด้วยขนม สุราทําด้วยข้าวสุก สุราผสมเชื้อ สุราที่ปรุง ด้วยเครื่องปรุง. แม้เมรัยก็มี ๕ อย่าง คือ เมรัยที่ทําด้วยดอกไม้ เมรัยที่ทําด้วย ผลไม้ เมรัยทําด้วยงบน้ําอ้อย เมรัยที่ทําด้วยดอกมะซาง เมรัยที่ปรุงด้วยเครื่อง ปรุง. บทวา มชฺช ได้แก่ ทั้งสองอยางนั้นนั่นแหละ ชื่อวา มัชชะ เพราะอรรถว่า เป็นที่ตั้งแห่งความเมา. ก็หรือสิ่งอื่นใด ไม่วาอะไรเป็นทีตั้งแหงความเมา บุคคล เมาประมาทด้วยสิ่งใดที่ดื่มแล้ว สิ่งอันนี้ก็เรียกวา มัชชะ. บทว่า ปมาทฏฐานา ได้แก่ เจตนาที่ดื่มกลืนกินมัชชะนั้น ท่านเรียกว่า ปมาทฏฐานาเพราะเป็นเหตุแห่งความเมาความประมาท เจตนากลืนกิน มัชชะคือสุราและเมรัย เป็นไปทางกายทวารด้วยประสงค์ จะกลืนกิน พึงทราบว่าสุรา เมรัยเป็นทั้งแห่งความประมาทโดยประการใด พึงทราบวินิจฉัยในสิกขาบทเหล่า นั้นก่อนนับตั้งแต่ปาณาติบาตเป็นต้นไป โดยประการนั้น. อ้างคำพูด: สวัสดีครับ อยากทราบว่า การที่เราละเมิด ศึลข้อที่ 5 นั้น จำเป็นต้องเป็นการ กินเหล้า เสพยา เสมอไปหรือไม่ ถ้าตามบัญญัติในสมัยนั้น คืออย่างนั้นครับ เป็นที่ตั้งแห่งความเมา. ก็หรือสิ่งอื่นใด ไม่วาอะไรเป็นทีตั้งแห่งความเมา บุคคล เมาประมาทด้วยสิ่งใดที่ ดื่มแล้ว หมายเอาสิ่งที่ดื่มแล้วสิ่งอันนี้ก็เรียกวา มัชชะ. สมัยนี้ ยุคนี้มีเกม มีสิ่งมอมเมามากมาย อันเสพแล้ว อันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาทได้ แต่ไม่ได้ดื่ม โดยความหมายนั้นอาจเข้ากับศีลข้อนี้ไม่ได้....ยุคนี้สมัยนี้หลายๆท่านอาจหมายเอาสิ่งมอมเมา เสพติดชนิดที่ไม่ได้ดื่มรวมอยู่ในข้อนี้ด้วย ![]() ![]() ![]() ![]() สรุปว่าถ้าว่าตามอรรถแล้วไม่ได้....แต่ตามธรรมอาจอนุโลมได้ครับ ![]() ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | damjao [ 20 พ.ค. 2009, 14:05 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: น้องใหม่ มาถามเรื่องศีลข้อที่ 5 ครับ |
ศีลข้อที่ห้า เว้นจากสุราเมรัย ไม่เสพเครื่องดองของมึนเมาสิ่งเสพติด อันเป็นเหตุให้เกิดความประมาท ก่อความเสียหายผิดพลาดเพราะขาดสติ เช่น ทำให้เกิดอุบัติเหตุ แม้อย่างน้อยก็เป็นผู้คุกคามต่อความรู้สึกมั่นคงปลอดภัยของผู้ร่วมสังคม สุราและเมรัยมีพิษภัยมากนักหนา เฮโรอีนฝิ่นกัญชาและยาบ้าก็เหมือนกัน เป็นสิ่งควรงดเว้นใครตกเป็นทาสของมัน ต้องทุกข์โทษมหันต์ชีวิตพลันหมดความหมาย สติจะเลอะเลือนอาการเหมือนภูตผีพราย ประสาทถูกทำลายสูญสลายความทรงจำ ![]() |
เจ้าของ: | Norrachai [ 21 พ.ค. 2009, 08:05 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: น้องใหม่ มาถามเรื่องศีลข้อที่ 5 ครับ |
ขอบคุณ คำตอบจากทุกๆ ท่านนะครับ ![]() ![]() ![]() |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |