วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 16:02  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 15 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 พ.ค. 2009, 13:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 เม.ย. 2008, 13:18
โพสต์: 1367

ที่อยู่: bangkok

 ข้อมูลส่วนตัว


ใครรู้บ้างครับ...บอกที...กำลังหาพระสงฆ์ครับ :b13:

.....................................................
ตั้งสติไว้ มองความจริงตามความเป็นจริง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 พ.ค. 2009, 16:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 พ.ค. 2009, 16:59
โพสต์: 79

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อรหันต์ ที่อยู่ใกล้เรามากที่สุด คือ พ่อ กับแม่ของเราครับ

ปฏิบัติต่อท่าน บุญกุศลเทียบเท่ากับพระอรหันต์

แล้วจะวิ่งไปหาพระอรหันต์อื่นไกลทำไมหนอ

ความเป็นพระสงฆ์นี่ ต้องใช้ปัญญาในการพิจารณาดูครับโดยใช้ พระธรรมวินัยเป็นบรรทัดฐานจึงรู้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 พ.ค. 2009, 16:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ก.พ. 2009, 20:49
โพสต์: 3979

แนวปฏิบัติ: พอง-ยุบ
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
ชื่อเล่น: นนท์
อายุ: 42
ที่อยู่: นครสวรรค์

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:

พระสงฆ์มีสองสงฆ์ครับ
๑ พระอริยะสงฆ์มีอยู่ในสมัยครั้งพุทธกาล
๒ สมมติสงฆ์ สงฆ์ที่สมมติขึ้นมามีอยู่ในปัจจุบันนี้
คุณ nat. อยากรู้สงฆ์ไหนกันครับ

:b8: :b8: :b8:

.....................................................
แม้มิได้เป็นสุระแสงอันแรงกล้า ส่องนภาให้สกาวพราวสดใส
ขอเป็นเพียงแสงแห่งดวงไฟ ส่องทางให้มวลชนบนแผ่นดิน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 พ.ค. 2009, 20:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 ก.ค. 2008, 14:47
โพสต์: 1562

อายุ: 0
ที่อยู่: หิมพานต์

 ข้อมูลส่วนตัว www


ถามตอบเรื่องพระรัตนตรัย

โดยสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์

ถามตอบเรื่องพระสงฆ์
๑. พระสงฆ์คือใคร หรือ ใครเป็นพระสงฆ์ ?

๑. คำว่า “สงฆ์” หรือ “สังฆะ” แปลว่า “หมู่”

ในทางพระพุทธศาสนาหมายถึงหมู่ผู้ฟังคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า และได้ปฏิบัติตามจนได้บรรลุพระธรรม มีกิริยาวาจาเรียบร้อยสม่ำเสมอกัน


เพื่อให้ชัดความ ท่านใช้ศัพท์ว่า “สาวก” ซึ่งแปลว่า “ผู้ฟัง” ไว้ข้างหน้า เป็น “สาวกสงฆ์” หรือ “สาวกสังฆะ” แปลว่า “หมู่ของผู้ฟัง”

เพื่อให้ความชัดยิ่งขึ้น ท่านใช้คำว่า “ภควโต” ซึ่งแปลว่า ของพระผู้มีพระภาคเจ้า อันเป็นพระนามของพระพุทธเจ้าอย่างหนึ่ง นำหน้าเข้าอีก

รวมเข้าด้วยกันว่า “ภควโต สาวกสังโฆ” (อ่านว่า “ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ”)
แปลว่า “หมู่ของผู้ฟังของพระผู้มีพระภาคเจ้า”


๒. พระสาวกของพระพุทธเจ้าเป็นคนอย่างไร ไม่ใช่เป็นคนๆ เหมือนเราดอกหรือ ?

๒. ในชั้นต้น ท่านก็เป็นคนตามธรรมดาเหมือนเรา เป็นชายก็มี เป็นหญิงก็มี เป็นบรรพชิต (ผู้บวช) ก็มี เป็นคฤหัสถ์ก็มี แต่เพราะท่านได้ฟังคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ได้ตั้งใจกำหนดพิจารณาเนื้อความจำความได้พอสมควรแก่ความปฏิบัติ และน้อมเข้ามาพิจารณาตรวจดูในตนและปฏิบัติตามไปจนเห็นจริงปรากฏขึ้นในใจ หมดความสงสัยในธรรมและผู้รู้ประจักษ์ธรรม

มีความเห็นธรรมร่วมกัน มีความประพฤติดีเหมือนกัน เพราะท่านเข้าใจแน่ว่า ความดีและความชั่วทั้งหมดเป็นกลาง ประจำอยู่คู่กัน ไม่ใช่ของใคร และไม่รู้จักหมดไม่รู้จักสิ้น ใครทำดีเพียงใด ก็เป็นดีเพียงนั้น ใครทำชั่วเพียงใด ก็เป็นชั่วเพียงนั้น เป็นไปจำเพาะตน แย่งชิงแข่งกันไม่ได้ ยกให้กันก็ไม่ได้ ไม่เหมือนสิ่งของที่แย่งชิงกันได้ ยกให้กันได้


ท่านจึงเป็นพวกเป็นหมู่กันด้วยความมุ่งธรรมเป็นเบื้องหน้าเสมอกัน ทุกๆ ท่านต่างมีเมตตา หวังสุข มีกรุณา หวังให้พ้นทุกข์ มีมุทิตา พอใจในความดีความสุขที่ผู้อื่นได้ มีอุเบกขา ความวางใจเป็นกลางในเมื่อไม่เห็นทางที่จะช่วย แผ่ไปในบุคคลและสัตว์อื่น

๓. ถ้าเช่นนั้น พระสาวกของพระพุทธเจ้านั้น ก็ไม่ใช่จำเพาะแต่เป็นผู้ชาย และเป็นผู้บวชที่เรียกว่า บรรพชิต หรือพระ หรือภิกษุเท่านั้น เป็นคฤหัสถ์ หรือเป็นผู้หญิง ก็เป็นสาวกของพระพุทธเจ้าได้เหมือนกันหรือ ?

๓. ถูกแล้ว เป็นได้ด้วยกัน เพราะท่านไม่ได้เป็นโดยได้รับแต่งตั้ง ท่านเป็นขึ้นได้ด้วยคุณความดีดังกล่าวแล้ว เหมือนดังคนที่ได้เรียนหนังสือจนอ่านออกแล้ว ใครจะตั้งให้เป็นคนอ่านหนังสือไม่ออก ถึงใครจะตั้งให้เป็นคนอ่านหนังสือออก เขาก็คงเป็นคนอ่านหนังสือไม่ออกอยู่นั่นเอง


๔. คำว่า สงฆ์ ท่านหมายความว่าอย่างไรอีกบ้าง ?
๔. ท่านหมายความถึงท่านผู้ได้ฟังธรรม ได้ปฏิบัติธรรม ได้บรรลุธรรมอันเป็นความจริงประจักษ์แก่ใจ มีความเลื่อมใสมั่นไม่กลับกลาย หมดความสงสัยในธรรม และในท่านผู้รู้ธรรม ไม่มีใครอาจจะแนะนำให้เปลี่ยนไปเป็นอย่างอื่น ยินดีมั่นในพระพุทธศาสนาเหมือนๆ กัน

ท่านจะเป็นชายหรือหญิง บรรพชิตหรือคฤหัสถ์ก็ตาม ก็ชื่อว่าเป็นหมู่กันทั้งนั้น เรียกสั้นๆ ว่า อริยสงฆ์ นี้เป็นจำพวกหนึ่ง อีกพวกหนึ่ง คือท่านที่บวชเป็นบรรพชิตในพระพุทธศาสนา เป็นภิกษุก็ตาม เป็นภิกษุณีก็ตาม จะเป็นอริยะหรือไม่ก็ตาม ได้ประชุมกันครบกำหนดทำกิจใน พระพุทธศาสนา ตามพระบัญญัติที่พระพุทธเจ้าได้ทรงตั้งไว้ ชื่อว่าการกสงฆ์ (หมู่ผู้ทำการ) ภิกษุหรือภิกษุณีรูปหนึ่งๆ

ไม่ใช่สงฆ์ดังที่ชาวบ้านบางคนเข้าใจกัน

:b39: :b39: :b39: :b39: :b39: :b39: :b39: :b39: :b39: :b39:

ผมคิดว่าท่านอาจารย์ นัฏดนัยคงถามถึงสงฆ์ในความหมายนี้นะครับ.... :b48:

พระสงฆ์คือผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ถือว่าเป็นผู้สืบทอดพระพุทธศาสนามาสู่ประชาชน เป็นเนื้อนาบุญของโลก ห้ามไม่ให้เราทำชั่ว ให้ทำความดี สอนวิธีดำเนินชีวิตให้ประสบความสุข ควรแก่การบูชาเคารพนับถือ ของพุทธศาสนิกชน และหลักปฏิบัติในการบูชาคุณของพระสงฆ์

ดังนั้นผู้ที่ปฏิบัติตามคำสอนสั่งของพระพุทธเจ้า โดยในที่สุดแม้จะไม่ได้ปลงผม นุ่งห่มผ้ากาสาวพัตร์ แต่ถ้าได้ปฏิบัติจนสำเร็จตามพระประสงค์ของพระพุทธเจ้า ก็ได้ชื่อว่าเป็นพระภิกษุสงฆ์ ส่วนผู้ที่ได้ทำการบรรพชาแล้ว แต่ไม่ได้ปฏิบัติตามคำสอนคำสั่ง หรือไม่ได้ปฏิบัติตามพระธรรมวินัยของพระพุทธองค์ ก็ไม่ชื่อว่าเป็นพระภิกษุสงฆ์ เพราะภิกษุสงฆ์สาวกของพระพุทธเจ้าคือผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ปฏิบัติตรง

เมื่อเรารู้แล้วว่าพระสงฆ์คือใคร การกล่าว "สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ ข้าพเจ้าขอถึงซึ่งพระสงฆ์" จะถึงได้อย่างไร ในเมื่อพระสงฆ์คือ สงฆ์สาวกของพระพุทธเจ้าที่ปฏิบัติดี มีวินัย ปฏิบัติชอบในสัมมาทั้ง ๘ ปฏิบัติตรงต่อมัชฌิมาปฏิปทา ดี ชอบ ตรง เพื่อดำรงอยู่ในทางมรรค ผล นิพพาน

สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ การขอถึงซึ่งพระสงฆ์ จึงสามารถถึงได้ด้วย การปฏิบัติดีคือมีวินัย การปฏิบัติชอบคือมีสัมมาทั้ง ๘ และปฏิบัติตรงต่อมัชฌิมาปฏิปทา นั่นคือมีวิปัสสนาเป็นที่ตั้ง เป็นพาหนะ หรือเป็นทางเดินเพื่อไปถึง เพราะการถึงนั้นจะไปด้วยยวดยานใดๆ ไม่ได้ ไม่มีตั๋วขาย ไม่ต้องทำวีซ่า เพียงแต่ผู้ต้องการจะถึงนั้นต้องปลีกเวลามาเพื่อยกใจให้ตั้งไว้ในศรัทธาและตั้งเจตนาของตนเท่านั้น หากเปรียบเป็นการเดินทาง


ขณะใดที่เรายกใจไว้บนศรัทธา เท่ากับ เราได้ซื้อตั๋วเครื่องบินแล้ว และ

เมื่อใดที่เราตั้งอยู่ในเจตนา เท่ากับ เราได้ทำวีซ่าแล้ว


แต่ทุกวันนี้เราไม่เคยยกใจ และไม่เคยศรัทธา แต่อาศัยความคุ้นหน้าคุ้นตาโอภาปราศรัย จิตใจเลยเป็นไปอย่างนั้นอย่างนี้ มีความชอบ มีความชัง จะเดิน ยืน ลุกนั่ง ก็เป็นไปตามอำนาจของกิเลส


ฉะนั้นไม่ว่าเมื่อใด ไม่ว่าใครที่มีความเลื่อมใสศรัทธา และตั้งเจตนาอย่างแน่วแน่ว่าจะใช้ชีวิตอยู่ในวิปัสสนาธุระ หรือมัคคพรหมจรรย์ อันเป็นกิจสำคัญของพระพุทธศาสนา เท่ากับ ว่าบุคคลผู้นั้นกำลังดำเนินชีวิตเพื่อเป็นคนดีของตถาคตเจ้า

เพราะเขากำลังทำพระประสงค์ของพระพุทธเจ้าให้สำเร็จลุล่วงตามที่พระพุทธองค์ทรงปรารถนา ดังนั้นเราสามารถสอบถามตนเอง ได้ว่าเราเป็นคนดีหรือยัง และการที่เราประกาศตนเองว่า


"สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ"

นั้น เราทำหรือยัง :b8:

.....................................................
อิมาหัง ภะคะวา อัตตะภาวัง ตุมหากัง ปะริจจะชามิฯ
ข้าแต่องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า ข้าพระพุทธเจ้าขอมอบกายถวายชีวิต แด่พระพุทธเจ้า แด่พระธรรม แด่พระสงฆ์ นับแต่บัดนี้ตราบจนเข้าสู่พระนิพพาน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 พ.ค. 2009, 22:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ก.พ. 2009, 20:49
โพสต์: 3979

แนวปฏิบัติ: พอง-ยุบ
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
ชื่อเล่น: นนท์
อายุ: 42
ที่อยู่: นครสวรรค์

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:

อนุโมทนาสาธุกับคำตอบของคุณฌาณด้วยครับ

:b8: :b8: :b8:

.....................................................
แม้มิได้เป็นสุระแสงอันแรงกล้า ส่องนภาให้สกาวพราวสดใส
ขอเป็นเพียงแสงแห่งดวงไฟ ส่องทางให้มวลชนบนแผ่นดิน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 พ.ค. 2009, 12:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 เม.ย. 2009, 19:55
โพสต์: 548

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


หาต่อไปนะเพื่อนนะ... อย่าย่อท้อ...
ตาดีได้ ตาร้ายเสีย
ตัวใครตัวมัน...
:b4: :b4: :b4:

แต่ถ้าจะให้เราชี้โพรงให้กระรอกจริง ๆ
เพื่อนก็ส่องกระจกนะ....เพื่อนนะ
เพื่อนเห็นใคร..เพื่อนก็จับไอ้นั้นล่ะครับ...
ทำให้มันกลายเป็นพระสงฆ์...ที่เพื่อนอยากพบให้ได้...
เพื่อนจะได้ไม่ต้องไปลำบากควานหาพระ...ก๊ะไหน...
:b4: :b4: :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 พ.ค. 2009, 21:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 เม.ย. 2008, 13:18
โพสต์: 1367

ที่อยู่: bangkok

 ข้อมูลส่วนตัว


วรานนท์ เขียน:
:b8: :b8: :b8:

พระสงฆ์มีสองสงฆ์ครับ
๑ พระอริยะสงฆ์มีอยู่ในสมัยครั้งพุทธกาล
๒ สมมติสงฆ์ สงฆ์ที่สมมติขึ้นมามีอยู่ในปัจจุบันนี้
คุณ nat. อยากรู้สงฆ์ไหนกันครับ

:b8: :b8: :b8:

สงฆ์ที่เรามั่นใจได้ว่านี่แหละ สงฆ์

.....................................................
ตั้งสติไว้ มองความจริงตามความเป็นจริง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 พ.ค. 2009, 21:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 เม.ย. 2008, 13:18
โพสต์: 1367

ที่อยู่: bangkok

 ข้อมูลส่วนตัว


yahoo เขียน:
หาต่อไปนะเพื่อนนะ... อย่าย่อท้อ...
ตาดีได้ ตาร้ายเสีย
ตัวใครตัวมัน...
:b4: :b4: :b4:

แต่ถ้าจะให้เราชี้โพรงให้กระรอกจริง ๆ
เพื่อนก็ส่องกระจกนะ....เพื่อนนะ
เพื่อนเห็นใคร..เพื่อนก็จับไอ้นั้นล่ะครับ...
ทำให้มันกลายเป็นพระสงฆ์...ที่เพื่อนอยากพบให้ได้...
เพื่อนจะได้ไม่ต้องไปลำบากควานหาพระ...ก๊ะไหน...
:b4: :b4: :b4:


:b35: :b35: :b35:
ยิงแม่นจริงๆเลยสหายเรา...คราวหลังสอนบ้างนะเล็งกันยังไง... :b13:

.....................................................
ตั้งสติไว้ มองความจริงตามความเป็นจริง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 พ.ค. 2009, 21:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 เม.ย. 2008, 13:18
โพสต์: 1367

ที่อยู่: bangkok

 ข้อมูลส่วนตัว


ท่านฌาณเข้าใจอยู่ในแนวทางที่กระผมคิดจริงๆครับ... :b8:

เกิดปิติครับหลังจากอ่านโพสของท่าน.... :b13: เหมาะสมแล้วครับกับหัวโขนที่สวมอยู่ตอนนี้ :b32:
ภูมิใจนะครับที่ได้ดาวดวงแรกวันเดียวกับท่านฌาณ...ถึงแม้ว่าตอนนี้ท่านจะทะลุ 10 ดวงไปนานแล้ว แต่จิตกระผมยังยินดีกะท่านอยู่เลย

.....................................................
ตั้งสติไว้ มองความจริงตามความเป็นจริง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 พ.ค. 2009, 22:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 พ.ค. 2008, 20:48
โพสต์: 27

ที่อยู่: surin

 ข้อมูลส่วนตัว


"อยู่ที่ ?" :b32:

.....................................................
พุทโธ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 พ.ค. 2009, 08:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 เม.ย. 2009, 19:55
โพสต์: 548

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


natdanai เขียน:
:b35: :b35: :b35:
ยิงแม่นจริงๆเลยสหายเรา...คราวหลังสอนบ้างนะเล็งกันยังไง... :b13:


อันนี้ต้องไปถามท่านบัว......
เพราะผมก็เรียนมาจากเขา......
:b32: :b32: :b32:


แก้ไขล่าสุดโดย yahoo เมื่อ 25 พ.ค. 2009, 06:56, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 พ.ค. 2009, 12:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 เม.ย. 2008, 13:18
โพสต์: 1367

ที่อยู่: bangkok

 ข้อมูลส่วนตัว


yahoo เขียน:
หาต่อไปนะเพื่อนนะ... อย่าย่อท้อ...
ตาดีได้ ตาร้ายเสีย
ตัวใครตัวมัน...
:b4: :b4: :b4:

แต่ถ้าจะให้เราชี้โพรงให้กระรอกจริง ๆ
เพื่อนก็ส่องกระจกนะ....เพื่อนนะ
เพื่อนเห็นใคร..เพื่อนก็จับไอ้นั้นล่ะครับ...

ทำให้มันกลายเป็นพระสงฆ์...ที่เพื่อนอยากพบให้ได้...
เพื่อนจะได้ไม่ต้องไปลำบากควานหาพระ...ก๊ะไหน...
:b4: :b4: :b4:


:b8: :b8: :b8:
กลับไปส่องดูแล้ว...เห็น หลวงปู่โต.... :b20: :b20:
กระจกนี่เองคือสงฆ์.... :b13:

.....................................................
ตั้งสติไว้ มองความจริงตามความเป็นจริง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 พ.ค. 2009, 17:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ม.ค. 2009, 09:03
โพสต์: 81


 ข้อมูลส่วนตัว


:b12: พระสูตรนี้พอจะเป็นสงฆ์ในความหมายของคุณได้หรือเปล่านะ ถ้าใช่ เจออย่างนี้ที่ไหนก็กราบไหว้ได้อย่างเต็มหัวใจ


พระสุตตันตปิฎก อังคุตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต เล่ม ๔ - หน้าที่ 93

๖. ทุติยสขาสูตร
[๓๔] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยธรรม ๗
ประการควรเสพ ควรคบเป็นมิตร ควรเข้าไปนั่งใกล้ แม้ถูกขับไล่
ธรรม ๗ ประการเป็นไฉน คือ
ภิกษุเป็นที่รักใคร่พอใจ ๑
เป็นที่เคารพ ๑
เป็นผู้ควรสรรเสริญ ๑
เป็นผู้ฉลาดพูด ๑
เป็นผู้อดทนต่อถ้อยคำ ๑
พูดถ้อยคำลึกซึ้ง ๑
ไม่ชักนำในทางที่ไม่ดี ๑
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยธรรม ๗ ประการนี้แล ควรเสพ
ควรคบเป็นมิตร ควรเข้าไปนั่งใกล้ แม้ถูกขับไล่.
ภิกษุเป็นที่รักใคร่ พอใจ เป็นที่เคารพ
ควรสรรเสริญ ฉลาดพูด อดทนต่อถ้อยคำ พูด
ถ้อยคำลึกซึ้ง ไม่ชักนำในทางที่ไม่ดี ฐานะเหล่านี้
มีอยู่ในภิกษุใด ภิกษุนั้นเป็นมิตรแท้ มุ่งอนุเคราะห์
แต่สิ่งที่เป็นประโยชน์ ผู้ประสงค์จะคบมิตร ควร
คบมิตรเช่นนั้น แม้จะถูกขับไล่.
จบ สขาสูตรที่ ๖


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 พ.ค. 2009, 20:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 มิ.ย. 2008, 22:48
โพสต์: 1173


 ข้อมูลส่วนตัว


พระพุทธเจ้าท่านตรัสสอนไว้ว่า :

" ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ผู้ไดไม่เห็นธรรมผู้นั้นไม่เห็นเรา แม้จะจับชายจีวรเราอยู่ จับมือเราอยู่ ก็ไม่ได้ชื่อว่าเห็นธรรม ไม่ได้ชื่อว่าเห็นเรา"

1. โดยนัยนี้ พระพุทธองค์จึงหมายถึงว่า ผู้เป็นพระสงฆ์ คือ ผู้ปฏิบัติจนเข้าถึงโสดาบันหรือกว่านั้นขึ้นไปแล้ว เพราะ

พระอาจารย์มั่น ภูริทัตตมหาเถระท่านเทศน์ว่า

"สรณะทั้ง ๓ คือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ มิได้เสื่อมสูญอันตรธานไปไหน ยังปรากฏอยู่แก่ผู้ปฏิบัติเข้าถึงอยู่เสมอ ผู้ใดยึดถือเป็นที่พึ่งของตนแล้ว ผู้นั้นจะอยู่ในกลางป่า หรือเรือนว่างก็ตาม สรณะทั้งสามก็ปรากฏแก่เราอยู่ทุกเมื่อ"

นั่นคือ ผู้ปฏิบัติจะได้พบสรณะทั้ง ๓ (พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์)

2. แล้วหลวงปู่ตื้อ อจลธมฺโม ก็เทศน์ว่า

"พระนิพพานมีอยู่ไม่เสื่อมสูญ พระพุทธเจ้าเข้าพระนิพพานก็มีอยู่ในพระนิพพานนั้นแล ถ้าเราเป็นพระอรหันต์ พระโสดาบันเมื่อไร เมื่อนั้นแหละจึงจะเห็นจะรู้ที่อยู่พระพุทธเจ้า ที่อยู่ของพระอรหันต์เจ้าทั้งหลาย"

โดยนัยนี้ ผู้ที่จะเรียกว่าพระสงฆ์จึงต้องเป็นพระโสดาบันหรือกว่านั้นขึ้นไป

สรุป

ใครก็ได้ ไม่ว่าจะนุ่งผ้าเหลืองหรือไม่นุ่งก็ตาม แต่ขอให้เป็นนักปฏิบัติ จนเข้าถึงพระโสดาบันหรือกว่านั้นขึ้นไป จึงจะเรียกว่า "พระสงฆ์"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 พ.ค. 2009, 06:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 เม.ย. 2009, 19:55
โพสต์: 548

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


natdanai เขียน:
:b8: :b8: :b8:
กลับไปส่องดูแล้ว...เห็น หลวงปู่โต.... :b20: :b20:
กระจกนี่เองคือสงฆ์.... :b13:


เห็นเช่นนั้นแล้ว...ก็ควรรีบทุบทิ้งซะ
กระจกไร้ค่าเช่นนี้...จะเก็บเอาไว้ส่องไปทำไม

:b4: :b4: :b4:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 15 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 39 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร