วันเวลาปัจจุบัน 20 เม.ย. 2024, 21:27  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 12 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 พ.ค. 2009, 08:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 พ.ค. 2009, 16:59
โพสต์: 79

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


พ่อแม่สอนลูกเป็นล้านคำได้ แต่ลูกบอกพ่อแม่ 2 - 3 คำก็ยาก

พ่อแม่เป็นครูคนแรกของลูก สอนให้ลูกพูดได้ทุกอย่าง ลูกสงสัยอะไรล้านคำถาม พ่อแม่ก็ตอบให้ล้านคำตอบ เช่น

ฉากที่ 1
ลูกตัวเล็กๆ กำลังหัดพูด หยิบปากกาขึ้นมาแล้ว ถามแม่ว่า " อันนี้ อะไย "
แม่ตอบว่า " ปากกา "
ลูก " ปะ กา "
ลูกหยิบปากกาสีแดง อีกด้ามหนึ่งขึ้นมา แล้วถามแม่อีกว่า " อันนี้ อะไย "
แม่ตอบอีกว่า " ปากกา "
ลูก " ปะ กา "
แม่ " อันนี้ ก็ ปากกา อันนั้น ก็ปากกา เหมือนกัน เอาไว้เขียน คนละยี่ห้อ "
ลูก " คงละยี่ห้อ ยี่ห้อ อะไย "
ฯลฯ
สรุปว่า แม่ต้องตามตอบคำถามลูกเป็นล้านคำถาม ซึ่งก็ต้องตอบจนลูกพูดได้คล่อง


ฉากที่ 2

เมื่อแม่อายุมากขึ้น ตาก็ไม่ดี หูก็ไม่ดี การรับรู้ช้ากว่าเดิม ลูกได้จัดวาง ยาหม่อง ยาดม ครีมนวดริมฝีปาก วางไว้ใกล้ตัว แล้วบอกแม่ว่า ของ 3 อย่างวางไว้ตรงไหน

สักครู่แม่คลำดูของที่อยู่ข้างตัว สายตามองไม่ชัด จึงถามลูกว่า " อันนี้ อะไร ลูก "
ลูกตอบว่า " ยาหม่อง "
แม่ถามอีก " อันนี้ อะไร ลูก "
ลูกตอบว่า " ยาดม "
เวลาผ่านไปสักครู่หนึ่ง แม่หยิบขวดขึ้นมาอีกถามลูกว่า " อันนี้ อะไร ลูก "
ลูก เริ่มรู้สึกโมโห เพราะแม่ถามบ่อย จึงตะคอกด้วยเสียงอันดัง ตอบไปว่า " ยาหม่อง รู้ไหมยาหม่อง ถามซ้ำซากอยู่ได้ "
แม่เงียบ สีหน้าไม่ค่อยดี นิ่งไปพักหนึ่ง
ลูก ถามแม่ว่า " ทำไม แม่สีหน้าไม่ค่อยดีเลย "
แม่ ตอบด้วยเสียงอันสั่นเครือว่า " เวลา ลื้อถามอั๊วตอนเล็กๆ ล้านคำ อั๊วตอบลื้อได้ทั้งล้านคำ แต่เวลาอั๊วถามลื้อ 2 - 3 คำ ทำไมลื้อต้องโกรธอั๊วด้วย "

สุรปว่า
1.ให้ผู้อ่านคิดเอาเอง ว่า พ่อแม่มีบุญคุณต่อลูกมากเพียงใด นี่ยกมาเพียงกรณีเดียว ดัง นั้น เมื่อทำบุญหรือให้ทานกับพ่อแม่ จึงมีอานิสงส์เกิดกับลูกได้มากเหมือนกับทำบุญกับพระอรหันต์ เพราะพ่อแม่ของใครก็เป็นพระอรหันต์ของคนคนนั้น

2.ถ้าพ่อแม่ของใครยังมีชีวิตอยู่ โปรดรีบทำความดีทุกอย่างตอบแทนคุณท่านโดยรีบด่วน ก็จะสายเกินไปและหมดโอกาสที่จะตอบแทนคุณท่าน เพราะเมื่ออายุของท่านมากขึ้น ท่านอาจจะจากเราไปอย่างกระทันหันโดยที่เราคาดคิดไม่ถึงก็ได้

* เอาใจใส่คนในครอบครัวบ้างนะครับ *


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 พ.ค. 2009, 08:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 พ.ย. 2008, 12:29
โพสต์: 814

ที่อยู่: กรุงเทพฯ

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ
(1)บอกวันเกิด หนูซื้อขนม 2 ห่อ เรียกพ่อแม่มาคู่กันแล้วกราบนะลูกนะ พ่อก็เมา แม่ก็บอกเดี๋ยวจะรีบไปวัด ลูกก็บอกเดี๋ยว ... พระพุทธองค์ทรงแสดงไว้ว่า ลูกจะให้แม่นั่งบนบ่าขวา ให้พ่อนั่งบนบ่าซ้าย ถ่ายอุจจาระปัสสาวะลงไปบนบ่าลูก ลูกเป็นผู้เช็ดให้ หาอาหารมาป้อนให้ ... ตัวเราพ่อให้หัวใจแม่ให้น้ำเลือดน้ำเหลืองแล้วอยู่ในตัวเรา ...

(2)ในมาตาปิตุคุณสูตร พระพุทธองค์แสดงไว้ว่า ลูกจะให้แม่นั่งบนบ่าขวา ให้พ่อนั่งบนบ่าซ้าย ถ่ายอุจจาระปัสสาวะรดลงไปบนบ่าลูก ลูกเป็นผู้เช็ดให้ หาอาหารมาป้อนให้ ... ก็ไม่สามารถจะตอบแทนพระคุณค่าป้อนข้าวป้อนน้ำนมที่ท่านได้ถนอมกล่อมเกลี้ยงบำรุงเลี้ยงมาอย่างดีได้ ...

(3) “หนามแหลมใครเสี้ยม มะนาวกลมเกลี้ยงใครไปกลึง” เด็กประถม ๔ พ่อเมาเหล้า เมากัญชาเล่นการพนัน แม่เล่นหวย ปัจจุบันเป็นดอกเตอร์อยู่อเมริกา หลวงพ่อสอนครั้งเดียวจำได้ บอกวันเกิด หนูซื้อขนม ๒ ห่อ เรียกพ่อแม่มานั่งคู่กัน แล้วกราบนะลูกนะ แล้วก็บอกพ่อแม่ว่า ความผิดอันใดที่ลูกพลั้งเผลอ ด้วยกาย วาจา ใจ ที่คิดไม่ดีต่อคุณพ่อคุณแม่ ขอให้คุณพ่อคุณแม่อโหสิกรรมให้ แล้วล้างเท้าให้พ่อแม่ ลูกไม่มีสตางค์ ลูกซื้อขนมมา ๒ ห่อ ให้แม่ก่อน ๑ ห่อ เพราะอุ้มท้องมา แล้วจึงให้พ่ออีก ๑ ห่อ ลูกขอปฏิญาณตนว่า ลูกขอเป็นลูกที่ดีของพ่อแม่ แล้วจะเป็นศิษย์ที่ดีของครูบาอาจารย์ ลูกจะไม่ทำให้พ่อแม่ผิดหวัง...พ่อฟังแล้วน้ำตาร่วงสร่างเมา ส่วนแม่ก็ร้องไห้เลย พ่อแม่ก็ให้สัญญากับลูกเลิกอบายมุขทั้งหมด ]...

(4.) ลูกหลานโปรดจำไว้ เมื่อแยกครอบครัวไปมีสามีภรรยาแล้ว อย่าลืมไปหาพ่อแม่ ถึงวันว่างเมื่อไรต้องไปหาพ่อแม่ ถึงวันเกิดของลูกหลาน อย่าลืมเอาของไปให้พ่อแม่รับประทาน อย่ากินเหล้า เข้าโฮเต็ล ฯ


ดูที่นี่ก็ได้เหมือนกัน==>http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=13852

.....................................................
"มีสติเป็นเรือนจิต ใช้ชีวิตเป็นเรือนใจ ใช้ปัญญาเป็นแสงสว่างส่องทางเดินไปเถิด จะได้ล้ำเลิศในชีวิตของท่าน มีความหมายอย่างแท้จริง"
ในการปฏิบัติธรรม หลวงพ่อท่านบอกว่า ให้ตัดปลิโพธกังวลใจทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ลูก สามี ภรรยา ความวุ่นวายทั้งหลายทั้งปวง อย่าเอามาเป็นอารมณ์ จากหนังสือ: เจริญกรรมฐาน7วันได้ผลแน่นอน หัวข้อ12: ระงับเวรด้วยการแผ่เมตตา


แก้ไขล่าสุดโดย อินทรีย์5 เมื่อ 30 พ.ค. 2009, 10:57, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 พ.ค. 2009, 10:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 มิ.ย. 2008, 22:48
โพสต์: 1173


 ข้อมูลส่วนตัว


พ่อและแม่ส่วนมากก็เป็นอรหันต์ของลูก

แต่พ่อและแม่บางคนก็เสือเป็นงูคอยกัดคอยฉกลูกนะครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 พ.ค. 2009, 12:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 พ.ย. 2008, 12:29
โพสต์: 814

ที่อยู่: กรุงเทพฯ

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
แต่พ่อและแม่บางคนก็เสือเป็นงูคอยกัดคอยฉกลูกนะครับ

พ่อแม่และลูกที่ไม่ถูกกัน บางคนเป็นศัตรูก็เนื่องด้วยเคยเป็นเจ้าเวรนายกรรมกันมาแต่ปางก่อน
ทำให้พอเจอหรือเกิดในชาติเดียวกันเป็นพ่อแม่ลูก ลูกก็คิดจะทำร้ายจองผลาญพ่อแม่ หรือไม่ก็พ่อแม่
ก้คิดจะเล่นงานทำไม่ดีกับลูก ซึ่งเมือ่เป็นแบบนี้จะเกิดอีกกี่ชาติก็ต้องมาจ้องอาฆาตกัน ทำร้ายไม่รู้จักหมด
จักสิ้น ถึงมีคำพูดที่ว่า ."พ่อแม่ดีทำบุญให้กับลูกไม่ดีกลับกลายเป็นคนดีได้ ถ้าลูกดีก็ทำบุญให้กับพ่อแม่ที่ไม่ดีให้กลับมาเป็นคนดีเลื่อมใสในพุทธศาสนาได้เหมือนกัน" :b39:

.....................................................
"มีสติเป็นเรือนจิต ใช้ชีวิตเป็นเรือนใจ ใช้ปัญญาเป็นแสงสว่างส่องทางเดินไปเถิด จะได้ล้ำเลิศในชีวิตของท่าน มีความหมายอย่างแท้จริง"
ในการปฏิบัติธรรม หลวงพ่อท่านบอกว่า ให้ตัดปลิโพธกังวลใจทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ลูก สามี ภรรยา ความวุ่นวายทั้งหลายทั้งปวง อย่าเอามาเป็นอารมณ์ จากหนังสือ: เจริญกรรมฐาน7วันได้ผลแน่นอน หัวข้อ12: ระงับเวรด้วยการแผ่เมตตา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 พ.ค. 2009, 14:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ก.พ. 2009, 20:49
โพสต์: 3979

แนวปฏิบัติ: พอง-ยุบ
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
ชื่อเล่น: นนท์
อายุ: 42
ที่อยู่: นครสวรรค์

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:

มาตา มิตฺตํ สเก ฆเร
มารดาเป็นมิตรในเรือนของตน


:b8: :b8: :b8:

.....................................................
แม้มิได้เป็นสุระแสงอันแรงกล้า ส่องนภาให้สกาวพราวสดใส
ขอเป็นเพียงแสงแห่งดวงไฟ ส่องทางให้มวลชนบนแผ่นดิน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 พ.ค. 2009, 14:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 พ.ค. 2009, 08:58
โพสต์: 32

ที่อยู่: ออสเตรเลีย

 ข้อมูลส่วนตัว


อ่านแล้วเตือนสติลูกๆดีจริงๆเลยค่ะ
ขอบคุณมากนะคะ

:b1: :b41: :b45: :b8:

.....................................................
พูดดี คิดดี ทำดี


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 พ.ค. 2009, 16:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 เม.ย. 2009, 19:55
โพสต์: 548

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


พลศักดิ์ วังวิวัฒน์ เขียน:
คุณอินทรีย์5 ครับ

ลูกก็ย่อมมีสิทธิต่อว่าหรือต่อยพ่อตัวเองได้.....จริงไหมครับ

เมื่อพ่อแม่ไม่ทำตัวเป็นอรหันต์ของลูกแล้ว ลูกจะเป็นคนดีของสังคม คงทำได้ยากมาก


ใครเป็นพ่อ เป็นแม่...อ่านประโยคนี้แล้วควรฉุกคิดให้มาก ๆ
วาจาอาจจะโหดไปนิด...นะท่าน
แต่ ok ผมรับได้ครับ...เพราะจริง ๆ ผมมันก็ชอบอะไรแนว ๆ นี้ล่ะ

นี่คุณคิดจะอยู่รอจนถึงยุคพระศรีฯ จริง ๆ หรือครับ
ไม่คิดจะหาทางไปก่อนเลยหรือครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 พ.ค. 2009, 22:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ม.ค. 2009, 09:03
โพสต์: 81


 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
แม้ว่าการที่เรามีพ่อแม่ไม่ดีเป็นเรื่องของกรรมเก่า พ่อแม่อาจจะเป็นเจ้ากรรมนายเวรของเรา เมื่อเขาทำกรรมไม่ดี เช่น เอาปืนมายิงลูกอีกคน หรือเอาลูกไปขายซ่อง ลูกก็ย่อมมีสิทธิต่อว่าหรือต่อยพ่อตัวเองได้.....จริงไหมครับ


:b25: ทำไมคิดอย่างนั้นเสียหละ ท่าน...สงสัยจะเคยต่อยพ่อแน่เลย ให้คิดทำแบบนั้นก็แย่ซิพระพุทธองค์ไม่ได้สอนอย่างนี้เสียหน่อย มีตรงไหน ละนี่ ...จริงใจหรือจิงโจ้พูดเนี๋ย....เด็กมาอ่านเข้าไม่ดีนะท่าน....แก้ไขกระทู้เสียนะท่าน...

อ้างคำพูด:
นี่คุณคิดจะอยู่รอจนถึงยุคพระศรีฯ จริง ๆ หรือครับ
ไม่คิดจะหาทางไปก่อนเลยหรือครับ

โฮ ! อย่างนั้นจริงเหรอ :b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 พ.ค. 2009, 00:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 ก.ค. 2008, 14:47
โพสต์: 1562

อายุ: 0
ที่อยู่: หิมพานต์

 ข้อมูลส่วนตัว www


อ้างคำพูด:
แม้ว่าการที่เรามีพ่อแม่ไม่ดีเป็นเรื่องของกรรมเก่า พ่อแม่อาจจะเป็นเจ้ากรรมนายเวรของเรา เมื่อเขาทำกรรมไม่ดี เช่น เอาปืนมายิงลูกอีกคน หรือเอาลูกไปขายซ่อง ลูกก็ย่อมมีสิทธิต่อว่าหรือต่อยพ่อตัวเองได้.....จริงไหมครับ


:b7: :b7: :b7:

น หิ เวเรน เวรานิ สมฺมนฺตีธ กุทาจนํ
อเวเรน จ สมฺมนฺติ เอส ธมฺโม สนนฺตโน



“ในกาลไหนๆ เวรทั้งหลายในโลกนี้ ย่อมไม่ระงับด้วยเวรเลย ก็แต่ย่อมระงับได้ด้วยความไม่มีเวร ธรรมข้อนี้เป็นของเก่า”


เพราะฉะนั้นผู้หวังความสันติสุขความปราศจากเวรภัยก็จงอย่าถือคติอธรรมที่ว่า

“ความแค้นต้องชำระ”

เหมือนหนังจีนที่เคยได้ดูมาแล้ว ส่วนคติที่ว่า

“บุญคุณต้องทดแทน”

นั้น เป็นคติของฝ่ายคุณธรรม แต่คติที่ว่า “ความแค้นต้องชำระ” นั้น เป็นคติข้างฝ่ายอธรรม ที่มีแต่จะนำโทษและความทุกข์เดือดร้อนมาให้ เหมือนหนังจีนนั้นแหละ

นี่ว่าแต่เฉพาะที่เห็นๆ กันอยู่ในภพชาติในปัจจุบันนี้ การก่อเวรและการจองเวรซึ่งกันและกัน ก็ทำให้เดือดร้อนกันหนักอยู่แล้ว แทบจะไม่ต้องกล่าวถึงเวรกรรมที่ให้ผลในภพชาติต่อๆ ไป ซึ่งเป็นเรื่องที่ปุถุชนยังมองไม่เห็น ส่วนพระอริยเจ้าหรือผู้ทรงคุณธรรมสูง ที่ได้ศึกษาและปฏิบัติธรรมจนมีประสบการณ์ดีแล้วพอสมควร จึงย่อมเห็นผลของการก่อเวรและการจองเวรซึ่งกันและกัน เป็นโทษ และความทุกข์เดือดร้อนต่อๆ ไปนับภพนับชาติไม่ถ้วน ท่านจึงเลิกละการก่อเวร และ/หรือหากเคยมีเวรต่อกันเพราะความประมาท ท่านก็จะกระทำให้เวรนั้นสงบระงับลงด้วยความไม่จองเวร
เพราะท่านเห็นสัจจธรรมว่า


เวรนั้น ย่อมไม่ระงับด้วยการจองเวรต่อกัน แต่ย่อมระงับได้ด้วยการไม่จองเวร

เปรียบดังว่า พื้นที่เปรอะเปื้อนด้วยของไม่สะอาด ด้วยสิ่งสกปรก เน่าเหม็น เช่น เต็มไปด้วยน้ำลาย เสมหะ และอุจจาระ ปัสสาวะ เป็นต้น ย่อมไม่อาจจะชำระล้างให้สะอาด ให้หมดกลิ่นเหม็นได้ ด้วยน้ำที่ไม่สะอาด ด้วยสิ่งสกปรกเช่นนั้น ฉันใด เวรย่อมไม่อาจให้สงบระงับได้ด้วยการจองเวร หรือทำเวรโต้ตอบกัน ฉันนั้น

ส่วน พื้นที่ๆ เปรอะเปื้อนด้วยของไม่สะอาด ด้วยสิ่งสกปรก อันมีน้ำลาย เสมหะเป็นต้น ย่อมทำให้สะอาดได้ ด้วยการชำระล้างด้วยน้ำที่สะอาด ฉันใด เวรย่อมสงบระงับ คือ ไม่มีได้ด้วยความไม่มีเวร คือไม่จองเวรต่อกัน กล่าวคือ ด้วยน้ำใจที่เข้มแข็งด้วยขันติ และเปี่ยมด้วยเมตตาธรรม ด้วยความกระทำไว้ในใจ และด้วยการพิจารณาเห็นโทษของเวรภัย และเห็นคุณของความไม่มีเวรภัยต่อกัน

“ก็ชนเหล่าใดเข้าไปผูกความโกรธนั้นไว้ว่า ‘ผู้โน้นได้ด่าเรา ผู้โน้นได้ทุบตีเรา ผู้โน้นได้ชนะเรา ผู้โน้นได้ลักของเราแล้ว’ เวรของชนเหล่านั้น ย่อมไม่สงบระงับได้

ส่วนชนเหล่าใดไม่เข้าไปผูกความโกรธนั้นไว้ว่า ‘ผู้โน้นได้ด่า(หรือปรามาส)เรา ผู้โน้นได้ทุบตีเรา ผู้โน้นได้ชนะเรา ผู้โน้นได้ลัก (หรือฉ้อโกงเอา) สิ่งของๆ เราแล้ว’ เวรของชนเหล่านั้นย่อมระงับได้”

:b8:

.....................................................
อิมาหัง ภะคะวา อัตตะภาวัง ตุมหากัง ปะริจจะชามิฯ
ข้าแต่องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า ข้าพระพุทธเจ้าขอมอบกายถวายชีวิต แด่พระพุทธเจ้า แด่พระธรรม แด่พระสงฆ์ นับแต่บัดนี้ตราบจนเข้าสู่พระนิพพาน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 พ.ค. 2009, 12:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 มิ.ย. 2008, 22:48
โพสต์: 1173


 ข้อมูลส่วนตัว


คุณ nene และคุณ ฌาณ ครับ



ผมพูดถึงในโลกของความจริง มีครอบครัวจำนวนหนึ่งเท่านั้นที่พ่อแม่เป็นอรหันต์ของลูก บางรอบครัวพ่อแม่ก็แค่เป็นพรหมของลูก เป็นเทวดาของลูก บางครอบครัวพ่อแม่ก็เป็นสัตว์นรกของลูกก็มี

อย่างครอบครัวคุณวิกรม กรมดิษฐ์ พ่อเอาปืนยิงลูก ด่าลูกเหมือนหมูเหมือนหมาทุกวัน เมื่อพ่อแม่ไม่ทำตัวเป็นอรหันต์ของลูก แต่ทำตัวเป็นสัตว์นรกของลูกแล้ว ลูกก็มีสิทธิตอบโต้พ่อได้เหมือนกัน คุณวิกรมแกต่อยพ่อแกเลย กะจะเอาปืนยิงด้วยซ้ำไป

ปัจจุบันคุณวิกรมก็เป็นคนดีของสังคมไม่ใช่หรือครับ ส่วนไอ้ตัวพ่อมันก็ยังเลวเหมือนเดิม


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 พ.ค. 2009, 12:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 พ.ค. 2009, 15:27
โพสต์: 16

ที่อยู่: จังหวัดระยอง

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:
ขออนุโมทนาค่ะ

อ่านแล้วคิดถึงคุณพ่อคุณแม่
:b44: :b44: :b44:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 17:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 เม.ย. 2009, 06:18
โพสต์: 731

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอกราบอนุโมทนาบุญครับ สาธุ............... :b8:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 12 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 13 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร