วันเวลาปัจจุบัน 19 มี.ค. 2024, 14:35  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กระทู้นี้ถูกล็อก คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความ หรือ ตอบกลับในกระทู้นี้  [ 10 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 มิ.ย. 2009, 01:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 มิ.ย. 2009, 17:37
โพสต์: 123


 ข้อมูลส่วนตัว


คุณwalaipornครับ


ถามนะคะว่า ศิล สมาธิ ปัญญา โดยสภาวะคืออะไร ?

แล้วทำไมต้องมี ศิล สมาธิ ปัญญา เข้าไปเกี่ยวข้องด้วย ?

กรุณาช่วยตอบเฉพาะเรื่องที่ถามนะคะ เรื่องอื่นๆไม่ต้องสาธยายแล้วค่ะ




ตอบ....คุณเอาความจริงระดับไหนล่ะครับ

ระดับโลกียะธรรม (หรือระดับของมนุษย์) หรือระดับโลกุตตระ หรือระดับอนุตรสัมมาสัมโพธิ ผมมีชื่อว่า ใบไม้นอกกำมือ ผมจึงขอตอบแบบระดับอนุตรสัมมาสัมโพธิไปเลยแล้วกัน

พวกเราแต่ละคนล้วนเป็นพุทธะ(อณูของพระเจ้า) เมื่อเราตัดสินใจว่าจะออกจากนิพพาน ไม่ทรงภาวะอมตะและไม่มีทุกข์ของเรา เพื่อมาใช้ชีวิตในภพภูมิอื่น(3ภพ) เราจึงจำเป็นต้องกำหนดกฎแห่งกรรม หรือกฎแห่งการละเมิดบุคคลอื่นขึ้นมา ทั้งนี้เพื่อจะให้ดวงจิตของเราเข้าสู่ภพภูมิที่เหมาะสมของมัน นอกจากนี้ เรายังกำหนดกฎแห่งการกลับไปเป็นพระเจ้า(พุทธะ) คือ การได้ปัญญาเข้าถึงพุทธะเอาไว้ด้วย

ศีล สมาธิ ปัญญา เป็นบันไดแต่ละขั้นที่จะนำเราไปสู่ภพภูมิต่างๆ รวมทั้งกลับเข้านิพพาน
คนมีศีลเป็นบันได้แรกที่จะนำเราไปสวรรค์ สมาธิเป็นบันได้ขั้น 2 ที่จะนำเราไปสู่ความเป็นพรหม ส่วนปัญญาบันได้ขั้น 3 ซึ่งจะเข้าถึงได้จากการเจริญวิปัสสนาด้วยวิธีใดวิธีหนึ่ง

สรุป

ศีล สมาธิ ปัญญา โดยสภาวะสูงสุดเป็นสิ่งไร้สาระ เพราะทุกอย่างมันว่างเปล่า และเป็นมายา

เราต้องมี ศิล สมาธิ ปัญญา เพื่อเป็นบันไดแต่ละขั้นในการปรับปรุงจิตของเราให้ดีขึ้นเรื่อยๆ จนกลับเข้าไปเป็นพุทธะได้ นอกจากนี้ เราต้องเข้าไปอยู่ในภพภูมิอื่น จึงต้องมี ศิล สมาธิ ปัญญา เป็นตัวนำเราไป พูดง่ายๆ เราต้องสะสมบารมีให้เพียงพอ เพื่อจะหาทางกลับเข้าไปในนิพพาน ซึ่งเป็นบ้านเก่าของเรา เพราะในจักรวาลนี้ไม่มีใครเลยนอกจากพระเจ้า(พุทธะ) ซึ่งเสพบรมสุขอยู่ในนิพพานตามลำพัง เราจึงต้องกระจายตัวออกเป็นอนันต์ และสร้างอายตนะ(ขันธ์ 5) หรือกายมารองรับความเป็นอนันต์ของเรา

หลวงตามหาบัวเทศน์ว่า ธรรมธาตุแห่งพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ล้วนเป็นหนึ่งเดียวกันเหมือนน้ำในมหาสมุทร เราเป็นเช่นนั้นแหละ พุทธะของคุณwalaipornกับพุทธะของผมและคนอื่นๆ แท้จริงก็เป้นอณูของพุทธะหรือพระพุทธเจ้า(พระเจ้า) พวกเรามาเล่นเกมอยู่ใน 3 ภพนี้เพื่อทดสอบดูว่า นิพพานของเรากับภพภูมทั้ง 3 ภพ เป็นอย่างไรบ้าง

มีสีขาวก็ต้องมีสีดำ สีแดง และสีอื่นๆไว้เปรียบเทียบ เรายังจะรู้ว่านิพพานของเราเป็นสีขาวที่สว่างและดีที่สุด


แก้ไขล่าสุดโดย suwichai เมื่อ 18 มิ.ย. 2009, 12:58, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 มิ.ย. 2009, 01:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5977

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


suwichai เขียน:
คุณwalaipornครับ


ถามนะคะว่า ศิล สมาธิ ปัญญา โดยสภาวะคืออะไร ?

แล้วทำไมต้องมี ศิล สมาธิ ปัญญา เข้าไปเกี่ยวข้องด้วย ?

กรุณาช่วยตอบเฉพาะเรื่องที่ถามนะคะ เรื่องอื่นๆไม่ต้องสาธยายแล้วค่ะ


ตอบ....คุณเอาความจริงระดับไหนล่ะครับ

ระดับโลกียะธรรม หรือระดับของมนุษย์ หรือระดับโลกุตตระ หรือระดับอนุตรสัมมาสัมโพธิ ผมมีชื่อว่า ในไม้นอกกำมือ ผมจึงขอตอบระดับอนุตรสัมมาสัมโพธิไปเลยแล้วกัน

พวกเราแต่ละคนล้วนเป็นพุทธะ(อณูของพระเจ้า) เมื่อเราตัดสินใจว่าจะออกจากนิพพาน ไม่ทรงภาวะอมตะและไม่มีทุกข์ของเรา เพื่อมาใช้ชีวิตในภพภูมิอื่น(3ภพ) เราจึงจำเป็นต้องกำหนดกฎแห่งกรรม หรือกฎแห่งการละเมิดบุคคลอื่นขึ้นมา ทั้งนี้เพื่อจะให้ดวงจิตของเราเข้าสู่ภพภูมิที่เหมาะสมของมัน นอกจากนี้ เรายังกำหนดกฎแห่งการกลับไปเป็นพระเจ้า(พุทธะ) คือการได้ปัญญาเข้าถึงพุทธะเอาไว้

ศีล สมาธิ ปัญญา เป็นบันไดแต่ละขั้นที่จะนำเราไปสู่ภพภูมิต่างๆ รวมทั้งกลับเข้านิพพาน
คนมีศีลเป็นบันได้แรกที่จะนำเราไปสวรรค์ สมาธิเป็นบันได้ขั้น 2 ที่จะนำเราไปสู่ความเป็นพรหม ส่วนปัญญาบันได้ขั้น 3 ซึ่งจะเข้าถึงได้จากการเจริญวิปัสสนาด้วยวิธีใดวิธีหนึ่ง

สรุป

ศีล สมาธิ ปัญญา โดยสภาวะสูงสุดเป็นสิ่งไร้สาระ เพราะทุกอย่างมันว่างเปล่า และเป็นมายา

เราต้องมี ศิล สมาธิ ปัญญา เพราะเราต้องเข้าไปอยู่ในภพภูมิอื่น และต้องหาทางกลับเข้าไปในนิพพาน ซึ่งเป็นบ้านเก่าของเรา เพราะในจักรวาลนี้ไม่มีใครเลยนอกจากพระเจ้า(พุทธะ) ซึ่งเสพบรมสุขอยู่ในนิพพานตามลำพัง เราจึงต้องกระจายตัวออกเป็นอนันต์ และสร้างอายตนะ(ขันธ์ 5) หรือกายมารองรับความเป็นอนันต์ของเรา

หลวงตามหาบัวเทศน์ว่า ธรรมธาตุแห่งพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ล้วนเป็นหนึ่งเดียวกันเหมือนน้ำในมหาสมุทร เราเป็นเช่นนั้นแหละ พุทธะของคุณwalaipornกับพุทธะของผมและคนอื่นๆ แท้จริงก็เป้นอณูของพุทธะหรือพระพุทธเจ้า(พระเจ้า) พวกเรามาเล่นเกมอยู่ใน 3 ภพนี้เพื่อทดสอบดูว่า นิพพานของเรากับภพภูมทั้ง 3 ภพ เป็นอย่างไรบ้าง

มีสีขาวก็ต้องมีสีดำ สีแดง และสีอื่นๆไว้เปรียบเทียบ เรายังจะรู้ว่านิพพานของเราเป็นสีขาวที่สว่างและดีที่สุด


เฮ้ออออออออ .........

นี่นะคำตอบของคุณ .... ทำไปด้ายยยยยยย ... :b5:

เชิญตามสบายนะคุ๊นนนนน ... จงอยู่ในโลกอันวิจิตรการตาของคุณต่อไปเต๊อะ :b1:

ถามอย่างหนึ่ง ... ตอบมาสามวาสองศอก .... สอบตกไปเลยตั้งแต่คำพูดแรกละ ....

เมื่อไหร่คุณจะกลับเข้าร่างก็บอกด้วยนะคะว่าร่างน่ะอยู่รพ.ไหน .. จะตามไปเยี่ยมค่ะ :b16:

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 มิ.ย. 2009, 03:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 เม.ย. 2009, 02:22
โพสต์: 83

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




.jpg
.jpg [ 43.38 KiB | เปิดดู 4126 ครั้ง ]
:b8: :b8:
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 มิ.ย. 2009, 10:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2007, 09:55
โพสต์: 1632


 ข้อมูลส่วนตัว


ถามนะคะว่า ศิล สมาธิ ปัญญา โดยสภาวะคืออะไร ?

แล้วทำไมต้องมี ศิล สมาธิ ปัญญา เข้าไปเกี่ยวข้องด้วย ?

กรุณาช่วยตอบเฉพาะเรื่องที่ถามนะคะ เรื่องอื่นๆไม่ต้องสาธยายแล้วค่ะ


ตอบ........นะขอรับว่า

สภาวะ คือ สภาพ ดังนั้น สภาพของศีล สมาธิ ปัญญา คือ นามธรรม อันมี รูปธรรม เป็นปัจจัยเกื้อหนุน หรือเป็นปัจจัยก่อให้เกิด ศีล สมาธิ ปัญญา

ศีล สมาธิ ปัญญา ย่อมเกี่ยวข้อง สัมพันธ์ ในชีวิตประจำวันของมนุษย์ทั้งหลายอยู่แล้ว ศีล ในศาสนาต่างๆ ล้วนเป็นหลักความจริง เป็นธรรมชาติของมนุษย์(ในที่นี้หมายเอาเฉพาะมนุษย์ เป็นความต้องการ หรือเป็นสิ่งที่มนุษย์ต้องการให้เกิด เพื่อความสุข ทางใจ ทางกาย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 มิ.ย. 2009, 11:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ก.ค. 2008, 15:51
โพสต์: 334

งานอดิเรก: ชอบเรื่องพลังงาน
สิ่งที่ชื่นชอบ: มิลินทปัญหา
ชื่อเล่น: อมร
อายุ: 63
ที่อยู่: 138 หมู่ที่ 1 ต.โนนคูณ อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ 36180

 ข้อมูลส่วนตัว www


ขอถามข้อเดียวเท่านั้นนะ และขอให้ตอบใหตรงประเด็นด้วย

ศีล แปลว่าอะไร และทำไมต้องมีศีล?

.....................................................
ทำบุญตั้งแต่ยังมีชีวิตอยู่ ดีกว่าตายแล้วให้เขาทำบุญอุทิศหา รักษาศีลตั้งแต่ยังมีชีวิตอยู่ ดีกว่าตายแล้วให้เขาเคาะโลงลุกขึ่นมารักษาศีล เข้าวัดตั้งแต่ยังมีชีวิตอยู่ ดีกว่าตายแล้วให้เขาหามเข้าแล้วเผาเลย ฮิฮิฮิ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 มิ.ย. 2009, 13:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 มิ.ย. 2009, 17:37
โพสต์: 123


 ข้อมูลส่วนตัว


tanaphomcinta เขียน:
ขอถามข้อเดียวเท่านั้นนะ และขอให้ตอบใหตรงประเด็นด้วย

ศีล แปลว่าอะไร และทำไมต้องมีศีล?


ผมจะตอบในหลายระดับก็แล้วกัน เดี๋ยวโดนคุณwalaipornเขม่นอีก

ศีลเป็นข้อห้ามเพื่อเอามาใช้ควบคุมกาย และวาจา ให้มีความสะอาดบริสุทธิ์ คือ ไม่พูด ไม่ทำ ให้วิปริตผิดร่องรอยจนกระทบตนเอง หรือกระทบคนอื่นให้เดือดร้อน ปัญหาคือใครเป็นคนห้ามกันล่ะ

ก็พวกเราเหล่าพุทธะก่อนออกมาเล่นเกมในโลก พวกเราได้ตั้งกติการเอาไว้ เรียกว่ากฎแห่งกรรม และสร้างสวรรค์นรกและภพภูมิอื่นๆไว้รองรับคนที่มีจิตกุศล อกุศล และอัพยากฤต(จิตเป็นกลางไม่มีทั้งกุศลอกุศล) ด้วยเหตนี้ ศาสนาอื่นๆเขาก็มีศีลเหมือนกัน เพราะศีลนั้นเป็นมโนธรรมอยู่ในจิตใต้สำนึกของเรา ในขณะที่เกมมันต้องแฟร์ มีผู้บอกหนทางทำกุศลในจิตของเรา ก็ต้องมีผู้บอกหนทางทำอกุศลในจิตของเรา และก็ต้องมีผู้บอกหนทางทำจิตเป็นกลางไม่เป็นทั้งกุศลอกุศลด้วย

ผู้ที่บอกทางให้ทำกุศล และอกุศล พระพุทธเจ้าเรียกว่าพระยามาร พระยามารทำหน้าที่ดึงพวกเราให้อยู่ใน 3 ภพต่อไป ในขณะที่ผู้ที่บอกทางให้เรากลับไปนิพพานคือ ตถาคต หรือพระพุทธเจ้า


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 มิ.ย. 2009, 14:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ก.ค. 2008, 15:51
โพสต์: 334

งานอดิเรก: ชอบเรื่องพลังงาน
สิ่งที่ชื่นชอบ: มิลินทปัญหา
ชื่อเล่น: อมร
อายุ: 63
ที่อยู่: 138 หมู่ที่ 1 ต.โนนคูณ อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ 36180

 ข้อมูลส่วนตัว www


suwichai เขียน:
tanaphomcinta เขียน:
ขอถามข้อเดียวเท่านั้นนะ และขอให้ตอบใหตรงประเด็นด้วย

ศีล แปลว่าอะไร และทำไมต้องมีศีล?


ผมจะตอบในหลายระดับก็แล้วกัน เดี๋ยวโดนคุณwalaipornเขม่นอีก และคุณcmessageจะนำภาพพระเทวทัตขอความช่วยเหลือจากผมมาลงอีก

ศีลเป็นข้อห้ามเพื่อเอามาใช้ควบคุมกาย และวาจา ให้มีความสะอาดบริสุทธิ์ คือ ไม่พูด ไม่ทำ ให้วิปริตผิดร่องรอยจนกระทบตนเอง หรือกระทบคนอื่นให้เดือดร้อน ปัญหาคือใครเป็นคนห้ามกันล่ะ กูจะทำอะไรมันเรื่องของกูนี่หว่า

ก็พวกเราเหล่าพุทธะก่อนออกมาเล่นเกมในโลก พวกเราได้ตั้งกติการเอาไว้ เรียกว่ากฎแห่งกรรม และสร้างสวรรค์นรกและภพภูมิอื่นๆไว้รองรับคนที่มีจิตกุศล อกุศล และอัพยากฤต(จิตเป็นกลางไม่มีทั้งกุศลอกุศล) ด้วยเหตนี้ ศาสนาอื่นๆเขาก็มีศีลเหมือนกัน เพราะศีลนั้นเป็นมโนธรรมอยู่ในจิตใต้สำนึกของเรา ในขณะที่เกมมันต้องแฟร์ มีผู้บอกหนทางทำกุศลในจิตของเรา ก็ต้องมีผู้บอกหนทางทำอกุศลในจิตของเรา และก็ต้องมีผู้บอกหนทางทำจิตเป็นกลางไม่เป็นทั้งกุศลอกุศลด้วย

ผู้ที่บอกทางให้ทำกุศล และอกุศล พระพุทธเจ้าเรียกว่าพระยามาร พระยามารทำหน้าที่ดึงพวกเราให้อยู่ใน 3 ภพต่อไป ในขณะที่ผู้ที่บอกทางให้เรากลับไปนิพพานคือ ตถาคต หรือพระพุทธเจ้า

สรุป

อสังขตธาตุ(นิพพาน)เป็นผู้สร้างภพภูมิของสังขตธาตุขึ้นมา และกำหนดกฎเกณฑ์ในการเข้าถึงภพภูมิต่างๆเอาไว้ด้วย รวมทั้งกฎเกณฑ์ในการกลับเข้าไปเป็นอสังขตธาตุใหม่ (กฎแห่งกรรม)


ไม่เห็นตรงประเด็นเลยคุณเอ่ย คำถามแค่หญ้าปากคอก

บอกว่าที่ในป่ามีหญ้ามากกว่านี้ ตอบให้ตรงประเด็นหหน่อย ถามว่า แปลว่าอะไร ไม่ได้ถามว่า หมายความว่าอย่างไร ถามตื้นๆ แต่ไปตอบในบ่อ แสดงว่าไม่รู้จริงนี้ เด็ก ป.1 มันยังตอบได้เลย
ให้โอกาสอีกที่ เอาแค่ว่าแปลว่าอะไรเท่านั้น อย่าตอบแบบไปไหนมา สามวาสองศอก ไม่เอา

.....................................................
ทำบุญตั้งแต่ยังมีชีวิตอยู่ ดีกว่าตายแล้วให้เขาทำบุญอุทิศหา รักษาศีลตั้งแต่ยังมีชีวิตอยู่ ดีกว่าตายแล้วให้เขาเคาะโลงลุกขึ่นมารักษาศีล เข้าวัดตั้งแต่ยังมีชีวิตอยู่ ดีกว่าตายแล้วให้เขาหามเข้าแล้วเผาเลย ฮิฮิฮิ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 มิ.ย. 2009, 15:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ก.ค. 2006, 20:52
โพสต์: 1210

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




5694_50800.gif
5694_50800.gif [ 25.13 KiB | เปิดดู 4017 ครั้ง ]
suwichai เขียน:
.................................................................

ตอบ....คุณเอาความจริงระดับไหนล่ะครับ

ระดับโลกียะธรรม (หรือระดับของมนุษย์) หรือระดับโลกุตตระ หรือระดับอนุตรสัมมาสัมโพธิ ผมมีชื่อว่า ใบไม้นอกกำมือ ผมจึงขอตอบแบบระดับอนุตรสัมมาสัมโพธิไปเลยแล้วกัน

พวกเราแต่ละคนล้วนเป็นพุทธะ(อณูของพระเจ้า) เมื่อเราตัดสินใจว่าจะออกจากนิพพาน ไม่ทรงภาวะอมตะและไม่มีทุกข์ของเรา เพื่อมาใช้ชีวิตในภพภูมิอื่น(3ภพ) เราจึงจำเป็นต้องกำหนดกฎแห่งกรรม หรือกฎแห่งการละเมิดบุคคลอื่นขึ้นมา ทั้งนี้เพื่อจะให้ดวงจิตของเราเข้าสู่ภพภูมิที่เหมาะสมของมัน นอกจากนี้ เรายังกำหนดกฎแห่งการกลับไปเป็นพระเจ้า(พุทธะ) คือ การได้ปัญญาเข้าถึงพุทธะเอาไว้ด้วย

ศีล สมาธิ ปัญญา เป็นบันไดแต่ละขั้นที่จะนำเราไปสู่ภพภูมิต่างๆ รวมทั้งกลับเข้านิพพาน
คนมีศีลเป็นบันได้แรกที่จะนำเราไปสวรรค์ สมาธิเป็นบันได้ขั้น 2 ที่จะนำเราไปสู่ความเป็นพรหม ส่วนปัญญาบันได้ขั้น 3 ซึ่งจะเข้าถึงได้จากการเจริญวิปัสสนาด้วยวิธีใดวิธีหนึ่ง

สรุป

ศีล สมาธิ ปัญญา โดยสภาวะสูงสุดเป็นสิ่งไร้สาระ เพราะทุกอย่างมันว่างเปล่า และเป็นมายา

เราต้องมี ศิล สมาธิ ปัญญา เพื่อเป็นบันไดแต่ละขั้นในการปรับปรุงจิตของเราให้ดีขึ้นเรื่อยๆ จนกลับเข้าไปเป็นพุทธะได้ นอกจากนี้ เราต้องเข้าไปอยู่ในภพภูมิอื่น จึงต้องมี ศิล สมาธิ ปัญญา เป็นตัวนำเราไป พูดง่ายๆ เราต้องสะสมบารมีให้เพียงพอ เพื่อจะหาทางกลับเข้าไปในนิพพาน ซึ่งเป็นบ้านเก่าของเรา เพราะในจักรวาลนี้ไม่มีใครเลยนอกจากพระเจ้า(พุทธะ) ซึ่งเสพบรมสุขอยู่ในนิพพานตามลำพัง เราจึงต้องกระจายตัวออกเป็นอนันต์ และสร้างอายตนะ(ขันธ์ 5) หรือกายมารองรับความเป็นอนันต์ของเรา

หลวงตามหาบัวเทศน์ว่า ธรรมธาตุแห่งพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ล้วนเป็นหนึ่งเดียวกันเหมือนน้ำในมหาสมุทร เราเป็นเช่นนั้นแหละ พุทธะของคุณwalaipornกับพุทธะของผมและคนอื่นๆ แท้จริงก็เป้นอณูของพุทธะหรือพระพุทธเจ้า(พระเจ้า) พวกเรามาเล่นเกมอยู่ใน 3 ภพนี้เพื่อทดสอบดูว่า นิพพานของเรากับภพภูมทั้ง 3 ภพ เป็นอย่างไรบ้าง

มีสีขาวก็ต้องมีสีดำ สีแดง และสีอื่นๆไว้เปรียบเทียบ เรายังจะรู้ว่านิพพานของเราเป็นสีขาวที่สว่างและดีที่สุด

:b8:
สวัสดีค่ะคุณพลศักดิ์
ขออนุญาต อ่านด้วยนะคะ อธิบายระดับนี้ดิฉันพอเข้าใจค่ะ
รู้สึกชอบเวลาคุณโพสข้อความ สุภาพๆ น่าอ่านกว่าการใช้วาจา แบบต่ำๆ
(
ซึ่งระดับคุณน่าจะละได้แล้วคือไม่พึงมีปรากฎขณะเจรจาทั้ง มุสาวาท, ปิสุณาวาจา,มักขะ,ปลาสะและสาไถยะ... ดิฉันคิดผิดค่ะ)ขอโทษถ้าไปแตะโดนกิเลส
ขอสาธุค่ะ

.....................................................
สัพเพ สังขารา อนิจจา
สัพเพ ธรรมา อนัตตา...
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 มิ.ย. 2009, 17:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 เม.ย. 2009, 02:22
โพสต์: 83

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


suwichai เขียน:
tanaphomcinta เขียน:
ขอถามข้อเดียวเท่านั้นนะ และขอให้ตอบใหตรงประเด็นด้วย

ศีล แปลว่าอะไร และทำไมต้องมีศีล?


ผมจะตอบในหลายระดับก็แล้วกัน เดี๋ยวโดนคุณwalaipornเขม่นอีก และคุณcmessageจะนำภาพพระเทวทัตขอความช่วยเหลือจากผมมาลงอีก

คุณ suwichai นี่กล้าพูดนะว่าพระเทวทัตคิดถึงตัวเอง แต่ก็ไม่เป็นไรถ้าอย่างนั้นผมก็ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงโดนนรกสูปหัวไปกิน เป็นตัวอย่างได้ดีจริง ฟ


แก้ไขล่าสุดโดย cmessage เมื่อ 18 มิ.ย. 2009, 17:50, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 มิ.ย. 2009, 17:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ตามหาคุณ suwichai ที่เว็บพลังจิต ไม่เห็นครับ ใช้ชื่อะไรหรอครับ เห็นแต่คุณขันธ์

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กระทู้นี้ถูกล็อก คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความ หรือ ตอบกลับในกระทู้นี้  [ 10 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 27 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร