วันเวลาปัจจุบัน 28 มี.ค. 2024, 17:01  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 9 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 มิ.ย. 2009, 09:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 มิ.ย. 2007, 21:13
โพสต์: 2631

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


ท่านมีความเห็นว่าอย่างไรครับ

ถ้าจะบังอาจกล่าวว่า

ยิ่งเรียนธรรม

ยิ่งไกลธรรม

ยิ่งรู้ธรรมยิ่งไกลนิพพาน

การปฏิบัติธรรมต้องมิใช่การแสดง

กริยาสุขุมมิใช่ผู้ถึงนิพพาน

วาจาไพเราะจับใจมิใช่สัมมาวาจา

ท่านกรัชกายกล่าวไว้ว่า

พระธรรมนั้นใกล้แค่ขนตา

เราจึงมักมองไม่เห็น

สัจจธรรมอาจจะเป็นหญ้าปากคอก

ที่ถูกมองข้ามจากวัวควาย

เหมือนพระธรรม คือธรรมชาติอยู่ที่ตัว อยู่ที่ใจ

ยังเผลอหลงไปค้นหาในตำรา

ขอยื่มคำท่านพลศักดิ์ วังวิวัฒน์ มาประกอบบท

อ้อไม่ใช่

พลศักดิ์ วังวิวัฒน์ ไม่มีแล้วเป็นอนิจจัง อนัตตา

บอกแล้วว่าอัตตานั้นไม่มี

แล้วไหง

เกิดเข้ากับตัวเองจนได้

ขอหัวเราะ เยาะเย้ย เหวย เหวย ฟ้า

กระทู้นี้

ขึ้นต้นเป็นลำไม้ไผ

ลงท้ายเป็นบ้องกัญชา

เห็นเช็งกันหลายท่าน

จึงมาให้สี่สรรกับเวปคร๊าบ


แก้ไขล่าสุดโดย mes เมื่อ 24 มิ.ย. 2009, 10:29, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 มิ.ย. 2009, 10:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




imagesCAS3VB6Z.jpg
imagesCAS3VB6Z.jpg [ 3.72 KiB | เปิดดู 3625 ครั้ง ]
คุณ mes :b32:
มีอะไรจาบอกก็

“บอกมาเลย”

http://jukebox.pleng.com/player_song.php?song_id=22155

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 มิ.ย. 2009, 10:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 มิ.ย. 2009, 17:52
โพสต์: 202

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ก็ต่างพากันเรียนธรรมเพื่อเอาธรรม ได้แล้วก็ไม่ปล่อย ข้ามขั้นตอนไปตะพึดตะพือ มันถึงได้ยิ่งเรียนยิ่งโง่ ยิ่งรู้ก็ยิ่งหลง หลงในภูมิความรู้ของตน โง่เพราะไม่เปิดใจรับฟังผู้อื่น พูดเก่ง เทศน์เก่ง รู้หมด สติเป็นไง สมาธิขั้นไหน แต่ตัวเองไปไม่รอด ต้องมีฌานแบบโน้นแบบนี้ ถึงจะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ต้องทำแบบโน้นแบบนี้ถึงจะได้อย่างนั้นอย่างนี้ แต่ตนเองก็อย่างงั้นๆ

พอบอกให้พิจารณาตั้งแต่แรกใหม่ เริ่มใหม่ ก็หาว่า บ้า เพราะตนเองรู้หมดแล้วจะให้ไปเริ่มใหม่นั้นเป็นไปไม่ได้ ทนงค์ตนว่าตนแน่ ตนเก่ง ตนรู้ แต่ก็อย่างงั้นๆ

รากฐานของบ้านไม่ดีไม่มั่นคง ก็ยังจะสอนกันให้สร้างชั้นสองชั้นสามต่อไปอีก ต่อโน่นเติมนี่ไปเรื่อย เดี๋ยวก็พังก็บ้ากันไป

มันเป็นสิ่งที่รู้ได้เฉพาะตน ไม่จำเป็นต้องให้คนอื่นมายืนยัน นั่งยันหรอก ก็ลองคิดลองทำดูมั่งสิสิ่งไหนที่มันไม่ขัดต่อคำสอนของพระพุทธเจ้าหนะถึงแม้จะขัดต่อความรู้สึกของตนก็ชั่งหัวมัน

คิดง่ายๆ เมื่อตนเองทำตามที่ตนเองรู้ ตนเองเข้าใจแล้ว มันไม่เกิดผล มันไปไม่ได้ ไปต่อไม่ได้ ก็ลองถอยกลับมาดูใหม่ ลองมาปฏิบัติอย่างอื่นดูบ้างโดยยึดตรงที่ถ้าไม่ขัดต่อคำสอนของพระพุทธะเจ้าแล้ว กูจะทำลองดู เปิดใจให้กว้างยอมรับสิ่งใหม่ๆ บ้าง

ที่สำคัญ พระพุทธเจ้าบอกว่า นิพพานเป็นอนัตตา คนที่มากล่าวว่า นิพพานเป็นอัตตา แสดงว่า ถือตนเองว่าเก่งกว่าพระพุทธเจ้าแน่กว่าพระองค์ แค่นี้ก็พอจะใช้ไขสันหลังตอบได้แล้วว่า พวกนี้มันบ้า


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 มิ.ย. 2009, 11:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 มิ.ย. 2009, 15:47
โพสต์: 36


 ข้อมูลส่วนตัว


หมากฝรั่งที่ถูกคายทิ้งไว้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 มิ.ย. 2009, 11:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 มิ.ย. 2009, 15:47
โพสต์: 36


 ข้อมูลส่วนตัว


mes เขียน:
เห็นเช็งกันหลายท่าน

จึงมาให้สี่สรรกับเวปคร๊าบ


สีสรรอย่างนี้สวยดีครับ...

อ้างคำพูด:
คุณ mes
มีอะไรจาบอกก็

“บอกมาเลย”


ครับผมก็อยากจะฟังคำบอกของคุณ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 มิ.ย. 2009, 12:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 มิ.ย. 2009, 17:37
โพสต์: 123


 ข้อมูลส่วนตัว


mes เขียน:


ขอยื่มคำท่านพลศักดิ์ วังวิวัฒน์ มาประกอบบท

อ้อไม่ใช่

พลศักดิ์ วังวิวัฒน์ ไม่มีแล้วเป็นอนิจจัง อนัตตา

บอกแล้วว่าอัตตานั้นไม่มี

แล้วไหง

เกิดเข้ากับตัวเองจนได้

ขอหัวเราะ เยาะเย้ย เหวย เหวย ฟ้า



ผมขอใช้สิทธพาดพิง ผมไม่เคยพูดหรือแสดงความเห็นอย่างที่คุณอ้างเลย ขอหลักฐานด้วยครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 มิ.ย. 2009, 12:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 มิ.ย. 2007, 21:13
โพสต์: 2631

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


suwichai เขียน:
ผมขอใช้สิทธพาดพิง ผมไม่เคยพูดหรือแสดงความเห็นอย่างที่คุณอ้างเลย ขอหลักฐานด้วยครับ



ข้อความตรงไหนหละท่าน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 มิ.ย. 2009, 14:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.พ. 2008, 10:00
โพสต์: 724

แนวปฏิบัติ: พอง-ยุบ
งานอดิเรก: ปฏิบัติวิปัสสนา
อายุ: 0
ที่อยู่: เกษตร-นวมินทร์ กรุงเทพฯ

 ข้อมูลส่วนตัว


mes เขียน:
ท่านมีความเห็นว่าอย่างไรครับ

ถ้าจะบังอาจกล่าวว่า
ยิ่งเรียนธรรม
ยิ่งไกลธรรม


อันนี้แล้วแต่ข้อเท็จจริง เรียนมารุ้มา ไม่นำไปปฏิบัติ ละทิ้งความรู้ที่รู้มา ก็ไกลออกไป ส่วนที่เรียนมา
ูรู้มา น้อมนำไปปฏิบัติ ก็ได้สมประโยชน์ทั้งปริยัติและปฏิบัติ

mes เขียน:
ยิ่งรู้ธรรมยิ่งไกลนิพพาน


ความจริง ยิ่งรู้ต้องยิ่งไกล้ ถ้ายิ่งรู้แล้วไกล แสดงว่าไม่ไช่เพราะยิ่งรู้อย่างเดียว บกพร่องส่วนอื่นด้วย
คือ รู้ไม่ถูก รู้แล้วไม่ทำ , รู้ถูกแล้วทำแล้ว แต่ไกลนิพพาน แสดงว่า ทำไม่ถูก

mes เขียน:
การปฏิบัติธรรมต้องมิใช่การแสดง


:b12: :b8: สาธุ ครับ

mes เขียน:
กริยาสุขุมมิใช่ผู้ถึงนิพพาน
วาจาไพเราะจับใจมิใช่สัมมาวาจา


ใช่ครับ กิริยาวาจา ยังบอกไม่ได้ว่าถึงนิพพานหรือยัง บางทีเป็นกิริยามารยาทตามอุปนิสัยเดิม
หรือหนักหน่อยก็เมคให้ดูดีมีธรรมะ แต่ก็ไกล้เคียงกับผู้ถึงนิพพาน เพราะท่านมักมีกายวาจาใจสงบระงับ
แล้ว

การเรียน การฟัง ศึกษา หรือปริยัติ ก็เปรียบเหมือนแผนที่ลายแทงขุมทรัพย์ ได้มาแล้วก็ต้องหา
ตามแผนที่ลายแทงนั้น ถ้ามัวแต่ม้วนแผนที่ลายแทงวางไว้ก็คงไม่พบขุมทรัพย์ ซ้ำหนักม้วนแล้วเอา
ไปไล่ตีกบาลคนอื่นอีก แย่เข้าไปใหญ่เลย

.....................................................
เอกายโน อยํ ภิกฺขเว มคฺโค สตฺตานํ วิสุทฺธิยา โสกปริเทวานํ สมติกฺกมาย
ทุกฺขโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมาย ญายสฺส อธิคมาย นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยาย ยทิทํ
จตฺตาโร สติปฏฺฺฐานา ฯ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 มิ.ย. 2009, 17:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ผู้มีส่วนสัญญา ในธรรมอันเป็นเครื่องเนิ่นช้า
มีตัณหา ทิฏฐิ มานะ กลุ้มรุมจิต

ย่อมไม่รู้ธรรม เพราะมัวแต่ปฏิบัติ มนสิการ เพิ่มสักกายะ และสัญญา อันเป็นส่วนแห่งความเนิ่นช้าอยู่

การมีความเห็นว่า ยิ่งเรียนธรรม ยิ่งไกลธรรม
ยิ่งรู้ธรรม ยิ่งไกลนิพพาน
หรือการปฏิบัติไม่ใช่การแสดง
หรือมีความเห็นว่า พระธรรมนั้นใกล้แค่ขนตา

ย่อมเป็นผล จากการมีปปัญจธรรม เป็นเหตุ

สิ่งที่ควรทำคือ

ศึกษาจากพระไตรปิฏก พิจารณาธรรมที่ได้จากการอ่าน
หรือ หาครูอาจารย์ที่มีความเห็นตรง เพื่อฟังธรรม เพื่อให้เกิดสุตตมยปัญญา

พิจารณาธรรมนั้นด้วยใจ เพื่อให้เกิด จินตามยปัญญา

จากนั้น ประชุมมรรค ให้สำเร็จภาวนามยปัญญา

สมถะวิปัสสนา ย่อมเคียงคู่กันไป

เจริญธรรม


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 9 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 53 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร