ลานธรรมจักร
http://dhammajak.net/forums/

ใครก็ได้ช่วยด้วย ไม่อยากฝันแล้วค่ะ
http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=23334
หน้า 1 จากทั้งหมด 2

เจ้าของ:  nana99 [ 28 มิ.ย. 2009, 07:05 ]
หัวข้อกระทู้:  ใครก็ได้ช่วยด้วย ไม่อยากฝันแล้วค่ะ

ใครก็ได้ช่วยด้วย ไม่อยากฝันแล้วค่ะ

คิดเรื่องนี้ทีไรอยากจะร้องไห้ ยังจำได้เมื่อก่อนไม่ได้ฝันมากมายขนาดนี้นานๆฝันที (เมื่อก่อนที่ว่าจำไม่ได้ว่ากี่ปีผ่านมา ) แต่ปัจุบันฝันมากเป็นว่าเล่น ตื่นนอนที่ไรหรือสะดุงตื้นหรือตื่นขึ้นที่ไรรู้ตัวว่าฝันตลอดแต่ละเรื่องไร้สาระแถมไม่มีความจริงอยู่เลย และมีความจริงอยู่บ้างในบ้างเรื่อง แถมจำได้เกือบหมด แต่ถ้าเวลาผ่านไปหลังตื่นสักพักหรือ 1 วัน ก็จะลืมเพราะมีฝันใหม่ๆมาเสมอ วันหนึ่งลองตั้งนาฬิกาปลุกให้ปลุกทุก1 นาที แล้วหลับ ผ่านไป1 นาที่ นาฬิกาดังตื่นแล้วก็รู้ว่าฝันรื่อง........... ผ่านไป1 นาที่ นาฬิกาดังตื่นแล้วก็รู้ว่าฝันรื่อง........... ผ่านไป1 นาที่ นาฬิกาดังตื่นแล้วก็รู้ว่าฝันรื่อง........... ผ่านไป1 นาที่ นาฬิกาดังตื่นแล้วก็รู้ว่าฝันรื่อง........... ผ่านไป1 นาที่ นาฬิกาดังตื่นแล้วก็รู้ว่าฝันรื่อง........... ผ่านไป1 นาที่ นาฬิกาดังตื่นแล้วก็รู้ว่าฝันรื่อง........... ผ่านไป1 นาที่ นาฬิกาดังตื่นแล้วก็รู้ว่าฝันรื่อง........... ผ่านไปไม่ถึง 10 ครั้งก็หยุดตั้งนาฬิกาปลุกแล้วหลับยาว และพอตื่อขึ้นมาก็รู้ว่าฝันอีก ใครก็ไช่วยทีค่ะ ไม่อยากฝันแล้ว รู้สึกเหมือนนอนไม่หลับเลย เรื่อง.........แต่ละเรื่องไม่ซ่ำกันเลยค่ะ

ถ้าให้เล่าก็เรื่องล่าสุดแล้วกันก่อนตื่นนอนวันนี้ ฝันว่าเพื่อนมานอนที่บ้านเค้คิดใครไม่รู้บ่นอยู่นั้นแหละเราก็นอนไม่หลับ พูดถึงอยากเจอมดแดงอะไรสักอย่างเราก็เด็ดกิ่งอะไรข้างเตียงมีมดด้วยมาให้ ( ทั้งที่ข้างเตียงนอนจริงไม่มีกิ่งไรเลย ) จากนั้น มดก็ต็มที่นอนกัดเรา มีแมลงอื่นๆอีก แล้วนาฬิกาปลุกเลยตื่น

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 28 มิ.ย. 2009, 08:01 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ใครก็ได้ช่วยด้วย ไม่อยากฝันแล้วค่ะ

ไม่เข้าใจ ทำไมคุณจึงต้องตั้งนาฬิกาปลุกไวขนาดนั้น ทุกหนึ่งนาทีเลยล่ะ แบบนี้ก็เกิดความกังวลดิ

นอนหลับพักผ่อนตอนกลางคืน ก็ตั้งปลุกสักตี ๕ หรือ ตี ๕ ครึ่ง ไม่ได้หรือครับ เคยทดลองทำแบบนี้ไหม เรียกว่า หลับยาวเต็มอิ่มเลย


สมมุติว่า ยังฝันอีก ตื่นนอนแล้ว ก็ไม่ต้องเก็บความฝันมาปะดิดปะด่อบีบคั้นความจำว่า เออ ...เมื่อกี้ เมื่อคืน ตูฝันอะไรบ้างฟ่ะ ....ไม่ต้องครับ ฝันก็ฝัน ตื่นก็ตื่น คนละตอนกัน ไม่ควรเก็บเอาความฝันมาคิดตอนตื่น (นักเล่นหวยชอบทำกัน :b32: )

หลับแล้วฝันๆ แปลว่า หลับๆตื่น คือหลับไม่สนิท คนหลับสนิทจะไม่ฝัน ตืนนอนจะสดชื่น แม้นอนหลับเพียงชั่วโมงเดียวก็ตาม :b1:

เจ้าของ:  pride [ 28 มิ.ย. 2009, 08:51 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ใครก็ได้ช่วยด้วย ไม่อยากฝันแล้วค่ะ

ผมไม่เข้าใจ ความฝันเป็นเรื่องผิดในการปฏิบัติธรรม?
ความฝันก็คือความฝัน เกิดจากสมองส่วน Unconciousness
คือส่วนจิตใต้สำนึกเป็นตัวออกคำสั่ง ซึ่งเราควบคุมตรงส่วนนี้ไม่ได้

แต่ถ้าไม่อยากฝันผมก็พอมีวิธี คือทำให้ตัวเองเหนื่อยสุดๆ
เช่นออกกำลังกายมาหนักๆ แล้วก็นอนดึกๆ ก็จะไม่ฝันอะไรเลย
รู้สึกตัวอีกทีก็เช้าแล้ว

เจ้าของ:  damjao [ 28 มิ.ย. 2009, 09:24 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ใครก็ได้ช่วยด้วย ไม่อยากฝันแล้วค่ะ

กินมากถ่ายมาก นอนมากฝันมาก
ขอแนะนำให้ว่าพยายามทำจิตใจให้ผ่องใส มองโลกในแง่ดี พยายามไม่เครียด
หาโอกาสให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนา และก่อนนอนหมั่นสวดมนต์อยู่เป็นนิตย์ ดังนี้เมื่อจิตใจมีความสงบลุ่มลึกอยู่ภายใน ถึงฝันก็จะไม่ฝันร้าย :b8:

เจ้าของ:  ชาติสยาม [ 28 มิ.ย. 2009, 09:38 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ใครก็ได้ช่วยด้วย ไม่อยากฝันแล้วค่ะ

เวลากลางวัน เราก็มักจะมีเรื่องต่างๆแว๊บขึ้นมาในสมองตลอดเวลาเลยใช่ไหมครับ
เด๊่ยวก็คิดเรื่องนั้น คิดเรื่องนี้ ไม่หยุด
และถ้าลองมาพิจารณาดีๆจะพบว่า ที่จริง เรื่องที่คิดๆอยู่นั้น บ่อยครั้งเป็นเรื่องที่เราไม่ได้ตั้งใจจะคิด มาเข้ามาเอง จะหยุดคิดก็หยุดไม่ได้
อยากจะดีใจบัดเดี๋ยวนี้ เราก็ทำไม่ได้
นึกจะเสียใจ เราก็ห้ามตัวเองไม่อยู่ นึกจะหงุดหงิดเราก็บังคับอะไรใจเราไม่ได้เลย
ดังที่พระพุทธเจ้าท่านบอกว่า "จิตนี้บังคับบัญชาไม่ได้"
จิตนี้บังคับบัญชาไม่ได้นั้นเป็น"ความจริง" ของจิตใจที่เราคิดไม่หยุด
ความพยายามจะไม่คิดจะยิ่งทำให้กดดัน เพราะเราพยายามฝืนธรรมชาติ


พระพุทธเจ้าท่านสอนให้เราอยู่กับธรรมชาติอันนี้ด้วยการสอนให้"เจริญสติ"
ขอให้จับคำว่า "เจริญสติ" ให้มั่นแล้วถวายชีวิตเพื่อศึกษาสิ่งนี้
แล้วจะพบหนทางออก ลองฟังเทศน์หลวงพ่อต่อไปนี้ดูให้มากๆ

- หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชโช
- หลวงพ่อสุรศักดิ์ เขมรังสี (พระครูเกษมธรรมทัต)
- หลวงพ่อพุธ ฐานิโย


การที่จะไม่ฝันได้อย่างถาวรนั้น เป็นสมรรถนะของจิตพระอรหันต์ และอริยะบุคคลบางประเภท(มั๊ง)
ดังนั้น ที่ถามว่าจะทำยังไงให้ไม่ฝัน(แบบถาวร) ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

แต่ tips ที่คุณๆข้างบนเขาแนะนำก็ใช้ได้ดีนะ ออกกำลัง ดูแลสุขภาพให้ดี
อันนี้คือทำให้ร่างกายมันสบาย ใจเลยสบาย

เจ้าของ:  nana99 [ 28 มิ.ย. 2009, 10:57 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ใครก็ได้ช่วยด้วย ไม่อยากฝันแล้วค่ะ

:b1: ยังไงก็ขอขอบคุณทุกความคิดเห็นนะค่ะ

เจ้าของ:  natdanai [ 28 มิ.ย. 2009, 11:26 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ใครก็ได้ช่วยด้วย ไม่อยากฝันแล้วค่ะ

ฝึกสมาธิครับ...จึงจะหายได้
ไม่มีใครรักษาท่านได้นอกจากตัวท่านเอง
:b4: :b4:

เจ้าของ:  kritsadakorn [ 28 มิ.ย. 2009, 12:33 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ใครก็ได้ช่วยด้วย ไม่อยากฝันแล้วค่ะ

ให้สวดมนต์ก่อนนอนครับ

เจ้าของ:  sanooktou [ 28 มิ.ย. 2009, 14:24 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ใครก็ได้ช่วยด้วย ไม่อยากฝันแล้วค่ะ

หากเรายิ่งกังวล ว่าจะฝัน เราก็จะฝัน
ยิ่งกังวลมาก ผลสะท้อนที่ออกมายิ่งมากตามไปด้วย
เมื่อเรารู้ว่านั่นแค่ฝัน เราก็ทำใจให้ปล่อยวาง ไม่คิดตาม ไม่กังวล
และจงทำตัวตามปกติ จงอย่ากังวลว่า เราจะฝันอีก เราจะฝันอีก เมื่อจิตพัวพัน กับเรื่องจะต้องฝัน
เราก็จะฝันไม่หยุด
จงรู้เท่าทันเถิด ว่าเป็นแค่ฝัน

เจ้าของ:  วรานนท์ [ 28 มิ.ย. 2009, 16:38 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ใครก็ได้ช่วยด้วย ไม่อยากฝันแล้วค่ะ

:b8: :b8: :b8:

natdanai เขียน:
ฝึกสมาธิครับ...จึงจะหายได้
ไม่มีใครรักษาท่านได้นอกจากตัวท่านเอง
:b4: :b4:


เห็นด้วยกัยคุณ "natdanai"ครับ

:b8: :b8: :b8:

เจ้าของ:  ตรงประเด็น [ 28 มิ.ย. 2009, 21:30 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ใครก็ได้ช่วยด้วย ไม่อยากฝันแล้วค่ะ

ความฝัน ก็คือ สังขารความคิดประเภทหนึ่ง
เป็นกระบวนการที่สมองประมวลเรื่องราว ความรู้สึกในส่วนลึกๆมาแสดง มักจะเป็นในระดับจิตใต้สำนึก

เราไม่ห้ามความคิด ฉันใด...เราก็ไม่ต้องไปห้ามความฝัน ฉันนั้น
มันจะคิดก็ปล่อยมันคิด มันจะฝันก็ปล่อยมันฝัน มีสติตามรู้เท่าทัน รับรู้แล้วปล่อยวาง มันเป็นเรื่อง"สักแต่ว่า" ไม่ต้องไปทุกข์ไปร้อนกับมัน
มันจะฝันก็ช่าง ไม่ฝันก็ช่าง..ช่างมัน

ถ้าฝันแล้วเป็นฝันร้าย หรือ ตื่นแล้ว ปวดๆมึนๆหัว แนะนำสวดมนต์แผ่เมตตาก่อนนอน
ในชีวิตประจำวัน พยามแผ่เมตตาบ่อยๆ รวมทั้ง ปล่อยวางเรื่องราวทั้งหลายลงบ้าง อย่าจริงจังกับชีวิตจนเกินไป
เวลาฝันจะได้ไม่ฝันร้าย หรือ ตื่นแล้ว ปวดๆมึนๆหัว
มีผลการวิจัยที่ชัดเจนมากว่า การแผ่เมตตาช่วยให้สมองดีขึ้นอย่างถาวร และ คนกลุ่มนี้จะมองโลกในแง่ดี หลับฝันดี
(เดี๋ยวจะไปค้นผลการวิจัยมาประกอบ)

ควรพยายามออกกำลังกายแบบที่ท่านอื่นๆแนะนำ
ควรออกกำลังกายแบบมีสติ เช่น ปั่นจักรยาน วิ่งบนลู่ออกกำลังกาย ว่ายน้ำ ๆลๆ จะได้ประโยชน์ทั้งทางกายและทางใจ คือ ให้มีสติรู้สึกตัวตลอดเวลาที่ออกกำลังกาย รู้สึกถึงการเคลื่อนไหว ยืด เหยียด พับ งอ ของส่วนต่างๆของร่างกาย
อย่าปล่อยใจลอย ถ้าใจลอยให้รู้สึกตัว และ กลับมามีสติ ...และ ไม่ต้องไปหงุดหงิดถ้าใจลอย เพียงแต่รู้สึกตัว แล้วมากำหนดสติต่อเท่านั้น...ง่ายๆ

หรือ จะเดินเจริญสติ(เดินให้เร็วๆหน่อย) แบบท่าน ติช นัท ฮันห์ ก็ดี
ทำบ่อยๆวิธีเหล่านี้ดีมาก เป็นสติปัฏฐานในตัว และ เกิดสมาธิที่ทรงตัวอยู่ได้นานด้วย ผมเองก็ใช้วิธีนี้อยู่

หรือ ไปเข้าคอร์สโยคะมันเลย ถ้ามีเวลา ...
แต่ โยคะมีข้อด้อยคือ โยคะอาจจะไม่ได้ออกกำลังกายแบบแอโรบิก และไม่ลดน้ำหนัก

เจ้าของ:  ตรงประเด็น [ 28 มิ.ย. 2009, 21:49 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ใครก็ได้ช่วยด้วย ไม่อยากฝันแล้วค่ะ

ผลวิจัย การแผ่เมตตาประจำทำให้สมองดีขึ้นอย่างถาวร

http://www.budpage.com/forum/view.php?id=4581


เกี่ยวกับ การออกกำลังกายและเจริญสติแบบเคลื่อนไหว
มีจิตแพทย์บางท่าน ท่านแนะนำอยู่
ลองอ่าน

http://www.drterd.com/

เว็บนี้ดีมาก
เป็นจิตแพทย์ที่ศึกษาเข้าใจธรรมะ นำมาประยุกต์ได้อย่างเยี่ยมยอด
การฝึกซี่กง รวมทั้ง ไทเก๊ก วูซู เทควนโด ถ้า"รู้สึกตัว" และ "ใจไม่ลอย" มันก็เป็นสติปัฏฐานเหมือนกัน


..........................


ลืม ประเด็นสำคัญไปจุดหนึ่ง

คือ ความฝันนี้ มันบอกกลายๆ ว่าตอนตื่นเราเป็นคนแบบใด

ที่ ท่าน จขกท เล่า ผมประเมินว่า ท่าน จขกท มีลักษณะที่เก็บรายละเอียดทุกอย่าง(หยุมหยิม) มองโลกในแง่ร้าย เป็นบุคคลิกภาพที่อาจนำไปสู่โรคประสาทกังวล หรือ โรคซึมเศร้าได้....ถ้าไม่หัดเจริญสติ รู้สึกตัว
คาดเดา คุณน่าจะมีลักษณะ เก็บเอาความผิดพลาดของตนเองมาคิดย้ำบ่อยๆด้วย
วันๆ มีแต่เรื่องคิดๆๆๆๆ

ผมถึงเห็นว่า การออกกำลังกายแบบมีสติ และ การแผ่เมตตา จะช่วยคุณได้



แต่หากความฝันมันมากผิดปกติจริงๆ อาจเป็นสัญญานเตือนถึงโรคของสมอง ระบบประสาท หรือ โรควิตกกังวล โรคซึมเศร้า
อาจจำเป็นต้องปรึกษาจิตแพทย์

เจ้าของ:  nana99 [ 29 มิ.ย. 2009, 04:10 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ใครก็ได้ช่วยด้วย ไม่อยากฝันแล้วค่ะ

:b1: ขอขอบคุณทุกความคิดเห็นที่มาเพิ่มเติมค่ะ จะลองทำตามดูค่ะ ขอให้สมปราถนาทุกท่านนะค่ะ :b1:

เจ้าของ:  natdanai [ 29 มิ.ย. 2009, 08:12 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ใครก็ได้ช่วยด้วย ไม่อยากฝันแล้วค่ะ

และอีกอย่างที่สำคัญมาก...และเป็นปัจจัยของการนอนฝันคือบรรยากาศโดยรวมของสถานที่นอน
ท่านควรจัดห้องนอนของท่านให้โปร่ง มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก หรือถ้านอนห้องแอร์ก็หมั่นทำความสะอาด filter ด้วย คงช่วยได้ครับ.... :b13:

เจ้าของ:  แทนขวัญ [ 29 มิ.ย. 2009, 22:17 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ใครก็ได้ช่วยด้วย ไม่อยากฝันแล้วค่ะ

nana99 เขียน:
วันหนึ่งลองตั้งนาฬิกาปลุกให้ปลุกทุก1 นาที แล้วหลับ ผ่านไป1 นาที่ นาฬิกาดังตื่นแล้วก็รู้ว่าฝันรื่อง........... ผ่านไป1 นาที่ นาฬิกาดังตื่นแล้วก็รู้ว่าฝันรื่อง........... ผ่านไป1 นาที่ นาฬิกาดังตื่นแล้วก็รู้ว่าฝันรื่อง........... ผ่านไป1 นาที่ นาฬิกาดังตื่นแล้วก็รู้ว่าฝันรื่อง........... ผ่านไป1 นาที่ นาฬิกาดังตื่นแล้วก็รู้ว่าฝันรื่อง........... ผ่านไป1 นาที่ นาฬิกาดังตื่นแล้วก็รู้ว่าฝันรื่อง........... ผ่านไป1 นาที่ นาฬิกาดังตื่นแล้วก็รู้ว่าฝันรื่อง........... ผ่านไปไม่ถึง 10 ครั้งก็หยุดตั้งนาฬิกาปลุกแล้วหลับยาว และพอตื่อขึ้นมาก็รู้ว่าฝันอีก ใครก็ไช่วยทีค่ะ ไม่อยากฝันแล้ว รู้สึกเหมือนนอนไม่หลับเลย เรื่อง.........แต่ละเรื่องไม่ซ่ำกันเลยค่ะ


ขนาดฝันแล้วตื่นมาทุกๆนาที ยังนอนหลับต่อได้ทุกนาที ภายในเวลาไม่กี่วินาทีด้วย :b5:

ไม่เห็นต้องทำขนาดนั้นนี่คะ ยิ่งเป็นการสร้างความกังวลใจให้ตัวเองอีกด้วย

การนอนหลับและฝันเป็นธรรมชาติของมนุษย์อยู่แล้วค่ะ
เคยอ่านบทความทางวิทยาศาสตร์ ว่าจากการศึกษาคลื่นสมองของมนุษย์ขณะหลับ
ระดับการนอนของคนเราจะมี 5 ระดับ ไล่จากการหลับระดับตื้นสุด ถึงการหลับลึก
ระดับต่างๆเหล่านี้สามารถบอกได้ โดยการเปลี่ยนแปลงของคลื่นสมองและการโต้ตอบทางสรีรวิทยาอย่างอื่นๆ
การนอนหลับฝันและตื่นมาจำได้ มักจะเป็นการนอนหลับในระดับที่หลับไม่ลึก เรียกว่าระดับ REM (rapid eye movements). ระดับนี้ร่างกายมักจะมีการเริ่มต้นเคลื่อนไหวลูกนัยตาอย่างรวด เร็ว ในขั้นตอนการนอนระดับ REM นี้ กล้ามเนื้อต่างๆสามารถที่จะกระตุกได้บนใบหน้าและแขนขา หรือบางครั้งก็ทั้งตัว
แต่ถ้านอนหลับลึก ถึงจะฝัน ตื่นขึ้นมาก็จะจำไม่ได้

การนอนหลับฝันแล้วตื่นมาจำได้แบบนี้ก็เท่ากับไม่สามารถหลับลึกได้ ก็อาจจะทำให้มีอาการเหมือนคนอดนอน
ในทางสุขภาพจิตก็หงุดหงิด ฉุนเฉียวง่าย นานๆเข้าก็อาจจะป่วยทางจิตได้

การตั้งนาฬิกาปลุกทุกๆนาทีแบบนี้ยิ่งจะทำให้ไม่สามารถเข้าสู่ระดับการหลับลึกได้อีก
อย่าไปกังวลกับมันเลยค่ะลองหากิจกรรมทำแบบที่ท่านอื่นๆได้แนะนำไว้ค่ะ

หรือหากยังสนใจเรื่องที่ฝันจริงๆ ก็ทำให้มันจำได้จริงๆไปเลย เพราะเดี๋ยวฝันเรื่องใหม่ก็จะลืมแล้วใช่มั้ยคะ
เคยอ่านว่ามีผู้แนะนำให้ลองทำสมุดบันทึกฝันดู วันไหนฝัน ตื่นขึ้นมาก็เขียนๆลงไปเลยว่าวันนี้ฝันเรื่องอะไร เป็นยังไง แต่อย่าเก็บมาเครียดนะคะ เพราะยังไงฝันก็คือฝันไม่ใช่ความจริง มันก็เหมือนเป็นจินตนาการของเรา มองโลกในแง่ดีค่ะ ไม่แน่อาจจะได้เขียนเป็นนิยายแฟนตาซีเลยก็ได้ :b1:

หน้า 1 จากทั้งหมด 2 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/