วันเวลาปัจจุบัน 27 เม.ย. 2024, 02:16  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 6 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ก.ค. 2009, 00:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 มี.ค. 2009, 20:48
โพสต์: 744


 ข้อมูลส่วนตัว


กรรมในการปรามาสหรือล่วงเกินพระอริยะเจ้า

พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๔ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๖
อังคุตตรนิกาย ทสก-เอกาทสกนิบาต
พยสนสูตร
[๘๘] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุใดด่าบริภาษเพื่อนพรหมจรรย์ทั้งหลายกล่าวโทษพระอริยะ ภิกษุนั้นจะไม่พึงถึงความฉิบหาย ๑๐ อย่าง อย่างใดอย่างหนึ่ง ข้อนี้มิใช่ฐานะ มิใช่โอกาส
ความฉิบหาย ๑๐ อย่างเป็นไฉน คือ
ภิกษุนั้นไม่บรรลุธรรมที่ยังไม่บรรลุ ๑
เสื่อมจากธรรมที่บรรลุแล้ว ๑
สัทธรรมของภิกษุนั้นย่อมไม่ผ่องแผ้ว ๑
เป็นผู้เข้าใจว่าตนได้บรรลุในสัทธรรมทั้งหลาย ๑
เป็นผู้ไม่ยินดีประพฤติพรหมจรรย์ ๑
ต้องอาบัติเศร้าหมองอย่างใดอย่างหนึ่ง ๑
ย่อมถูกโรคอย่างหนัก ๑
ถึงความเป็นบ้า มีจิตฟุ้งซ่าน ๑
เป็นผู้หลงใหลกระทำกาละ ๑
เมื่อตายไปย่อมเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก ๑
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุใดด่าบริภาษเพื่อนพรหมจรรย์ทั้งหลาย กล่าวโทษพระอริยะ ภิกษุนั้นจะไม่พึงถึงความฉิบหาย ๑๐ อย่างนี้ อย่างใดอย่างหนึ่ง ข้อนี้มิใช่ฐานะ มิใช่โอกาส ฯ
จบสูตรที่ ๘


อรรถกถา อังคุตตรนิกาย ทสกนิบาต ทุติยปัณณาสก์ เถรวรรคที่ ๔
๘. พยสนสูตร
อรรถกถาพยสนสูตรที่ ๘
พยสนสูตรที่ ๘ ....พึงทราบวินิจฉัยดังต่อไปนี้.
ในคำว่า อกฺโกสกปิรภาสโก อริยุปวาที สพฺรหฺมจารีนํ นี้ พึงประกอบ สพฺรหฺมจารี กับ อกฺโกสนบท และ ปริภาสกบท. บทว่า เป็นผู้ด่าสพรหมจารี เป็นผู้บริภาษสพรหมจารี. ผู้ว่าร้ายด้วยอันติมวัตถุว่า เราจักฆ่าคุณของพระอริยะทั้งหลาย ย่อมชื่อว่า อริยุปวาที. บทว่า สทฺธมฺมสฺส น โวทายนฺตี ความว่า สัทธรรมคือศาสนาที่นับได้ว่า ไตรสิกขาของภิกษุนั้นย่อมไม่ถึงความผ่องแผ้ว. โรคเท่านั้น พึงทราบว่าอาตังกะ เพราะกระทำให้ชีวิตลำบาก ในคำว่า โรคาตงฺกํ นี้.
จบอรรถกถาพยสนสูตรที่ ๘

.....................................................
“เวลาทำสมาธิ ให้ระลึกลมหายใจเข้าออก ให้รู้ลมหายใจเข้าออก ไม่ต้องบังคับลมหายใจ ตามรู้ลมหายใจเข้าออก สงบก็รู้ ไม่สงบก็รู้ สงบก็ไม่ยินดี ไม่สงบก็ไม่ยินร้าย ไม่เอาทั้งสงบและไม่สงบ เอาแค่รู้ตามความเป็นจริงของสภาวธรรมปัจจุบันนั้น”

ธรรมเหล่านี้เป็นไปเพื่อคลายกำหนัด
เป็นไปเพื่อไม่ประกอบสัตว์ไว้
เป็นไปเพื่อไม่สั่งสมกิเลส
เป็นไปเพื่อความเป็นผู้มักน้อย
เป็นไปเพื่อสันโดษ
เป็นไปเพื่อความสงัดจากหมู่คณะ
เป็นไปเพื่อปรารภความเพียร
เป็นไปเพื่อความเป็นคนเลี้ยงง่าย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ก.ค. 2009, 08:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 ก.พ. 2009, 02:06
โพสต์: 811

อายุ: 0
ที่อยู่: มหานคร

 ข้อมูลส่วนตัว


อนุโมทนาครับ

ด้วยทุกวันนี้ บุคคลที่ปรามาสพระอริยะเจ้าทั้งหลาย ...มีมากเหลือเกิน
ผู้ที่มักปรามาสนั้นก็ไม่ใช่อื่นใด คือผู้ศึกษาธรรม ปฏิบัติธรรมทั้งหลาย
ที่มักกล่าวโจมตี ล่วงเกินพระอริยะสงฆ์ ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์
ด้วยภูมิธรรม อันเพียงน้อยนิดของตน ที่คิดว่ายิ่งใหญ่เหลือประมาณ

โทษของการปรามาสพระอริยะสงฆ์ จะทำให้ไม่ก้าวหน้าในธรรม
ยิ่งทำยิ่งปฏิบัติ ก็ยิ่งฟุ้งซ่าน แล้วมักคิดว่าตนบรรลุธรรมแล้ว
กลายเป็นพวกบ้าๆ บอๆ เที่ยวสั่งสอนผู้อื่นในสิ่งที่เป็นมิจฉาทิฏฐิ
ทางแก้ควรจะขอขมาพระรัตนตรัยบ่อยๆ เป็นประจำ
แล้วเลิกพฤติกรรมที่ชอบปรามาส ล่วงเกินพระสงฆ์องค์เจ้าทั้งหลาย
ผู้ที่ประพฤติดีประพฤติชอบ
อาจจะช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบาได้ครับ


:b8: :b8:

.....................................................
ทุกสิ่งทุกอย่างในโลก มันถูกต้องอยู่แล้ว มีแต่ความเห็นของเราเท่านั้นที่ผิด (หลวงพ่อชา สุภัทโท)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ก.ค. 2009, 08:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 ก.พ. 2009, 02:06
โพสต์: 811

อายุ: 0
ที่อยู่: มหานคร

 ข้อมูลส่วนตัว


พระพุทธเจ้าท่านตรัสหลักการป้องกันภัยไว้สามข้อใหญ่
หนึ่งคืออย่าก่อกรรมชั่วเลย
สองคือเร่งสร้างกรรมดีไป
สามคืออย่าติเตียนอริยเจ้า


จากบันทึกในพระไตรปิฎก
เราพอทราบกันได้ว่าวิธีเป็นศัตรูกับพระพุทธเจ้า
มีอยู่ ๒ หนทางใหญ่ๆ ได้แก่


๑) มีกรรมสัมพันธ์เชิงลบกับท่านโดยตรง
เช่น พระเทวทัตเคยผูกใจเจ็บพระพุทธเจ้ามาแต่ปางก่อน

๒) ปรามาสอริยสาวก
ในพระอภิธรรมปิฎกชี้ว่า


การปรามาสพระโสดาบัน
จะเป็นเหตุปัจจัยให้คิดประทุษร้ายพระโสดาบัน
แล้วเป็นเหตุปัจจัยให้คิดประทุษร้ายพระสกทาคามี
แล้วเป็นเหตุปัจจัยให้คิดประทุษร้ายพระอนาคามี
แล้วเป็นเหตุปัจจัยให้คิดประทุษร้ายพระอรหันต์
แล้วเป็นเหตุปัจจัยให้คิดประทุษร้ายพระปัจเจกพุทธเจ้า
แล้วเป็นเหตุปัจจัยให้คิดประทุษร้ายพระพุทธเจ้าในที่สุด


สรุปคือเพียงพลาดไปปรามาสพระโสดาบัน
ก็โน้มเอียงแล้วที่จะก่ออนันตริยกรรม
เที่ยงที่จะปิดกั้นสวรรค์และนิพพานได้ในที่สุด


ส่วนหนึ่งจาก
http://dungtrin.com/mag/

.....................................................
ทุกสิ่งทุกอย่างในโลก มันถูกต้องอยู่แล้ว มีแต่ความเห็นของเราเท่านั้นที่ผิด (หลวงพ่อชา สุภัทโท)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ก.ค. 2009, 12:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 มิ.ย. 2009, 17:52
โพสต์: 202

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


แม้แต่พระอรหันต์ก็ยังมีโอกาสทำผิดได้นะท่าน
คำว่า การเตือน กับ การปรามาส มันต่างกันอยู่นะ
อาจจะเตือนด้วยคำพูดที่ค่อนข้างรุนแรง แต่ ก็ยังต่างจากการปรามาสอยู่ดีนะครับ ลองดูนะ

พระอรหันต์ที่ศึกษาน้อย...ทำให้ผู้เกี่ยวข้องบาปมาก เล่ม 16 หน้า 302 , 308

...พระขีณาสพ (อรหันต์) ที่ฟังมาน้อย ย่อมไม่ต้องอาบัติ ( ละเมิด )
ที่เป็นโลกวัชชะ ( การละเมิดที่มีโทษทางโลก ) ก็จริงอยู่

แต่เพราะไม่ฉลาดในพุทธบัญญัติ ก็ย่อมจะต้องอาบัติในกายทวาร ( ทางกาย )
ประเภททำวิหาร ทำกุฏิ ( ให้คลาดเคลื่อนไปจากพุทธบัญญัติ )
อยู่ร่วมเรือน นอนร่วมกันกับอนุปสัมบัน ( ผู้ไม่ใช่ภิกษุ ) เป็นต้น

ย่อมต้องอาบัติในวจีทวาร ( ทางคำพูด ) ในประเภทชักสื่อ
หรือกล่าวธรรมโดยบท หรือพูดเกินกว่า 5 – 6 คำ หรือบอกอาบัติที่เป็นจริง เป็นต้น

ย่อมต้องอาบัติเพราะรับเงินรับทอง
ในทางมโนทวาร ( ความคิด ) ด้วยอำนาจยินดีเงินทองที่เขาเก็บไว้เพื่อตน.

แม้พระขีณาสพ (พระอรหันต์)
ขนาดพระธรรมเสนาบดีสารีบุตรก็ยังเกิดมโนทุจริต (ความคิดชั่ว) ขึ้นได้
ด้วยอำนาจที่นึกตำหนิ ในมโนทวาร. เมื่อศากยะปาตุเมยยกะ
ขอขมาพระผู้มีพระภาคเจ้าเพื่อประโยชน์แก่พระสารีบุตร และพระโมคคัลลานะ
ในคราวที่ทรงประณามพระเถระทั้งสองนั้น พร้อมกับภิกษุประมาณ 500 รูป.....

ส่วนในคำว่า ทกฺขิเณยฺยคฺคิ ( ไฟอันเกิดจากผู้ควรรับของทำบุญ ) นี้ คำว่า ทกฺขิณา
( ของทำบุญ ) คือปัจจัย 4. ภิกษุสงฆ์ ชื่อว่า ทักขิไณยบุคคล ( ผู้สมควรรับของทำบุญ ).
ภิกษุสงฆ์ ชื่อว่า มีอุปการะมากเเก่คฤหัสถ์ ( โยม ) ด้วยการชักนำ
ให้ประพฤติในกัลยาณธรรม ( ธรรมอันดีงาม ) ทั้งหลายเป็นต้นว่า
สรณะ 3 ศีล 5 ศีล 10 การเลี้ยงดูมารดาบิดา การบำรุงสมณพราหมณ์ผู้มีธรรม.

คฤหัสถ์ (โยม) ที่ปฏิบัติผิดในภิกษุสงฆ์ บริภาษด่าทอภิกษุสงฆ์
ย่อมไปเกิดในอบายมีนรกเป็นต้น ดังนั้น แม้ภิกษุสงฆ์ท่านก็เรียกว่า ทักขิเณยยัคคิ
ด้วยอรรถว่า ตามเผาไหม้โดยนัยก่อนเช่นกัน.
และเพื่อจะให้ความข้อนี้กระจ่าง
ควรจะแถลงเรื่องเวมานิกเปรต (เปรตที่ได้รับสุขและทุกข์สลับกันไป) โดยละเอียดด้วย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ก.ค. 2009, 14:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 มิ.ย. 2009, 17:37
โพสต์: 123


 ข้อมูลส่วนตัว


คณขงเบ้งเทพแห่งกลยุทธ์ ครับ



คุณขงเบ้งน่าจะสังเกตตัวเองนะครับว่า กำลังรับกรรมในการปรามาสหรือล่วงเกินพระอริยะเจ้าประเภทไหนอยู่

หรือว่ารับไปแล้วทุกประเภท มีเพียงประเภทเดียวที่ยังไม่ได้รับกรรม คือ

เมื่อตายไปย่อมเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก ๑


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ก.ค. 2009, 15:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 มี.ค. 2009, 20:48
โพสต์: 744


 ข้อมูลส่วนตัว


suwichai เขียน:
คณขงเบ้งเทพแห่งกลยุทธ์ ครับ



คุณขงเบ้งน่าจะสังเกตตัวเองนะครับว่า กำลังรับกรรมในการปรามาสหรือล่วงเกินพระอริยะเจ้าประเภทไหนอยู่

หรือว่ารับไปแล้วทุกประเภท มีเพียงประเภทเดียวที่ยังไม่ได้รับกรรม คือ

เมื่อตายไปย่อมเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก ๑




อันนี้ท่านsuwichai คงไม่เข้าใจนะงับ


แต่ผม ไม่ต้องไปอบาย ทุคติ วินิบาต นรกนะงับ ผมมีสติระวัง กาย วาจา ใจดี

ส่วนบางคนที่บิดเบือนพระพุทธพจน์ น่าจะไปเร็วนะงับ

.....................................................
“เวลาทำสมาธิ ให้ระลึกลมหายใจเข้าออก ให้รู้ลมหายใจเข้าออก ไม่ต้องบังคับลมหายใจ ตามรู้ลมหายใจเข้าออก สงบก็รู้ ไม่สงบก็รู้ สงบก็ไม่ยินดี ไม่สงบก็ไม่ยินร้าย ไม่เอาทั้งสงบและไม่สงบ เอาแค่รู้ตามความเป็นจริงของสภาวธรรมปัจจุบันนั้น”

ธรรมเหล่านี้เป็นไปเพื่อคลายกำหนัด
เป็นไปเพื่อไม่ประกอบสัตว์ไว้
เป็นไปเพื่อไม่สั่งสมกิเลส
เป็นไปเพื่อความเป็นผู้มักน้อย
เป็นไปเพื่อสันโดษ
เป็นไปเพื่อความสงัดจากหมู่คณะ
เป็นไปเพื่อปรารภความเพียร
เป็นไปเพื่อความเป็นคนเลี้ยงง่าย


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 6 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 128 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร