วันเวลาปัจจุบัน 25 เม.ย. 2024, 14:33  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 7 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ก.ค. 2009, 00:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ก.ค. 2009, 16:10
โพสต์: 298

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อยากทราบค่ะว่า พระพรหม และท่านเจ้าที่เจ้าทาง
เป็นเทวดาชั้นไหนค่ะ
ทำไมคนส่วนมากในวันพระ
ต้องนำอาหารมาไหว้ค่ะ
ท่านมีชีวิตหรือเปล่าค่ะ
:b10: :b10: :b10: :b10: :b10: :b10: :b10:

ขออนุโมทนาบุญด้วยนะค่ะ :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ก.ค. 2009, 01:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ก.ค. 2009, 08:36
โพสต์: 532

แนวปฏิบัติ: ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
สิ่งที่ชื่นชอบ: กรรมทีปนี , วิมุตติรัตนมาลี , ภูมิวิลาสินี
ชื่อเล่น: เจ้านาง
อายุ: 0
ที่อยู่: อยู่ในธรรม

 ข้อมูลส่วนตัว


:b44: :b44: พระพรหมมหาเทพแห่งความเมตตา และลิขิตชะตามนุษย์ :b44: :b44:

:b41: ในอินเดียสมัยโบราณ พระพรหมเป็นเทพผู้สร้างโลก ได้รับการยกย่องโดยพวกพราหมณ์ ให้มีฐานะเท่าเทียมกับพระวิษณุ (ผู้คุ้มครองโลก) และพระศิวะ (ผู้ทำลายโลก) วิวัฒนาการทางความเชื่อทางศาสนา และศิลปกรรมของอินเดียมีการ เปลี่ยนแปลง ตามแคว้นต่าง ๆ เสมอรวมถึงการเปลี่ยนแปลงตามประเพณีความเชื่อในช่วงสมัยนั้น ๆ โดยมีการนับถือตามนิกายต่าง ๆ ของความ เชื่อที่มีอยู่นั้น เช่น นิกายไศวะ หรือไศวะนิกาย และไวษณพนิกาย หรือไวษณวนิกาย ทั้ง ๒ นิกายให้ความเคารพนับถือเทพ คือพระศิวะ และ พระวิษณุเป็นพิเศษ จึงลดความศรัทธาความเชื่อถือพระพรหมลง และเมื่อเวลาผ่านถึง ค.ศ. ที่ ๑๐ ชาวฮินดูจึงหันมาให้ความเคารพ นับถือพระพรหมจากที่นิกายไศวะ และไวษณพนิกาย ซึ่งมีการแข่งขันกันทางด้านความเชื่ออยู่ พระพรหมจึงกลายเป็นเทพองค์สำคัญขึ้นมาใหม่ โดยมีการสร้างเทวาลัย และรูปปั้นไว้เป็นจำนวนมาก พระพรหมได้รับการนับถือบูชาในฐานะที่พระองค์เป็นผู้สร้างของทุกสิ่งทุกอย่างให้เกิดขึ้นบนโลก พระองค์ทรงเป็นผู้ให้ที่สำคัญ และเป็นผู้กำหนดโชคชะตาของมนุษย์ พระนาม ที่เรียกขานกันมีมากมายนอกเหนือจากพระพรหม หรือ พระพรหมธาดา เป็นต้นว่า ราชคุณ หมายถึง ความมี กิเลสและความปรารถนา และมูลเหตุของการสร้างโลกทั้งปวง สวายัมภู หมายถึง ผู้เกิดเอง กมลสาส์น และปัทมสาส์น หมายถึง ผู้นั่งบนดอกบัว ซึ่งเกิดมาจากสะดือของพระวิษณุ คัมภีร์ฤคเวท ปรากฏพระนาม ปชาบดี คัมภีร์รามายณะ ปรากฏพระนามอื่นๆ คือ ปรเมศวร วิธิ-เวธาส อทิกวี สนัต ชาตริวิชาตริ ปิตามหะ ทรุหิณ-สราษฎริ โลเกศ ลักษณะทางศิลป์ รูปเคารพของพระพรหมที่พบในปัจจุบันมีรูปเคารพ ๔ ปาง ๕ พระนาม ซึ่งมีลักษณะทางศิลป ดังนี้ ปางประชาบดี พระพรหม พระวรกายสีขาว สวมอาภรณ์หนังกวางสีดำพาดบ่า มี ๔ พักตร์ ๔ กร ถือช้อน แจกัน และการทำปางประทานพร ด้านขวาของพระพรหม มีรูปเทพธิดาสรัสวดี ด้านซ้ายของพระพรหม มีรูปเทพธิดาสาวิตรียืนประทับอยู่ พาหนะคือ หงส์ ปางโลกบาล พระพรหมมี ๔ พักตร์ ๔ กร ถือลูกประคำ หนังสือ ดอกบัว และแจกัน ด้านข้างมีนางสาวิตรี (๔ พักตร์) ประทับยืนด้วย ปางวิศวกรรม พระพรหมมี ๔ พักตร์ ๔ กร ถือ ช้อน หนังสือ แจกัน และลูกประคำ ปางกามลักษณะ ปางปิตมหา พระพรหมมี ๔ พักตร์ พระเกศามุ่นขมวด มี ๔ กร ถือ หนังสือ แจกัน หม้อ และช้อน ในสมัยพระพุทธศาสนาได้ถือกำเนิดแล้วได้ปรากฏภาพสลักในรูปของพระพรหมกำลังเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า พระพรหมทรงอาภรณ์ดั่งพราหมณ์ พระกรถือหม้อน้ำข้างหนึ่ง :b41: :b41: :b41:

.....................................................
...รู้จักทำ รู้จักคิด รู้ด้วยจิต รู้ด้วยศรัทธา...
..................ศรัทธาธรรม..................


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ก.ค. 2009, 01:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ก.ค. 2009, 08:36
โพสต์: 532

แนวปฏิบัติ: ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
สิ่งที่ชื่นชอบ: กรรมทีปนี , วิมุตติรัตนมาลี , ภูมิวิลาสินี
ชื่อเล่น: เจ้านาง
อายุ: 0
ที่อยู่: อยู่ในธรรม

 ข้อมูลส่วนตัว


:b44: :b44: :b44: กำเนิดพระพรหม :b44: :b44: :b44:

:b41: จากคัมภีร์และตำนานมากมายที่กล่าวถึงการกำเนิดของพระพรหม กล่าวไว้ อาทิ คัมภีร์วารหปุราณะ และมหากาพย์มหาภารตะ กล่าวไว้ว่า พระพรหมเกิดจากดอกบัวที่พุดขึ้นจากสะดือของพระวิษณุ ที่บรรทมหลับอยู่บนหลังพระยาอนันตนาคราชที่เกษียรสมุทร คัมภีร์ปัทมปุราณะ กล่าวไว้ว่า เมื่อครั้งพระวิษณุต้องการสร้างโลก จึงแบ่งภาคออกเป็น ๓ ภาค โดยพระพรหม เกิดจากสีข้างเบื้องขวา พระวิษณุ (พระองค์) เกิดจากสีข้างเบื้องซ้าย พระศิวะ เกิดจากบั้นกลางพระองค์คัมภีร์มานวธรรมศาสตร์ กล่าวไว้ว่าในครั้งเมื่อโลกยังไม่ปรากฏสิ่งใดๆ (ว่างเปล่า) พระอาตมภู (ผู้เกิดเอง) ประสงค์จะสร้างทุกสิ่งจึงสร้างน้ำขึ้นมาก่อน แล้วนำพืชโปรยลงน้ำ เวลาผ่านไปพืชนั้นกลายเป็นไข่ทองและกำเนิดพระพรหมปรากฏขึ้น นามว่า หิรัณครรภ์ หลังจากนั้นพระพรหมจึงแบ่งร่างเป็นชาย-หญิง เพื่อสร้างโลกและมนุษย์ต่อมา ช่วงนี้ขอเล่าถึงตำนานพระเศียรของเทพเจ้าผู้สร้างโลกนามพระพรหม บางส่วนของตำนานกล่าวไว้ว่า เมื่อแรกพระพรหมทรงมี ๕ เศียร เรื่องมีอยู่ว่าพระองค์ทรงหลงรักและหวงแหนพระมเหสี (พระมเหสีองค์มีหลายพระนาม อาทิ สรัสวดี สาวิตรี พราหมณี) เพื่อคุ้มครองพระมเหสีองค์นี้ด้วยว่าไม่ว่าจะเสด็จที่ใดก็ตาม พระองค์จะทรงใช้ตาที่เศียรทั้ง ๕ เศียรของ พระองค์เฝ้าติดตามไม่ว่าจะเกิดเหตุใดขึ้นก็ตามจะได้ช่วยทันทุกเวลาต่อมาเศียร ๑ ใน ๕ เศียรเกิดพูดจากดูหมิ่นพระแม่ปารพตี มเหสีของพระศิวะเมื่อพระองค์ทราบเรื่องจึงบันดาลโทสะจนเกิดการต่อสู้กันระหว่าง พระพรหมกับพระศิวะ เมื่อเวลาต่อมาพระพรหมเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ถูกพระศิวะตัดเศียรไปหนึ่งเศียร จึงเป็นเหตุให้พระพรหม เหลือเพียง ๔ เศียร นับแต่นั้นเป็นต้นมา บางตำนานกล่าวไว้ว่า พระพรหมทรงถูกพระศิวะใช้ฤทธิ์เพ่งตาที่ ๓ ทำให้เกิดไฟเผาผลาญเศียรที่ ๕ ของพระพรหมจนมอด ไหม้ เพราะกล่าวคำหมิ่นพระศิวะนั่นเอง :b41: :b41: :b41:

.....................................................
...รู้จักทำ รู้จักคิด รู้ด้วยจิต รู้ด้วยศรัทธา...
..................ศรัทธาธรรม..................


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ก.ค. 2009, 01:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ก.ค. 2009, 08:36
โพสต์: 532

แนวปฏิบัติ: ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
สิ่งที่ชื่นชอบ: กรรมทีปนี , วิมุตติรัตนมาลี , ภูมิวิลาสินี
ชื่อเล่น: เจ้านาง
อายุ: 0
ที่อยู่: อยู่ในธรรม

 ข้อมูลส่วนตัว


:b41: รายละเอียดอื่นๆ รวมทั้งเรื่องของเจ้าที่ ขอติดค้างไว้ก่อนนะคะ :b41: :b41: :b41:

.....................................................
...รู้จักทำ รู้จักคิด รู้ด้วยจิต รู้ด้วยศรัทธา...
..................ศรัทธาธรรม..................


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ก.ค. 2009, 19:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ก.พ. 2009, 20:42
โพสต์: 699


 ข้อมูลส่วนตัว


เข้าใจว่า เป็นเพียงรูปสักการะ แต่ที่ศักดิ์สิทธิ์นั้น ก็เพราะว่า...

เมื่อมีคนไปเคารพบูชา มีการเซ่นไหว้ (เป็นสัญลักษณ์ของการสักการะอย่างหนึ่ง) กันมากๆ เข้า พวกผีทั้งที่เป็นเทวดาและอื่นๆ ก็จะมาอยู่แถวนั้น ด้วยเหตุผลต่างๆ เช่นเพื่อสร้างบารมี เป็นต้น
กรณีแบบนี้ ก็เป็นกรณีเดียวกันกับที่เคยมีคนพูดว่า ถ้าคนไปไหว้ก้อนหินก้อนหนึ่งมากๆ เข้า ก้อนหินก้อนนั้น ก็จะศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมาเอง...

ส่วนจะศักดิ์สิทธิ์แค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับเทวดาที่มาประทับอยู่ ในโลกทิพย์เป็นโลกของพลังจิต (ซึ่งเรียกได้หลายแบบ เช่น บารมี ทิพยอำนาจ หรือฤทธิ์) เพราะฉะนั้น รูปเคารพใดที่มีคนไปบูชามากๆ หรือถ้าเป็นสถานที่สำคัญๆ ก็ย่อมเป็นแหล่งดึงดูดของเทวดาทั้งหลาย เทวดาที่มาประทับอยู่ จึงต้องมีบารมีมากกว่าเทวดาอื่นๆ ที่มีบารมีน้อยลงก็อาจไปอยู่ในที่ที่สำคัญน้อยลง
ส่วนพวกเปรตก็อาจไปสิงสู่ (ถ้าเป็นผู้ดี จะใช้คำว่าประทับจ๊ะ อิอิ) ตามป่าเขาต้นไม้ จอมปลวกต่างๆ เป็นต้น
แต่ก็ต้องหมายเหตุไว้ว่า เทวดาก็อาจอยู่ในป่าได้เช่นกัน เพราะจิตแต่ละจิตย่อมมีจริต หรือความชอบไม่เหมือนกัน

ตรงนี้จึงเป็นคำอธิบายว่า ถ้าเรามีศาลพระภูมิ ห้องพระหรือเจ้าที่ ก็ควรจะจุดธูป ทำความสะอาดบ้าง ไม่อย่างนั้นก็จะไม่มีใครมาอยู่ด้วย
ส่วนพวกกุมารทอง หรือรัก-ยม นั้น เราเข้าใจว่า เป็นเปรต เขาจึงห้ามไปตั้งไว้กับพระพุทธรูป เหตุผลหลักๆ น่าจะเป็นว่า หากเราชอบจุดธูปสวดมนต์บ่อยๆ ก็อาจมีเทวดามาประทับอยู่ ผีในกุมารอาจอยู่ไม่ได้ เพราะอำนาจจิตอ่อนกว่า เสียของไป... แต่ถ้าไม่เคยบูชาพระเลย พระพุทธรูปก็เป็นเพียงวัตถุชิ้นหนึ่ง ไม่ส่งผลต่อกุมารใดๆ

พวกผีเหล่านี้ (ทั้งเทวดาและเปรต) ไม่ใช่เทพจากเทวโลกเป็นแน่ เพราะในแต่ละโลกก็ย่อมมีกิจเป็นของตน... และก็ควรตั้งสติว่า โลกที่เราอยู่เป็นโลกวัตถุ พวกร่างทิพย์จะช่วยเหลือเราได้ในขอบเขตที่จำกัดเท่านั้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ก.ค. 2009, 11:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 22 ก.พ. 2009, 01:02
โพสต์: 337


 ข้อมูลส่วนตัว


:b41: :b41: :b41: :b42: :b42: :b42: :b41: :b41: :b41:

สวัสดีครับ คุณ rawisada และกัลยาณมิตรธรรมทุกท่าน :b8: :b8: :b8:

ขอเข้ามาร่วมแสดงความเห็นด้วยครับ :b6: :b6: :b6:

ก่อนอื่นขอกล่าวถึงภพภูมิในพุทธศาสนา ซึ่งมีทั้งหมด ๓๑ ภูมิ ก่อน คือ

๑. สวรรค์ชั้นกามาวจร ๖ ชั้น
๒. สวรรค์ชั้นรูปพรหม (๑๖ ชั้น)
๓. สวรรค์ชั้นอรูปพรหม (๔ ชั้น)
๔. อบายภูมิ ๔ ชั้น
๕. มนุษย์โลก

:b48: :b48: :b48:
ดังนั้นถ้าจะกล่าวถึงพระพรหม ชาวพุทธก็จะนึกถึงสวรรค์ ๒๐ ชั้น คือ ๒. และ ๓.(รูป/อรูป พรหม)
เรื่องราวของพระพรหมได้ผสมผสานเล่าขานสืบต่อกันมา ตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัยจนถึงปัจจุบัน ซึ่งมีประวัติกล่าวไว้ในหนังสือและคัมภีร์ของศาสนาพุทธ และศาสนาพราหมณ์หลายเล่ม อาทิ พระไตรปิฎกพระสุตตันตปิฏก ไตรภูมิพระร่วง ปฐมสมโพธิกถา ภูมิวิลาสินี ตลุยพรหมโลก เทวกำเนิด เทวนิยาย เป็นต้น การกำเนิดพระพรหมของพระพุทธศาสนาสืบเนื่องมาจาก พระสงฆ์สาวกขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เทพยดา พระราชา พราหมณ์ปุโรหิต พระโยคี พระฤาษี ชีพราหมณ์ พระภิกษุสามเณรผู้มีจิตบริสุทธิ์ และมีความเพียรกล้าศรัทธาปรารถนา ซึ่งการหลุดพ้นจากกิเลส คือ หลุดพ้นจากความโลภ ความโกรธ และความหลงให้หมดสิ้นไป จึงตั้งใจบำเพ็ญภาวนาวิปัสสนากรรมฐาน อย่างสม่ำเสมอจนสำเร็จฌานในขั้นต่างๆ โดยการปฏิบัติตามหลัก และวิธีการของศาสนาพุทธ หรือศาสนาพราหมณ์ตามอำนาจแห่งฌานชั้นต่าง ๆ ที่ได้บรรลุนั้น จะนำตนเมื่อตายไปจากโลกมนุษย์แล้ว ไปเกิดยังเทวโลกและพรหมโลก
:b48: :b48: :b48:
พระพรหมที่นำมากล่าวถึงในนี้ หมายเอาพระพรหม ที่ปรากฏในพระคัมภีร์ทางพระพุทธศาสนา ดังนั้น จึงจะนำภาพรวมของพระพรหมมากล่าวไว้สักเล็กน้อย พระพรหมนั้นจะแบ่งออกเป็นชั้น ๆ สูงขึ้นไปเรื่อย ๆ ความสุขจะละเอียดมากยิ่งขึ้น ตั้งแต่พระพรหมชั้นต่ำจนถึงพระพรหมชั้นสูงสุด สถานที่อยู่ของพระพรหมนั้น ท่านเรียกชื่อว่า พรหมโลก พระพรหมมี ๒ แบบ คือรูปพรหม คือพรหมที่ยังมีรูปขันธ์ร่างกายอยู่ และอรูปพรหม คือพรหมที่ไม่มีรูปขันธ์ร่างกายแล้วคงมีแต่นามขันธ์เท่านั้น
:b48: :b48: :b48:
จากตำราเท่าที่มีอยู่ จะเห็นได้ว่า โลกมนุษย์เป็นภพภูมิที่ดีกว่า สะดวกสบายมากกว่า ทั้งในด้านความเป็นอยู่ การทำมาหากิน ปลอดภัยมากกว่า พวกสัตว์ในอบายภูมิ คือ สัตว์นรก เปรต อสุรกาย สัตว์เดรัจฉาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบำเพ็ญบุญบารมีต่าง ๆ พระโพธิสัตว์ที่ทรงบำเพ็ญบารมีธรรม ก็อยู่อาศัยอยู่ในโลกมนุษย์นี้เอง แม้บางครั้งจะถือกำเนิดเป็นอย่างอื่นที่ไม่ใช่คนก็ตาม ถึงแม้คราวที่บารมีธรรมเต็มบริบูรณ์พร้อมที่จะตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระบรมศาสดา ทั้งของเทวดา และมนุษย์ทั้งหลาย ก็ทรงเลือกที่จะมาตรัสรู้ในโลกมนุษย์นี่เอง ส่วนโลกสวรรค์ที่อยู่ของเหล่าเทวดาและนางฟ้าทั้งหลายเป็นภพภูมิที่มีความสุข ความสงบ ร่มเย็น ความสะดวกสบายมากกว่าโลกมนุษย์โดยประการทั้งปวง ส่วนพรหมโลกที่อยู่ของพรหมนั้นพูดถึงเรื่องความสุขสงบร่มเย็นความสะดวกสบายคงไม่มีที่ใดเปรียบเทียบได้ในกลุ่มบุคคลที่ยังมีกิเลส เมื่อชาวพุทธนึกถึงพระพรหม ก็ควรนึกถึงการปฏิบัติธรรม การบำเพ็ญบารมี จนหลุดพ้นจากอบายภูมิ ไปสู่ชั้นพรหม ควรน้อมนำธรรมเหล่านั้นมาประพฤติ ปฏิบัติตามท่าน วิธีการที่จะทำให้เข้าถึงความเป็นพรหมนั้นคือ การเจริญรูปฌานทำให้เกิดในหมู่รูปพรหมได้ และเจริญอรูปฌานก็ทำให้เกิดในอรูปฌานได้ แต่วิธีการที่จะทำให้เป็นพรหมในขณะที่เป็นมนุษย์ คือร่างกายเป็นมนุษย์แต่จิตใจเป็นพระพรหมนี้ที่ง่ายที่สุด น่าจะเป็นการเจริญพรหมวิหารธรรม คือน้อมนำธรรม ๔ ประการอันได้แก่ เมตตา กรุณา มุทิตา และอุเบกขา มาปฏิบัติในชีวิต ประจำวันให้ได้
:b48: :b48: :b48:
การบวงสรวงสักการบูชาในรูปแบบต่าง ๆ ที่เห็นใครต่อใครเขาทำกันอยู่ทั่ว ๆ ไป โดยคิดไปว่าท่านเป็นเทพเจ้าพระผู้เป็นเจ้าอยู่เบื้องบนสามารถให้กำเนิดหรือสร้างทุกสิ่งทุกอย่าง หรือคิดอีกแบบว่า ท่านเป็นผู้กำหนดวิถีชีวิต ความเป็นไปของมนุษย์ในโลกนี้ทั้งหมดว่า เจ้าต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ครับ .........พรหมลิขิต หรือ ตนลิขิต กันแน่ :b10: :b10:


:b44: :b44: :b44:
ที่เรียกว่าเจ้าที่เจ้าทาง คงเคยเป็นมนุษย์คนหนึ่ง พอตายไปจากมนุษย์ ด้วยผลกรรม [มีทั้งดี-ไม่ดี] ก็เลยไปเกิดใหม่ตามภพภูมิของพวกเขา ก็มีอายุขัยของตัวเอง ในภพภูมิใหม่นั้น ๆ ภพภูมิของเทพชั้นต่ำ และภพภูมิของเปรต[อสูรกาย]นั้นอยู่ใกล้ชิดกับโลกมนุษย์มาก ส่วนที่เห็นว่ามีการแก้บนอะไรนั่น เป็นเรื่องของมนุษย์ คงไม่เกี่ยวกับพวกเขาเหล่านั้นเพราะปกติแล้ว เรื่องเครื่องเซ่นของแก้บนอะไรเนี่ยพวกเขาไม่อยู่ในฐานะที่จะรับได้ ที่รับได้ก็เป็นกระแสจิตที่ส่งระลึกถึง เจ้าที่ที่มาอยู่กับมนุษย์นั้น มีเพียงพวกเทวดาชั้นต่ำ วิมานอยู่ที่พื้นดินติดกับมนุษย์เท่านั้นแหละครับที่มาอยู่ ยิ่งพรหมยิ่งไม่มาอยู่ใกล้มนุษย์ครับ เพราะเทวดาเขาเหม็นกลิ่นมนุษย์ ยกเว้นมนุษย์ผู้มีกลิ่นศีลหวนทวนลม เช่น พระพุทธเจ้า พระอรหันต์ พระภิกษุผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ นั่นแหละครับ เทวดาถึงสามารถลงมาอยู่ใกล้ว มารับบุญ มาฟังธรรมได้น่ะครับ ก็มาขอแสดงความคิดเห็น (ส่วนตัว) แค่นี้แหละครับ :b1: :b16: :b12:

เจริญในธรรมครับ :b8: :b8: :b8:

:b41: :b41: :b41: :b42: :b42: :b42: :b41: :b41: :b41:

.....................................................
ราตรีของผู้ตื่นอยู่นาน...โยชน์ของผู้ล้าแล้วไกล


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ก.ค. 2009, 11:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 พ.ค. 2009, 19:40
โพสต์: 35

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


แวะมาอ่านค่ะ

.....................................................
รู้จักคุณค่าในสิ่งที่เรามี


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 7 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 122 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร