| ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
| สัมมาอาชีวะที่ชอบธรรม - พระพยอม กัลยาโณ http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=23771 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
| เจ้าของ: | ไหว้พระปล่อยปลา [ 12 ก.ค. 2009, 10:30 ] | ||
| หัวข้อกระทู้: | สัมมาอาชีวะที่ชอบธรรม - พระพยอม กัลยาโณ | ||
สัมมาอาชีวะที่ชอบธรรม - พระพยอม กัลยาโณ การประกอบอาชีพ หรือ การหาเลี้ยงชีพ ที่เรามักจะพูดกันว่า "ทำมาหากิน" ในทางที่ถูกต้อง ในทางที่ไม่เป็นบาปเป็นโทษ ที่จะทำให้ตนเองอยู่ร้อนนอนทุกข์ ทางนี้พระพุทธองค์ทรงตรัสว่าเป็น "สัมมาอาชีวะ" หรือสัมมาชีพนั่นเอง หลักธรรมทางพระพุทธศาสนาสอนมาเป็นเวลาถึงสองพันกว่าปีมาแล้ว สามารถพิสูจน์สัจธรรมนี้ได้ตลอดเวลา เป็น "อกาลิโก" ไม่ประกอบด้วยกาลเวลา กาลเวลาไม่สามารถมาหยุดหรือทำให้สัจธรรมนี้เปลี่ยนแปลงไปได้ สัมมาอาชีวะ หรือสัมมาชีพนั้น มีหลักการอยู่ว่า ไม่หาเลี้ยงชีพในทางที่จะเบียดเบียนตนเองและผู้อื่น รวมถึงประเทศชาติบ้านเมืองด้วย การที่มีการแบ่งอาชีพต่างๆ เช่น อาชีพรับราชการ เป็นครู เป็นทหาร เป็นตำรวจหรืออาชีพค้าขาย เป็นพ่อค้า แม่ค้า อาชีพเกษตรกรรม เป็นเกษตรกร ชาวไร่ ชาวนา อะไรก็ตามที่เป็นการทำมาหากิน ถือว่าเป็นอาชีพทั้งนั้น เพราะฉะนั้น ถ้าพูดถึงสัมมาชีพแล้ว ก็จะต้องพูดถึงสิ่งที่ตรงข้ามกันคือ "มิจฉาชีพ" ซึ่งเวลานี้มิจฉาชีพมันเข้าไปอยู่ทุกวงการแล้ว และนับวันก็ยิ่งจะทวีมากขึ้นเรื่อยๆ ในวงการธุรกิจ... ที่เป็นมิจฉาชีพก็เยอะ ที่ประกอบอาชีพประกอบธุรกิจในทางที่ไม่ถูกทำนองคลองธรรม บางทีผลิตของออกมามอมเมาประชาชน ใส่สารเสพติดให้คนบริโภคต้องติด ต้องเมา นักธุรกิจบางคน ก็ไปลงทุนทำการค้าการขาย สร้างความฉิบหายไว้ให้กับเด็กและเยาวชน สร้างเธค ผับ คลับ บาร์ ให้เด็กไปลุ่มหลงในอบายมุข และก็ได้เงิน รีดเงินจากเด็กมาใช้ อย่างนี้เรียกว่าเป็นมิจฉาชีพในทางธุรกิจ ก็ขอให้ท่านผู้อ่านทั้งหลายได้ตระหนักว่า ตัวเองก็อย่าเผลอปล่อยทางให้มิจฉาชีพขึ้นบ้าน หรือก้าวเข้ามาในชีวิตการงานได้ หรือใครกำลังประกอบมิจฉาชีพอยู่ ก็ละหรือเลิกเสีย จะได้เกิดความร่มเย็นเป็นสุข ไม่ต้องเข้าไปอยู่ในคุกในตะราง อย่างที่กำลังเป็นข่าวอยู่ทุกวันนี้ บางที การอยากได้มากเกินไป ที่เรียกว่าโลภมากเกินไป ก็เป็นภัยเป็นพิษ เพราะการไม่รู้จักพอก่อให้เกิดผลร้ายกับตนเองเขาจึงพูดกันว่า คนจนนั้นมีอยู่ ๒ ประเภท คือ ประเภทแรกจนจริงๆ จนชนิดที่ว่าไม่มีอะไรเลย เกิดมาจน อีกประเภทหนึ่ง จนเพราะไม่รู้จักพอ ไม่รู้จักอิ่ม พระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้เป็นพุทธภาษิตว่า "นัตถิ ตัณหา สมานที" แปลว่า ไม่มีแม่น้ำใดๆ จะยิ่งใหญ่เสมอเท่ากับความต้องการของมนุษย์ โดย พระพยอม กัลยาโณ
|
|||
| เจ้าของ: | คนขวางโลก [ 12 ก.ค. 2009, 10:47 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: สัมมาอาชีวะที่ชอบธรรม - พระพยอม กัลยาโณ |
อ้างคำพูด: การประกอบอาชีพ หรือ การหาเลี้ยงชีพ ที่เรามักจะพูดกันว่า "ทำมาหากิน" ในทางที่ถูกต้อง ในทางที่ไม่เป็นบาปเป็นโทษ ที่จะทำให้ตนเองอยู่ร้อนนอนทุกข์ ทางนี้พระพุทธองค์ทรงตรัสว่าเป็น "สัมมาอาชีวะ" หรือสัมมาชีพนั่นเอง หลักธรรมทางพระพุทธศาสนาสอนมาเป็นเวลาถึงสองพันกว่าปีมาแล้ว สามารถพิสูจน์สัจธรรมนี้ได้ตลอดเวลา เป็น "อกาลิโก" ไม่ประกอบด้วยกาลเวลา กาลเวลาไม่สามารถมาหยุดหรือทำให้สัจธรรมนี้เปลี่ยนแปลงไปได้ เหมือนกับว่า "โจร สอนให้คนรู้ว่า การเป็นโจรมันไม่ดี มันผิด มันบาป ฉะนั้นอย่าเป็นโจร ให้เป็นคนดี แต่ตนเองก็ยังคงเป็นโจรอยู่ต่อไป" "อกาลิโก" พระวินัย บัญญัติห้ามอะไรไว้ แสดงว่า มันมีโทษแน่นอนถ้าล่วงละเมิด แต่ภิกษุทุกวันนี้ก็มักอ้างว่า สมัยมันเปลี่ยนไปแล้ว ต้องปรับให้เข้ากับยุคกับสมัย ทั้งๆ ที่รู้ว่า สิ่งนั้นมันผิดแต่ก็ทำเป็นไม่รู้ แล้วก็มาสอนคนอื่นว่า "ธรรม ของพระพุทธองค์ เป็น อกาลิโก" มันช่างขัดแย้งกันสิ้นดี สอนคนให้ทำดี แต่ตนเองกลับเลวทราม (อันนี้้ว่าตัวเองนะครับ คือ สอนให้คนทำดี แต่ตนเองยังทำเลวทรามอยู่ )
|
|
| หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
| Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |
|