ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
ต้องการคำตอบในปริศนาธรรมนี้ครับ http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=23950 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 5 |
เจ้าของ: | ผู้ไม่รู้ [ 17 ก.ค. 2009, 02:11 ] |
หัวข้อกระทู้: | ต้องการคำตอบในปริศนาธรรมนี้ครับ |
คำถาม : เมื่อท่านเห็นงูกำลังจะกินลูกนก ท่านจะทำอย่างไร?... ก.) ปล่อยให้งูกินลูกนก เพราะยึดถือคำสอนที่ว่า "...สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม..." ข.) ช่วยไล่งูให้ไปไกลๆจากลูกนก เพราะยึดถือคำสอนที่ว่า "...เมตตาธรรมค้ำจุนโลก..." ค.) เลือกข้อใดข้อหนึ่ง ระหว่างข้อ ก. หรือ ข้อ ข. แต่มีเหตุผลเป็นอย่างอื่น! (...โปรดแสดงเหตุผลที่เป็นธรรมะของท่าน...) ง.)ไม่เลือกทั้งข้อ ก. หรือ ข้อ ข. (...แล้วท่านจะทำอย่างไรกับกรณีนี้...โปรดแสดงเหตุผลที่เป็นหลักธรรมของท่าน...) ...ขอท่านผู้เจริญ ได้โปรดชี้ทางสว่างให้ข้าพเจ้า " ผู้ไม่รู้ " ด้วยครับ... |
เจ้าของ: | บัวศกล [ 17 ก.ค. 2009, 03:34 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ต้องการคำตอบในปริศนาธรรมนี้ครับ |
หากงูกำลังจะกินลูกนก ต่อหน้าต่อตาของเรา ผู้ซึ่งมีกำลังพอจะช่วยลูกนกได้ ให้รอดพ้นจากความตายอันจะมาถึง หากเป็นส่วนตัวผมแล้ว ผมย่อมอดไม่ได้ที่จะขวางการกระทำอย่างนั้นของ งู และผมก็เคยทำอย่างนั้นมาแล้วด้วย แต่เป็นงู กับจิ้งเหลน เหตุผล เพราะถึงแม้มันจะเป็นธรรมชาติของสัตว์ ที่สัตว์ใหญ่กินสัตว์น้อย เป็นปกติตามวงจรธรรมชาติ แต่มันไม่ควรมากินให้ผมเห็น เพราะนั่นหมายถึง มันมีอีกหนึ่งสิ่งในวงจรชีวิตเกิดขึ้นด้วย ในขณะนั้น นั่นก็คือ การดิ้นรน เพื่อพยามรักษาชีวิตให้รอดของลูกนก การดิ้นรนหนีตายต่อหน้าต่อตาเราผู้สามารถช่วยเขาได้ ย่อมเหมือนคำขอร้อง เหมือนการเรียกร้องความกรุณา ดังนั้นผู้มีเมตตาจึงอดไม่ได้ที่จะ ช่วยเหลือเขา ตามกิริยาซึ่งเขากำลังร้องบอก เพราะหากไม่ช่วยใจคงรู้สึกผิด การไม่ช่วย ทั้งที่ช่วยได้มันอาจทำให้เรารู้สึกว่าเรามีส่วนรู้เห็นด้วยกับการที่เขาถูกเอาชีวิต ดังนั้นจึงคิดว่าควรอย่างยิ่งที่เราจะช่วยเขา หากเรื่องราวเหล่านั้นมาอยู่ตรงหน้า แต่ถ้าหากสัตว์กำลังจะกินเหยื่อ ในที่ใดซึ่งไม่อยู่ในสายตาเรา มันก็เป็นเรื่องของวงจรชีวิตสัตว์ ที่เราพอจะปล่อยมันให้เป็นไปตามธรรมชาติของมัน เพราะตอนที่เธอกำลังจะกินเหยื่อ เราไม่ได้เห็นเหตุการณ์ เราจึงไม่ได้ถูกขอร้องจาก กิริยาของผู้กำลังจะตาย เมื่อไม่มีใครมาร้องขอต่อหน้า การวางอุเบกขา ย่อมสมควรที่จะกระทำ เพราะสัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม มีเหตุผลแต่เพียงเท่านี้ครับ ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | ทักทาย [ 17 ก.ค. 2009, 03:45 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ต้องการคำตอบในปริศนาธรรมนี้ครับ |
![]() เพราะสัญชาติญานที่ต้องช่วยเหลือผู้ที่อ่อนแอ ส่วน"เมตตาธรรมค้ำจุนโลก" จะเป็นผลพลอยได้ ขณะที่เผชิญเหตุการณ์คงยังไม่ทันคิดถึงข้อนี้ ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | เอรากอน [ 17 ก.ค. 2009, 10:13 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ต้องการคำตอบในปริศนาธรรมนี้ครับ |
สองเดือนก่อน ที่บ้านสวน (บ้านแม่) ตอนกลางคืน งูแอบขึ้นไปรัดลูกแมว แม่เห็น รีบตะโกนเรียกพี่ชายเอาไม้มาตีงู "งูจะกินแมว" พี่ชายก็รีบวิ่ง ตึ้ง ตึ้ง ตึ้ง ตึ้ง มาดูลูก (คือพวกเขาคลอดกันบนเตียงพี่ชาย เพราะแม่แมวเขานอนกับพี่ชาย ก็เลยประคบประหงมกันบนนั้น.... ![]() ![]() ![]() พอวิ่งมาถึง ลูกแมวก็ตกใจตื่น เจ้าหมอก แมวพื้นตัวสีขาวลายเสือสีน้ำตาลอ่อน ๆ ก็คลายหางออกจากน้องของมันซึ่งมีสีดำ ลุกมาบิดขี้เกียจ และเงยหน้าขึ้นมอง "เหมี๊ยววว" ![]() ![]() ![]() ส่วนคำตอบ กับคำถามนี้จริง ๆ ก็แล้วแต่ เจออะไร คิดอะไรได้ตอนนั้น ก็ทำอย่างนั้น ไม่มีหลักการใด ๆ เป็นมาตรฐานค่ะ ถ้าจะเป็นหลักธรรม ก็คงต้องบอกว่า ปัจจัยในตอนนั้นมันมีอะไรบ้าง ก็ทำไปตามวิถี ถ้าลูกนกตัวนั้นยังไม่ถึงที่ตาย ก็ต้องมีเหตุปัจจัยมาแทรก ให้ผู้ที่พบเห็นเกิดความเมตตาต่อนกน้อย ถ้าลูกนกตัวนั้น สมควรตาย ก็ต้องมีเหตุปัจจัยไม่ให้มีสิ่งใดมาแทรกแซง และปัจจัยต่าง ๆ มันก็เป็นตัวทดสอบผู้ดูด้วยเช่นกัน แต่เราชอบคำกล่าวที่ว่า ไม่แทรกแซง นะ แต่ก็ต้องยอมรับว่า บางเรื่องมันก็ทำใจง่ายบ้าง ทำใจไม่ยากบ้าง ทำใจไม่ง่ายบ้าง และทำใจยากบ้าง... สรุป...ไม่รู้ค่ะ อะไรจะเป็นก็เป็นเถอะ อ้างคำพูด: เหตุผล เพราะถึงแม้มันจะเป็นธรรมชาติของสัตว์ ที่สัตว์ใหญ่กินสัตว์น้อย เป็นปกติตามวงจรธรรมชาติ แต่มันไม่ควรมากินให้ผมเห็น อืมห์...จุ๊ จุ๊ คราวนี้รู้แล้วใช่มั๊ยเจ้างูซื่อบื้อ คราวหลังให้แอบไปกินน๊ะจ๊ะ เข้าใจมั๊ย...แอบบบ...น่ะ เจ้างูตอบ - "รู้แล้วเจ้าข้า...." |
เจ้าของ: | กามโภคี [ 17 ก.ค. 2009, 10:28 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ต้องการคำตอบในปริศนาธรรมนี้ครับ |
ผู้ไม่รู้ เขียน: คำถาม : เมื่อท่านเห็นงูกำลังจะกินลูกนก ท่านจะทำอย่างไร?... ก.) ปล่อยให้งูกินลูกนก เพราะยึดถือคำสอนที่ว่า "...สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม..." ข.) ช่วยไล่งูให้ไปไกลๆจากลูกนก เพราะยึดถือคำสอนที่ว่า "...เมตตาธรรมค้ำจุนโลก..." ฯลฯ ...ขอท่านผู้เจริญ ได้โปรดชี้ทางสว่างให้ข้าพเจ้า " ผู้ไม่รู้ " ด้วยครับ... ข้อนี้เข้าใจว่ายังไม่ถึงที่ลูกนกอยู่ หรืออาจถึงแล้วแต่ยังไม่คาบลูกนก โจทย์ไม่แจ้ง ไม่เห็นภาพดุจเห็นเอง ตอบตามยถากรรมก่อนดีกว่า(ตอบได้เท่าที่ตอบตามข้อมูลที่อ่าน) ![]() กรณียังไม่ถึงกับคาบลูกนกเข้าปาก กรณีนี้ ต้องไล่ก่อน ธรรมดาสัตว์เช่นงู อาการที่จะเป็นเจ้าของหรือสิทธิ์ตามธรรม ชาติของมันเอง คงต้องยึดถือไว้ ลูกนกยังไม่โดนคาบตราบใด ก็จัดว่ายังไม่ไช่อาหารหรืองูยังไม่มีสิทธิ์ในลูกนกตราบ นั้น และไม่เป็นการไปตัดรอนเรื่องอาหารให้งูต้องอดอยาก การที่ยังไม่คาบเข้าปาก ก็เป็นอันสรุปไม่ได้แน่ว่างูจะได้ งาบลูกนก เพราะเหตุที่จะมาขัดขวางอาจมีอีก เช่น แม่นกกลับมาทันเป็นต้น และตราบใดที่ลูกนกยังไม่อยู่ในปาก งู งูไม่ไช่เจ้าของตราบนั้น การไปไล่ ไม่ไช่เป็นการไปยื้อหรือทำลายหรือขัดขวางทรัพย์ของผู้อื่น ส่วนธรรมะนั้น เมตตา อย่างเดียวก็พอปนเปกับหลักตัดสินเรื่องทรัพย์ในอทินนาทานนิดหน่อย พอไหว |
เจ้าของ: | ningnong [ 17 ก.ค. 2009, 11:56 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ต้องการคำตอบในปริศนาธรรมนี้ครับ |
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ... ![]() ![]() ผมคงช่วยไล่งูให้ไปไกล ๆ จากลูกนก (มีจิตเบิกบานด้วยเมตตา อิ อิ) แต่ทั้งนี้ ทั้งนั้น ก็ต้องมีไม้ หรือเครื่องมืออะไร สำหรับไล่งู (ไม่ประมาท) ![]() ![]() ขันติธรรมมีคุณค่ามหาศาล จิตเบิกบานด้วยเมตตาน่าเลื่อมใส เสียสละก็ทำได้ทั้งกายใจ พร้อมอภัยไม่ยึดถือคือปล่อยวาง เจริญในธรรมครับ ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | Bwitch [ 17 ก.ค. 2009, 12:17 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ต้องการคำตอบในปริศนาธรรมนี้ครับ |
![]() ขออนุญาตเสนอความเห็นว่า น่าจะทำเป็นโพลนะคะ จะได้โหวตกัน เฉพาะกรณีนี้... ส่วนตัวดิฉันแล้วเห็นว่างูกำลังกินอาหารค่ะ ไม่ว่าจะไล่หรือไม่ ก็น่าจะเป็นบาปทั้งสองทาง ขอไม่เลือกดีกว่า สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม และอีกเหตุผลหนึ่งคือ ไม่ทราบเป็นไร ไม่ค่อยถูกกับงู กลัว แต่มีเหตุต้องเจอกันบ่อยๆ กลัวมากๆ เลยนะคะ แค่เห็นคราบงูก็ขนลุก มือ-เข่าอ่อนแล้วค่ะ ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | ชาติสยาม [ 17 ก.ค. 2009, 20:07 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ต้องการคำตอบในปริศนาธรรมนี้ครับ |
ปล่อยไปตามกรรม ถ้าไม่ให้งูกิน งูก็อาจจะตายเหมือนกัน ใช่หรือเปล่า แปลว่าเราไม่ชอบงู เราเลือกที่รักมักที่ชัง เลยเลือกช่วยนกไว้ก่อน งูไม่สมควรอยู่ นกสมควรอยู่ เหยียบงูลง อุ้มนกขึ้น เลือกเกลียด เลือกรัก ตันหาทั้งนั้นแหละจ๊ะ อย่าไปเลือกให้ใครอยู่ใครตายเลย อย่าไปยุ่งเลยจ๊ะ |
เจ้าของ: | murano [ 17 ก.ค. 2009, 20:48 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ต้องการคำตอบในปริศนาธรรมนี้ครับ |
ถ้าไม่ใช่นกที่เราเลี้ยง ก็เอากล้องมาถ่ายตอนงูกินนก... |
เจ้าของ: | TAKSA [ 17 ก.ค. 2009, 20:56 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ต้องการคำตอบในปริศนาธรรมนี้ครับ |
ผู้ไม่รู้ เขียน: คำถาม : เมื่อท่านเห็นงูกำลังจะกินลูกนก ท่านจะทำอย่างไร?... ก.) ปล่อยให้งูกินลูกนก เพราะยึดถือคำสอนที่ว่า "...สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกร ข.) ช่วยไล่งูให้ไปไกลๆจากลูกนก เพราะยึดถือคำสอนที่ว่า "...เมตตาธรรมค้ำจุนโลก..." ค.) เลือกข้อใดข้อหนึ่ง ระหว่างข้อ ก. หรือ ข้อ ข. แต่มีเหตุผลเป็นอย่างอื่น! (...โปรดแสดงเหตุผลที่เป็นธรรมะของท่าน... ง.)ไม่เลือกทั้งข้อ ก. หรือ ข้อ ข. (...แล้วท่านจะทำอย่างไรกับกรณีนี้...โปรดแสดงเหตุผลที่เป็นหลักธรรมของท่าน...).. ถ้าเลือกข้อ ก. ก็เหมือนเรามิได้ทำกรรมอันใดเลย เท่ากับว่าไม่มีกรรมดีกรรมชั่วเกิดขึ้น แต่จะทำให้เรารู้สึกไม่ดีหดหู่ใจ ถ้าเลือกข้อ ข. ก็เหมือนไปทำกรรมกับงู คือไปขัดขวางไม่ให้งูกินอาหาร บาปจะตกอยู่กับเรา ฉะนั้นผมเลือกข้อ ค. ช่วยลูกนกไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของงู แล้วนำสิ่งไม่มีชีวิตให้งูกินแทน |
เจ้าของ: | dhama [ 17 ก.ค. 2009, 21:22 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ต้องการคำตอบในปริศนาธรรมนี้ครับ |
บัวศกล เขียน: หากงูกำลังจะกินลูกนก ต่อหน้าต่อตาของเรา ผู้ซึ่งมีกำลังพอจะช่วยลูกนกได้ ให้รอดพ้นจากความตายอันจะมาถึง หากเป็นส่วนตัวผมแล้ว ผมย่อมอดไม่ได้ที่จะขวางการกระทำอย่างนั้นของ งู และผมก็เคยทำอย่างนั้นมาแล้วด้วย แต่เป็นงู กับจิ้งเหลน เหตุผล เพราะถึงแม้มันจะเป็นธรรมชาติของสัตว์ ที่สัตว์ใหญ่กินสัตว์น้อย เป็นปกติตามวงจรธรรมชาติ แต่มันไม่ควรมากินให้ผมเห็น เพราะนั่นหมายถึง มันมีอีกหนึ่งสิ่งในวงจรชีวิตเกิดขึ้นด้วย ในขณะนั้น นั่นก็คือ การดิ้นรน เพื่อพยามรักษาชีวิตให้รอดของลูกนก การดิ้นรนหนีตายต่อหน้าต่อตาเราผู้สามารถช่วยเขาได้ ย่อมเหมือนคำขอร้อง เหมือนการเรียกร้องความกรุณา ดังนั้นผู้มีเมตตาจึงอดไม่ได้ที่จะ ช่วยเหลือเขา ตามกิริยาซึ่งเขากำลังร้องบอก เพราะหากไม่ช่วยใจคงรู้สึกผิด การไม่ช่วย ทั้งที่ช่วยได้มันอาจทำให้เรารู้สึกว่าเรามีส่วนรู้เห็นด้วยกับการที่เขาถูกเอาชีวิต ดังนั้นจึงคิดว่าควรอย่างยิ่งที่เราจะช่วยเขา หากเรื่องราวเหล่านั้นมาอยู่ตรงหน้า แต่ถ้าหากสัตว์กำลังจะกินเหยื่อ ในที่ใดซึ่งไม่อยู่ในสายตาเรา มันก็เป็นเรื่องของวงจรชีวิตสัตว์ ที่เราพอจะปล่อยมันให้เป็นไปตามธรรมชาติของมัน เพราะตอนที่เธอกำลังจะกินเหยื่อ เราไม่ได้เห็นเหตุการณ์ เราจึงไม่ได้ถูกขอร้องจาก กิริยาของผู้กำลังจะตาย เมื่อไม่มีใครมาร้องขอต่อหน้า การวางอุเบกขา ย่อมสมควรที่จะกระทำ เพราะสัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม มีเหตุผลแต่เพียงเท่านี้ครับ ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() สาธุๆแจ่ม |
เจ้าของ: | อินทรีย์5 [ 18 ก.ค. 2009, 00:03 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ต้องการคำตอบในปริศนาธรรมนี้ครับ |
![]() ![]() คำถามปริศนาธรรมงั้นหรอ ผมตอบแบบแบบบัวไม่ให้ช้ำ น้ำไม่ให้ขุ่นจะดีกว่า ผมจะช่วยลูกนก แต่ผมก็ช่วยงูด้วยเพราะงูมันหิวนี่ จะหาโยนเนื้อหมู หรือเนื้อไก่ ให้มันกิน(ถ้าหาได้นะ) กันไม่ให้วันนี้มันไม่ต้องไปกินใครต่อใครอีกเพราะมันอิ่มแล้ว....แต่คิดๆไปมันไม่รู้จะกินเหมือนกับที่เราโยนอาหารให้หมารึป่าวนี่นะสิ แต่มะเป็นไร ก้เพราะเป็นปัญหาธรรม ก็ต้องตอบแบบพิสดารๆหน่อย555(ฮ่าๆๆๆ ) ![]() ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | ผู้ไม่รู้ [ 18 ก.ค. 2009, 00:56 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ต้องการคำตอบในปริศนาธรรมนี้ครับ |
...ขอคาราวะแด่ท่านผู้เจริญซึ่งฝักใฝ่ในธรรมทุกท่านครับ... ...จิตที่เปี่ยมด้วยเมตตา คือดัชนีชี้วัดความเป็น "คนดี" ซึ่งเป็นสามัญลักษณะประจำตัวของท่านเองได้ชัดเจนที่สุดครับ...หากท่านใดมีเมตตามาก ก็เป็นคนที่ดีมาก...มีเมตตาน้อย ก็เป็นคนดีน้อย...ไร้สิ้นซึ่งเมตตา ก็คือคนไม่ดีนั่นเอง... ...คำตอบที่ท่านได้กรุณาชี้แนะไว้ ทั้งท่านบัวศกล , ท่าน Taktay , ท่านเอรากอน , ท่านกามโภคี , ท่านNingnong , ท่าน Bwitch , ท่านชาติสยาม , ท่านTaksa , ท่านอินทรีย์5...ล้วนแต่เลือกข้อ ข. คือขับไล่งูเพื่อช่วยลูกนก (ด้วยเหตุผลและวิจารณญาณเฉพาะหน้าที่อาจจะแตกต่างกันไปบ้าง...แต่ผลของการกระทำนั้นเหมือนกัน)... ...แต่เดิม คำถามที่ข้าพเจ้าได้ตั้งขึ้นมานี้ มีเจตนาต้องการจะถามใจของตัวเอง เพราะตราบใดก็ตามที่ตัวเรายังมีลมหายใจอยู่ ย่อมไม่อาจจะหลีกเลี่ยงกับการเผชิญหน้าในกรณีเช่นนี้ได้ (หรืออาจจะเป็นกรณีที่ใกล้เคียงกัน) อย่างน้อยที่สุดคือหนึ่งครั้งในชีวิต และจะต้องตัดสินใจอะไรสักอย่างในวินาทีนั้นทันที...พอตั้งคำถามนี้เสร็จแล้ว ก็ได้คำตอบในใจฉับพลันทันทีเช่นกัน...คำตอบนั้นก็คือ ข้อ ข. ด้วยเหตุผลในทิศทางเดียวกันกับท่านทั้งหลายนี่แหละครับ... ...แต่เมื่อมานั่งพิเคราะห์คำตอบโดยละเอียดของตัวเองอีกครั้ง จึงได้รู้ว่า...เหตุผลที่ตัวของเราเลือกช่วยลูกนก เพราะเป็นคำสั่งโดยตรงมาจาก "จิตใต้สำนึก" ของตัวเราเอง (จิตใต้สำนึกที่ดี เกิดจากการปลูกฝัง และอบรมสั่งสอนมาตั้งแต่วัยเยาว์ ด้วยระยะเวลาที่ต่อเนื่องและยาวนานมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งการเรียนรู้หรือซึมซับนั้น อาจจะเรียนรู้มาหลากหลาย จากศาสตร์แขนงอื่นๆ ที่อาจไม่ใช่ศาสตร์จากทางพระพุทธศาสนาก็เป็นได้ เพียงแต่ตัวเราไม่รู้สึกตัว)...เมื่อจิตใต้สำนึกของเราเป็นแบบนี้..."สัญชาตญาณ" จึงตอบสนองจิตใต้สำนึกที่ดีนั้น แล้วตอบโต้ออกมาเป็นพฤติกรรมโดยอัตโนมัตแบบฉับพลันทันที...คำตอบของตัวเราเองที่ตอบออกมานี้ จึงยังไม่ใช่คำตอบที่ถูกต้อง 100% ในทางพระพุทธศาสนาเท่าที่ควร (เพราะไม่พึงพอใจในคำตอบของตัวเอง...จึงมาตั้งคำถามเพื่อให้ท่านช่วยค้นหาคำตอบครับ)... ...เมื่อย้อนกลับมาทบทวน ถึงหลักธรรมคำสั่งสอนในทางพระพุทธศาสนา ว่าด้วยเรื่อง "กฏแห่งกรรม" ...มีความเป็นไปได้ว่า เรื่องราวระหว่างงูและลูกนกคู่นี้ อาจจะมีอะไรๆสลับซับซ้อนมากมายเกินกว่าที่เรากำลังพบเห็นอยู่ก็เป็นได้...พวกเขาทั้งคู่อาจจะผลัดกันเกิดมาเป็นงูและเป็นนก แล้วก็ผลัดกันกินอีกฝ่ายหนึ่ง ไม่รู้กี่ชาติต่อกี่ชาติมาแล้วก็อาจจะเป็นได้เช่นกัน เพียงแต่.... 1.) ตัวของเราในชาตินี้ บังเอิญผ่านมาพบเห็นการจองเวรของพวกเขา (เป็นความบังเอิญจริงๆ) โดยที่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับพวกเขามาก่อน....หรือ.... 2.) ตัวของเราในอดีตชาติ มีส่วนรู้เห็นพัวพันกับการสลับกันจองเวรของพวกเขามาทุกภพทุกชาติ ในชาติปัจจุบัน เราจึงได้มาพบเห็นสิ่งเหล่านี้ซ้ำๆอีก. ...สมมุติว่าเป็นข้อ 1 คือเราไม่เคยมีอะไรที่เกี่ยวข้องกับงูและลูกนกคู่นี้มาก่อน แต่เพราะความบังเอิญที่ในชาตินี้เราได้มาพบเห็นเข้า...แล้วเราดันไปขับไล่งูกำลังหิวซึ่งกำลังจะกินลูกนก (เข้าไปเป็นตัวแปรสอดแทรกในกลไกของกฏแห่งกรรม เป็นเหตุทำให้เรื่องราวกลับตาลปัตเปลี่ยนไปจากเรื่องเดิมที่ควรจะเป็น หมายถึง ตามบทก็คือลูกนกตัวนั้น จะต้องถูกงูกินในชาตินี้)...หากงูที่กำลังหิวแล้วถูกเราขับไล่ไปตัวนั้น เกิดความโกรธแค้นและอาฆาตเรา...ทีนี้เรื่องก็จะกลายเป็นว่า ตัวของเราจะต้องชดใช้หนี้กรรมครั้งนี้ให้กับงูตัวนั้น (ซึ่งแรงอาฆาตของงูที่มีต่อตัวเรา + การที่เราเข้าไปสอดแทรกกับการจองเวรระหว่างกันของพวกเขาในชาตินี้ จนทำให้เรื่องต้องเปลี่ยนไป...ผลกรรมจะออกมาในรูปแบบใดก็ไม่อาจจะทราบได้)...สำหรับบุญกุศลที่ตัวเราได้ช่วยนก ให้รอดตายจากการตกไปเป็นอาหารของงู เราย่อมต้องได้รับผลบุญนั้นแน่นอน...เพียงแต่ก็เป็นคนละส่วนกับแรงอาฆาตที่งูตัวนั้นได้จองเวรกับเราไว้... ...เมื่อข้าพเจ้า นั่งคิดทบทวนกลับมากลับไปตามนี้แล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถหาบทสรุป ซึ่งเป็นคำตอบในเรื่องของงูและลูกนกคู่นี้ให้กับตัวเองได้...จึงต้องขอความกระจ่างจากท่านผู้เจริญในธรรมอีกสักครั้ง...ด้วยคำถามที่ว่า... ...จากกรณีดังกล่าว ท่านยังจะยืนยันเลือก ข้อ ข. อยู่อีกหรือไม่?...หากท่านยังยืนยันว่าจะเลือกข้อนี้อยู่ ท่านมีเหตุผล วิธีคิด หรืออิงหลักธรรมจากพระพุทธศาสนาข้อไหน? ในเรื่องใด? และอย่างไร?...โปรดอธิบายชี้ทางสว่างให้กับข้าพเจ้า " ผู้ไม่รู้ " ด้วยครับ... ...ขอขอบพระคุณท่านผู้เจริญในธรรมทุกท่าน ที่กรุณาร่วมสนทนาธรรมและมอบแสงสว่างให้กับข้าพเจ้า... |
เจ้าของ: | ผู้ไม่รู้ [ 18 ก.ค. 2009, 01:08 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ต้องการคำตอบในปริศนาธรรมนี้ครับ |
...สำหรับคำตอบของท่าน taksa ซึ่งเลือกข้อ ค. เป็นคำตอบที่น่าจะถูกต้องที่สุดตามหลักของพระพุทธศาสนาครับ...เพียงแต่ในกรณีดังกล่าว งูที่เราพบเห็นเป็นงูที่อยู่ตามธรรมชาติ (ไม่ใช่งูเลี้ยง) จึงไม่เชื่องคน หากเราเข้าใกล้หรือโยนอะไรไปใกล้ๆเขา..แม้สิ่งนั้นจะเป็นของกินก็ตาม...โดยสัญชาตญาณของงู(ตามธรรมชาติ) ย่อมต้องตกใจแล้วเลื้อยหนีไปเป็นธรรมดา...ด้วยเหตุนี้ วิธีการตามที่ท่านได้แสดงไว้ จึงไม่มาสามารถนำมาใช้ปฏิบัติตามความเป็นจริงได้ครับ... |
เจ้าของ: | ชาติสยาม [ 18 ก.ค. 2009, 02:26 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ต้องการคำตอบในปริศนาธรรมนี้ครับ |
ได้ข่าวว่าผมตอบ ก.ไก่ ไม่ยุ่งกับทั้งนกทั้งงูนะคับ ปล่อยไปตามธรรมชาติ ไหงกลายเป็น ข.ไข่ ไปได้ล่ะนี่ งงเลย |
หน้า 1 จากทั้งหมด 5 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |