วันเวลาปัจจุบัน 28 ก.ค. 2025, 03:25  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ก.ค. 2009, 13:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.ค. 2009, 20:44
โพสต์: 341

ที่อยู่: ภาคตระวันออก

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8: :b8: :b8: :b8:
๕๓. ลักษณะ ๕ ของวาจาสุภาษิต
"ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย วาจาที่ประกอบด้วยองค์ ๕ นับเป็นสุภาษิต ไม่เป็นทุพภาษิต ไม่มีโทษ อันผู้รู้ติไม่ได้ คือ
๑. วาจาที่กล่าว (ถูกต้อง) ตามกาล
๒. วาจาที่กล่าว เป็นความจริง
๓. วาจาที่กล่าว อ่อนหวาน
๔. วาจาที่กล่าว ประกอบด้วยประโยชน์
๕. วาจาที่กล่าว ด้วยจิตประกอบด้วยเมตตา

ปัญจกนิบาต อังคุตตรนิกาย ๒๒/๒๗๑

๕๔. เหตุที่ทำให้พระสัทธรรมตั้งอยู่ไม่นาน

"สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับ ณ ป่าไผ่ ใกล้เมืองมิถิลา ลำดับนั้น ท่านพระกิมพิละ เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาค ถวายบังคม นั่ง ณ ส่วนข้างหนึ่งแล้ว กราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า "ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ อะไรหนอเป็นเหตุเป็นปัจจัยที่ทำให้พระสัทธรรมไม่ตั้งอยู่ยืนในเมื่อพระตถาคตเจ้าปรินิพพานแล้ว." "ดูก่อนกิมพิละ เมื่อตถาคตปรินิพพานแล้ว ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา ในพระธรรมวินัยนี้ ไม่เคารพ ไม่ยำเกรง ในพระศาสดา ในพระธรรม ในพระสงฆ์ ในการศึกษา ไม่เคารพยำเกรงกันและกัน. นี้แล กิมพิละ เป็นเหตุปัจจัยที่ทำให้พระสัทธรรมไม่ตั้งอยู่ได้นานในเมื่อตถาคตปรินิพพานแล้ว."

ปัญจกนิบาต อังคุตตรนิกาย ๒๒/๒๗๕

๕๕. เหตุที่ทำให้พระสัทธรรมตั้งอยู่ได้นาน

"พระกิมพิละกราบทูลถามต่อไปว่า "ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ แล้วก็อะไรเล่าเป็นเหตุเป็นปัจจัย ที่ทำให้พระสัทธรรมตั้งอยู่ได้นานในเมื่อพระตถาคตเจ้าปรินิพพานแล้ว ดูก่อนกิมพิละ เมื่อตถาคตปรินิพพานแล้ว ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา ในพระธรรมวินัยนี้ เคารพยำเกรงในพระศาสดา ในพระธรรม ในพระสงฆ์ ในการศึกษา เคารพยำเกรงกันแลกัน. นี้แล กิมพิละ เป็นเหตุเป็นปัจจัยที่ทำให้พระสัทธรรม ตั้งอยู่ได้นานในเมื่อตถาคตปรินิพพานแล้ว."

ปัญจกนิบาต อังคุตตรนิกาย ๒๒/๒๗๕

๕๖. การค้าขาย ๕ อย่างที่อุบาสกไม่ควรทำ
"ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย การค้าขาย ๕ อย่างเหล่านี้ อันอุบาสกไม่ควรทำ คือ
๑. การค้าขายศัสตรา (สัตถวณิชชา)
๒. การค้าขายสิ่งมีชีวิต (สัตตวณิชชา)๑
๓. การค้าขายเนื้อสัตว์ (มังสวณิชชา)๒
๔. การค้าขายน้ำเมา (มัชชวณิชชา)
๕. การค้าขายยาพิษ (วิสวณิชชา)

"ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย การค้า ๕ อย่างเหล่านี้ อันอุบาสกไม่ควรทำ."

ปัญจกนิบาต อังคุตตรนิกาย ๒๒/๒๓๒

๕๗. คนพูดมากมีโทษ ๕

"ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย โทษ ๕ ประการเหล่านี้ ในบุคคลผู้พูดมาก คือ
๑. ย่อมพูดปด
๒. ย่อมพูดส่อเสียด (คือยุให้แตกร้าวกัน)
๓. ย่อมพูดคำหยาบ
๔. ย่อมพูดเพ้อเจ้อ
๕. สิ้นชีวิตแล้ว ย่อมเข้าถึงอบาย ทุคคติ วินิบาต (ความล่มจมตกต่ำ) นรก

"ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย โทษ ๕ ประการเหล่านี้แล ในบุคคผู้พูดมาก."

ปัญจกนิบาต อังคุตตรนิกาย ๒๒/๒๘๒

๕๘. คนพูดด้วยปัญญามีอานิสงส์ ๕

"ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อานิสงส์ ๕ ประการเหล่านี้ ในบุคคลผู้พูดด้วยปัญญา คือ
๑. ไม่พูดปด
๒. ไม่พูดส่อเสียด
๓. ไม่พูดคำหยาบ
๔. ไม่พูดเพ้อเจ้อ
๕. สิ้นชีวิตแล้ว ย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์

"ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อานิสงส์ ๕ ประการเหล่านี้แล ในบุคคลผู้พูดด้วยปัญญา."

๕๘. คนพูดด้วยปัญญามีอานิสงส์ ๕

"ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อานิสงส์ ๕ ประการเหล่านี้ ในบุคคลผู้พูดด้วยปัญญา คือ
๑. ไม่พูดปด
๒. ไม่พูดส่อเสียด
๓. ไม่พูดคำหยาบ
๔. ไม่พูดเพ้อเจ้อ
๕. สิ้นชีวิตแล้ว ย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์

"ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อานิสงส์ ๕ ประการเหล่านี้แล ในบุคคลผู้พูดด้วยปัญญา."

ปัญจกนิบาต อังคุตตรนิกาย ๒๒/๒๘๒

๕๙. โทษของความไม่อดทน ๕ ประการ

"ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย โทษ ๕ ประการของความไม่อดทนเหล่านี้ คือ
๑. ไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่พอใจของคนมาก
๒. มากไปด้วยเวร
๓. มากไปด้วยโทษ
๔. หลง ถึงแก่ความตาย
๕. สิ้นชีวิตแล้ว ย่อมเข้าถึงอบาย ทุคคติ วินิบาต นรก

"ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย โทษของความไม่อดทน ๕ ประการเหล่านี้แล."

ปัญจกนิบาต อังคุตตรนิกาย ๒๒/๒๘๒

๖๐. อานิสงส์ของความอดทน ๕ ประการ

"ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อานิสงส์ของความอดทน ๕ ประการเหล่านี้ คือ
๑. เป็นที่รัก เป็นที่พอใจของคนมาก
๒. ไม่มากไปด้วยเวร
๓. ไม่มากไปด้วยโทษ
๔. ไม่หลง ถึงแก่กรรม
๕. สิ้นชีวิตแล้ว ย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์

"ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อานิสงส์ของความอดทน ๕ ประการเหล่านี้แล."

ปัญจกนิบาต อังคุตตรนิกาย ๒๒/๒๘๒

๖๑. อานิสงส์ในการฟังธรรม ๕ ประการ

"ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อานิสงส์ในการฟังธรรม ๕ ประการเหล่านี้ คือ
๑. ย่อมได้ฟังสิ่งที่ไม่เคยฟัง
๒. สิ่งที่ได้ฟังแล้ว ย่อมชัดเจนขึ้น
๓. บรรเทาความสงสัยเสียได้
๔. ทำความเห็นให้ตรงได้
๕. จิตของผู้ฟังย่อมผ่องใส

"ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อานิสงส์ในการฟังธรรม ๕ ประการเหล่านี้แล."

ปัญจกนิบาต อังคุตตรนิกาย ๒๒/๒๗๖

๖๒. อานิสงส์ของข้าวยาคู ๕ ประการ

"ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อานิสงส์ของข้าวยาคู ๕ ประการเหล่านี้ คือ
๑. บรรเทาความหิว
๒. บรรเทาความกระหาย
๓. ลมเดินสะดวก
๔. ชำระลำไส้
๕. ทำอาหารที่ยังไม่ย่อยที่เหลือให้สุก

"ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อานิสงส์ของข้าวยาคู ๕ ประการเหล่านี้แล."

ปัญจกนิบาต อังคุตตรนิกาย ๒๒/๒๗๘

๖๓. โทษในการไม่เคี้ยวไม้สีฟัน ๕ ประการ

"ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย โทษในการไม่เคี้ยวไม้สีฟัน ๕ ประการเหล่านี้ คือ
๑. สายตาไม่ดี
๒. ปากมีกลิ่นเหม็น
๓. ประสาทรับรสไม่หมดจด
๔. ดีและเสมหะรึงรัดอาหาร
๕. รับประทานอาหารไม่มีรส๓

"ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย โทษในการไม่เคี้ยวไม้สีฟัน ๕ ประการเหล่านี้แล."

ปัญจกนิบาต อังคุตตรนิกาย ๒๒/๒๗๘

๖๔. อานิสงส์ในการเคี้ยวไม้สีฟัน ๕ ประการ

"ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อานิสงส์ในการเคี้ยวไม้สีฟัน ๕ ประการเหล่านี้ คือ
๑. สายตาดี
๒. ปากไม่มีกลิ่นเหม็น
๓. ประสาทรับรสหมดจด
๔. ดีและเสมหะไม่รึงรัดอาหาร
๕. รับประทานอาหารมีรส

"ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อานิสงส์ในการเคี้ยวไม้สีฟัน ๕ ประการเหล่านี้แล."

ปัญจกนิบาต อังคุตตรนิกาย ๒๒/๒๗๘

๖๕. โทษในการกล่าวธรรมด้วยเสียงขับอันยาวของภิกษุ

"ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย โทษ ๕ ประการเหล่านี้ ของภิกษุผู้กล่าวธรรมด้วยเสียงขับอันยาว คือ
๑. ตนเองก็ติดในเสียงนั้น
๒. ผู้อื่นก็ติดในเสียงนั้น
๓. คฤหับดีทั้งหลายจะยกโทษว่า สมณะ ศากยบุตรเหล่านี้ขับร้องเหมือนพวกตน
๔. เมื่อติดใจการทอดเสียง สมาธิก็ทำลาย
๕. ประชุมชน(ภิกษุ) ในภายหลังจะถือเป็นแบบอย่าง

"ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย โทษของภิกษุผู้กล่าวธรรมด้วยเสียงขับอันยาว ๕ ประการเหล่านี้แล."

ปัญจกนิบาต อังคุตตรนิกาย ๒๒/๒๗๙

๖๖. โทษของผู้หลับโดยไม่มีสติสัมปชัญญะ

"ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย โทษ ๕ ประการเหล่านี้ ของผู้หลงลืมสติ ผู้ไม่มีสัมปชัญญะ ก้าวลงสู่ความหลับ คือ
๑. หลับเป็นทุกข์
๒. ตื่นเป็นทุกข์
๓. ฝันร้าย
๔. เทวดาไม่รักษา
๕. น้ำอสุจิเคลื่อน

"ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย โทษของผู้หลงลืมสติ ผู้ไม่มีสัมปชัญญะ ก้าวลงสู่ความหลับ ๕ ประการเหล่านี้แล."

ปัญจกนิบาต อังคุตตรนิกาย ๒๒/๒๗๙

๖๗. อาสงส์ของผู้หลับโดยมีสติสัมปชัญญะ

"ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อานิสงส์ ๕ ประการเหล่านี้ ของผู้ตั้งสติ มีสัมปชัญญะ ก้าวลงสู่ความหลับ คือ
๑. หลับเป็นสุข
๒. ตื่นเป็นสุข
๓. ไม่ฝันร้าย
๔. เทวดารักษา
๕. น้ำอสุจิไม่เคลื่อน

"ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อานิสงส์ของผู้ตั้งสติ มีสัมปชัญญะ ก้าวลงสู่ความหลับ ๕ ประการเหล่านี้แล."

ปัญจกนิบาต อังคุตตรนิกาย ๒๒/๒๗๙

๖๘. อกุศลราศี (กองแห่งอกุศล)

"ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เมื่อกล่าวว่า อกุศลราศี (กองแห่งอกุศล) เมือ่กล่าวให้ชอบ ก็ควรกล่าวถึงนิวรณ์ ๕ อย่าง. นิวรณ์ ๕ อย่างล้วนเป็นอกุศลราศี คือ
๑. กามฉันท์ ความพอใจในกาม
๒. พยาบาท ความคิดปองร้าย
๓. ถีนมิทธะ ความหดหู่ง่วงงุน
๔. อุทธัจจะกุกกุจจะ ความฟุ้งสร้านรำคาญใจ
๕. วิจิกิจฉา ความลังเลสงสัย

"ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เมื่อกล่าวว่า อกุศลราศี (กองแห่งอกุศล) เมื่อกล่าวให้ชอบ ก็ควรกล่าวถึงนิวรณ์ ๕ อย่าง นิวรณ์ ๕ อย่างล้วนเป็นอกุศลราศี."

ปัญจกนิบาต อังคุตตรนิกาย ๒๒/๗๔

๕ ประการ๖๙. ผู้บวชเมื่อแก่ที่มีคุณธรรม

"ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ผู้บวชเมื่อแก่ ที่ประกอบด้วยธรรม ๕ อย่าง หาได้ยาก คือ
๑. ผู้บวชเมื่อแก่ ที่ละเอียดอ่อน หาได้ยาก
๒. ผู้บวชเมื่อแก่ สมบูรณ์ด้วยอากัปกิริยา หาได้ยาก
๓. ผู้บวชเมื่อแก่ เป็นผู้คงแก่เรียน๔ หาได้ยาก
๔. ผู้บวชเมื่อแก่ เป็นพระรรมกถึก๕ หาได้ยาก
๕. ผู้บวชเมื่อแก่ เป็นผู้ทรงพระวินัย หาได้ยาก

"ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ผู้บวชเมื่อแก่ ที่ประกอบด้วยธรรม ๕ อย่างเหล่านี้แล หาได้ยาก"

ปัญจกนิบาต อังคุตตรนิกาย ๒๒/๙๐

๗๐. ผู้บวชเมื่อแก่ที่มีคุณธรรม หาได้ยากอีกประเภทหนึ่ง

"ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ผู้บวชเมื่อแก่ ที่ประกอบด้วยธรรม ๕ อย่าง หาได้ยาก คือ
๑. ผู้บวชเมื่อแก่ ที่ว่าง่าย หาได้ยาก
๒. ผู้บวชเมื่อแก่ ที่รับโอวาทด้วยดี หาได้ยาก
๓. ผู้บวชเมื่อแก่ ที่รับโอวาทโดยเคารพ๖ หาได้ยาก
๔. ผู้บวชเมื่อแก่ เป็นพระธรรมกถึก หากได้ยาก
๕. ผู้บวชเมื่อแก่ เป็นผู้ทรงพระวินัย หาได้ยาก

"ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ผู้บวชเมื่อแก่ ที่ประกอบด้วยธรรม ๕ อย่างเหล่านี้แล หาได้ยาก."

ปัญจกนิบาต อังคุตตรนิกาย ๒๒/๙๐

๗๑. สัมปทา (ความถึงพร้อมหรือความสมบูรณ์) ๕

"ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สัมปทา ๕ เหล่านี้ คือ
๑. สัทธาสัมปทา ความถึงพร้อมด้วยความเชื่อ๗
๒. สีลสัมปทา ความถึงพร้อมด้วยศีล
๓. สุตสัมปทา ความถึงพร้อมด้วยการสดับตรับฟัง
๔. จาคสัมปทา ความถึงพร้อมด้วยการเสียสละ
๕. ปัญญาสัมปทา ความถึงพร้อมด้วยปัญญา

"ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สัมปทา ๕ เหล่านี้แล."

ปัญจกนิบาต อังคุตตรนิกาย ๒๒/๕๘

๗๒. คนที่เกิดมาเพื่อประโยชน์ความสุขแก่คนมาก

"ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย คนดี๘ เมื่อเกิดมาในสกุลย่อมเป็นไปเพื่อประโยชน์ เพื่อเกื้อกูล เพื่อความสุขแก่ชนเป็นอันมาก คือ
๑. แก่มารดา บิดา
๒. แก่บุตร ภรรยา
๓. แก่ทาส กรรมกร และชาวเมือง
๔. แก่มิตร และอำมาตย์
๕. แก่สมณและพราหมณ์๙

"เสมือนหนึ่งเมฆฝนใหญ่ เมื่อทำให้ข้าวกล้าสมบูรณ์ก็ย่อมเป็นไป เพื่อประโยชน์ เพื่อเกื้อกูล เพื่อความสุขแก่ชนเป็นอันมาก."

ปัญจกนิบาต อังคุตตรนิกาย ๒๒/๕๐



--------------------------------------------------------------------------------
๑. หมายถึงขายมนุษย์
๒. หมายถึงสัตว์เลี้ยงประเภทใช้ฆ่ากินเนื้อไว้ขาย
๓. แปลตามตัวว่า อาหารของผู้นั้น ไม่ทำความพอใจให้
๔. พหุสฺสุโต สดับตรับฟังมาก
๕. ผู้แสดงธรรม
๖. ปทกฺขิณคฺคาหี รับโดยเบื้องขวา
๗. ในที่ไหนสอนให้มีความเชือ่ ในที่นั้นจะสอนให้มีปัญญาเสมอ
๘. สปฺปุริโส ตรงกับคำว่า สัตบุรุษ
๙. การใช้คำคู่แบบนี้ เป็นสำนวนบาลี

:b39: ขอท่านจงเจริญในธรรมและโภคทรัพย์เถิด :b39:

:b42: เทพบุตร :b44:

_________________
:b46: การให้ธรรมะเป็นทานชนะการให้ท้งปวง :b45:

.....................................................
การให้ธรรมะเป็นทานชนะการให้ท้งปวง


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร