วันเวลาปัจจุบัน 26 เม.ย. 2024, 09:32  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 16 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ส.ค. 2009, 23:14 
 
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ส.ค. 2009, 22:43
โพสต์: 2


 ข้อมูลส่วนตัว


เนื่องจากคุณแม่ของดิฉัน ได้บวชชีพราหมณ์มาหลายปี ที่วัดแห่งหนึ่ง
มีแม่ชีและผู้ที่มาบวชชีพราหมณ์ รวมถึงชาวต่างชาติที่สนใจศึกษา
ธรรมะ ซึ่งมีผู้มีจิตศรัทธา ญาติโยมมากมาย แต่ในระยะเวลาหลายปี คุณแม่ของดิฉัน
ซึ่งได้บวชเรียน กลับไม่ได้สงบจิตสงบใจอย่างที่ควร ทุกครั้งที่เจอกัน
คุณแม่จะต้องมีปัญหามาระบาย หรือมีเรื่องที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นสำหรับคนที่ปฏิบัติธรรม
และที่สำคัญ ทุกครั้งคุณแม่จะคะยั้นคะยอให้ทำบุญ ด้วยเงินจำนวนที่ไม่ใช่น้อย
คุณแม่ท่านจะอ้างเอ่ย ชอบเล่าให้ฟังว่า คนนั้นทำบุญเท่าไหร่ คนนี้ทำบุญเท่าไหร่
ใจจริงแล้ว ทุกครั้งที่ดิฉันให้เงินคุณแม่ เพราะต้องการให้ท่านทำบุญบ้าง ดูแลตัวเองบ้าง
แต่เงินที่คุณแม่ได้ไปไม่เคยจะพอ เพราะบางทีดิฉันต้องเดินทางไปต่างประเทศบ้าง
ฉันคิดว่าเงินที่คุณแม่ได้รับน่าจะเพียงพอ มากกว่าคนธรรมดาที่ต้องกินต้องอยู่ใช้กันเป็นครอบครัว
เคยถามคุณแม่ให้ไปศึกษาธรรมะ ที่วัดแถวบ้านญาติ หลวงลุงท่านก็ใจดีให้มาปฏิบัตแล้วจะจัดการ
บวชให้ คุณแม่ท่านก็ไม่ยอมไป แต่ท่านก็พร่ำบ่นว่าถูกคนในวัดกลั่นแกล้ง รังแกสารพัด
ท่านอยากจะให้ฉันทำบุญทีละเยอะเยอะ คนอื่นจะได้ลดการว่าหรือมองท่านดีขึ้น
ตอนนี้ดิฉันเองก็หยุดทำงานไป ตั้งแต่ท้องลูกคนโต จนถึงตอนนี้กำลังจะท้องอีกคน
ตั้งแต่ที่หยุดทำงาน ดิฉันเองก็ขอให้สามีช่วยจ่ายค่าใช้จ่ายดูแลแม่ให้ทั้งหมด เพราะเคยบอกไว้แล้วว่า
ดิฉันจะต้องดูแลแม่ และถ้าจะแต่งงานกัน เขาก็จะต้องดูแลแม่ให้เหมือนฉันเคยดูแล
ซึ่งสามีมิได้ขัดข้อง แต่ทุกครั้ง คุณแม่ก็จะเรียกร้องเพิ่มเติมบ้างในเรื่องการทำบุญ ซึ่งสามีจะรู้สึกอึดอัด
และไม่ค่อยเห็นด้วย เพราะสามีจะสนใจทำบุญช่วยเหลืออย่างวัดที่ห่างไกล ขาดสน หรือขาดแคลนปัจจัยช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาส หรือมูลนิธิสังคมมากกว่าที่จะถวายเงินวัดที่เจริญ เพื่อสิ่งปลูกสร้างเพิ่มขึ้น
จนวัดแทบจะไม่มีพื้นที่อย่างที่เห็น อันนี้สามีบอกมานะคะ ทางตัวดิฉันเองก็นิยมที่จะซื้อข้าวปลาอาหารแห้งเพื่อบริจาคได้ และก็ไม่เห็นด้วยที่มีสิ่งปลูกสร้างเพิ่มเติมเกินความจำเป็นเหมือนกัน
นอกจากว่า ทางวัดที่ได้ขาดแคลนศาลาการเปรียญ ศาลาธรรม ไม่ใช่มีจนไม่รู้จะใช้ให้หมด
เวลาที่คุยกับคุณแม่ท่าน คุณแม่ท่านก็บ่นน้อยใจ ประมาณว่า ท่านอยู่ที่วัดนี้ก็ต้องมาทำบุญให้วัดนี้สิ
ประมาณนั้นน่ะค่ะ ดิฉันก็เลยไม่รู้ว่า สิ่งที่ดิฉันทำในการที่เรียกว่า ทำบุญ มันคือบุญงั้นหรือ
เพราะดิฉันรู้สึกลำบากใจ และยอมรับว่าไม่เต็มใจที่จะทำ นอกเสียจากว่า นั้นคือทำให้คุณแม่สบายใจ
แต่ถ้าเลือกได้ ดิฉันกับสามี ก็ต้องการบริจาคให้วัดที่ขาดแคลน และมูลนิธิ องค์กรการกุศลต่างต่างมากกว่า

ขอบคุณที่กรุณาอ่านจนจบนะคะ ขอคำชี้แนะด้วยค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ส.ค. 2009, 23:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 เม.ย. 2007, 15:22
โพสต์: 603

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


การทำบุญมันอยู่ที่ใจอะคะ จะให้น้อยให้มาก ไม่สำคัญ ขอแค่ใจเรานี่แหละคะ ยินดีต่อการให้ทานมากแค่ไหน
คิดว่าที่แม่ของคุณอยากให้ทำบุญเยอะๆ เพราะกลัวน้อยหน้าชาวบ้านน่ะคะ เป็นวิธีทำบุญที่ไม่ถูกต้องเลย บุญไม่ได้ได้ตามจำนวนเงินหรือสิ่งของอะคะ บุญจะได้ตามกำลังใจกำลังจิตว่าเป็นกุศลแค่ไหน

1 บาท อาจมีมูลค่าเท่า 100 บาท ในการทำบุญคะ ขึ้นอยู่กับเจตนาของคนให้

ให้น้อย แต่จิตเป็นกุศล ยังได้บุญมากกว่า ให้มาก แต่จิตหมองไม่ผ่องใส หลายเท่าคะ

แล้วก็ การปฎิบัติธรรมนั้น ขอให้ใช้หลัก พรหมวิหารสี่ คะ ใครจะด่าใครจะว่าไม่ต้องไปสนใจ อย่าไปทุกข์ร้อนด้วยเลย ไปทำบุญแล้ว ใจไปหมองมัวกับเรื่องพวกนี้ เหมือนไม่ได้ไปทำบุญเลยคะ เหมือนไปอยู่รวมกับคนในสังคมมากกว่า อวดกันชิงดีชิงเด่นกัน ต่อให้อยู่ในวัด ก็ไม่ไหวคะ

รอท่านอื่นมาตอบเพิ่มเติมเน้อ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ส.ค. 2009, 11:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.ค. 2009, 23:02
โพสต์: 157

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ย้ายคุณแม่ไปทำบุญที่อื่น ที่น่าทำกว่านี้

.....................................................
มาตามหา เพื่อนร่วมทาง

ประโยชน์สูง-ประหยัดสุด > > ต้องทำให้ได้ คือแก้ไขตนเอง > > ฝึกหยุด-ไม่หยุดฝึก >
ไม่มีเวลาสำหรับความชั่วบาปอีกแล้ว. ." ทุกวินาทีเป็นวินาทีแห่งบุญ "
เราจะฝึกฝนตนเพื่อไปถึงจุดนั้นให้ได้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ส.ค. 2009, 11:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ส.ค. 2009, 09:11
โพสต์: 23

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ผู้เป็นลูกไม่อยู่ในฐานะที่จะตักเตือนว่ากล่าวใดๆแก่ผู้เป็นแม่ได้

ขัดใจก็ต้องทนค่ะ


ลองหาวิธีชักชวนไปยังวัดที่เราทำบุญ ให้ท่านเห็นถึงความแตกต่าง และอยากไปทำบุญกับเราแทน ก็ดีนะคะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ส.ค. 2009, 12:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55
โพสต์: 4062

แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: ตรงปลายจมูก

 ข้อมูลส่วนตัว


ดิฉันเคยไปทำบุญที่ รพ.สงฆ์ และได้รับหนังสือซึ่งถือเป็นอริยทรัพย์มา 1 เล่ม

ขอแนะนำค่ะ :b40: วิธีสร้างบุญบารมี :b40:
อ่านแล้วปิติมาก เข้าใจเรื่องของบุญบารมีขึ้นเยอะ
:b8: :b8: :b8:
สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช
สกลมหาสังฆปริณายก องค์ที่ ๑๙
วัดบวรนิเวศวิหาร

viewtopic.php?f=6&t=24533

.....................................................
~ นิพพานัง ปัจจโยโหตุ ~


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ส.ค. 2009, 14:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2009, 08:46
โพสต์: 405

แนวปฏิบัติ: ดูจิต-อานา
ชื่อเล่น: ขวานผ่าซาก
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ลำบากใจนะครับ ผมก็มีแม่เหมือนกันครับ ท่านก็ชอบไปถือศีล วันพระ วัดใกล้บ้าน แต่ก็ไม่ได้บวชอย่างที่ว่านี้ครับ

เห็นใจครับ คงต้องพูดกันท่านแบบตรงไปตรงมา ไม่งั้นเราก็ทุกข์ใจทั้ง สองฝ่ายคือแม่และเรา

ต้องค่อย ตะล่อมหาเหตุ และผล ข้อดีข้อเสียต่าง อธิบายครับ

ขอให้พ้นจากทุกข์และกรรมอันนี้ได้ด้วยปัญญานะครับ

ทุกขเยน วิริมตฺเจติ ...บุคคลล่วงทุกข์ได้เพราะความเพียร ..ต้องอาศัยปัญญาด้วยนะครับ cool

.....................................................
สุ จิ ปุ ลิ...(หัวใจนักปราชญ์)

ปัจจุบันธรรม

โยนิโส มนสิการ
สติ สัมปชัญญะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ส.ค. 2009, 15:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 ก.ค. 2008, 08:42
โพสต์: 67

ที่อยู่: สังขตธาตุ

 ข้อมูลส่วนตัว


บุญ ทำได้หลายทางถึง 10 วิธีนะ....จะบอกให้

บอกคุณแม่ของคุณว่า การทำบุญด้วยเงิน คือการให้ทาน นั้นบุญยังน้อยกว่าการรักษาศีล

การรักษาศีลยังน้อยกว่าการภาวนา(วิปัสสนา)

ไม่ต้องใช้เงินมากมายอะไร........ smiley

.....................................................
เราคือใจที่บริสุทธิ์


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ส.ค. 2009, 15:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ย. 2008, 22:30
โพสต์: 222

ที่อยู่: เวียนว่ายในวัฏสงสาร (-_-!)

 ข้อมูลส่วนตัว


thammathai เขียน:
บุญ ทำได้หลายทางถึง 10 วิธีนะ....จะบอกให้

บอกคุณแม่ของคุณว่า การทำบุญด้วยเงิน คือการให้ทาน นั้นบุญยังน้อยกว่าการรักษาศีล

การรักษาศีลยังน้อยกว่าการภาวนา(วิปัสสนา)

ไม่ต้องใช้เงินมากมายอะไร........ smiley


smiley กระผมเห็นด้วยอย่างยื่งขอรับท่าน smiley

.....................................................
ขอประสบความสุขทั้งทางโลกและทางธรรม


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ส.ค. 2009, 15:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 เม.ย. 2007, 15:22
โพสต์: 603

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


อวบอั๋นขั้นสุดท้าย เขียน:
thammathai เขียน:
บุญ ทำได้หลายทางถึง 10 วิธีนะ....จะบอกให้

บอกคุณแม่ของคุณว่า การทำบุญด้วยเงิน คือการให้ทาน นั้นบุญยังน้อยกว่าการรักษาศีล

การรักษาศีลยังน้อยกว่าการภาวนา(วิปัสสนา)

ไม่ต้องใช้เงินมากมายอะไร........ smiley


smiley กระผมเห็นด้วยอย่างยื่งขอรับท่าน smiley



เป็นอะไรที่แจ่มจริงๆ ใช่เลยคะ

ทานนั้นบุญยังน้อยกว่าการรักษาศีล แต่ศิลนั้นก็ยังน้อยกว่าการภาวนา

ภาวนาสำคัญที่สุดที่เป็นตัวหลุดพ้นจากสภาวะกิเลส

โมทนาด้วยคะ ^^


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ส.ค. 2009, 15:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 ก.ค. 2008, 23:37
โพสต์: 449

ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


ทำบุญแล้วเดือดร้อนนี่ ไม่น่าจะใช่ทางที่ถูกต้อง ลองถามแม่ว่า ที่ทำเยอะๆ เพราะอะไร อยากได้บุญใช่ม้ย แค่อยากได้นี่ก็ไม่บริสุทธิ์แล้ว

.....................................................
สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ส.ค. 2009, 20:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2007, 09:55
โพสต์: 1632


 ข้อมูลส่วนตัว


ในเรื่องของการทำบุญนี้ เป็นเรื่องที่เข้าใจผิดกันมาช้านาน แม้แต่ตัวข้าพเจ้าเองก็ได้รับการขัดเกลาให้มอง และเข้าว่า การทำบุญแล้วจะได้โน่น ได้นี่เป็นผลตอบแทน ตรงจุดนี้นั่นเอง จึงเป็นช่องทางให้ผู้ที่เกี่ยวข้องใช้เป็นช่องทางเรียกเรี่ยไรเงินบ้าง ของบริจาคบ้าง และด้วยการได้รับการขัดเกลาทางสังคมเกี่ยวกับเรื่องการทำบุญแล้วจะได้รับผลตอบแทนจากการทำบุญ บ้างก็ทุ่มเท ทำบุญทำทาน แบบ หลงมัวเมา บ้างก็ไปทุกงานเพื่อหวังในสิ่งที่เคยได้รับการขัดเกลาเกี่ยวกับทำบุญมา เช่น สร้างพระเจดีย์ เมื่อตายแล้วจะได้ไปสู่สวรรค์ชั้นนั้นชั้นนี้ บริจาคเงินสร้างโบสถ สร้างวิหาร ผ้าป่า กฐิณ เกิดชาติหน้าจะได้ไม่ยากจน อะไรทำนองนี้
แต่ในทางที่เป็นจริง การทำบุญในทางพุทธศาสนา เป็นเครื่องทำให้จิตใจผ่องใส สะอาด สงบ เพราะบุญคือความดี จะทำความดีอย่างไรก็ได้ทั้งนั้น ทั้งทางกาย ทางใจ ความดี หรือบุญย่อมเกิดในตัวเอง ในทันที ซึ่งในเรื่องนึ้ทุกคนสามารถพิสูจน์ได้ด้วยตัวเอง
ดังนั้น การทำบุญ ย่อมต้องเป็นไปตามกำลังความสามารถ หรือ ตามศักยภาพของตัวเอง จะทำอย่างไรก็ได้เพื่อให้เกิดความผ่องใส ความสะอาด ความสงบ นั่่นคือการทำบุญ
บางคนบริจาคเงินสร้างนั่นสร้างนี่ แต่ใจคิดว้าวุ่น สับสน เป็นทุกข์ เสียดาย แต่บริจาคไป ตามความคิด เนื่องจากสภาพแวดล้อม แทนที่จะเกิดบุญ ดันเกิดความไม่ดีในจิตใจ จิตใจไม่ผ่องใส ไม่สะอาด ไม่สงบ อย่างนี้เป็นต้น

ความผ่องใส ความสะอาดความสงบ ในจิตใจ เนื่อง จากการทำบุญหรือทำความดีนั้น บุคคล จะเกิดปีติตามไปด้วยอ้นเป็นธรรมชาติของมนุษย์

ทุกท่านสามารถพิสูจน์ได้ด้วยตัวเอง โดยการทำบุญ ด้วยจิตเจตนาบริสุทธิ์ ไม่ทำบุญเพื่อหวังได้นั่นได้ดี หรือจะเรียกว่า ทำความดี ไม่หวังผลตอบแทนนั่นแหละ ความผ่องใส ความสะอาด ความสงบ ในจิตใจ ก็จะเกิดขึ้นในตัวท่านทั้งหลายขอรับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ส.ค. 2009, 10:50 
 
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ส.ค. 2009, 22:43
โพสต์: 2


 ข้อมูลส่วนตัว


ต้องขออนุโมทนา สาธุ กับทุกท่านที่สละเวลาชี้นำแนวทางให้เห็นแสงสว่าง
ขอบพระคุณมากค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ส.ค. 2009, 12:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ก.ค. 2006, 20:52
โพสต์: 1210

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


tongue
คุณ นาข้าว ลองหาหนังสือ หรือ cd เกี่ยวกับ บุญกิริยาวัตถุ ๑๐
หรืออานิสงค์ของการสวดมนต์ ทำสมาธิ ภาวนา บุญจากการปฏิบัติบูชา
มาให้ท่านฟังบ่อย ๆ จริง ๆอยาก ให้อ่านให้คุณแม่ฟังไปพร้อม ๆ กัน
เป็นการให้ข้อคิดทางอ้อม
ให้เห็นโทษ ในการ"แข่งทำบุญ" ท่านติด หมู่คณะมากไปค่ะ
ถ้าทำไม่ได้ก็คงต้องรอให้ท่านเบื่อหน่ายด้วยตัวเอง
คือต่อไปจะเริ่มเบื่อที่ถูก เพื่อน ๆค่อนว่า นินทา ที่บริจาคเงินน้อย อะไร นั่นแหละค่ะ

ชื่นชมที่คุณ กตัญญู ค่ะ

.....................................................
สัพเพ สังขารา อนิจจา
สัพเพ ธรรมา อนัตตา...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ส.ค. 2009, 00:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


ดิฉันไม่กล้าแนะนำคุณนาข้าว เพราะมันล่อแหลมมากกับบุพการี
เกินไปนิดเดียวก็ตกนรกทันที คอยคำแนะนำท่านผู้รู้อีกหลายๆท่านดีกว่า แต่ที่แจมมานี้ก็
เพียงต้องการจะแสดงความชื่นชมในความกตัญญูของคุณที่มีต่อคุณแม่คุณค่ะ ขอให้คุณ
มีแต่ความสุขความเจริญ สว่างทั้งทางโลกและทางธรรมนะค่ะ อนุโมทนา

tongue tongue tongue

:b41: :b41: :b41: :b43: :b41: :b41: :b41:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ส.ค. 2009, 11:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ส.ค. 2009, 09:31
โพสต์: 639

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คุณแม่คุณยึดติดกับกิเลสตัวที่เรียกว่า หวัง มากเกินไป หวังจะได้บุญ หวังความสงบ

แต่เมื่อไม่สมหวังก็ทุกข์ การที่จะไม่ทุกข์ก็คือไม่หวัง ไม่พาตัวไปพัวพันกับความวุ่นวาย ถ้า...ยังไม่เข้าใจหลักธรรม เพราะนั่นยิ่งทำให้ทุกข์ ทุกข์โดยรับเอามาจากคนอื่นๆ

จุฬาภินันท์แนะว่า ทำเองก็ได้ค่ะ ที่บ้านก็ได้ ให้จิตใจเบิกบานก่อน รักษาศีล ทำสมาธิ รอปัญญาธรรมเกิด ก็จะรู้และเข้าใจเองว่าเหตุมาจากผล มีผลก็ต้องมีเหตุ เมื่อเข้าใจก็จะปฏิบัติได้ถูกต้องค่ะ

บุญไม่จำเป็นต้องเป็นการเข้าวัดถือศีล แต่เป็นการทำเพื่อตัวเองและผู้อื่นด้วยเจตนาที่บริสุทธิ์ค่ะ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 16 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 147 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร