วันเวลาปัจจุบัน 28 มี.ค. 2024, 23:08  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 9 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ก.ย. 2009, 14:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ส.ค. 2009, 15:11
โพสต์: 10

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สวัสดีครับ

ผมขอให้ผู้อ่านโปรดทำความเข้าใจก่อนนะครับว่า

ผมถาม เพื่อ อยากรู้ เพราะว่า สงสัย+งง
ไม่ได้ถามเพื่อสร้างความแตกแยกนะครับ



คำถามก็คือ...

ผมเคยไปอ่านเจอในหนังสือ เขาบอกมาว่า

=>ให้ทานแก่ผู้ที่มีศีล ๕ แม้จะมากถึง ๑๐๐ ครั้ง ก็ยังได้บุญน้อยกว่า
ให้ทานดังกล่าวแก่ผู้ที่มีศีล ๘ แม้จะให้เพียงครั้งเดียวก็ตาม

=>ให้ทานแก่ผู้ที่มีศีล ๘ แม้จะมากถึง ๑๐๐ ครั้ง ก็ยังได้บุญน้อยกว่า
ถวายทานดังกล่าวแก่ผู้ที่มีศีล ๑๐ คือสามเณรในพระพุทธศาสนา
แม้จะถวายทานดังกล่าวแต่เพียงครั้งเดียวก็ตาม

=>ถวายทานแก่สามเณรซึ่งมีศีล ๑๐ แม้จะมากถึง ๑๐๐ ครั้ง ก็ยังได้บุญน้อย
กว่าถวายทานดังกล่าวแก่พระสมมุติสงฆ์ ซึ่งมีปาติโมกข์สังวร ๒๒๗ ข้อ
(ที่ประพฤติศีลไม่ด่างพร้อย)แม้จะถวายทานดังกล่าวแต่เพียงครั้งเดียวก็ตาม


คำถามที่ผมสงสัยก็คือ...
=>ถ้าถวายทานแก่พระภิกษุณีซึ่งมีศีล ๓๑๑ ข้อ(ที่ประพฤติศีลไม่ด่างพร้อย)
แม้เพียงครั้งเดียว ก็ย่อมได้บุญมากกว่าพระสมมุติสงฆ์ ซึ่งมีปาติโมกข์สังวร ๒๒๗ ข้อ (ที่ประพฤติศีลไม่ด่างพร้อย) ๑๐๐ ครั้ง จริงหรือป่าวครับ?



เพราะว่า พระภิกษุณีมีศีลมากกว่าพระสมมุติสงฆ์(อันนี้ผมสงสัยจริงๆครับ)

หรือว่ายังไง...ใครรู้ช่วยรบกวนตอบแบบละเอียดให้ผมหน่อยได้ไหมครับ

ผมอยากรู้จริงๆครับ....



ผมขอให้ผู้อ่านโปรดทำความเข้าใจก่อนนะครับว่า

ผมถาม เพื่อ อยากรู้ เพราะว่า สงสัย+งง
ไม่ได้ถามเพื่อสร้างความแตกแยกนะครับ



ขอบพระคุณล่วงหน้าที่ตอบ ครับ

.....................................................
ธมฺโม หเว รกฺขติ ธมฺมจารึ
พระธรรมนี่แหละ ย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ก.ย. 2009, 15:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 มิ.ย. 2009, 08:25
โพสต์: 19

อายุ: 0
ที่อยู่: เชียงใหม่

 ข้อมูลส่วนตัว


Onion_L

:b8: :b8: :b8:
ศีล ภิกษุณี มี 311 ข้อ มีมากกว่าก็จิง แต่ ได้ เท่ากะ ภิกษุที่มีศีล 227 ข้อ จ้า

เพราะว่า มี ครุฑธรรม 8 ข้อ
แล้วกะ ขยาย ศีลบางข้อ จาก ภิกษุ

เพราะฉะนั้น จึงได้บุญ เท่ากะ ภิกษุ


แก้ไขล่าสุดโดย 190 เมื่อ 02 ก.ย. 2009, 15:41, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ก.ย. 2009, 23:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.ค. 2009, 23:02
โพสต์: 157

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Dongky เขียน:

=>ถ้าถวายทานแก่พระภิกษุณีซึ่งมีศีล ๓๑๑ ข้อ(ที่ประพฤติศีลไม่ด่างพร้อย)
แม้เพียงครั้งเดียว ก็ย่อมได้บุญมากกว่าพระสมมุติสงฆ์ ซึ่งมีปาติโมกข์สังวร ๒๒๗ ข้อ (ที่ประพฤติศีลไม่ด่างพร้อย) ๑๐๐ ครั้ง จริงหรือป่าวครับ?



๓๑๑ข้อ และ๒๒๗ข้อ นั้นเป็น " วินัย " ครับ ไม่ใช่ศีล

ศีลภิกษุ, ภิกษุณีมีเหมือนกันคือ จุลศีล มัชฌิมศีล และมหาศีล

ส่วนการทำทาน ไม่ตอบครับ โปรดพิจารณา

.....................................................
มาตามหา เพื่อนร่วมทาง

ประโยชน์สูง-ประหยัดสุด > > ต้องทำให้ได้ คือแก้ไขตนเอง > > ฝึกหยุด-ไม่หยุดฝึก >
ไม่มีเวลาสำหรับความชั่วบาปอีกแล้ว. ." ทุกวินาทีเป็นวินาทีแห่งบุญ "
เราจะฝึกฝนตนเพื่อไปถึงจุดนั้นให้ได้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ก.ย. 2009, 23:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 ส.ค. 2009, 02:56
โพสต์: 290

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b55: :b55: :b55: ขนาดมีคู่มือพุทธบริษัท ฉบับสมบูรณ์ อยู่ตรงหน้ายังไม่ได้ความรู้เท่านี้เลยง่ะ...ดีใจจังที่ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในนี้ ได้ความรู้เพียบ

:b41: :b51: :b53: :b46: :b45: :b55: :b55: นู๋เอจ้า...

.....................................................
ข้าพเจ้าเคารพพระธรรม ที่มีอยู่ในพระพุทธเจ้า
ข้าพเจ้าเคารพพระธรรม ที่มีอยู่ในพระธรรม
ข้าพเจ้าเคารพพระธรรม ที่มีอยู่ในพระสงฆ์
ข้าพเจ้าเคารพพระธรรม ที่มีอยู่ในพระมารดาพระบิดา
ข้าพเจ้าเคารพพระธรรม ที่มีอยู่ในครูอุปัชฌาย์อาจารย์
ข้าพเจ้าเคารพพระธรรม ที่มีอยู่ในทุกสิ่งทุกอย่าง...สาธุ สาธุ สาธุ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ก.ย. 2009, 00:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 22 ก.พ. 2009, 01:02
โพสต์: 337


 ข้อมูลส่วนตัว


:b41: :b41: :b41: :b41: :b42: :b42: :b42: :b41: :b41: :b41: :b41:

สวัสดีครับ คุณDongky และกัลยาณมิตรธรรมทุกท่าน :b8: :b8: :b8:


:b43: คำว่า ทาน นั้น คือการให้หรือบริจาคเพื่อทำลาย ความโลภ ความตระหนี่ ความเห็นแก่ตัวให้หมดไป การทำทานนั้นจุดประสงค์เพื่อละกิเลส ถ้าหากว่าผู้ใดทำทานเพื่อละกิเลสแล้ว พระพุทธองค์ทรงสรรเสริญมาก เพราะเป็นปัจจัยเพื่อความพ้นทุกข์ การให้ทานไม่ใช่เพื่อหวังผลในการทำทาน หรือหวังอานิสงส์ในการทำทาน จุดประสงค์หลักในพระพุทธศาสนาเพื่อขัดเกลากิเลสให้หมดไปเป็นสำคัญ

การให้ทานที่เลือกบุคคลที่เป็นผู้รับ (ปาฏิปุคลิกทาน) นั้น มีอานิสงส์มากน้อย ตามลำดับ ถึง ๑๔ อย่าง ดังนี้

๑. การให้ทานแก่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
๒. การให้ทานแก่พระปัจเจกพุทธเจ้า
๓. การให้ทานแก่พระอรหันต์สาวก
๔. การให้ทานแก่ผู้ปฏิบัติเพื่อทำอรหัตตผลให้แจ้ง
๕. การให้ทานแก่พระอนาคามี
๖. การให้ทานแก่ผู้ปฏิบัติเพื่อทำพระอนาคามิผลให้แจ้ง
๗. การให้ทานแก่พระสกทาคามี
๘. การให้ทานแก่ผู้ปฏิบัติเพื่อทำพระสกทาคามิผลให้แจ้ง
๙. การให้ทานแก่พระโสดาบัน
๑๐. การให้ทานแก่ผู้ที่ปฏิบัติเพื่อทำพระโสดาปัตติผลให้แจ้ง
๑๑. การให้ทานแก่บุคคลภายนอก ผู้ปราศจากความกำหนัดในกาม
๑๒. การให้ทานกับปุถุชนผู้มีศีลที่เป็นกัลยาณปุถุชน
๑๓. การให้ทานกับปุถุชนผู้ทุศีล
๑๔. การให้ทานแก่สัตว์เดรัจฉาน

การให้ทานที่เป็นปาฏิปุคลิกทานนั้น ถึงแม้ว่าจะมีอานิสงส์หาประมาณมิได้ แต่ทานซึ่งไม่เจาะจงบุคคลผู้รับย่อมจะได้อานิสงส์มากกว่าปาฏิปุคลิกทานเสียอีก เช่นสังฆทาน เป็นต้น เพราะเหตุว่าการให้สังฆทานโดยไม่เจาะจงผู้รับนั้น จะเป็นเหตุให้รักษาพระศาสนาไว้ได้ ครับ... จงทำทานเพื่อให้หมดจดจากกิเลสเถิด ก็ขอร่วมแสดงความเห็นแต่เพียงเท่านี้ :b43:


เจริญในธรรมครับ :b8: :b8: :b8:

smiley


:b41: :b41: :b41: :b41: :b42: :b42: :b42: :b41: :b41: :b41: :b41:

.....................................................
ราตรีของผู้ตื่นอยู่นาน...โยชน์ของผู้ล้าแล้วไกล


แก้ไขล่าสุดโดย ningnong เมื่อ 03 ก.ย. 2009, 00:52, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ก.ย. 2009, 07:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2009, 08:46
โพสต์: 405

แนวปฏิบัติ: ดูจิต-อานา
ชื่อเล่น: ขวานผ่าซาก
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ผมมีคำอยู่อันหนึ่งนะครับให้คิด

คือ ว่า พระพุทธเจ้า่ได้ตรัสกับพระอานน์ว่า

ภิกษุณี แม้จะบวชตั้ง 100 ปี ก็ต้องไหว้ หรือกราบภิกษุ ผู้บวช แม้วันเดียว หรือ ขณะ นั้น ๆ

น่าที่จะนำไปเปรียบเทียบได้นะครับว่า ทานอันไหนเป็นอย่างไร

หรือท่านใดมีความคิดเห็นเป็นอย่างอื่น ก็ได้โปรด จะได้เป็นความรู้ติดตัวอีกอันหนึ่งครับ

tongue

.....................................................
สุ จิ ปุ ลิ...(หัวใจนักปราชญ์)

ปัจจุบันธรรม

โยนิโส มนสิการ
สติ สัมปชัญญะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ก.ย. 2009, 07:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2009, 08:46
โพสต์: 405

แนวปฏิบัติ: ดูจิต-อานา
ชื่อเล่น: ขวานผ่าซาก
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


wic เขียน:
Dongky เขียน:

=>ถ้าถวายทานแก่พระภิกษุณีซึ่งมีศีล ๓๑๑ ข้อ(ที่ประพฤติศีลไม่ด่างพร้อย)
แม้เพียงครั้งเดียว ก็ย่อมได้บุญมากกว่าพระสมมุติสงฆ์ ซึ่งมีปาติโมกข์สังวร ๒๒๗ ข้อ (ที่ประพฤติศีลไม่ด่างพร้อย) ๑๐๐ ครั้ง จริงหรือป่าวครับ?



๓๑๑ข้อ และ๒๒๗ข้อ นั้นเป็น " วินัย " ครับ ไม่ใช่ศีล

ศีลภิกษุ, ภิกษุณีมีเหมือนกันคือ จุลศีล มัชฌิมศีล และมหาศีล

ส่วนการทำทาน ไม่ตอบครับ โปรดพิจารณา

--

วินัยกับศีล ผมมีความคิดเห็น ต่างกันแต่พยัญชนะ เท่านั้น ที่สุดแห่งความหมายก็อันเดียวกันครับ cool

.....................................................
สุ จิ ปุ ลิ...(หัวใจนักปราชญ์)

ปัจจุบันธรรม

โยนิโส มนสิการ
สติ สัมปชัญญะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ก.ย. 2009, 16:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ส.ค. 2009, 15:11
โพสต์: 10

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอพระคุณคราฟ

ผมก็เคยได้ยินเหมือนกัน
ที่ว่า แม้พระภิกษุณึจะบวช นานซัก100ปี ก็ตาม
แต่ต้องไหว้พระสงฆ์ที่ บวชใหม่แม้เพียงวันเดียว



อนุโมทนา ครับ....

.....................................................
ธมฺโม หเว รกฺขติ ธมฺมจารึ
พระธรรมนี่แหละ ย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ก.ย. 2009, 21:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.ค. 2009, 23:02
โพสต์: 157

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


moddam เขียน:
ผมมีคำอยู่อันหนึ่งนะครับให้คิด

คือ ว่า พระพุทธเจ้า่ได้ตรัสกับพระอานน์ว่า

ภิกษุณี แม้จะบวชตั้ง 100 ปี ก็ต้องไหว้ หรือกราบภิกษุ ผู้บวช แม้วันเดียว หรือ ขณะ นั้น ๆ

น่าที่จะนำไปเปรียบเทียบได้นะครับว่า ทานอันไหนเป็นอย่างไร

หรือท่านใดมีความคิดเห็นเป็นอย่างอื่น ก็ได้โปรด จะได้เป็นความรู้ติดตัวอีกอันหนึ่งครับ

tongue


อันนี้เห็นด้วยครับ แต่ศีลกับวินัย ต่างกันจริงครับ
ศีลเกิดมาพร้อมศาสนาครับ ส่วนวินัยเกิดทีหลัง เมื่อมีผู้ละเมิดศีลจึงค่อยกำหนดขึ้น

ศีลเหมือนกฏหมายหลัก หรือธรรมนูญ เป็นสิ่งที่ต้องปฏิบัติตาม ละเมิดมิได้ ไม่กำหนดบทลงโทษ

วินัยเหมือนกฏหมายรอง ตราไว้เพื่อกันคนที่ไม่ละอาย ละเมิดศีล มีบทลงโทษกำหนดไว้ชัดเจน

ภิกษุณี มีวินัยมากกว่าเพราะ เพศหญิงมีอิตถีภาวะทำให้ละเมิดศีลมากกว่าเพศชาย

.....................................................
มาตามหา เพื่อนร่วมทาง

ประโยชน์สูง-ประหยัดสุด > > ต้องทำให้ได้ คือแก้ไขตนเอง > > ฝึกหยุด-ไม่หยุดฝึก >
ไม่มีเวลาสำหรับความชั่วบาปอีกแล้ว. ." ทุกวินาทีเป็นวินาทีแห่งบุญ "
เราจะฝึกฝนตนเพื่อไปถึงจุดนั้นให้ได้


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 9 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 47 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร