วันเวลาปัจจุบัน 25 เม.ย. 2024, 07:07  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 27 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ต.ค. 2009, 00:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ต.ค. 2009, 00:27
โพสต์: 4

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ
Thanks: hosting บริษัทประกันภัยรถยนต์ ชุดทำงาน

แบบสอบถาม :

1. ) ท่านเห็นด้วยกับวิธีคิด ตามกรอบแนวคิดนี้หรือไม่?

ก. เห็นด้วย ข. ไม่เห็นด้วย

2.) ท่านนับถือศาสนาใด (ระบุ)..............................

3.) แสดงเหตุผลตามความคิดเห็นของท่าน (ระบุ)...................


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ต.ค. 2009, 02:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 ส.ค. 2009, 02:56
โพสต์: 290

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


beby ข้าน้อยยังด้อยความรู้นัก ขอรออ่านความคิดเห็นของท่านอื่น ๆ นะคะ :b2: :b2: :b2:

:b9: :b9: :b9: นู๋เอค่ะ

.....................................................
ข้าพเจ้าเคารพพระธรรม ที่มีอยู่ในพระพุทธเจ้า
ข้าพเจ้าเคารพพระธรรม ที่มีอยู่ในพระธรรม
ข้าพเจ้าเคารพพระธรรม ที่มีอยู่ในพระสงฆ์
ข้าพเจ้าเคารพพระธรรม ที่มีอยู่ในพระมารดาพระบิดา
ข้าพเจ้าเคารพพระธรรม ที่มีอยู่ในครูอุปัชฌาย์อาจารย์
ข้าพเจ้าเคารพพระธรรม ที่มีอยู่ในทุกสิ่งทุกอย่าง...สาธุ สาธุ สาธุ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ต.ค. 2009, 04:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 เม.ย. 2009, 19:25
โพสต์: 579

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่เห็นด้วย เกี่ยวกับความเข้าใจเรื่องศาสนาพุทธของคุณ
แต่กับความเห็นเรื่องศาสนา อื่นๆนอกนั้น ดูแล้วก็ยังน่าจะไม่เคลียเท่าไร


เหตุที่ ไม่เห็นด้วยกับเรื่องพุทธศาสนาที่คุณสรุปมาว่า เป็นเรื่องกฏแห่งกรรม

เพราะว่า ศาสนาพุทธ ไม่ใช่เรื่องกฏแห่งกรรม

เรื่องกรรม เชื่อกฏแห่งกรรม มีสอนกันอยู่ก่อนแล้ว ก่อนพระพุทธองค์จะตรัสรู้
แต่เมื่อพระองค์ตรัสรู้แล้ว ก็ค้นพบความรู้อันเป็น สัจจธรรม คือ อริยสัจ4
เข้าถึงมิติใหม่ คือ ความมีเหตุผล เป็นเหตุเป็นผล

ในโลกครั้งพุทธกาล คือโลกของความเชื่อ ที่หนักไปในทางงมงาย ขาดเหตุขาดผล
เมื่อพระพุทธองค์ สามารถเข้าถึงตัวกฏธรรมชาติที่แท้จริง จึงสร้างมิติใหม่ในโลกเก่า
ครั้งนั้น ด้วยการ นำมิติอันเป็นเหตุ และผล มาแสดง มาเปิดเผย เพื่อดึงผู้คน
ให้หลุดพ้นจากความเชื่อที่งมงาย และกลายเป็นผู้รู้จักโลกตามที่เป็นจริงว่า ทุกอย่าง
ล้วนเป็นไปตามเหตุปัจจัย เกิดดับตามเหตุปัจจัย แปรปรวนตามเหตุปัจจัยเสมอกันทั้งสิ้น

ถ้าจะกล่าวให้ถูก ควรจะกล่าวว่า ศาสนาพุทธ เป็นเรื่องของ ความดับทุกข์
พระพุทธองค์ ค้นพบอริยสัจจ์ ศาสนาพุทธจึงเกิดขึ้น

ส่วนเรื่องของกรรม ยังเป็นส่วนแห่งความรู้ชั้น ศีลธรรม ที่พระพุทธองค์ก็ทรงนำมาสอน
โดยการเติมเต็ม ความสมบูรณ์ ถูกต้องของเนื้อหาให้ครบถ้วนกว่าที่ ครูในครั้งนั้นเขาสอนๆกันอยู่

ศาสนาพุทธจึงมีการสอนเรื่องกฏแห่งกรรม แต่ตัวศาสนาพุทธไม่ใช่เรื่องของกรรม

พุทธศาสนา เป็นเรื่องของเหตุผล และเรื่องของโลกุตระ อันดับทุกข์ และเหนือกรรม

เรื่องกรรม เป็นเพียงส่วนเสี้ยวหนึ่ง ที่อยู่ในข่ายของความเป็นเหตุเป็นผล
ตั้งอยู่บนกฏของเหตุปัจจัย เช่นเดียวกับทุกเรื่องทั่วไปในโลกธาตุ

เพียงแต่ว่า กรรม เป็นกลไกธรรมชาติที่มีความวิจิตร เกินกว่าการคาดคิด
คำนวน วิเคราะห์จะสามารถเข้าถึงมันได้อย่างแท้จริง เพราะมันเป็น อจินไตย

และเพราะความที่มันเป็นอจินไตย เรื่องของกรรม จึงผสมความซับซ้อน
ความแปลก ความพิศดาร ให้ปรากฏแก่บุคคลได้หลายหลากทิศทาง

ซึ่งความซับซ้อนพิศดารทั้งปวง ก็อยู่ภายใต้เงื่อนไขของเหตุและผล แต่เพราะ
การเข้าถึงเหตุผล ด้วยการคาดคิดไม่สามารถจะทำได้ ความเข้าใจของคนที่ไม่รู้จริงใน
เรื่องกรรม จึงสามารถจะทำให้กลายเป็นคน งมงาย เชื่ออย่างงมงาย เข้าใจอย่างงมงาย
ได้ตลอดเวลา และอาจจะเชื่อเรื่องกรรมได้โดยไม่ต้องมีเหตุผล ขาดเหตุขาดผลได้กับทุกเรื่อง

เรื่องกรรม เป็นเรื่องที่มีเสน่ห์ ในการนำมากล่าวพูดให้พิศดาร เพื่อหากิน หรือดึงศรัทธา
แต่เป็นเรื่องยากที่สุดเรื่องหนึ่งที่จะมีใครสักคน เข้าถึงความรู้จริง

และตัวผมเอง ก็ไม่ได้รู้จริงด้วยเหมือนกัน


:b48: :b48: :b48: :b48: :b48:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ต.ค. 2009, 05:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 พ.ค. 2009, 20:54
โพสต์: 282


 ข้อมูลส่วนตัว




.jpg
.jpg [ 94.5 KiB | เปิดดู 7342 ครั้ง ]
cool ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง เพราะคุณจับประเด็นของพุทธศาสนายังไม่ถูกต้อง

ไม่มีเจ้ากรรมนายเวรมาคอยบังคับบัญชา

มีแต่เหตุ ปัจจัย และผล

ใครทำเหตุใด ก็รับผลจากเหตุนั้น

ใครไม่ต้องการผลอย่างไร ก็อย่าทำเหตุนั้น

้เมื่อรู้จักเหตุทุกข์ดีแล้ว ก็ถอนเหตุนั้นทิ้งเสีย ผลสุขอันเป็นอมตะย่อมจักเกิดขึ้น
:b8:

.....................................................
เมตตาธรรม ค้ำจุนโลก
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ต.ค. 2009, 10:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3835

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


มาสนับสนุนท่านอื่นๆด้วยคน
ว่าคุณยังไม่รู้จักศาสนาพุทธเลย

คนที่จะมาพูดคุยเรื่องการเปรียบเทียบอะไรก็ตาม
ต้องแตกฉานในสิ่งที่จะพูดเสียก่อน


ในฐานะผู้ดูแลบอร์ด กรณีนี้เป็นประเด็นที่ล่อแหลมต่อพระพุทธศาสนา
ผมอยากจะบอกว่า "I am watching you" :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ต.ค. 2009, 11:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 ต.ค. 2009, 11:29
โพสต์: 15

แนวปฏิบัติ: พุทโธ
งานอดิเรก: หลายหลาก
อายุ: 0
ที่อยู่: ภาคอีสาน

 ข้อมูลส่วนตัว


เอ เคยดูหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า หรืออะไรประมาณนี้ละครับ
เห็นอาจารย์เขาบอกว่า " จำไว้ ความบังเอิญไม่มี "
น่าคิดนะครับ หรือบางคนก็อาจจะบอกว่าก็มันแค่หนัง....

.....................................................
..อือ ... อ้อ..


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ต.ค. 2009, 14:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ก.ค. 2009, 08:36
โพสต์: 532

แนวปฏิบัติ: ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
สิ่งที่ชื่นชอบ: กรรมทีปนี , วิมุตติรัตนมาลี , ภูมิวิลาสินี
ชื่อเล่น: เจ้านาง
อายุ: 0
ที่อยู่: อยู่ในธรรม

 ข้อมูลส่วนตัว


:b10: ความบังเอิญมีด้วยหรือ??? :b10:

:b10: :b10: :b10:

.....................................................
...รู้จักทำ รู้จักคิด รู้ด้วยจิต รู้ด้วยศรัทธา...
..................ศรัทธาธรรม..................


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ต.ค. 2009, 14:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ต.ค. 2009, 00:27
โพสต์: 4

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขออนุญาตครับ ผมเลือกเอาเฉพาะบางเรื่องจากศาสนาพุทธ ไม่ใช่โครงสร้างของศาสนาพุทธทั้งหมดมาเขียนกรอบแนวคิดนี้ เพราะประเด็นหลักของกรอบแนวความคิดนี้ อยู่ที่ "ตัวตนของความบังเอิญ" ผมจึงเลือกเอาเรื่องกฏแห่งกรรมเพียงเรื่องเดียวเท่านั้น เพื่อมาอธิบายให้เห็นภาพได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ว่า "ความบังเอิญ" ในศาสนาพุทธนั้น "ไม่มี" เพราะทุกปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น ล้วนเป็นผลมาจากกรรม หรือที่เรียกกันว่า "กรรมลิขิต" หรือ "กรรมบันดาล" ครับ

เพื่อให้เกิดความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่อง "กฏแห่งกรรม" ตามหลักศาสนาพุทธที่ตรงกัน ผมจึงขอยกตัวอย่างประกอบ(คลิ๊กตามลิ้งค์ไปดูเลยครับ) เพื่อให้ท่านผู้ร่วมสนทนาไดเห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้นครับ (ผู้เล่าเรื่องกฏแห่งกรรมตามคลิ๊ป เป็นพระสงฆ์ครับ ท่านเล่าจากประสบการณ์ตรงที่เกิดขึ้นกับตัวของท่านเอง ดูเอาครับ)



http://www.youtube.com/watch?v=laYaLmzE3Ro
http://www.youtube.com/watch?v=NmlTFbOH ... re=related
http://www.youtube.com/watch?v=0_oCk2m4 ... re=related




(จากรายการกรรมลิขิต ตอน "บาปนักบุญ" ออกอากาศทางช่อง 5 เมื่อวันอังคารที่ 23 มิถุนายน พ.ศ.2552 เวลา 21.20 น.)

ป.ล. อย่าหลงประเด็นเรื่องเป้าหมายของกรอบแนวคิดนะครับ ว่าผู้เขียนกรอบแนวคิดมุ่งตรงเฉพาะเรื่องอธิบาย "ตัวตนของความบังเอิญ" ของแต่ละศาสนา จึงเขียนกรอบแบบกว้างๆ คลอบคลุมทุกศาสนา เพื่อให้ผู้อ่านเกิดความเข้าใจได้โดยง่ายครับ (ไม่ใช่เขียนกรอบแนวคิดเรื่องอธิบายหลักคำสอนของพระพุทธเจ้านะครับ).


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ต.ค. 2009, 15:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 เม.ย. 2009, 19:25
โพสต์: 579

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คร๊าบ ท่านนิลกาฬ

:b6:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ต.ค. 2009, 15:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3835

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


นิลกาฬ เขียน:
ผมเลือกเอาเฉพาะบางเรื่องจากศาสนาพุทธ ไม่ใช่โครงสร้างของศาสนาพุทธทั้งหมดมาเขียนกรอบแนวคิดนี้



เปรียบเทียบอย่างนี้ว่า

ถ้าผมไปหยิบเอาบางเรื่องในชีวิตคุณออกมาพูด
แล้วผมก็ดันไปเข้าใจคุณผิดอีกซะด้วยนะ

คำถามคือ
1. ผมควรพยามเข้าใจคุณให้ถูกเสียก่อน
2.หรือว่า ไม่สนใจละ ผมจะคิดอย่างนี้ เห็นยังไงก็คิดเท่าที่เห็น


ถามนะ
ตอบด้วย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ต.ค. 2009, 16:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ต.ค. 2009, 00:27
โพสต์: 4

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ชาติสยาม เขียน:
นิลกาฬ เขียน:
ผมเลือกเอาเฉพาะบางเรื่องจากศาสนาพุทธ ไม่ใช่โครงสร้างของศาสนาพุทธทั้งหมดมาเขียนกรอบแนวคิดนี้



เปรียบเทียบอย่างนี้ว่า

ถ้าผมไปหยิบเอาบางเรื่องในชีวิตคุณออกมาพูด
แล้วผมก็ดันไปเข้าใจคุณผิดอีกซะด้วยนะ

คำถามคือ
1. ผมควรพยามเข้าใจคุณให้ถูกเสียก่อน
2.หรือว่า ไม่สนใจละ ผมจะคิดอย่างนี้ เห็นยังไงก็คิดเท่าที่เห็น


ถามนะ
ตอบด้วย


------------------------------------------

ขอตอบแบบนี้ครับ : ในกรอบแนวคิดที่ผมเขียนว่า ศาสนาพุทธ " กฏแห่งกรรม " จะไม่ทำให้คนเข้าใจผิดเด็ดขาด เพราะเขารู้ว่าศาสนาพุทธยังมีอยู่อีกหลายเรื่อง ที่เป็นหัวใจของศาสนาพุทธ เช่น เรื่องนิพพาน , อริยมรรค ฯลฯ สิ่งที่อยู่ในกรอบ เป็นเพียงแค่เรื่องหนึ่งที่ผู้เขียนหยิบยกขึ้นมา โดยมีหัวใจสำคัญคือมุ่งอธิบายปรากฏการณ์ที่มนุษย์เรียกกันว่า "ความบังเอิญ" โดยเฉพาะมนุษย์ในกลุ่มของนักวิชาการ ด้านวิทยาศาสตร์ - คณิตศาสตร์ - สถิติ ซึ่งจัดให้ความบังเอิญ เป็นส่วนหนึ่งของการทำวิจัยทางวิชาการ

เช่นเดียวกับสิ่งที่ผมเขียนไว้ในกรอบ ศาสนาคริสต์ "พระเจ้า" , ศาสนาอิสลาม "พระเจ้า" , ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู "พระเจ้า" ซึ่งเราๆท่านๆต่างก็เข้าใจตรงกันเป็นอย่างดีว่า ในศาสนาของพวกเขา ไม่ได้มีเพียงแค่เรื่องพระเจ้าอย่างเดียวแล้วก็จบกันไป แต่ยังมีเรื่องคำสอนต่างๆ ทั้งในคัมภีร์ไบเบิล , คัมภีร์อัลกุรอาน , คำภีร์พระเวท อยู่อีกมากมาย สิ่งที่อยู่ในกรอบจึงเป็นเพียงแค่ Concept ที่เชื่อมโยงไปสู่เรื่องหลักที่กำลังพูดถึงอยู่นี้ นั่นก็คือ "ตัวตนที่แท้ของความบังเอิญ" เท่านั้น เรื่องในส่วนอื่นๆของแต่ละศาสนา ที่ไม่มีเขียนอยู่ในกรอบ เพราะไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่กำลังจะอธิบายในประเด็น (ความบังเอิญ) ครับ

เอาเป็นว่า อยากรบกวนให้ท่านได้ช่วยกันโหวตกรอบแนวคิดนี้ใหม่อีกครั้ง จากที่ผมอ่านๆผลการโหวตที่ผ่านมา ก็พอจะสรุปได้ว่า ท่านที่ได้โหวตมีความเข้าตรงกัน (รวมทั้งผมด้วย) ว่า "ความบังเอิญ" ไม่มีความเป็น"เอกภาพ"อยู่ในตัวเอง แต่เป็นผลิตผลหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาโดยบางสิ่งบางอย่าง "ความบังเอิญ" จึงมีค้าเท่ากับ 0 ตามความหมายทางศาสนาทุกศาสนาที่ตรงกัน คือไม่มีความบังเอิญอยู่ในโลกนี้จริง

ผมกำลังจะเอากรอบแนวคิดนี้ ไปไล่ถามตามเว๊ปคริสเตียน และ เว๊ปมุสลิมอยู่พอดี อยากทราบว่า พวกเขายอมรับวิธีคิดตามกรอบแนวคิดที่ผมเขียนขึ้นมานี้หรือไม่? ท่านใดพอจะช่วยแนะนำเว๊ปคริสต์-เว๊ปมุสลิมที่มีคนเข้าเยอะๆให้ผมได้บ้างครับ รบกวนช่วนแนะนำด้วยครับ (เมื่อคืนผมหาทั้งคืน เจอแต่เว๊ปร้าง มีคนเข้าไปอ่านไม่กี่สิบคน) ขอบคุณล่วงหน้า และขอเชิญร่วมโหวตกันต่อได้เลยครับ.


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ต.ค. 2009, 10:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3835

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


แล้วสรุปว่า
ในเรื่อง "ความบังเอิญ" ในกรอบของ"พุทธ" ที่คุณเข้าใจ
คุณเข้าใจว่ายังไงครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ต.ค. 2009, 11:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ต.ค. 2009, 00:27
โพสต์: 4

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สวัสดีครับ

ตกลงไม่มีท่านอื่นมาโหวตตอบแบบสอบถามอีกหรือครับ แบบสอบถามนี้ เปิดกว้างให้ทุกท่านสามารถตอบแบบสอบถามได้ "โดยอิสระ" คิดอย่างไร เข้าใจอย่างไร สามารถตอบได้เลยครับ (ตามความรู้ ความเข้าใจ หรือความคิดเห็นของเราครับ)

ที่เว๊ปอื่นๆ เขาตอบกันไปบ้าง(พอสมควร)แล้วนะครับ ขอขอบพระคุณล่วงหน้าสำหรับท่านที่ตอบแบบสอบถามทุกท่านครับ จะแวะเข้ามาดูเรื่อยๆนะครับ smiley


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ต.ค. 2009, 19:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 เม.ย. 2009, 19:55
โพสต์: 548

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


นิลกาฬ เขียน:
สวัสดีครับ

ตกลงไม่มีท่านอื่นมาโหวตตอบแบบสอบถามอีกหรือครับ แบบสอบถามนี้ เปิดกว้างให้ทุกท่านสามารถตอบแบบสอบถามได้ "โดยอิสระ" คิดอย่างไร เข้าใจอย่างไร สามารถตอบได้เลยครับ (ตามความรู้ ความเข้าใจ หรือความคิดเห็นของเราครับ)

ที่เว๊ปอื่นๆ เขาตอบกันไปบ้าง(พอสมควร)แล้วนะครับ ขอขอบพระคุณล่วงหน้าสำหรับท่านที่ตอบแบบสอบถามทุกท่านครับ จะแวะเข้ามาดูเรื่อยๆนะครับ smiley


เอ้า..! ยังไม่มีคนมาตอบเลยหรือนี่

นิลกาฬ .... เคยมีบ้านอยู่แถว ๆ วัดชลประทานรังสฤษฏ์ รึเปล่าครับ

:b32: :b32:

เดี๋ยวผมพยายามร่วมสนุกกับคุณก่อนนะ

แบบสอบถาม :

1. ) ท่านเห็นด้วยกับวิธีคิด ตามกรอบแนวคิดนี้หรือไม่?


ไม่เห็นด้วย

2.) ท่านนับถือศาสนาใด (ระบุ)....

ผมชอบศึกษาปฏิบัติตามสัจจะธรรมที่พระพุทธองค์ค้นพบและเผยแพร่...หน่ะ

3.) แสดงเหตุผลตามความคิดเห็นของท่าน (ระบุ)....

หมายถึงเรื่องเกี่ยวกับ "กรอบแนวความคิดเรื่องตัวตนที่แท้จริงของความบังเอิญ" หน่ะหรือ...?
แต่อันนี้ ผมขอตัดเรื่อง "กรรม" ที่คุณนำมาผูก ออกไปเลยนะ

เพราะถ้าพูดถึงความบังเอิญ ผมคิดไปโนน่เลยคุณ
ผมคุ้นเคย และชอบคำนี้มากกว่านะ Probability
ความน่าจะเป็นที่เหตุการณ์หนึ่งจะเกิด... ซึ่งเป็นองค์หนึ่งของคณิตศาสตร์ที่ผมชื่นชอบมาก
และการขบคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ผมชอบที่จะเอาพิจารณาควบคู่กับ ศาสตร์อี้จิง
ไม่ได้เอามาพิจารณาเรื่อง "กรรม"

หะ หะ หะ จริง ๆ แล้ว แอบพิจารณาครับ แต่มันยังเป็นภาพร่างของเส้นตรงที่คู่ขนานกันอยู่
เพราะการพิจารณาเรื่อง Prob. ให้สอดคล้องกับเรื่อง กรรมนั้น
มันยังติดตัวแปรบางตัว ที่ทำให้ผลลัพธ์ในการทดลองไม่ได้ออกมาแบบสุ่ม :b32: :b32:

อิ อิ นั่นมันอดีต
ทุกวันนี้ผมไม่ได้หยิบตัวนี้ขึ้นมาพิจารณาเล่นนานแล้ว

:b13:


แก้ไขล่าสุดโดย yahoo เมื่อ 11 ต.ค. 2009, 20:01, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ต.ค. 2009, 21:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3835

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้าว

ตกลงไม่ตอบเหรือครับ
แหม เราก็นึกว่าเป็นคนรับฟังความเห็นคนอื่น

แต่จะแวะมาดูเรื่อยนะครับ
ผมได้ไปโปรโมทความฉลาดของผมไว้หลายที่เลย
เด๊่ยวจะกลับมาเช้คเรทติ้งใหม่ครับ

:b13: :b32:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 27 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 132 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร